ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ทาง Panasonic ได้ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊ตที่ใช้วัสดุกึ่งยางซึ่งมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Broadwell vPro ในซีรีส์ Toughbook ชื่อรุ่น Toughbook 54 ออกมาครับ ด้วยความที่ตัวเครื่องทำมาจากวัสดกึ่งยางนั้นทำให้ตัวเครื่องมาพร้อมกับความคงทนสามารถที่จะทนต่อแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่ง ตัวเครื่องถูกแยกออกเป็นหลายรุ่นโดยจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว โดยจะมีรุ่นโมเดล Lite ที่หน้าจอรองรับความละเอียด 1366 x 768 pixels กับรุ่นโมเดล Prime ที่หน้าจอรองรับความละเอียด 1920 x 1080 pixels ให้เลือกครับ
สำหรับหน้าจอตัวเครื่องรุ่นโมเดล Prime นั้นจะมาพร้อมกับความสามารถพิเศษในการรองรับการสัมผัส Gloved Multi Touch ที่คุณสามารถทำการสัมผัสหน้าจอได้ถึงแม้ว่าจะใส่ถุงมืออยู่(ซึ่งในบ้านเราไม่น่าจะได้ใช้ความสามารถนี้กันนักสักเท่าไร) โดยสามารถสัมผัสพร้อมกันได้ถึง 10 จุดและความสว่างของหน้าจอนั้นจะมีค่าอยู่ที่ 1000 nit เลยทีเดียวครับ Toughbook ยังแรงด้วยหน่วยประมวลผลรุ่นที่ 5 ของทาง Intel รหัส Broadwell กับ Core i5-5300U vPro ที่มีความเร็วปกติอยู่ที่ 2.3 GHz และโหมด Turbo Boost อยู่ที่ 2.9 GHz
ในขณะที่การ์ดจอนั้น Toughbook 54 จะใช้ integrated HD 5500 Graphics โดยจะมีตัวเลือกรุ่นในระดับบนที่ใช้การ์ดจอแยกของ AMD รุ่น FirePro M5100 หน่วยความจำ(Ram) มีให้เลือกตั้งแต่ 4 GB จนถึง 16 GB แหล่งเก็บข้อมูลภายในมีให้เลือกตั้งแต่ HDD shock-mounted flex-connect ความจุ 500 GB ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสถานที่ที่มีอุณหภูมิไม่เท่ากับระดับปกติโดยเฉพาะ รวมไปถึงตัวเลือกอย่าง SSD ความจุ 128 ถึง 256 GB และ HDD ความจุ 1 TB ที่มีความเร็วการหมุนแผ่นจานอยู่ที่ 7200 rpm ด้วยครับ
ทั้งนี้ Toughbook 54 นั้นถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คในซีรีส์ Toughbook ที่มีขนาดเล็ก, บาง และเบาที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Panasonic ด้วยความหนาที่อยู่ที่ 1.2 นิ้ว และนำหนักอยู่ที่ 1.9 ถึง 2.1 kg เท่านั้น โดยตัวเครื่องจะมีการใช้วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่ใช้ผสมในการผลิตพร้อมทั้งยังมีหูหิ้วสำหรับใช้ในการขนย้ายตัวโน๊ตบุ๊คมาให้ในตัวอีกต่างหาก ซึ่งทาง Panasonic ยืนยันว่า Toughbook 54 นั้นสามารถที่จะรอดจากการตกจากความสูงที่ระดับ 1 เมตร(จากการทดสอบตกถึง 26 รูปแบบ) สำหรับราคานั้น Toughbook 54 จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1499 หรือประมาณ 49,500 บาท ขึ้นไปและจะพร้อมวางขายภายในช่วงเดือนนี้ในบางประเทศแล้วครับ(ซึ่งน่าจะเป็นที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่แรกครับ)
ที่มา : vr-zone