Connect with us

Hi, what are you looking for?

Other News

ถึงจุดจบ Wi-Fi ??? “Li-Fi” เทคโนโลยีใหม่ที่สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วกว่า “Wi-Fi” ถึง 100 เท่า

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยข้อมูลของเทคโนโลยีใหม่สำหรับใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลชื่อว่า “Li-Fi” จากทางนักวิทยาศาสตร์ออกมาครับ โดยทางนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการวิจัยเทคโนโลยีนี้นั้นบอกเอาไว้ว่า

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยข้อมูลของเทคโนโลยีใหม่สำหรับใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลชื่อว่า “Li-Fi” จากทางนักวิทยาศาสตร์ออกมาครับ โดยทางนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการวิจัยเทคโนโลยีนี้นั้นบอกเอาไว้ว่าพวกเขาสามารถที่จะทำการใช่เทคโนโลยี “Li-Fi” ในการโอนถ่ายข้อมูลในห้องทดลองได้ที่ความเร็วสูงมากถึง 224 GB/s เลยทีเดียว ซึ่งที่ความเร็วระดับนี้หมายความว่าคุณสามารถที่จะทำการดาวน์โหลดภาพยนต์กว่า 18 เรื่องในเวลาที่คุณกระพริบตาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นครับ

Advertisement

Li-Fi-To-Replace-Wi-Fi-for-Pro 600

นอกเหนือไปจากการทดลองในห้องทดลองแล้วทางทีมนักวิทยาศาสตร์ได้มีการนำเทคโนโลยี “Li-Fi”(เทคโนโลยีการโอนถ่ายข้อมูลที่ใช้เรื่องของแสงเป็นตัวโอนถ่ายหลัก) มาทำการทดสอบนอกห้องทดลองด้วย ซึ่งผลที่พบนั้นก็น่าประทับใจมากครับเพราะเทคโนโลยี “Li-Fi” นั้นสามารถที่จะทำการโอนถ่ายข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุด 1 GB/s หากเทียบกับเทคโนโลยี “Wi-Fi” มาตรฐานในปัจจุบันแล้วพบว่าเร็วกว่ากันถึง 100 เท่าตัวครับ

ข้อจำกัดของเทคโนโลยี “Wi-Fi” และการแทนที่ด้วยเทคโนโลยี “Li-Fi”

อ้างอิงจากคำพูดของ Harald Haas ที่ได้อธิบายเอาไว้บนคลิปวีดีโอข้างบนนี้เราจะพบครับว่า ในปัจุบันนั้นด้วยอัตราการเติบโตของการโอนถ่ายข้อมูลผ่านเทคโนโลยี “Wi-Fi” นั้นมากขึ้นๆ ในทุกๆ วัน ซึ่งนั่นทำให้ในช่วงปี 2019 ที่จะถึงนี้นั้นความสามารถในการโอนถ่ายข้อมูลผ่านทาง “Wi-Fi” นั้นจะถึงขีดจำกัดอันเนื่องมาจากเทคโนโลยี “Wi-Fi” นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ขึ้นกับคลื่นวิทยุ โดยได้มีการคาดการณ์เอาไว้ว่าในปี 2019 นั้นการโอนถ่ายข้อมูลจะมากถึง 35 quintillion bytes / เดือน เลยทีเดียวครับ

ไม่เพียงแค่เรื่องขนาดความจุของข้อมูลในการโอนถ่ายผ่านทางเทคโนโลยี “Wi-Fi” ที่ใช้คลื่นวิทยุเป็นหลักเท่านั้นที่เป็นปัญหาครับ แต่เรื่องของมาตรฐานของการให้บริการ “Wi-Fi” ที่ขึ้นอยู่กับสถานีฐานในการโอนถ่ายข้อมูลนั้นก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกันเพราะได้มีการค้นพบครับว่าพลังงานที่ใช้ในสถานีฐานที่ให้บริการ “Wi-Fi” นั้นต้องสูญเสียไปกับระบบระบายความร้อนของสถานีฐานมากกว่า 95% เลยทีเดียว แถมในเรื่องของความปลอดภัยนั้นเทคโนโลยี “Wi-Fi” ก็ไม่ค่อยจะเหมาะสมกับการโอนถ่ายข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัยสูงมากเท่าไรนัก

lifi-technology-in-wireless-communication-600

ภาพแสดงสถาปัตยกรรมการใช้งานของเทคโนโลยี “Li-Fi”

