ทุกปีก็จะมีข่าวลือเกี่ยวกับ MacBook รุ่นใหม่ ออกมาให้ผู้ติดตามได้ลุ้นกันว่าปีนี้ทาง Apple จะอัพเดทฟีเจอร์หรือเปลี่ยนดีไซน์อะไรใหม่ให้กับสินค้าขึ้นชื่ออีกตระกูลของทางบริษัทอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดตัว MacBook Pro 13″ และ MacBook Air ซีพียู Apple M1 และอิงจากแนวทางที่ Apple ประกาศเอาไว้ตั้งแต่เปิดตัวชิปนี้ว่าโน๊ตบุ๊คและพีซีทั้งหมดของ Apple จะเปลี่ยนมาใช้ชิปของตัวเองทั้งหมด
ข่าวลือในปีนี้จากนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Ming-Chi Kuo และอีกหลาย ๆ คนก็ชี้ไปในทางเดียวกันว่าปีนี้เป็นคิวของ MacBook Pro 16″ ที่จะได้อัพเกรดไปใช้ชิป Apple M-Series เช่นเดียวกับรุ่นเล็กในค่าย และมีกระแสอีกว่า iMac อาจได้อานิสงค์ได้อัพเกรดให้สเปคแรงและหน้าจอคุณภาพดีขึ้น รวมทั้งเปลี่ยนดีไซน์ตัวเครื่องอีกด้วย
ข่าวลือของ MacBook รุ่นใหม่
ข่าวลือเกี่ยวกับ MacBook ใหม่นั้นมาจากนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Ming-Chi Kuo เจ้าเก่าที่เคยหลุดสเปคออกมาได้ตรงกับของจริงหลายครั้ง หลังจาก MacBook Air และ Pro ได้ชิป Apple M1 ประสิทธิภาพสูงไป เจ้าตัวก็เผยว่า MacBook Pro 16 นิ้วรุ่นใหม่ มีโอกาสเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2-3 ของปี 2021 นี้
Kuo เสริมว่าถ้างานทั้งหมดเป็นไปอย่างราบลื่นตามแผน Apple ก็อาจเปิดตัวช่วงเดือนกรกฎาคม ใกล้ ๆ งาน WWDC ก็เป็นไปได้ และมีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านดีไซน์ภายนอกและสเปคภายในหลายอย่างอีกด้วย ได้แก่
1. ดีไซน์ตัวเครื่องใหม่ ขนาดจอ 14″ และ 16″
MacBook รุ่นใหม่จะมี 2 ขนาดด้วยกัน ได้แก่ 14 และ 16 นิ้ว ปรับดีไซน์ให้เป็นทรงเหลี่ยมกล่องยิ่งขึ้น ลดความโค้งมนในส่วนใต้ตัวเครื่องและฝาหลังให้กลายเป็นตัวเครื่องเรียบ ๆ โดยอ้างอิงดีไซน์มาจาก iPhone 12 และจะดูคล้ายกับดีไซน์ของ MacBook Pro รุ่นเก่าแทน
นอกจากนี้ยังมีมูลจากทวีตของนักวิเคราะห์และนักปล่อยข่าวของ Apple เกี่ยวกับขนาดหน้าจอของ MacBook Pro เช่นกัน โดย @L0vetodream ได้ทวีตถึง MacBook Pro 14 นิ้ว ที่คาดว่ามาในปีหน้า และ @jon_prosser นักวิเคราะห์สินค้า Apple ได้ดีไม่แพ้ Kuo ก็ออกมายืนยันเพิ่ม 100% เป็นการช่วยเสริมข่าวลือนี้ว่า Apple น่าจะพัฒนาอยู่และใกล้เสร็จแล้วด้วย
100%
— Jon Prosser (@jon_prosser) May 11, 2020
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องขนาด 14 นิ้ว จะเป็นขนาดใหม่ (เท่ากับขนาดโน๊ตบุ๊คฝั่ง Windows ในปัจจุบัน) ซึ่งผู้เขียนมองว่า Apple อาจจะใช้วิธีเปิดตัวขนาดหน้าจอใหม่นี้แล้วค่อย ๆ หยุดการขายรุ่น 13 นิ้วไป เหมือนที่เคยทำกับ MacBook รุ่นก่อน ๆ
ส่วนเหตุผลของรุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว เพื่อให้พกพาสะดวกและไม่หนักเกินไป ช่วยให้ผู้ใช้พกเครื่องติดตัวไปทำงานได้สะดวกกว่าใช้เครื่องขนาด 16 นิ้ว
2. ตัด Touch bar ทิ้ง
Touch Bar ถูกนำมาติดตั้งใน MacBook Pro ปี 2016 เป็นครั้งแรก โดยชูจุดเด่นว่าเป็นหน้าจอขนาดเล็กเหนือคีย์บอร์ดที่เปลี่ยนเป็นปุ่มหรือฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของแอพฯ นั้น ๆ แทน ซึ่งดีไซน์แรกของ Touch Bar นั้นกว้างจนถึงปุ่ม Esc ตรงมุมบนซ้าย แต่ในภายหลังจากมีการเรียกร้องของผู้ใช้ก็ถูกปรับดีไซน์ให้สั้นลงและเพิ่มปุ่ม Esc กลับมาให้เหมือนเดิม
เพราะว่าผู้ใช้ไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก Touch Bar เท่าที่ควร จึงมีข่าวลือว่า Apple ทำ MacBook Pro รุ่นทดสอบ โดยเปลี่ยน Touch Bar กลับเป็นปุ่ม Fn ออกมากำลังทดสอบอยู่ ซึ่งผู้ทดสอบเครื่องก็รู้สึกว่าปุ่ม Fn แบบเดิมได้ใช้งานบ่อยกว่าและมีประสบการณ์ใช้งานน่าประทับใจกว่าอีกด้วย
สำหรับการเปลี่ยนหรือนำเทคโนโลยีเก่าซึ่งใช้งานได้ดีกลับมาก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะก่อนหน้านี้คีย์บอร์ด Butterfly ของ Apple ถึงทางบริษัทจะเคลมว่าให้ประสบการณ์ใช้งานดีกว่าคีย์บอร์ดแบบ Scissor Switch โดยระยะกดปุ่มสั้นและใช้แรงกดน้อยก็ไม่ได้ไปต่อเพราะเจอปัญหาการใช้งานและเคลมเยอะมากจนต้องยอมกลับมาใช้ Scissor Switch เช่นเดิม
3. Magsafe จะกลับมาและเพิ่มพอร์ตให้ใช้มากขึ้น
สายชาร์จ Apple MagSafe 2
ถ้าใช้งาน MacBook มานาน น่าจะจำสายชาร์จอย่าง MagSafe ได้ มีข้อดีว่าชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็ว รวมทั้งหัวเป็นแบบแม่เหล็กสามารถดูดติดเข้ากับพอร์ตชาร์จไม่หลุดง่าย ๆ และหลุดออกทันทีเมื่อมีคนเดินสะดุดสายชาร์จ ทำให้ไม่ลาก MacBook กระเด็นตามไปด้วย
แม้จะดีแต่ก็น่าเสียดายเพราะ MacBook ทั้ง Air และ Pro ไม่ได้นำพอร์ตนี้มาใช้ต่อแล้วหันไปใช้ Thunderbolt 3 แบบ USB-C แทน โดยแต่ละเครื่องก็มี 2-4 ช่องตามรุ่น และแม้จะมีข้อดีมากมายทั้งชาร์จแบตเตอรี่ได้และต่อตัวแปลงเป็นพอร์ตต่าง ๆ ได้ก็ตาม แต่ก็พบความไม่สะดวกหลายอย่างเนื่องจากอุปกรณ์หลาย ๆ ชิ้นยังเป็นอุปกรณ์รุ่นเก่าอยู่เยอะ และผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยปลื้มกับความสุดโต่งนี้ของ Apple อีกด้วย
ข้อมูลจาก Kuo ก็เผยว่าทาง Apple รับทราบปัญหานี้ และ MacBook รุ่นใหม่อาจเพิ่มพอร์ตต่าง ๆ ให้ใช้ได้มากขึ้น คาดว่าจะมี USB 3.2 Type-A, MicroSD เพิ่มกลับเข้ามา รวมทั้งนำ MagSafe กลับมาใช้เพราะชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วกว่าการใช้ Thunderbolt 3 เพียงอย่างเดียว แต่อาจจะคง Thunderbolt 3 เอาไว้ เพื่อใช้ต่อหน้าจอแยกและพอร์ตอื่น ๆ เพิ่มได้และเป็นตัวเลือกในการใช้ชาร์จแบตเตอรี่ให้ MacBook ได้ด้วย
หากเป็นตามข่าวนี้จริง ๆ ก็จะสะดวกกับผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากพอร์ต Thunderbolt 3 แม้จะมีข้อดีมาก แต่ถ้ามีเพียงอย่างเดียวก็ลำบากต้องต่อตัวแปลงพอร์ตอยู่ดี เพราะผู้ใช้หลายคนอาจต้องการสำรองข้อมูลเอาไว้ใน External Harddisk หรือใช้ต่ออุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเช่นกัน
4. MacBook Pro ใช้หน้าจอ Mini-LED
หลังมีข่าวลือเรื่องหน้าจอ Mini-LED ออกมาเรื่อย ๆ ว่าจะเอาไปใช้ใน iPad Pro บ้างหรือ iPad รุ่นใหม่บ้าง ซึ่ง MacBook รุ่นใหม่เองก็มีข่าวลือเช่นกันว่าอาจจะติดตั้งหน้าจอ Mini-LED มาเช่นกัน เพราะเป็นหน้าจอที่มีค่า Contrast ดี, สีสันสวย, มีขอบเขตสีกว้าง, และแสดงผล HDR ได้ดีกว่าเดิม ทำให้การทำงานกราฟฟิคหรือแต่งสีภาพทำได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับจุดเด่นของหน้าจอ Mini-LED คือเรื่องหลอด LED จะมีขนาดเล็กกว่าหลอด LED ของหน้าจอ LCD มาก มีขนาดเล็กกว่า 0.2 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้เพิ่มปริมาณของหลอด LED เข้าไปบนหน้าจอได้มากขึ้น ทำให้แสดงสีสันได้คมชัดยิ่งกว่าเดิม และอาจรวมไปถึงการเพิ่มความละเอียดหน้าจอของ MacBook ได้อีกด้วยเช่นกัน ซึ่งเราอาจเห็นหน้าจอของรุ่น 16 นิ้ว มีความละเอียดเกิน 3072×1920 พิกเซล และอาจสูงถึงระดับ 4-5K ก็เป็นไปได้เช่นกัน
5. Apple m1x เพิ่มความแรง สูงสุด 12 คอร์!
ไม่มีภาพเป็นทางการ ก็เอาพาโรดี้ไปก่อน
ทางเว็บไซต์เคยเผยแพร่ข่าววงในเกี่ยวกับชิป Apple M1X ว่าจะถูกนำมาใช้ใน MacBook รุ่นใหม่ มีประสิทธิภาพและคอร์ประมวลผลสูงกว่า Apple M1 อย่างมาก โดยมีคอร์ประมวลผลประสิทธิภาพสูง 8 คอร์ ส่วนคอร์ประหยัดพลังงานมี 4 คอร์ เมื่อเทียบกันแล้ว M1X จะแรงกว่าถึง 140% ทีเดียว
Apple M1X:
— LeaksApplePro (@LeaksApplePro) November 22, 2020
-12 Cores.
– 8 performance cores.
– 4 high efficiency cores.
– Coming first on a MacBook Pro
16” unveiling as a press release.
– According to a source who used a prototype, “if you think M1 is fast, you haven’t seen M1X”.
-Name isn’t final though. pic.twitter.com/tpBhXpDCad
นอกจากนี้ยังมีผล Benchmark ของ Apple M1X ที่ทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ด้วยว่าประสิทธิภาพของชิปจัดว่าแรงมาก มีคะแนน Single-Core 1,602 คะแนน และ Multi-Core 18,520 คะแนน รวมทั้งทวิตของ @LeaksApplePro ยังย้ำเพิ่มเติมว่าประสิทธิภาพของชิปนี้เหนือกว่า Apple M1 อย่างชัดเจน ดังนั้น Apple M1X จะสามารถรันแอพฯ ใช้ทรัพยากรตัวเครื่องหนัก ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
Recently, I received this image which is claimed Apple M1X, but I can't find original Geekbench link. 😂 pic.twitter.com/2S3kAOcKYN
— 포시포시 (@harukaze5719) January 17, 2021
ส่วนประสิทธิภาพของ Apple M1 ก็จัดว่าทำได้ดี แม้จะได้คะแนนใน Cinebench R23 ไม่เท่าฝั่ง Intel, AMD ก็ตาม แต่ส่วนของกราฟฟิคการ์ดชนะ GeForce GTX 1050Ti และ RX560 ได้อย่างขาดลอย โดยถ้าอิงจากผล Benchmark ของ M1 แล้ว ก็สันนิษฐานได้ว่า M1X อาจจะทำคะแนนใน Cinebench R23 ได้ชนะ Intel, AMD ก็เป็นไปได้
ส่วนราคาของ MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นเริ่มต้น ถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะเริ่มต้นสูงถึง 2,399 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือราว 98,600 บาท เมื่อเทียบแล้วจะแพงกว่ารุ่นปัจจุบันที่เริ่มต้นเพียง 75,900 บาทถึง 22,700 บาท แต่ถ้าแลกกับประสิทธิภาพที่ได้และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน อย่างไรก็ตามเรื่องราคาของ MacBook รุ่นใหม่อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อใกล้ถึงวันเปิดตัว
ข่าวลือของ iMac รุ่นใหม่
นอกจากข่าวของ MacBook รุ่นใหม่แล้ว iMac รุ่นใหม่ก็มีข่าวหลุดออกมาบ้างเช่นกัน แต่ยังเป็นภาพหลุดเรื่องสิทธิบัตรและข่าวลือเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ใหม่ที่รวมตัวเครื่องกับคีย์บอร์ดเข้าด้วยกันจนเหมือนคอมพิวเตอร์ในอดีต ซึ่งอาจจะเป็นเพียงการจดสิทธิบัตรเอาไว้แต่ยังไม่นำมาใช้งานจริง รวมทั้งรายการอัพเดทใหม่ ๆ น่าสนใจอีกหลายรายการดังนี้
1. iMac อาจใช้ดีไซน์เดียวกับหน้าจอ Pro display xdr หน้าจอใหญ่ขึ้นจาก 21.5 เป็น 23 นิ้ว
หน้าจอ Pro Display XDR คุณภาพสูงระดับงานโปรดักชั่นอาจถูกนำมาใช้งานกับดีไซน์ของ iMac รุ่นใหม่ก็เป็นไปได้ โดยมีผลจากดีไซน์ของ iPhone 12 ทำให้ตัวเครื่องหลังไม่โค้งอีกต่อไป ส่วนขนาดหน้าจอรุ่นเริ่มต้นก็มีโอกาสขยายใหญ่ขึ้นจาก 21.5 เป็น 23 นิ้ว เพราะ Apple ดึงใช้ขนาดหน้าจอนี้มาหลายปีแล้ว
ข่าวลืออื่น ๆ เพิ่มเติมคือ ในเมื่อ MacBook รุ่นใหม่ใส่หน้าจอ Mini-LED มาแล้ว สื่อต่างประเทศหลายแห่งก็คาดการณ์ว่า iMac อาจได้ใช้หน้าจอนี้เช่นกัน เพื่อให้สีสันบนหน้าจอสวยสดยิ่งขึ้น, มีค่า Contrast ดีและรองรับขอบเขตสีกว้างกว่าเดิมอีกด้วย แต่อาจจะสงวนไว้ใช้กับ iMac Pro ก่อน แล้วเปิดเป็นออปชั่นให้ iMac รุ่นอื่น ๆ เลือกปรับแต่งผ่านการสั่งหน้าเว็บไซต์ได้แทน
โดยการคาดการณ์ของผู้เขียน ดีไซน์ตัวเครื่องของ iMac นั้นมีหน้าจอใหญ่และขอบจอหนา ซึ่ง Apple อาจจะใช้ขนาดตัวเครื่อง 21.5 นิ้วเท่าเดิม แต่ทำให้ขอบหน้าจอทั้งสี่ฝั่งบางลงแทนเพื่อขยายขนาดหน้าจอ
2. อาจใช้ชิป Apple M2 และเปลี่ยนพอร์ต PCIe สำหรับต่อ SSD เป็น PCIe 4.0
ซีพียูของ iMac รุ่นใหม่มีเสียงแตกหลายทางเช่นกัน ไม่ว่าจะใช้ Apple M1 หรือแม้แต่ใส่ชิป Apple M2 มาให้ในเครื่องเลย โดยชิปจะเป็นสถาปัตยกรรม RISC มีประสิทธิภาพสูง ใช้ทำงานต่าง ๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อ SSD อาจเปลี่ยนไปใช้ PCIe 4.0 ให้รับส่งข้อมูลได้เร็วยิ่งกว่าเดิมแต่ก็อาจจะทำให้ราคาของตัวเครื่องสูงขึ้น และมีความจุสูงสุดให้เลือกมากกว่าเดิมอีกด้วย
แต่ในตอนนี้ข่าวหลุดเกี่ยวกับซีพียู Apple M-Series เองยังมีเพียง Apple M1X เท่านั้น และไม่มีข้อมูลชิปที่อาจจะเป็น Apple M2 ออกมาเลย แต่ถ้าเป็นจริงผู้เขียนก็คาดว่า Apple M2 เมื่อนำไป Benchmark เทียบกับ Apple M1X แล้วอาจทำคะแนนได้น้อยกว่าเหมือนกรณีของซีพียู Apple A12Z ใน iPad Pro ที่ประสิทธิภาพเหนือกว่า Apple A13 ใน iPhone 11 Series ก็เป็นไปได้
หรือไม่แน่ว่า iMac ก็อาจใช้ Apple M1X ร่วมกับ MacBook รุ่นใหม่เลยก็ได้
3. อาจเปิดตัวช่วงครึ่งปีแรกใกล้ ๆ งาน WWDC
กำหนดการณ์เปิดตัวของ iMac รุ่นใหม่นั้น สื่อต่างประเทศหลายเจ้าคาดว่าจะจัดในช่วงครึ่งปีแรกก่อนงาน WWDC นั่นเพราะว่าในช่วงงานนั้นไปจนถึงช่วงปลายปีจะเป็นคิวของ MacBook รุ่นใหม่รวมถึง iPhone ด้วย ส่วนบางสื่อก็คาดว่าจะมีงานเปิดตัวในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐอเมริกา นั่นคือช่วงมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม จะได้ไม่ชนกัน หรือมาไล่เลี่ยกัน
สำหรับราคาคาดว่ารุ่น 21.5 นิ้ว (หรืออาจเป็นรุ่น 23 นิ้ว) มีราคา 1,099 ดอลลาร์ หรือราว 33,000 บาท ส่วนรุ่น 27 นิ้ว เริ่มต้น 1,799 ดอลลาร์ หรือราว 54,000 บาท
สรุปจากข่าวลือแล้ว เราจะเห็นว่า Apple กำลังเดินหน้าปรับเปลี่ยนซีพียูในสินค้าของตัวเองเป็นชิปของตัวเองมากยิ่งขึ้นและลดความสำคัญของ Intel ลงช้า ๆ เพราะเมื่อออกแบบและพัฒนาชิปเอง ทำให้ปรับแต่งสเปคได้อย่างเป็นอิสระและทำงานเข้ากับแอพฯ ของตัวเองได้ดีอีกด้วย ซึ่งจะเห็นจาก MacBook Air และ MacBook Pro รุ่นใหม่ล่าสุดแล้วว่าทำงานได้ดีเท่าไหร่
นอกจากนี้เรื่องการเข้ากันของแอพฯ รุ่นเก่ากับชิป Apple M1 ก็ยังมี Rosetta 2 ช่วยแปลภาษาให้ทำงานเข้ากันได้ดี ช่วยยืดเวลาให้นักพัฒนาปรับแต่งแอพฯ ของตัวเองให้ใช้งานกับ M1 ได้มากขึ้น ซึ่งถ้าข่าวลือทั้งหมดนี้เป็นจริง เราอาจจะได้ MacBook รุ่นใหม่ตรงใจผู้ใช้ส่วนใหญ่และแรงมากขึ้นอีกด้วย