Connect with us

Hi, what are you looking for?

Tips & Tricks

วิธีดูรหัสไวไฟในคอม Windows 11 ที่เคยเชื่อมต่อ ง่ายๆ อัพเดท 2024

สอนดูรหัสไวไฟในคอม Windows 11 ทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง ตอบโจทย์คนขี้ลืม อัพเดท 2024

ดูรหัสไวไฟในคอม Windows 11

เคยเป็นบ้างไหม ? ต่อ Wi-Fi ไปนานๆ เวลามีคนมาถามก็ลืมรหัสไปแล้ว หาที่จดไว้ก็ไม่เจอ ไม่กล้าล้างเครื่อง เพราะกลัวว่าจะเชื่อมต่อรหัสไวไฟไม่ได้ จะรีเซ็ตรหัสก็ต้องมานั่งเชื่อมกับอุปกรณ์ต่างๆ ใหม่ ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากจะมาแนะนำอีกหนึ่งวิธี ตอบโจทย์คนขี้ลืม ด้วยวิธีดูรหัสไวไฟในคอม ดูรหัสไวไฟที่เราเคยเชื่อมต่อไว้ได้ง่ายๆ บน Windows 11 ทำได้ในไม่กี่ขั้นตอน ไม่ต้องไปคอย ค้นหาให้ยุ่งยาก หาเจอได้ง่ายๆ จากคอมพิวเตอร์ที่เคยเชื่อมต่อ


ดูรหัสไวไฟในเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 10

วิธีการดูรหัสผ่านของ Wi-Fi ที่เราเคยเชื่อมต่อไว้บน Windows 10 สามารถทำได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

Advertisement
ดูรหัส WiFi Windows 10
  • เริ่มต้นให้เราเปิด Control Panel ขึ้นมา >> จากนั้นไปที่ Network and Internet 
  • เลือกที่ Network and Sharing Center
  • เมื่อปรากฏหน้าต่าง Network and Sharing Center ให้เราสังเกตส่วนของ Wi-Fi ที่เราทำการเชื่อมต่อ >> คลิกเลือกที่ตรง Connection ที่เป็นชื่อของ Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่อ >> จะปรากฏหน้าต่าง Wi-Fi Status ขึ้นมา
ดูรหัสไวไฟ Windows 10
  • เมื่อปรากฏหน้าต่าง Wi-Fi Status ขึ้นมา ให้เราเลือกที่ Wireless Properties
  • จากนั้นไปที่ แถบเมนู Security >> ดูตรง Network security key
  • ให้เราคลิกที่ Show characters จากนั้นรหัส Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่อก็จะปรากฏขึ้นมา

เพียงแค่ขั้นตอนไม่กี่ขั้นตอน ก็จะสามารถดูรหัส Wi-Fi ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่เราเคยเชื่อมต่อได้เรียบร้อยแล้ว


ดูรหัสไวไฟในเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 11

สำหรับการดูรหัสผ่านของ Wi-Fi ที่เราเคยเชื่อมต่อไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือ โน๊ตบุ๊ค บน Windows 11 ก็มีวิธีการที่คล้ายๆ กันกับวิธีการดูรหัสไวไฟใน Windows 10 เลย สามารถทำตามกันได้ง่ายๆ ดังนี้

  • เริ่มต้นให้เราพิมพ์ในช่อง Search หรือ ช่องค้นหา ว่า “Control Panel
    • หรือจะพิมพ์ในช่องค้นหาว่า “View network connections” ก็ได้
    • เราจะเข้ามาในหน้า Network Connection >> ดับเบิลคลิกที่ Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่ออยู่
    • จะปรากฏหน้าต่าง Wi-Fi Status ขึ้นมา >> ให้เรากดเลือกที่ Wireless Properties
    • จากนั้นไปที่ แถบเมนู Security >> ดูตรง Network security key
    • ให้เราคลิกที่ Show characters จากนั้นรหัส Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่อก็จะปรากฏขึ้นมา
  • จากนั้นไปที่ Network and Internet >> เลือกที่ Network and Sharing Center
  • ในหน้า Network and Sharing Center >> คลิกเลือกที่ตรง Connection ที่เป็นชื่อของ Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่อ >> จะปรากฏหน้าต่าง Wi-Fi Status ขึ้นมา
  • คลิกที่แถบเมนู Security >> ดูตรง Network security key >> คลิกที่ Show characters จากนั้นรหัส Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่อก็จะปรากฏขึ้นมา

ดูรหัสไวไฟในคอม cmd

ดูรหัสไวไฟในคอม cmd

นอกจากวิธีการดูรหัสผ่านของ Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่อผ่าน Control Panel แล้ว เรายังสามารถดูรหัสผ่านได้จาก Command Prompt ที่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำได้ง่ายเช่นเดียวกัน สามารถทำได้ ดังนี้

  • เริ่มต้นให้เราเรียกโปรแกรม Command Prompt โดยการ
    • กดปุ่ม Windows + R แล้วพิมพ์ “cmd” แล้วจากนั้นก็กด Enter
    • หรือ คลิกที่ Start แล้วจากนั้นพิมพ์ในช่องค้นหาหรือช่อง Search ว่า “cmd”
wf4
  • เมื่อเปิด Command Prompt ขึ้นมาให้แล้ว ให้เราพิมพ์ คำสั่ง
    • netsh wlan show profile “ชื่อ Wi-Fi ที่เราต้องการดูรหัส” key=clear
  • จากนั้นกด Enter
wf3
  • จะปรากฏรายละเอียดของ Wi-Fi ขึ้นมา ให้เราดูในส่วนของ Key Content จะเป็นรหัสผ่านของ Wi-Fi ของเรา

แนะนำวิธีดูรหัสผ่านบนเว็บเบราว์เซอร์

นอกจากการดูรหัสผ่านของ Wi-Fi ที่เราเคยเข้าบนคอมพิวเตอร์แล้ว รหัสผ่านที่เราเคยเข้าผ่านเว็บไซต์ ก็สามารถดูได้เช่นเดียวกัน แต่มีข้อแม้เล็กน้อยว่า การดูรหัสผ่านเข้าเว็บไซต์นั้น จะต้องเป็นรหัสผ่านที่มีการบันทึกไว้ด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่ไม่มั่นใจเรื่องความจำของตัวเอง หรือกลัวลืม เวลาที่เราลงชื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ แล้วตัวเว็บเบราว์เซอร์ถามว่าต้องการบันทึกรหัสผ่านหรือไม่ ก็ให้เรากดตกลงเพื่อให้เว็บเบราว์เซอร์จดจำทั้ง Username และ Password ของเรา เพื่อที่เราจะเรียกดูได้ในภายหลังนั่นเอง

Google Chrome

สำหรับการเข้าไปดูรหัสผ่าน หรือ Password ที่เราได้บันทึกไว้ ในครั้งที่เข้าเว็บไซต์ครั้งแรกๆ บนเบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome นั้น เราสามารถเข้าไปดูได้ง่ายๆ ดังนี้

ดูรหัสไวไฟ, ดูรหัสผ่านเว็บ Google Chrome
  • เริ่มเต้น ให้เราเปิดเว็บเบราว์เซอร์ Google Chrome ขึ้นมา >> จากนั้นไปที่ตัวเลือก หรือสัญลักษณ์ จุดสามจุด ที่อยู๋บริเวณมุมบนด้านขวามือ ของเบราว์เซอร์
  • จากนั้น คลิกเลือกที่ Settings หรือ การตั้งค่า >> เราจะเข้าสู่หน้าตั้งค่า ของเว็บเบราว์เซอร์ อย่าง Google Chrome
  • ในหน้า Settings >> ที่แถบเมนูด้านข้าง ให้เราเลือก Autofill and passwords
  • ในหน้า Autofill and passwords >> ให้เราเลือก Google Password Manager >> จากนั้น ระบบจะพาเราไปยังหน้า Passwords
  • ในหน้านี้เอง กรณีที่เราลงชื่อเข้าใช้งาน Google แล้วเคยเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ที่ต้องมีการ Login และบันทึกไว้เราก็จะสามารถดูได้ทั้ง Username และ Password ที่เราลงชื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์เลย
    • ถ้าเรามีรหัสผ่านเข้าเครื่อง ก่อนที่จะดูรหัสได้ เราก็ต้องใส่รหัสผ่านสำหรับปลดล็อกเครื่องก่อนด้วย

Microsoft Edge

สำหรับการดูรหัสผ่านเข้าเว็บไซต์ บน Microsoft Edge นั้น ก็ทำได้ไม่ยากเลย มีวิธีการคล้ายๆ กันกับ Google Chrome สามารถทำได้ ดังนี้

ดูรหัสไวไฟ, ดูรหัสผ่านเว็บ Microsoft Edge
  • เริ่มต้นให้เราเปิดเว็บเบราว์เซอร์อย่าง Microsoft Edge ขึ้นมา จากนั้น เลือกที่ตัวเลือก หรือ สัญลักษณ์ จุดสามจุด ที่อยู๋บริเวณมุมบนด้านขวามือ ของเบราว์เซอร์
  • เลือกที่ Settings หรือ การตั้งค่า >> เราจะเข้าสู่หน้าตั้งค่าของเว็บเบราว์เซอร์
  • ในหน้า Settings นี้เอง ให้เราดูที่แถบเมนูด้านข้าง >> จากนั้น เลือกที่ Profiles
  • ในหน้า Profiles >> ให้เราเลื่อนลงมาด้านล่าง จากนั้นเลือกที่ Passwords
  • ระบบจะพาเราไปยังหน้า Wallet >> ในหน้า Wallet นี้เอง เราจะพบกับรายชื่อเว็บไซต์ที่เราได้เข้าใช้งานและมีการบันทึกรหัสผ่านรวมถึง Username ไว้ เราสามารถเลือกเว็บไซต์ที่เราต้องการทราบรหัสผ่านได้เลย
    • ถ้าเรามีรหัสผ่านเข้าเครื่อง ก่อนที่จะดูรหัสได้ เราก็ต้องใส่รหัสผ่านสำหรับปลดล็อกเครื่องก่อนด้วย
ดูรหัสไวไฟ, ดูรหัสผ่านเว็บ Microsoft Edge
  • ระบบจะพาเราไปยังหน้า Password ของเว็บไซต์ที่เราเลือก ในหน้านี้เอง ก็จะมีข้อมูลทั้ง URL, Username ที่ใช้ รวมไปถึง Password ด้วย >> เราสามารถกดเลือกที่สัญลักษณ์ดวงตา เพื่อดูรหัสผ่านได้เลย หรือจะคัดลอกไปใช้งานต่อก็ได้เช่นเดียวกัน

และนี่ก็คือวิธีการง่ายๆ ในการดูรหัสผ่านของ Wi-Fi ที่เราเคยเชื่อมต่อบนคอมพิวเตอร์ ทั้ง Windows 10 และ Windows 11 รวมไปถึงการดูรหัสผ่านของเว็บไซต์ที่เคยเข้าด้วย ใครที่กำลังมองหาวิธีการดูรหัสของ Wi-Fi ที่เคยเชื่อมต่อไว้ ก็สามารถนำวิธีที่ทีมงานแนะนำ ไปทำตามกันได้เลย


FAQ / คำถามที่พบบ่อย

1. ดูรหัส Wi-Fi ข้างบ้านได้หรือไม่ ?

สำหรับวิธีการดูรหัสผ่านของ Wi-Fi ข้างบ้านนั้น ไม่สามารถดูได้ เพราะวิธีการดูรหัสผ่านในคอมพิวเตอร์นี้ จะสามารถดูรหัสของ Wi-Fi ที่เราเคยเชื่อมต่อไปแล้วเท่านั้น

2. ดูรหัส Wi-Fi ในโทรศัพท์ได้หรือไม่ ?

