
iPhone 17 Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
Apple เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด iPhone 17 พร้อมกับ iPhone 17 Pro และรุ่นพิเศษที่ถูกจับตามองอย่าง iPhone Air ซึ่งมาแทนที่ iPhone 16 Plus โดยรอบนี้นอกจากดีไซน์และฟีเจอร์ใหม่ ๆ แล้ว สิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ การอัปเกรด RAM ซึ่ง Apple แยกสเปกชัดเจนระหว่างแต่ละรุ่น
RAM ในแต่ละรุ่น
- iPhone 17 (มาตรฐาน): มาพร้อม RAM 8GB
- iPhone 17 Air: RAM อัปเกรดเป็น 12GB
- iPhone 17 Pro / iPhone 17 Pro Max: RAM 12GB เช่นกัน
เมื่อเทียบกับ iPhone 16 Series ที่ทุกรุ่นมี RAM 8GB เหมือนกันทั้งหมด ถือว่าครั้งนี้ Apple เลือกสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นมากขึ้น โดย RAM 12GB จะช่วยให้รองรับการทำงานหลายแอปพร้อมกันได้ลื่นกว่า รวมถึงการใช้งานระยะยาว เช่น อัปเดต iOS รุ่นใหม่ในอนาคต
จุดเด่นของ iPhone Air
แม้ว่า iPhone Air จะมาแทน iPhone 16 Plus แต่ Apple วางตำแหน่งให้รุ่นนี้อยู่กึ่งกลางระหว่างรุ่นมาตรฐานและรุ่น Pro โดยใส่ ชิป A19 Pro เช่นเดียวกับรุ่น Pro แต่ลดสเปก GPU ลงเหลือ 5-Core แทนที่จะเป็น 6-Core แบบ Pro
การที่ iPhone Air ได้ RAM 12GB เท่ากับรุ่น Pro ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่อยากได้สมรรถนะสูง แต่ไม่จำเป็นต้องการทุกฟีเจอร์ระดับ Pro Max
ประโยชน์จาก RAM 12GB
RAM ที่มากขึ้นไม่ได้แค่ช่วยให้การสลับแอปเร็วขึ้น แต่ยังมีผลต่อการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น
- การตัดต่อวิดีโอ 4K/8K
- การเล่นเกมกราฟิกหนัก
- การใช้งานพร้อมกันหลายแอปแบบ Multitasking
- การรองรับฟีเจอร์ AI ที่จะถูกนำมาใช้มากขึ้นใน iOS รุ่นถัดไป
ดังนั้นสำหรับใครที่มองหาเครื่องที่ใช้ได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่า RAM จะไม่พอ รุ่นที่มี 12GB อาจเป็นคำตอบที่เหมาะสมกว่า
วันวางจำหน่าย
Apple เปิดให้ สั่งจองล่วงหน้า (Pre-order) ในวันที่ 12 กันยายน 2025 และจะเริ่มจัดส่งจริงตั้งแต่ 19 กันยายน 2025 เป็นต้นไป โดยมีราคาเริ่มต้นใกล้เคียงกับ iPhone 16 Series ที่อยู่ราว ๆ 29,900 บาท สำหรับรุ่นมาตรฐาน และสูงขึ้นตามรุ่น Pro และ Air
สรุป
iPhone 17 Series มาพร้อมการอัปเกรด RAM ที่สร้างความแตกต่างชัดเจนระหว่างรุ่นมาตรฐานและรุ่น Air/Pro ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการสมรรถนะสูงและรองรับการใช้งานระยะยาว โดยเฉพาะสายตัดต่อ เล่นเกม หรือใช้งานฟีเจอร์ AI รุ่นใหม่ ๆ ที่กินทรัพยากรเยอะ
ที่มา: wccftech





