ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า!
ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android ก็โอนไฟล์เข้าคอมพิวเตอร์มาทำงานต่อผ่านพอร์ตมาตรฐานในปัจจุบันอย่าง USB-C 3.2 Gen 2 ได้อย่างรวดเร็วเพียงต่อเข้าเครื่องก็โอนไฟล์ได้ทันที แถมขนาดก็เล็กกะทัดรัดเท่าแฟลชไดรฟ์และเบาเพียง 13 กรัม พอต่อเข้ามือถือแล้วก็แทบไม่ถ่วงตัวเครื่องให้หนักขึ้น ไม่เกะกะอุปกรณ์อื่นอย่างไม้กันสั่นแน่นอน
นอกจาก Portable SSD แล้ว อุปกรณ์เสริมสารพัดประโยชน์อย่าง Portable Hub for SL400 ที่ครีเอเตอร์ควรมีไว้ใช้คู่กัน ยิ่งใครใช้โครงจับมือถือ (Smartphone Rig) ไว้จับเครื่องถ่ายงาน เจ้าตัวนี้ก็จะเป็น Hub สำหรับต่อ SSD พร้อมไมค์และเป็นตัวต่อชาร์จมือถือแบบ Fast Charge 30W ผ่านสาย USB-C ติดเข้ากับโครงเหล็กด้วยขา Hot shoe แบบอุปกรณ์เสริมกล้องชิ้นอื่นได้ทันที ช่วยยึด Hub กับ Rig ให้อยู่ด้วยกันได้มั่นคง ถ่ายงานได้สะดวกทุกสถานการณ์โดยเฉพาะใครใช้กล้องไอโฟนเป็นประจำยิ่งดีเพราะสามารถอัดคลิปเข้าไดรฟ์ได้โดยตรง
NBS Verdicts
Lexar Portable SSD SL400 เป็นอุปกรณ์เสริมสำคัญของช่างภาพและครีเอเตอร์ที่ต้องออกไปถ่ายคลิปนอกสถานที่เป็นประจำหรือ YouTuber สายท่องเที่ยวที่ถ่ายคลิปร้อยแปดเก็บไว้ในสมาร์ทโฟนก็โอนไฟล์ Footage ออกจากมือถือมาตัดต่อในภายหลังได้สะดวกรวดเร็ว จะใช้กับ Android ก็ได้ แต่ถ้าเป็น iPhone 15 Pro Series ขึ้นไปยิ่งดีเพราะถ่ายคลิปเข้า Portable SSD ได้โดยตรง จึงเอางานไปเข้าคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็ว ถ้าพ่วงกับ Portable Hub for SL400 ยิ่งสะดวก และถ้าเปิดกล่องมาจะเห็นความเอาใจใส่จาก Lexar เพราะทางบริษัทแถมแผ่นสติกเกอร์มาให้เขียนระบุเพิ่มได้ว่าไฟล์วิดีโอในเป็น Footage ชุดไหน ทำให้ทีมตัดต่อก็สามารถต่อโอนไฟล์ไปทำงานได้ทันที
ด้านอุปกรณ์เสริมคู่บุญอย่าง Portable Hub for SL400 ก็สำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งใครใช้ Rig จับมือถือก็ควรซื้อไว้ใช้งานมาก นอกจากยึดขา Hot shoe ได้แล้ว ยังเพิ่มสายเติมพอร์ต USB-C มาให้ต่อสายชาร์จมือถือได้รวดเร็วด้วย Fast Charge 30W ได้ เติมอุปกรณ์เสริมเข้าไปยิ่งช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้น แถมราคาเพียงพันบาทต้นเท่านั้น ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยากอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นคุ้มเกินค่าตัวแน่
ในทางกลับกัน จุดสังเกตของ Portable SSD SL400 อย่างแรก คือ ราคาต่อความจุสูงพอควร รุ่นความจุ 1TB ก็มีราคาถึง 6,300 บาท จึงเหมาะกับช่างภาพและคอนเทนต์ครีเอเตอร์กับ YouTuber มากกว่า อีกอย่างถ้ามือถือใส่เคสเอาไว้จะต่อ SSD เข้าไปไม่สนิท ติด Portable Hub โดยตรงไม่ได้ ต้องพ่วงชุด Hot shoe แล้วเชื่อมด้วยสาย USB-C ถึงจะใช้งานได้สะดวก
ข้อดีของ Lexar Portable SSD SL400
- มีความเร็วอ่านเขียนไฟล์เข้าออกไดรฟ์สูงถึง 1,050 / 1,000 MB/s โอนไฟล์ใหญ่ได้รวดเร็ว
- SSD เลือกซื้อความจุได้ทั้ง 1TB กับ 2TB ตามต้องการ เก็บไฟล์วิดีโอได้มาก
- รองรับหลากหลายระบบปฏิบัติการทั้ง Windows, macOS, iOS และ Android
- กันน้ำและฝุ่นระดับ IP65 ทนต่อน้ำและฝุ่นได้พอควร ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์
- แถมแผ่นสติกเกอร์ไว้เขียนจดได้ว่าถ่ายคลิปอะไรหรือเก็บไฟล์อะไรอยู่ข้างใน
- เชื่อมต่อกับ iPhone 15 Pro หรือ 16 Pro Series แล้วถ่ายงานไฟล์ Apple ProRes ได้ทันที
- ทั้ง Portable SSD และ Hub แถมข้อต่อ C ไว้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองชิ้นมาให้
- Portable Hub ติดพอร์ต USB-C มา 3 ช่องและ 1 สาย ต่ออุปกรณ์เสริมและชาร์จไฟได้
- แถมชุดต่อ Hot shoe มาให้ติดเข้ากับ Rig ของกล้องได้สะดวกมั่นคง
- สาย USB-C ของ Portable Hub มีความเร็วสูงถึง 10 Gbps ทำงานได้รวดเร็ว
- SSD กับ Hub ใช้งานกับอุปกรณ์อื่นได้ทันที ไม่ต้องติดตั้งซอฟท์แวร์เพิ่ม
ข้อสังเกตของ Lexar Portable SSD SL400
- ราคาค่อนข้างสูง รุ่น 1TB เริ่ม 6,300 บาท ถือว่าราคาต่อความจุค่อนข้างสูง
- ถ้าใส่เคสอยู่จะต่อ SSD ได้ไม่สนิทพอดี ต้องต่อ Dock เพิ่มถึงจะใช้งานได้ง่าย
รีวิว Lexar Portable SSD SL400
Specification
Lexar Portable SSD SL400 กับ Hub for SL400 จาก Lexar ผู้ผลิตหน่วยความจำชั้นนำระดับโลก ซึ่งสินค้าทั้งสองชิ้นนี้ออกแบบมาให้ช่างภาพและครีเอเตอร์ที่ใช้กล้องไอโฟนถ่ายงาน ไม่ว่าจะ iPhone 15 Pro หรือ 16 Pro Series นำไปต่อใช้ถ่ายคลิปต่างๆ ไม่ว่าจะคลิป 4K 60 Fps ทั่วไปหรือ ProRes เอาไว้ทำงานต่อได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังซื้อ Dock เอามาต่อพ่วงแล้วติดเข้ากับ Camera Rig ให้ถ่ายงานได้สะดวกยิ่งขึ้นอีก ซึ่งสเปคของอุปกรณ์ทั้งสองชิ้นจะเป็นดังนี้
Lexar Portable SSD SL400 | รายละเอียด |
Interface Protocol | USB-C 3.2 Gen 2 |
Speed | 1,050 / 1,000 MB/s รองรับการถ่ายคลิป 4K 60 Fps |
Supported OS | Mac OS X 10.6+ Windows 7 / 8 / 10 / 11 iOS (แนะนำ iPhone 15 / 16 Pro Series) Android 4.4+ |
IP Rating | กันน้ำและฝุ่นระดับ IP65 ป้องกันการตกได้ 1 เมตร |
Price | ความจุ 1TB ราคา 6,300 บาท สั่งซื้อใน Lexar Thailand Shopee Mall |
สเปคของอุปกรณ์เสริมอย่าง Portable SSD SL400 จะเป็นดังนี้
Lexar Professional Go Portable Hub For SL400 | รายละเอียด |
Hub Interface | USB-C*4 |
Transfer speed | 10 Gbps |
Hub Power Supply | Fast Charge 30W |
Connector | Hot shoe mounting |
Price | ราคา 1,650 บาท สั่งซื้อใน Lexar Thailand Shopee Mall |
Unbox & Design
เริ่มต้นจากกล่องบรรจุ Lexar Portable SSD SL400 และ Portable Hub for SL400 ทั้งสองกล่องจะใช้สีดำเป็นพื้นฐาน สกรีนภาพสินค้าเอาไว้ด้านหน้ากล่องเพื่อบอกประเภทสินค้าและเน้นคุณสมบัติเด่นให้เห็นชัดก่อนแล้วเติมรายละเอียดควรรู้ของสินค้าเอาไว้มุมข้างซ้าย, ขวาและด้านหลัง ครบถ้วน สามารถดูข้อมูลสินค้าก่อนซื้อได้ง่าย
Portable SSD SL400 นอกจากมีขนาดเล็กและเบาเพียง 13 กรัม ภายในกล่องจะมีขั้วต่อ USB-C แบบตัว C ขั้วตัวผู้และตัวเมียให้พ่วงกับสมาร์ทโฟนได้สะดวกขึ้น เขียนความจุเอาไว้แถบเดียวกับพอร์ต USB-C ใส่เคสยางกันกระแทกมาให้พร้อมใช้งาน ภายในกล่องถ้ายกตัวพับวาง SSD ออกมาจะมีสติกเกอร์สำหรับจดไว้ได้ว่าเก็บไฟล์อะไรเอาไว้ในไดรฟ์และมีสายคล้องข้อมือแถมมาอีกเส้น
Portable Hub for SL400 ทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสจะมีความสูงกว่า SL400 SSD เป็นเท่าตัว แต่ขนาดยังเล็กกะทัดรัดพกพาง่าย มีพอร์ต USB-C ทั้งหมด 4 ตัว แยกเป็นด้านบนเหนือโลโก้เอาไว้ต่อชาร์จไฟได้ รองรับการชาร์จเร็ว 30W ด้านล่างจะเป็นร่องเว้าเข้าไปให้ต่อ Portable SSD SL400 คู่ฝั่งซ้ายโลโก้มีตัวสูงเสมอกรอบและอันหนึ่งเป็นร่องลึกเข้าไปให้สไลด์พอร์ต USB-C ของ Hot shoe เข้าไปได้ อีกช่องไว้ต่ออุปกรณ์เสริมอย่างไมโครโฟน, ไฟแฟลช ฯลฯ ได้ตามสะดวก เพื่อให้ถ่ายงานด้วยกล้องไอโฟนได้คุณภาพดีขึ้น
อุปกรณ์เสริมในกล่องมีตัวแท่นต่อ Hot shoe ดีไซน์พิเศษ มีสาย USB-C เส้นยาวราว 10 ซม. อีกด้านเป็นหัวต่อเข้าร่อง Hub แถมมาให้ต่อเข้า Rig ได้โดยตรงและอะแดปเตอร์ USB-C ตัว C ขั้วตัวผู้สองฝั่งแถมมาให้อีกชิ้นไว้เชื่อมเข้าสมาร์ทโฟนกับ Hub ได้ด้วย นับเป็นอุปกรณ์เสริมที่ควรซื้อติดตัวไว้
พอประกอบใช้กับมือถือ จะเห็นว่าอะแดปเตอร์ตัว C เมื่อต่อ Hub โดยตรงไม่ใช้กับขั้ว Hot shoe จะแนบสนิทเข้ากับสมาร์ทโฟนพอดี ไม่ได้เว้นระยะเอาไว้จึงติดใช้งานได้มั่นคงแต่ก็ต้องถอดเคสก่อนถึงจะสวมได้ ถ้าใส่เคสอยู่หัว USB-C จะเลื่อนลงมาไม่พอดีกับพอร์ตของมือถือ ต้องเอาสาย USB-C ต่อเข้ามาแทน
ถ้าประกอบ Lexar Portable SSD SL400 กับ Portable Hub for SL400 เข้าหากันแล้ว จะกลายเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกะทัดรัดพร้อมขายึด Hot shoe เข้า Rig และมีสายกับพอร์ต USB-C ไว้ต่อกล้องไอโฟนกับอุปกรณ์เสริมชิ้นอื่นได้
Performance
ความเร็วเวลาอ่านเขียนข้อมูลของ Lexar Portable SSD SL400 เคลมจากโรงงานจะมีความเร็วสูงไล่เลี่ยกับ External SSD คุณภาพสูงรุ่นอื่นในท้องตลาด Lexar เคลมว่าสามารถเขียนอ่านไฟล์ Apple ProRes เข้าไดรฟ์ได้โดยตรง พอทดสอบกับโปรแกรม CrystalDiskMark 8 จะได้ผลดังนี้
ความเร็ว/สเปค | Read (MB/s) | Write (MB/s) |