สำหรับสมาร์ทโฟนนั้น เราสามารถดูรหัสของ Wi-Fi ที่เราเชื่อมภายในเครื่องได้ ทั้งสมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

  • iOS
    • ไปที่ Settings >> เลือกที่ Wi-Fi
    • จากนั้น เลือกที่ Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่อ หรือ Wi-Fi ที่เคยมีการเชื่อมต่อไว้แล้ว >> จากนั้นคนที่สัญลักษณ์รูปตัว (i)
    • เลื่อนลงมาที่ Password >> ระะบจะให้เราสแกนใบหน้า หรือ ใส่รหัสผ่าน
    • จากนั้นระบบจะแสดงรหัสผ่านมาให้เรา เราสามารถ Copy รหัส เพื่อนำไปใช้งานต่อได้ด้วย
  • Android
    • ไปที่ Settings >> Network & Internet 
    • เลือกที่ Wi-Fi ที่เราต้องการดูรหัส
    • เลือก Share >> ระบบจะให้เราสแกนใบหน้า หรือ ใส่รหัสผ่าน
    • ใน Android จะมี QR Code ที่ให้เราสามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ได้โดยการแสกน ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน หรือจะเลือกเป็นการแสดงรหัสผ่านก็ได้

3. รหัส Wi-Fi มีกี่หลัก ?

โดยส่วนใหญ่แ้ว การกำหนดรหัสผ่านสำหรับ Wi-Fi นั้น จะต้องมีความยาวอย่างน้อย 8 ตัว แต่เพื่อความปลอดภัย ก็ควรเป็นรหัสที่มีความยาวอย่างน้อย 12 ตัว ขึ้นไป

4. ไอโฟนดูรหัส Wi-Fi ได้ไหม ?

ใน iOS 16, iPadOS 16.1 ขึ้นไป เราสามารถใช้รหัสผ่าน, Face ID หรือ Touch ID เพื่อดูและคัดลอกรหัสผ่าน Wi-Fi ได้ สามารถทำได้ดังนี้

  • ไปที่ Settings >> เลือกที่ Wi-Fi
  • จากนั้น เลือกที่ Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่อ หรือ Wi-Fi ที่เคยมีการเชื่อมต่อไว้แล้ว >> จากนั้นคนที่สัญลักษณ์รูปตัว (i)
  • เลื่อนลงมาที่ Password >> ระะบจะให้เราสแกนใบหน้า หรือ ใส่รหัสผ่าน
  • จากนั้นระบบจะแสดงรหัสผ่านมาให้เรา เราสามารถ Copy รหัส เพื่อนำไปใช้งานต่อได้ด้วย

5. ตั้งรหัส Wi-Fi แบบไหนดี

การตั้งรหัสสำหรับ Wi-Fi นั้น สามารถเลือกตั้งได้ตามใจ แต่ถ้าเป็นรหัสที่คาดเดาง่ายเกินไป ก็มีโอกาสที่คนอื่นจะเดารหัสและแอบใช้ Wi-Fi ของเราได้ เราอาจจะตั้งรหัสของ Wi-Fi

  • รหัสที่มีทั้งอักษรภาษาอังกฤษ พิมพ์เล็ก, พิมพ์ใหญ่, ตัวเลข และ อักขระพิเศษที่มีบนแป้นพิมพ์ เช่น . ! # @ $ % เป็นต้น

อ่านบทความเพิ่มเติม / เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

แอพแปลภาษา ถ่ายรูป ฟรี, แปลภาษาจากภาพ
ซิมเน็ตรายปี ไม่ลดสปีด
 CapCut ในคอม
ลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt, E-Tax
เปิดบัญชีออนไลน์ ไม่ต้องไปธนาคาร
แอพหาเพื่อนคุย ฟรี
แต่งหน้าจอไอโฟน
เกมสร้างเมือง
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

รวมโปรเน็ต เติมเน็ต AIS แพ็กเกจเสริม ปี 2025 อัพเดตล่าสุดแพ็กเกจคุ้มค่าสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ในยุคดิจิทัลที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยสำคัญ การเลือกโปรเน็ตหรือแพ็กเกจเน็ต เติมเน็ต AIS ที่เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับโปรโมชั่นเติมเน็ต AIS ล่าสุดในปี 2025 ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจสำหรับคนใช้เน็ตเยอะ คนชอบโทร หรือคนที่ต้องการความคุ้มค่าสูงสุด เราได้รวบรวมข้อมูลแพ็กเกจเสริมที่น่าสนใจ พร้อมเทคนิคการเลือกโปรที่ใช่สำหรับคุณ มาดูกันว่าในปี 2025...

How to

เปลี่ยนรหัสไวไฟเน็ตบ้านทุกค่ายปี 2025 ไม่ต้องโทร Call Center ค่าย AIS TRUE 3bb และ NT กันคนแอบใช้ การเปลี่ยนรหัสไวไฟเป็นการแก้ปัญหา กับสาเหตุที่หลายคนหนักใจ เมื่อเปิดเน็ตใช้แล้วกลับช้า อืด โหลดหน้าเว็บไม่ทันใจ ส่วนหนึ่งเพราะอาจโดนลักลอบใช้งาน WiFi แบบไม่รู้ตัว หรือบางครั้งจะต้องแบ่งปันเน็ตให้กับคนใกล้บ้าน หรือเผลอโดนแฮกสัญญาณไปใช้ วิธีนี้เป็นทางออกที่ช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น หรือบางคนที่ลืมรหัสไวไฟก็สามารถใช้วิธีนี้ได้...

How to

หนึ่งในปัญหายอดนิยมเวลามีคอมพิวเตอร์ Windows สักเครื่อง คือโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ คอมพิวเตอร์ต่อเน็ตไม่ติด ซึ่งปัญหานี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้หลากหลายทางมาก ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์, ซอฟท์แวร์ไปจนเครือข่ายมีปัญหาเองก็ได้ทั้งนั้น แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออกและวิธีแก้ไขทั้งนั้น ถ้าสันนิษฐานได้ว่าปัญหาน่าจะมาจากจุด A, B หรือ C แล้ว ก็แก้ปัญหาได้ในเวลาไม่นาน แถมวิธีทำก็ง่ายมากและทำตามขั้นตอนในบทความนี้ได้ง่ายๆ ก่อนส่งให้ศูนย์บริการรับผิดชอบต่อได้ด้วย วิธีเช็คและแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ ถ้าต่ออินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้...

How to

โลกในตอนนี้ไม่สามารถตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตได้เลยไม่ว่าจะเรื่องงานหรือความบันเทิงก็ต้องใช้มันทั้งนั้น แต่อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้นต่างต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ตบ้างให้อุปกรณ์ได้โหลดการตั้งค่ากลับมาใหม่อีกครั้งเป็นระยะๆ เพื่อให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการรีเซ็ตสัญญาณจะคล้ายกับวิธีการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ แต่ในบทความนี้จะเน้นเรื่องลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาเน็ตบ้านหรือเน็ตออฟฟิศใช้งานไม่ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นก่อนติดต่อช่างให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในภายหลัง เมื่อไหร่ต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ต? ทำแล้วดีอย่างไร? การรีเซ็ตสัญญาณอินเทอร์เน็ตนอกจากการปิดเปิดเราเตอร์ ก็รวมถึงการรีเซ็ตในระบบปฏิบัติการด้วย ถ้าไดรเวอร์มีปัญหาสามารถกด Roll Back driver หรือโหลดมาติดตั้งใหม่จะช่วยแก้ปัญหาได้ ถ้ารีเซ็ตสัญญาณแล้วใช้งานไม่ได้ อาจเกิดปัญหาจาก Node กระจายสัญญาณของผู้ให้บริการก็ได้ เมื่อติดตั้งเน็ตบ้านเอาไว้แล้ว แนะนำให้ขอบัญชีและรหัสผ่านเอาไว้เข้าไปตั้งค่าเราเตอร์เผื่อไว้ด้วย 6 วิธีรีเซ็ตสัญญาณเน็ตด้วยตัวเอง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก