สายการบินแอร์เอเชียเพิ่มมาตรการรัดกุมเกี่ยวกับการใช้งานและการชาร์จแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) บนเที่ยวบินทุกเที่ยวบิน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป มาตรการนี้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินระดับสากล เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุจากแบตเตอรี่ระหว่างการเดินทาง
ทั้งนี้ สายการบินขอความร่วมมือจากผู้โดยสารทุกท่านในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่สำรองของท่านมีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนดของสายการบินก่อนเดินทางมาถึงสนามบิน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในขั้นตอนการเช็กอินและขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารสามารถนำแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟไม่เกิน 100 วัตต์-ชั่วโมง (Wh) หรือ 20,000 มิลลิแอมป์-ชั่วโมง (mAh)(5V) ติดตัวขึ้นเครื่องได้ ส่วนแบตเตอรี่สำรองที่มีกำลังไฟระหว่าง 100Wh ถึง 160Wh ต้องได้รับการอนุมัติจากสายการบินที่เคาน์เตอร์เช็กอินก่อนนำขึ้นเครื่อง
สายการบินแนะนำให้ผู้โดยสารปฎิบัติตามข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัย ดังต่อไปนี้:
- แบตเตอรี่สำรองต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของด้านหน้าที่นั่ง (Seat Pocket) หรือใต้ที่นั่ง
- ไม่อนุญาตให้เก็บแบตเตอรี่สำรองในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ (Overhead Compartment)
- ไม่อนุญาตให้ใช้งานแบตเตอรี่สำรองตลอดระยะเวลาของเที่ยวบิน
- ไม่อนุญาตให้ใช้แบตเตอรี่สำรองในการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาอื่น ๆ บนเที่ยวบิน
- ไม่อนุญาตให้นำแบตเตอรี่สำรองใส่ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง ผู้โดยสารต้องพกติดตัวไว้ในห้องโดยสารเท่านั้น
เพื่อให้มั่นใจว่าผู้โดยสารปฏิบัติตามข้อกำหนด แอร์เอเชียจะแสดงประกาศเตือนด้านความปลอดภัยที่เคาน์เตอร์เช็กอิน พร้อมทั้งแจ้งเตือนผ่านการประกาศระหว่างการขึ้นเครื่องและระหว่างเที่ยวบิน
แอร์เอเชียมุ่งมั่นรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดตามแนวทางปฏิบัติของมาตรฐานระดับสากลของอุตสาหกรรมการบิน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ลูกเรือ และอากาศยานจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
สายการบินขอขอบคุณผู้โดยสารทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ปรับปรุงใหม่นี้ เพื่อร่วมกันสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับทุกท่าน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งของต้องห้ามในการนำขึ้นเครื่องของสายการบินอื่น ๆ กรุณาคลิกที่นี่
