ฝ่ายจำหน่ายสินค้าปลีกของ Apple นั้น เรียกได้ว่าไม่เหมือนที่ไหนในโลกใบนี้เลยจริงๆ ทั้ง Ron Johnson และ Steve Jobs ได้ร่วมมือกันสร้างรายได้จากการขายปลีกของ Apple เอาไว้มากมาย และพูดได้ว่าที่เยี่ยมที่สุดเหนือร้านอื่นๆทั้งมวล ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2001 ที่ Apple ได้เริ้มต้นสร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับร้านขายปลีกให้กับผู้บริโภค จนถึงวันนี้ ร้านที่มีชื่อว่า Apple Store ก็ก้าวไปไกลอย่างไม่มีใครเทียมได้ ด้วยส่วนต่างกำไรที่กว้างกว่าใคร
โดยเฉพาะกับผลวิจัยชิ้นใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ และผลของ Apple Store ที่ทำได้ดีกว่าร้านค้าทั่วไปอื่นๆถึง 17 เท่า ตามท้ายมาด้วย 2 แบรนด์หรูอย่าง Tiffany และ Coach
RetailSales สถาบันที่ติดตามและทำวิจัยข้อมูลของการค้าปลีกในสหรัฐเองก็ยังถึงกับแปลกใจ เพราะได้บอกเอาไว้ว่า ไม่ได้แปลกใจอยู่แล้วที่ Apple นั้นนำหน้าคนอื่นๆมาเป็นที่หนึ่ง แต่ที่แปลกใจคือ ทำไมมันถึงได้นำทิ้งห่างกันขนาดนี้ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่า บริษัทได้เข้ามาทำการขายปลีกในระยะเวลาเพียงแค่ประมาณ 10 ปีเท่านั้นเอง
ผลการคำนวนจาก RetailSales กับ 20 อันดับสูงสุด ด้วยการเปรียบเทียบยอดขายจากขนาดพื้นที่ของร้านเป็นตารางฟุต สำหรับร้านค้าทั่วไปในอเมริกาก็จะมียอดขายได้ที่ประมาณ $300 (9,xxx บาท) ต่อตารางฟุต และถ้าหาจาก 20 อันดับสูงสุด เฉลี่ยก็จะออกมาได้ที่ $787 (24,xxx บาท)ต่อตารางฟุต โดยทั้งหมดนี้เป็นการนับยอดจากการขายหน้าร้านเท่านั้น ไม่ได้นับรวมถึงการสั่งซื้อออนไลน์แต่อย่างใด (online store, App Store และ iTunes) Apple สามารถทำตัวเลขออกมาได้ที่กว่า 2 เท่าของอันดับติดกันอย่าง Tiffany ที่เป็นแบรนด์ระดับหรูเลยทีเดียว และถ้าเทียบกับร้านระดับทั่วๆไป Apple จะทำได้ดีกว่าถึง 17 เท่า ซึ่งคือที่ $6,000 (185,xxx บาท) ต่อตารางฟุต
ที่มา: Cult of Mac