สเปคจากโรงงาน | 1,050 | 1,000 |
Sequential | 999.61 | 814.79 |
RND4K | 114.96 | 57.25 |
ด้านการทดสอบกับ Anvil’s Storage Utilities จะเห็นว่า Lexar Portable SSD SL400 สามารถเขียนอ่านไฟล์ได้ค่อนข้างเร็ว ถ้าเขียนอ่านไฟล์ทั่วไปขนาด 4MB จะทำงานได้เร็ว ถ้าเป็นขนาดเล็กย่อยหลายไฟล์จะมีความเร็วลดลงบ้าง แต่ก็ยังทำงานได้ต่อเนื่องยิ่งใครเป็นช่างภาพแล้วถ่ายภาพไฟล์ RAW เอามาแต่งต่อในคอมพิวเตอร์ก็ใช้เวลาโอนไฟล์ไม่นานมาก
ถ้าทดสอบกับโปรแกรม ATTO Disk Benchmark โดยแยกเป็น 2 แบบ จำลองการเขียนอ่านไฟล์ 256MB กับ 8GB เข้าออกไดรฟ์ เริ่มจากไฟล์ขนาด 256MB จะเห็นว่าตัวไดรฟ์สามารถอ่านเขียนไฟล์ได้เร็วพอควร ทำความเร็ว Read ได้ราว 900 MB/s กับ Write ช่วง 700 MB/s ถ้าต่อ iPhone 15 Pro แล้วถ่ายงานไฟล์ Apple ProRes หรือไฟล์ 4K ก็ทำได้สบาย กรณีถ่ายโอนไฟล์ Footage ขนาดใหญ่ สมมติขนาดไว้ 8GB เข้าคอมพิวเตอร์ก็ทำได้รวดเร็วและเสถียรไม่มีความเร็วตกกะทันหันด้วย
อิงจากผลทดสอบของโปรแกรมทั้งสามตัว ถือว่า Lexar Portable SSD SL400 เป็น Portable SSD คุณภาพดีและขนาดเล็กกะทัดรัด ออกแบบมาได้เหมาะกับการถ่ายทำคอนเทนต์ในยุคนี้ที่ครีเอเตอร์หันมาใช้กล้องไอโฟนถ่ายทำผลงานเป็นหลักได้เป็นอย่างดี ทั้งขนาดเล็กน้ำหนักเบาพกง่ายแถมอ่านเขียนถ่ายโอนไฟล์เข้าออกไดรฟ์ได้รวดเร็ว ช่วยให้ผลิตผลงานต่างๆ ออกมาได้ไวทันใจยิ่งขึ้น
User Experience
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ครีเอเตอร์และช่างภาพหลายคนหันมาใช้สมาร์ทโฟนเรือธงเป็นอุปกรณ์ถ่ายงานมากขึ้นเพราะคุณภาพจากกล้องไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือภาพนิ่งก็มีคุณภาพดี ยิ่งถ้าทำคอนเทนต์ลง Social network อย่าง Facebook, YouTube นับว่าเพียงพอใช้งานแล้ว แต่ก็มักเลือกซื้อความจุ 256GB เพราะราคาเข้าถึงง่าย จะไปรุ่นความจุ 512GB ก็ต้องเพิ่มเงินอีกพอควรไม่สะดวกจ่ายนัก ดังนั้นหลายคนจึงหันมาซื้อ External SSD อย่าง Lexar Portable SSD SL400 และ Portable Hub for SL400 มาใช้เก็บไฟล์งานโดยเฉพาะ ซึ่ง SSD ตัวนี้ต่อใช้กับ iOS และ Android ได้ไม่ต้องติดตั้งซอฟท์แวร์หรือโหลดแอพฯ มาใช้ร่วมกันก็ได้ จึงใช้งานได้สะดวกมาก
จากประสบการณ์ตรง การมี External SSD ติดกระเป๋าเอาไว้อย่างน้อย 1TB คู่กับสมาร์ทโฟนเครื่องหลักจะช่วยให้ครีเอเตอร์โอนไฟล์ Footage ไปทำงานต่อได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Portable SSD SL400 ตัวนี้ก็นอกจากใช้งานกับระบบปฏิบัติการยอดนิยมในปัจจุบันไม่ว่าจะ Android, iOS, macOS หรือ Windows ก็โอนไฟล์จากหน่วยความจำในมือถือตรงเข้าคอมออกมาได้เร็วมาก อย่างตอนทดลองใช้งานผู้เขียนลองโอนไฟล์วิดีโอ RAW ความยาว 30 นาที ก็ใช้เวลาถ่ายโอนราว 1 นาทีเท่านั้น สามารถใช้มือถือถ่ายงานต่อได้ทันที ยิ่งถ้าต่อ Rig ก็สะดวกมากเพราะมี Hub กับอะแดปเตอร์ Hot shoe เอาไว้ขันล็อคเครื่องเข้าหากันได้มั่นคงยิ่งขึ้น เวลาต่อเข้าคอมพิวเตอร์เพียงต่อเข้า USB-C เครื่องก็จะเห็นเป็น External Drive ทั่วไป จึงโอนไฟล์ไปใช้งานได้เลย
จุดน่ารักเล็กๆ ภายในกล่อง Portable SSD SL400 เป็นสติกเกอร์สำหรับเขียนติดหน้าไดรฟ์ได้และมีแถมมาให้ราว 20 ชิ้น ทำให้คนถ่ายงานสื่อสารส่งงานให้ทีมตัดต่อได้ง่าย สามารถเขียนบอกรายละเอียดว่า Footage ในไดรฟ์ไปถ่ายงานจากไหนมาแล้วส่งต่อได้รวดเร็ว ถ้าเขียนด้วยดินสอก็ลบเขียนใหม่ได้เรื่อยๆ หรือถ้าเป็นปากกาก็มีสติกเกอร์ให้แกะเปลี่ยนได้อีก แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็ใส่ใจลูกค้าได้ดีมาก
อย่างไรก็ตาม Lexar Portable SSD SL400 จะไม่ถูกกับเคสสมาร์ทโฟนเท่าไหร่ ถ้าใครสวมเคสเอาไว้แล้วจะต่อ SSD โอนไฟล์ไม่สะดวกดันหัวเข้าไม่สนิทจึงโอนไฟล์ไม่ได้ ถ้าไม่ต่อหัว Hot Shoe ก็ต้องถอดเคสเพื่อใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง เรื่องราคาของอุปกรณ์ทั้งสองชิ้นก็ค่อนข้างสูง อย่างรุ่นความจุ 1TB ซึ่งเป็นความจุยอดนิยมมากพอถ่ายคลิป Vlog ได้นานทั้งวันก็เริ่มต้น 6,300 บาทแล้ว ไม่รวม Portable Hub for SL400 อีก 1,650 บาท ซึ่งถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สะดวกจ่ายนัก แต่ถ้าเป็น YouTuber หรือโปรดักชั่นเฮ้าส์ก็พอซื้อมาเป็นอุปกรณ์ทำงานได้อยู่
Conclusion
Lexar Portable SSD SL400 เกิดมาตอบโจทย์ผู้ใช้ในยุคปัจจุบันที่มีกล้องสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ถ่ายทำคอนเทนต์ได้เป็นอย่างดี ใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลากหลายตั้งแต่ถ่ายงานใน iPhone หรือ Android แล้วส่งไฟล์งานไปให้ทีมตัดต่อโอนเข้าคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วแถมมีขนาดเล็ก จึงพกใส่กระเป๋าไปได้ทุกโอกาส ถ้าใช้ร่วมกับ Hub ก็ต่ออุปกรณ์ชิ้นอื่นอย่างไมโครโฟนเพิ่มเข้าไปให้ถ่ายงานได้คุณภาพดีขึ้นมาก ช่างภาพและ YouTuber ควรมีติดตัวเอาไว้สักชิ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้ราคาต่อความจุจะสูงอยู่บ้างจนบางคนคิดว่าอย่างนี้เอาเงินส่วนต่างไปลงกับความจุภายในสมาร์ทโฟนแทนจะดีไหม? ยกตัวอย่างเช่นเพิ่มความจุจาก iPhone 16 Pro 256GB ไป 512GB จะต้องจ่ายเพิ่มจาก 43,900 บาท เป็น 51,900 บาท ก็เอาส่วนต่าง 8,000 บาท นั้นมาลงกับ Lexar SL400 1TB สักตัวพร้อม Hub แทน จะมีราคาไล่เลี่ยกัน 7,950 บาท แต่เวลาถ่ายงานเสร็จ Footage อยู่ใน SSD แล้ว ก็ส่งต่อให้ทีมตัดต่อทำงานได้ทันที เอามือถือไปทำงานต่อได้ไม่ต้องทิ้งเครื่องไว้ให้เสียโอกาสสักนิดเดียว จึงทำงานได้สะดวกกว่าเดิมแน่นอน