ในส่วนนี้นั้นการใช้แสงเพื่อที่จะทำการโอนถ่ายข้อมูลจึงได้เข้ามาเป็นหัวข้อวิจัยที่นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจกันมากขึ้นครับ โดยถึงแม้ว่าแสงนั้นจะเหมือนกับคลื่นวิทยุตรงที่มันเป็นส่วนหนึ่งของสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า แต่สิ่งที่ทำให้แสงแตกต่างจากคลื่นวิทยุนั้นก็คือมีสเปกตรัมของแสงที่เราสามารถนำมาใช้งานได้มากกว่าคลื่นวิทยุถึง 10,000 เท่าตัวทีเดียวครับ ดังนั้นเทคโนโลยี “Li-Fi” ที่ใช้การโอนถ่ายข้อมูลผ่านแสงเป็นหลักนั้นจึงมีศักยภาพทางด้านความจุในการโอนถ่ายข้อมูลแบบมหาศาล

เอาเฉพาะแสงที่เราสามารถทำการมองเห็นได้ก็สามารถที่จะทำการโอนถ่ายกระแสของข้อมูลได้ทีเป็นพันๆ กระแสไปพร้อมๆ กันแล้วครับ ซึ่งถือว่าเยอะกว่าการที่เราจะต้องส่งข้อมูลทีละกระแสผ่านคลื่นวิทยุเป็นอย่างมาก เทคโนโลยี “Li-Fi” นั้นจะใช้หลักการของการกระพริบของแสง LED แบบเปิดและปิดที่ความเร็วสูงสุดเท่าที่มันจะทำได้ในการส่งข้อมูลไปยังเครื่องรับข้อมูลในรูปแบบของ binary code ครับ ซึ่งความเร็วดังกล่าวที่ใช้ในการเปิดปิดแสงของ LED นี้ก็เร็วกว่าที่สายตาของเราๆ ท่านๆ จะสามารถทำการรับรู้ได้ครับว่ามันกำลังทำการเปิดปิดอยู่ครับ

ตามที่ Haas ได้อธิบายไว้นั้นสิ่งเดียวที่เี่ต้องการเพื่อที่จะใช้งานเทคโนโลยี “Li-Fi” นั้นก็คือไมโครชิปเล็กๆ ติดเข้าไปกับอุปกรณ์ทุปอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการส่องสว่างเพื่อที่จะทำงานง่ายๆ 2 อย่างด้วยกันคือ ทำการควบคุมการกระพริบไฟของแหล่งกำเนิดแสงนั้นๆ และส่งผ่านข้อมูลด้วยวิธีการไร้สาย ในที่นี้นั้นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบ “Li-Fi” ก็มีอยู่ในโลกปัจจุบันหมดแล้วครับ เพราะเราสามารถที่จะทำการใช้หลอดไฟแบบ LED ที่มีการวางจำหน่ายอย่างกว้างขวางในปัจจุบันแล้วทำการปรับแต่งมันนิดหน่อยเท่านั้น(โดยการเสริมไทโครชิปเล็กๆ)

เทคโนโลยี “Wi-Fi” ถึงจุดจบแล้วหรือ

tablet-wifi 600

อย่างไรก็ตามแต่การมาของ “Li-Fi” คงไม่ได้หมายถึงว่าเทคโนโลยี “Wi-Fi” จะถึงจุดจบครับ อย่างน้อยก็คงไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะจุดอ่อนส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี “Li-Fi” นั้นก็คือมันจะทำการโอนถ่ายข้อมูลได้เฉพาะในที่ที่มีแสงสว่างจากหลอด LED เท่านั้น ซึ่งคงจะไม่ใช่ทุกที่ที่จะมีไฟ LED ส่องสว่างถึง โดยทั่วไปแล้วเทคโนโลยี “Li-Fi” น่าจะยังคงเหมาะกับการใช้งานในองค์กรที่ต้องการเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลเป็นหลักมากกว่า และในอนาคตนั้นคาดว่าน่าจะมีการพัฒนาให้เทคโนโลยี “Li-Fi” และ “Wi-Fi” ออกมาในรูปแบบรวมเข้าด้วยกันเพื่อที่จะขยายฐานการใช้งานไปยังผู้ใช้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ ในการพัฒนาครับ

ที่มา : businessinsider

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

รีวิว MSI

MSI Vector 16 HX AI A2XWIG โน๊ตบุ๊คเพื่องาน STEM ตัวเด็ด ทำงานอย่างเด็ด เล่นเกมก็จบในตัว! วิชาชีพสาย STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เป็นงานที่ต้องการโน๊ตบุ๊คอย่าง MSI Vector 16 HX AI A2XWIG...

Accessories review

TP-Link Archer BE400 เราเตอร์ตัวนี้ง่ายตั้งแต่ตั้งค่าเริ่มใช้งานไปจนใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในตัว! อัปเกรดแล้วเน็ตแรงขึ้นเยอะ!! เครือข่าย Wi-Fi 7 ได้รับการรับรองเป็นมาตรฐานใหม่อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2567 จากนั้นเราเตอร์มาตรฐานใหม่นี้รวมถึง TP-Link Archer BE400 ก็เปิดตัวมาให้เลือกซื้อกันหลากหลายสเปกตั้งแต่รุ่นประสิทธิภาพสูงฟีเจอร์ติดตัวมากมายหรือจะเป็นรุ่นคุ้มค่า ฟีเจอร์ครบถ้วนทั้ง Multi-Link Operation (MLO) สำหรับรับส่งข้อมูลผ่านหลายคลื่นสัญญาณให้ได้ความเร็วสูงสุดและลดความหน่วง (Latency) ลง...

Buyer's Guide

บนท้องถนนแม้เราจะขับรถดีและปลอดภัยเพียงใดก็อาจได้เจอคนขับรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ไร้ความรับผิดชอบและคึกคะนองก่อความเสียหายได้ ดังนั้นการติดกล้องติดรถยนต์เอาไว้เพื่อบันทึกเหตุการณ์บนท้องถนนเป็นหลักฐานเวลาเกิดเหตุสุดวิสัยก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องเมื่อไหร่แต่ถ้าเกิดแล้วก็ยังป้องกันตัวและเผื่อเป็นหลักฐานให้เพื่อนร่วมถนนคนอื่นได้ก็เป็นเรื่องดีกว่าทำอะไรไม่ได้เลย วิธีการเลือกกล้องติดรถยนต์มาใช้สักตัวก็ไม่ยากมาก เริ่มต้นอย่างแรกคือต้องดูความละเอียดของกล้องว่าอยู่ในระดับ 1080p ขึ้นไปไหมและเชื่อมต่อกับมือถือได้หรือเปล่า ซึ่งถ้ามีสองอย่างนี้ก็ดูต่อได้ว่าอยากได้กล้องแบบใด เอามาติดตามปกติหรือสวมทับกระจกมองหลังและเดินสายกล้องไปด้านหลังตัวรถเลยก็มี ถ้าใครมีความสามารถสักนิดก็ติดตั้งเองได้เลยหรือจะพ่วงเข้ากับแบตเตอรี่รถยนต์เพื่อเปิดโหมดกล้องวงจรปิดเพิ่มได้อีกด้วยAdvertisement เลือกกล้องติดรถยนต์อย่างไรให้คุ้ม ถ่ายภาพได้คมชัด? การติดตั้งกล้องติดรถยนต์เอาและแจ้งกับทางประกันภัยจะได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกัน 5~10% กล้องหน้ารถสามารถเชื่อมสายไฟเข้ากับแบตเตอรี่รถยนต์เพื่อเปิดระบบกล้องวงจรปิด เก็บภาพเวลาจอดรถไว้ในลานจอดรถได้ ในกล่องกล้องติดรถยนต์จะมีอุปกรณ์ DIY แถมมาให้ผู้ใช้ติดตั้งได้เอง สามารถต่อปลั๊กร้อยสายไฟติดตั้งได้ไม่ยากมาก 7 กล้องติดรถยนต์น่าใช้ ถ่ายคลิปคมชัดทุกวินาที! Aston...

How to

หนึ่งในปัญหายอดนิยมเวลามีคอมพิวเตอร์ Windows สักเครื่อง คือโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ คอมพิวเตอร์ต่อเน็ตไม่ติด ซึ่งปัญหานี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้หลากหลายทางมาก ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์, ซอฟท์แวร์ไปจนเครือข่ายมีปัญหาเองก็ได้ทั้งนั้น แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออกและวิธีแก้ไขทั้งนั้น ถ้าสันนิษฐานได้ว่าปัญหาน่าจะมาจากจุด A, B หรือ C แล้ว ก็แก้ปัญหาได้ในเวลาไม่นาน แถมวิธีทำก็ง่ายมากและทำตามขั้นตอนในบทความนี้ได้ง่ายๆ ก่อนส่งให้ศูนย์บริการรับผิดชอบต่อได้ด้วย วิธีเช็คและแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ ถ้าต่ออินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก