MSI Vector 16 HX AI A2XWIG โน๊ตบุ๊คเพื่องาน STEM ตัวเด็ด ทำงานอย่างเด็ด เล่นเกมก็จบในตัว!

วิชาชีพสาย STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เป็นงานที่ต้องการโน๊ตบุ๊คอย่าง MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ไว้ใช้คำนวณสูตรสมการ, ออกแบบผลิตภัณฑ์, วิศวกรรม ฯลฯ ให้ได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว ดังนั้นองค์ประกอบภายในโน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่ขนาด 16 นิ้วนี้ จึงต้องดีที่สุดให้รันโปรแกรมกินทรัพยากรมหาศาลได้โดยไม่มีปัญหามากวนใจ ซึ่ง MSI ก็ตีโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX กับจีพียู NVIDIA GeForce RTX 5080 พร้อมระบบ MSI Overboost Ultra ไว้เร่งกำลังไฟทั้งระบบได้สูงสุด 240W จับคู่กับชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 ให้ระบายความร้อนได้รวดเร็ว ทำให้งานเรนเดอร์โมเดลวิศวกรรมกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำได้ลื่นไหลต่อเนื่องที่สุดและยังเพิ่ม RAM, SSD ในภายหลังให้ทำงานได้ดีขึ้นได้อีกมาก
ยิ่งกว่าเรื่องสเปก คือ ดีไซน์และลูกเล่นต่างๆ ของ Vector 16 HX AI A2XWIG ไม่ว่าจะคีย์บอร์ดเกมมิ่งพร้อมไฟ RGB “Mystic Light” แสดงแสงสีได้มากถึง 24-Zone เพื่อความสวยงามบนตัวเครื่อง บนหน้าจอขนาด 16 นิ้ว ก็แสดงภาพได้คมชัดระดับ QHD+ กับค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ระดับใช้งานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้ นอกจากนี้ยังรักษาความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดีด้วยกล้องสแกนใบหน้าซึ่งรวมอยู่กับชุดกล้องเว็บแคมเหนือหน้าจอ

นอกจากนี้ฟีเจอร์มีประโยชน์อย่าง Matrix Display ก็รองรับถึง 3 หน้าจอ เชื่อมต่อผ่านพอร์ต HDMI 2.1 ร่วมกับพอร์ต Thunderbolt 5 คู่ได้ เป็นอีกใจความสำคัญของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG เพราะพอร์ตเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ต่อหน้าจอแยกได้เทียบเท่ากับ DisplayPort 2.1, รองรับการรับส่งข้อมูลสองทางความเร็ว 80 Gbps เร่งไปได้จน 120 Gbps เพื่อใช้กับหน้าจอความละเอียดสูงที่ต้องใช้แบนด์วิดท์มากกว่าปกติ รวมทั้งรองรับกำลังชาร์จได้มากสุด 240W ทั้งหมดนี้นับว่าคุ้มค่าตัว 84,990 บาท อย่างแน่นอน
NBS Verdicts

ทางบริษัทวางตำแหน่งให้ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG เกิดมาเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่องานสาย STEM ใส่ซีพียูและจีพียูประสิทธิภาพสูงมาให้ผู้ใช้สามารถนำไปทำงานได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะใช้คำนวณวิทยาศาสตร์, เขียนโปรแกรมทำโปรเจค, ออกแบบแปลนงานวิศวกรรมศาสตร์หรือหาคำตอบให้สูตรคณิตศาสตร์แบบซับซ้อนมันก็สามารถทำได้สบายมากด้วยพลังของซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX กับจีพียู NVIDIA GeForce RTX 5080 ทำให้งานใหญ่ที่โน๊ตบุ๊คทั่วไปสามารถประมวลผลเสร็จได้ในเวลาสั้นๆ
นอกจากงานใหญ่สาย STEM ผู้ใช้ทั่วไปนักสร้างสรรค์ผลงานอนิเมชั่นและทำโมเดล 3D ถ้าใช้ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ก็ช่วยย่นเวลาตัดปัญหาการปั้นและหมุนดูตัวอย่างโมเดลพร้อมแก้ไขได้ช้าลงไปได้มากแถมยังจำลองแสงเงาตกกระทบวัตถุได้อย่างรวดเร็วสมจริง ยิ่งคนทำงาน Rigger ปั้นโมเดล Vtuber ต้องใช้โปรแกรม Live2D ทำงานแล้วต้องการลงรายละเอียดโมเดลให้มีส่วนขยับปรับเปลี่ยนได้เยอะ ยิ่งเหมาะกับโน๊ตบุ๊คนี้มากเพราะมันสามารถประมวลผลรายละเอียดของโมเดลได้รวดเร็วและต่อเนื่องขึ้น
แต่จากสเปกก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มเกมเมอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ก็หมายตา Vector 16 HX AI A2XWIG เอาไว้เช่นกัน เพราะโน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นใหม่นี้ทรงพลังเหลือเฟือพอจะเล่นเกมชั้นนำกินสเปกร้อยแปด เปิด Ray Tracing และส่งสัญญาณ Live Streaming ไปพร้อมกันได้สบาย เวลาทดสอบเล่น Cyberpunk 2077 ตั้งค่ากราฟิคสูงสุดทุกอย่างและเปิดใช้ Ray Tracing แล้ว มันก็สามารถเล่นได้เป็นอย่างดี แถม NVIDIA DLSS 4 พร้อม Multi Frame Generation ก็ไม่เกิดอาการดีเลย์หรือหน่วงให้เห็นหรือรู้สึกแม้แต่น้อย ควบคุมแล้วได้ทันใจตามสั่งทุกเมื่อไม่มีขัดใจ

เชื่อว่ามีคนต้องตั้งข้อสังเกตว่าสเปกตั้งต้นของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ยังให้มาไม่สุด มี RAM ตั้งต้นเพียง 16 GB DDR5 กับ SSD 1TB ตามจริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่ใช่ประเด็นใหญ่เพราะผู้ใช้ยังอัปเกรดเพิ่มในภายหลังได้เอง แถมทาง MSI ก็ตั้งราคามาเพียง 84,990 บาท ให้มีงบประมาณส่วนต่างเอาไว้หาหน่วยความจำทั้ง RAM, ROM มาเติมได้อีกระดับหนึ่ง เพราะถ้าเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์คู่แข่งในระดับราคานี้อย่างดีสุดอาจได้เพียง NVIDIA GeForce RTX 5070 Ti เท่านั้น แถมพอร์ตก็อาจได้แค่ Thunderbolt 4 กับ 5 อย่างละช่อง ไม่ได้เป็น Thunderbolt 5 คู่แบบนี้
สิ่งที่อยากให้ใส่ใจเวลาซื้อ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG มาใช้เป็นเป็น Desktop Replacement laptop ตั้งใช้งานแทนพีซี คือ ควรแท่นวางโน๊ตบุ๊คพร้อมพัดลมประสิทธิภาพสูงมาเสริมสักตัวให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น แม้ชุด Cooler Boost 5 จะจัดการอุณหภูมิของซีพียูกับจีพียูได้ก็จริง แต่ถ้าทำให้อุณหภูมิต่ำลงอีกสักหน่อยก็จะดี และถ้าจะพกไปใช้งานนอกสถานที่ก็ควรหากระเป๋าเป้พร้อมซับไหล่หนา โดยเฉพาะกระเป๋าสำหรับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง 17.3 นิ้ว ก็จะดีมาก
ข้อดีของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG
- ติดตั้งซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX มาให้ มีคอร์เธรดเยอะ ใช้ทำงานได้รวดเร็วมาก
- จีพียูเป็น NVIDIA GeForce RTX 5080 ใช้ทำงานได้ดี เล่นเกมได้ยอดเยี่ยม
- NVIDIA DLSS 4 สามารถเร่งเฟรมเรทได้สูงมากและเวลาใช้งานมีดีเลย์ต่ำ
- ติดตั้ง MUX Swicth มาให้สลับการทำงานระหว่างการ์ดจอออนบอร์ดและแยกได้อัตโนมัติ
- รองรับการอัปเกรด RAM ไปได้มากสุด 96 GB DDR5 ใช้ทำงานได้ทุกโปรแกรม
- M.2 NVMe SSD มีช่องอินเทอร์เฟส PCIe 5.0 กับ PCIe 4.0 ติดมาให้อย่างละช่อง
- หน้าจอมีอัตรา Refresh Rate 240 Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ใช้ทำงานกราฟิคได้ดี
- ติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office Home 2024 มาให้พร้อมใช้งาน
- กล้องเว็บแคมเสริมด้วยเซนเซอร์อินฟาเรดสแกนใบหน้าใช้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกรวดเร็ว
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 6E
- ชิป LAN เป็น Realtek Gaming 2.5GbE มีความเร็วสูง ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ
- ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 5 มาให้ 2 ช่อง ใช้ต่อหน้าจอแยกความละเอียดสูง, ชาร์จไฟและโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็ว
- มีฟีเจอร์ Matrix Display ต่อหน้าจอแยกด้วย Thunderbolt 5, HDMI 2.1 ได้มากถึง 3 จอ
- ลำโพงมีคุณภาพเสียงดี ปรับจูนโดย Nahimic by SteelSeries ใช้ฟังเพลงและเล่นเกมได้ดี
ข้อสังเกตของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG
- การแกะเครื่องเพื่ออัปเกรดหรือบำรุงรักษาทำได้ยากและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
- ตัวเครื่องมีอุณหภูมิสูงสุดไปได้มากกว่า 100 องศาเซลเซียส แนะนำให้ใช้คู่กับแท่นวางโน๊ตบุ๊คพร้อมพัดลมระบายความร้อน
- ตัวเครื่องหนัก 2.7 กก. แนะนำให้ใส่กระเป๋าเป้เพื่อโน๊ตบุ๊ค 17.3 นิ้ว จะพกพาสะดวกขึ้น
รีวิว MSI Vector 16 HX AI A2XWIG
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector, Thin & Weight
- Inside & Upgrade
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
- Gallery
Specification

สเปกของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG นับว่าเหมาะกับงานสาย STEM โดยเฉพาะแล้วยังใช้เล่นเกมชั้นนำในปัจจุบันได้ทุกเกมและตั้งค่ากราฟิคระดับสูงสุดเลยก็ไม่มีปัญหาด้วยพลังของ Intel Core Ultra 9 275HX ใหม่จับคู่กับ NVIDIA GeForce RTX 5080 แล้วทรงพลังมาก ด้านรายละเอียดจะมีดังนี้
CPU | Intel Core Ultra 9 275HX แบบ 24 คอร์ 24 เธรด (8P+16E) ความเร็ว P-Core 2.7~5.4 GHz ความเร็ว E-Core 2.1~4.6 GHz ค่า TOPS (Int8) รวมสูงสุด 36 TOPS รองรับ OpenVINO™, WindowsML, DirectML, ONNX RT, WebNN |
GPU | NVIDIA GeForce RTX 5080 VRAM 16 GB GDDR7 TGP 175W |
Storage | M.2 NVMe SSD 1TB อินเทอร์เฟส PCIe 5.0 มีช่องอินเทอร์เฟส PCIe 4.0 เสริม 1 ช่อง |
Memory | 16 GB DDR5 บัส 5600 MHz อัปเกรดได้มากสุด 96GB DDR5 |
Display | 16 นิ้ว (2560*1600) พาเนล IPS Refresh Rate 240Hz 100% DCI-P3 |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 |
Connectivity | Thunderbolt 5*2 (DisplayPort™/ Power Delivery 3.1) USB-A 3.2*2 HDMI 2.1*1 SD Card Reader*1 LAN RJ45*1 Audio combo*1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax Bluetooth 5.4 |
Weight | 2.7 กก. |
Price | 84,990 บาท (BaNANA) |
Hardware & Design

ในฐานะโน๊ตบุ๊คทำงาน STEM และใช้บอดี้แบบเดียวกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซึ่งมักมีเส้นสายชัดเจนนำสายตา แต่ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG กลับดูเรียบง่าย มีเพียงไฟคีย์บอร์ด Mystic Light 24-Zone ที่ยังดูมีความเป็นเกมมิ่งอยู่ นอกจากนี้จะมีเส้นตัดเฉียงตรงขอบเครื่องบริเวณแท่นวางข้อมือฝั่งซ้ายและขวาเท่านั้น และยังติดสติกเกอร์สติกเกอร์ซีพียู, จีพียูและสติกเกอร์บอกรุ่นและรวมฟีเจอร์เด่นเอาไว้เช่นเดิม

ถัดขึ้นมาส่วนก้านบานพับหน้าจอสีฟ้าจะถูกทำสีมาแบบพิเศษ เวลาสะท้อนแสงบางมุมจะเหลือบเป็นสีม่วงเข้มได้ ล็อคเข้ากับฐานบานพับหน้าจอในกรอบด้านหลังเครื่องได้แข็งแรง ใช้นิ้วเดียวกางหน้าจอใช้งานได้โดยไม่โยกกระพือ แต่เพราะกรอบด้านหลังมีสันสูงขึ้นมาจึงกางได้กว้างสุดราว 120 องศา กว้างพอจะตั้งบนโต๊ะทำงานหรือวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คแล้วปรับองศาหน้าจอให้มองเห็นได้ชัดเจน

หลังเครื่องจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือฝาหลังหน้าจอสีเทาเงินพร้อมโลโก้ MSI Dragonshield อยู่ตรงกลางค่อนบน ไม่มีลวดลายเส้นใดเสริมเข้ามาเป็นพิเศษทำให้ดูเรียบง่ายไม่นำสายตานัก ตัวบานหน้าจอเว้นช่องว่างกับขอบตัวเครื่องเอาไว้เล็กน้อยเพื่อให้กางหน้าจอได้กว้างขึ้น
ด้านตัวเครื่องจะมีขนาดใหญ่และหนาแถมยื่นห่างออกจากฝาหลังหน้าจอมาระดับหนึ่ง ฝาประกับบนตรงกลางจะเว้นเว้าลงมาไม่เสมอกับริมเครื่องทั้งสองฝั่ง ตรงกลางจุดเว้าลงมาจะมีเส้นขนาน 3 เส้นตีเฉียงยาวตลอดตั้งแต่ประกับด้านบนลงไปถึงด้านใต้เครื่อง ผ่านช่อง Kensington Lock ลงไป ริมข้างเครื่องสองฝั่งยกสูงเป็นช่องระบายความร้อนพร้อมเส้นกากบาท 5 อัน ตีกั้นเอาไว้เป็นดีไซน์เพื่อความสวยงามและกันไม่ให้คนหรือสัตว์เอานิ้วแหย่เข้าไปได้

ด้านใต้เครื่องจะเห็นว่าเส้นขนาน 3 เส้นถูกลากยาวผ่านไปจนถึงด้านใต้เครื่องสุดตรงขอบด้านล่าง เริ่มจากเฉียงไปฝั่งขวาก่อนพลิกกลับมาฝั่งซ้ายเป็นเครื่องหมาย ‘มากกว่า’ ของคณิตศาสตร์ ตัวเส้นนี้แบ่งช่องนำอากาศเข้าเครื่องเป็น 2 ฝั่ง คือช่องใหญ่ฝั่งซ้ายมือพร้อมแท่นยางกันลื่นสีฟ้าสลักโลโก้ MSI ฝั่งขวามีพื้นที่น้อยกว่าพร้อมแถบยางกันลื่นสีดำ
ถัดลงมากลางเครื่องมีแถบพลาสติกคู่เล็กกลางเครื่องกับสามเหลี่ยมสีฟ้า นอกจากกันลื่นแล้วยังเพิ่มความมั่นคงเวลากดคีย์บอร์ดให้ตัวเครื่องไม่โค้งลงไป ขอบล่างมีพลาสติกกันลื่นและยกเครื่องกันรอยขนแมวในตัว ทั้งหมดนี้ติดอยู่กับฝาหลังยึดด้วยน็อตหัวแฉก Philips Head 13 ดอก ล็อคเอาไว้ได้แน่นหนามาก
Screen & Speaker

หน้าจอของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG มีขนาด 16 นิ้วรีดกรอบหน้าจอบางลง 3 ด้าน โดยเฉพาะฝั่งซ้ายและขวาเพื่อเพิ่มพื้นที่แสดงผล ขอบบนหนาขึ้นเล็กน้อยเพื่อติดตั้งชุดกล้องเว็บแคมและ Privacy Shutter เพื่อสไลด์ปิดเวลาไม่ใช้กล้องแล้วจะเห็นเป็นสี่เหลี่ยมสีแดง ควบคู่กับเซนเซอร์สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเครื่อง ขอบล่างมีความหนาเกือบสองเท่าของส่วนบนและสกรีนโลโก้ MSI เอาไว้ตรงกลาง

หน้าจอพาเนล IPS ของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ผลิตจากโรงงาน AU Optronics มีความละเอียด QHD (2560*1600) ค่า Refresh Rate 240Hz และเคลมขอบเขตสีเอาไว้กว้าง 100% DCI-P3 ในกรอบหน้าจอขนาด 16 นิ้ว นับว่าคมชัดมองเห็นภาพและเนื้อหาต่างๆ ชัดเจนและไม่ดึงกำลังของจีพียูเวลาเล่นเกมมากเกินไป
จากการทดสอบกับโปรแกรม DisplayCal 3 คู่กับเครื่อง Calibrite Display Pro HL ได้ค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอ (Gamut coverage) 99.8% sRGB, 84.4% Adobe RGB, 98.6% DCI-P3 และขอบเขตสีองค์รวม (Gamut volume) ได้ 148.4% sRGB, 102.2% Adobe RGB, 105.1% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E 0.11~2.67 ตรงตามการเคลมสเปกบนหน้าเว็บไซต์ สามารถใช้ทำงานกราฟิคได้ทุกแบบตั้งแต่แต่งภาพ, ตัดต่อวิดีโอไปจนปั้นโมเดล 3D ก็ดี ถ้าใช้งานทั่วไปอย่างการดูหนังฟังเพลงและเล่นเกมก็ได้สีสันสวยสมจริงเช่นกัน
หน้าจอถ้าเร่งความสว่างไป 100% จะสว่างได้ถึง 442.08 cd/m2 พอสู้แสงแดดได้ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะนั่งทำงานนอกสถานที่หรือนั่งอยู่ในออฟฟิศก็ไม่มีปัญหา แนะนำว่าถ้าใช้งานในอาคารลดความสว่างลงมาเหลือ 50% ก็สว่างมองเห็นได้ชัดเจนแล้ว

ลำโพงคู่กำลังขับดอกละ 2W ปรับจูนโดย Nahimic by SteelSeries ด้านใต้เครื่องขับเสียงได้ดังชัดเจนและเนื้อเสียงน่าประทับใจ เวลาเล่นเกมก็สามารถแยกฝั่งซ้ายขวาและมีมิติเสียงดีให้ผู้เล่นมีความรู้สึกร่วมกับเกมได้ง่าย ถ้าฟังเพลงโทนเสียงจะเน้นทาง Flat และ Vocal เป็นหลักและเสริมด้วยเบสซึ่งมีแรงปะทะมาก จึงเหมาะกับเพลงในยุคปัจจุบันทุกแบบและยังเปิดเพลงคลาสสิคฟังได้ด้วย ถ้าเร่งเสียงดัง 100% แล้ววัดได้ตั้งแต่ 87~90dB ดังพอจะได้ยินชัดทั่วห้องขนาด 13 ตารางเมตรได้สบายมาก ดังนั้นเวลานั่งตรงหน้าเครื่องแนะนำให้เปิดเสียงดังราว 70% ก็ดังชัดเจนแล้ว

พอลำโพงได้ทาง Nahimic มาช่วยปรับจูน ก็มีซอฟท์แวร์ปรับแต่งเสียงติดมาให้เช่นกัน ในโปรแกรมจะมีโหมดเสียงให้เลือกได้ 5 แบบ ว่าจะใช้ฟังเพลง, ดูหนัง, ประชุมคุยงาน, เล่นเกมหรือตั้งไว้ในโหมด Smart ปล่อยให้เปลี่ยนโทนเสียงตามการใช้งานโดยอัตโนมัติก็ได้
Keyboard & Touchpad

คีย์บอร์ดของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG เป็นแบบ Full size พร้อมไฟ RGB “Mystic Light” แสดงแสงสีได้ 24-Zone มีความสวยงามและทำปุ่ม WASD และ Power มุมบนขวาเป็นแบบใสให้ไฟลอดได้สว่างชัดเจน ส่วนปุ่มอื่นจะมีไฟลอดข้างปุ่มกับตัวอักษรทำให้มองเห็นตัวอักษรเวลาพิมพ์งานหรือใช้เล่นเกมในพื้นที่แสงน้อยได้ง่าย สัมผัสตอนพิมพ์เหมือนกับคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คเล่นเกมของ MSI รุ่นอื่น มีความกระชับตอบสนองรวดเร็วตามปกติ และสังเกตจะเห็นว่าแป้นชุดนี้ยกมาจากเกมมิ่งคีย์บอร์ดในเครือเพราะ Ctrl ฝั่งซ้ายเป็นปุ่มยาวเท่า Shift ให้เกมเมอร์กดควบคุมตัวละครได้สะดวกไม่พลาดไปโดนปุ่ม Windows
ปุ่ม Numpad เป็นปุ่มขนาดเล็กกว่าปุ่มอื่นๆ เวลาใช้งานในช่วงแรกต้องอาศัยการปรับตัวสักระยะถึงจะใช้ได้ถนัดมือตามปกติ แต่การติดมาให้ก็ช่วยให้เจ้าของพิมพ์ตัวเลขใช้งานได้ง่ายขึ้นและยังมีเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ติดมาให้ใช้อีกด้วย อย่างไรก็ตามต้องระวังสักนิดเพราะมีปุ่ม Power ร่วมอยู่ในโซนนี้ ถ้ากดผิดอาจจะปิดเครื่องโดยไม่ตั้งใจได้
ด้านฟังก์ชั่นใช้งานอื่นๆ ก็มีปุ่ม Print screen, Insert, Delete ติดมาให้ถัดจากปุ่ม F12 เช่นเดิม ปุ่มลูกศร (Arrow key) จะมีคำสั่งใช้งานต่างๆ ติดมาให้และต้องกดควบคู่กับปุ่ม Fn โดยกดซ้ายเป็น Play/Pause, ขวาเป็นปุ่มดับหน้าจอ, ขึ้นบนไว้เร่งรอบพัดลมและล่างเปิด Static Crosshair เปิดเป้าเล็งปืนค้างไว้บนจอให้เล่นเกม FPS ต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ถ้ากด Fn+Esc จะเป็นการสลับระหว่างปุ่ม Function F1~F12 กับ Hotkeys ได้

บรรทัดบนสุดของคีย์บอร์ดพร้อมปุ่ม Function F1~F12 จะมีปุ่ม Hotkeys ติดมาให้เช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น เพื่อให้กดตั้งค่าต่างๆ ได้ง่าย ค่าพื้นฐานของปุ่มจะเป็น Function Key แต่ถ้ากด Fn+Esc จะสลับไปใช้ Hotkeys แทนได้ โดยคำสั่งแต่ละปุ่มจะเป็นดังนี้
- F1~F3 – ปิด, ลดและเพิ่มเสียงลำโพง
- F4 – ปิดการทำงานทัชแพด
- F5 – ปิดไมโครโฟน กดแล้วจะมีไฟสีส้มติดขึ้นมา
- F6 – ปิดการทำงาน Bluetooth
- F7 – ปุ่ม MSI Center เปลี่ยนโหมดการทำงาน
- F8 – ปรับความสว่างไฟ Mystic Light ได้ 3 ระดับแบบ Toggle จากสว่างสุดจนดับลง
- F9~F10 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
- F11 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม
สังเกตว่าทาง MSI ไม่ได้ติดฟังก์ชั่นมาให้ปุ่ม F12 ปล่อยว่างไว้ปุ่มเดียวซึ่งน่าเสียดายและถ้ามีคำสั่งอย่าง Windows Lock หรือปุ่ม Log out ติดมาก็จะดี รวมทั้งควรปรับคำสั่งปุ่ม F6 จากปิดการทำงาน Bluetooth เป็น Airplane mode เพื่อตัดการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมดทิ้งจะดีกว่า
แป้นทัชแพดของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ติดตั้งเอาไว้ตรงกลางเครื่องค่อนไปทางขวา รองรับฟังก์ชั่น Touch control ของ Windows 11 ครบถ้วนทำให้แตะกดใช้งานได้ง่ายตอบสนองรวดเร็ว เวลาวางมือซ้ายแล้วสันมือจะไม่โดนขอบข้างของแป้นทัชแพดอย่างแน่นอน ดังนั้นเวลาเล่นเกมก็ไม่มีปัญหาเรื่องทัชแพดลั่นแต่เวลาพิมพ์งานมือขวาจะทาบลงบนคีย์บอร์ดอย่างเลี่ยงไม่ได้ อาจใช้วิธีต่อเมาส์แยกและปิดทัชแพดไปหรือยกมือขึ้นเล็กน้อยก็ได้ แต่จากการใช้งานก็ไม่พบปัญหานี้นักจึงไม่ต้องกังวลก็ได้
Connector, Thin & Weight

พอร์ตและการเชื่อมต่อของ MSI Vector 16 HX AI A2XWIG จะกระจายเอาไว้รอบตัวเครื่องและแบ่งสัดส่วนได้พอเหมาะพอดีมาก สังเกตว่าด้านหลังเครื่องจะเป็นพอร์ตแบบต่อไว้กับเครื่องแล้วไม่ถอดออกบ่อย ด้านอื่นจะเป็นพอร์ตทั่วไปโดยแต่ละฝั่งจะมีดังนี้
- ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – Thunderbolt 5*2, SD Card Reader
- ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – USB-A 3.2*2, Audio combo
- ด้านหลังเครื่องจากซ้ายมือ – LAN RJ45, HDMI 2.1, Kensington Lock, DC-in
- การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.3
จุดน่าประทับใจของ Vector 16 HX AI ต้องยกให้พอร์ต Thunderbolt 5 สองช่องซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกันบางรุ่นยังผสมระหว่าง Thunderbolt 4 กับ 5 อย่างละช่องหรือให้เป็น Thunderbolt 4 ทั้งหมดอยู่เลย ซึ่งรายละเอียดและข้อดีของการได้พอร์ตเวอร์ชั่นใหม่นี้มีหลายอย่าง ได้แก่
- รองรับอุปกรณ์เวอร์ชั่นก่อน (Backward compatibility) ทั้ง USB 3, USB 4 ได้ทั้งหมด
- มีแบนด์วิดท์รับส่งข้อมูลสองทิศทางเพิ่มจาก 40 Gbps ของ Thunderbolt 4 เป็นสูงสุด 80 Gbps
- เร่งแบนด์วิดท์ไปได้ถึง 120 Gbps และมีแบนด์วิดท์ดาวน์สตรีม 40 Gbps สายเชื่อมต่อเส้นนั้นจะต้องมีความยาวไม่เกิน 2 เมตร
- รองรับการชาร์จไฟเพิ่มจาก 100W เป็น 240W จึงชาร์จโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงได้ดีขึ้น
- เชื่อมต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort 2.1 ใช้กับหน้าจอแยกความละเอียดสูง 8K ได้ 2 จอพร้อมกัน
- มีความเร็วรับส่งข้อมูลเวลาเชื่อมต่อกล่องการ์ดจอแยก (eGFX) ดีกว่า Thunderbolt 4 ถึง 2 เท่า
- ระบบปฏิบัติการของพีซีเครื่องนั้นต้องเป็น Windows 11 (23H2) และ Linux Kernel 6.7 ขึ้นไป
ดังนั้นเมื่อ MSI ติดตั้งพอร์ตนี้มาให้เพื่อใช้กับฟีเจอร์ Matrix Display แบบ 3 หน้าจอด้วย นั่นหมายความว่าเวลาตั้งโต๊ะคอมเป็น Workstation เพื่อทำงานก็สามารถเอาหน้าจอความละเอียดสูงมาต่อเพื่อเพิ่มพื้นที่ Desktop ได้ทันที
มิติความหนาบางของ MSI Vector 16 HX AI จากการวัดด้วยไม้เวอร์เนียคาลิปเปอร์จะเห็นว่าส่วนบางสุดยังหนาราว 22 มม. และส่วนหนาสุดด้านหลังเครื่องรวมแท่นยางกันลื่นเข้าไปแล้วจะหนาได้ถึง 33 มม. นับว่าไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คขนาดเดียวกันในปัจจุบัน

น้ำหนักของตัวเครื่องจากหน้าสเปก MSI เคลมเอาไว้ 2.7 กก. ชั่งจริงจะได้ 2.6 กก. จึงนับว่าตรงตามการเคลมสเปกบนหน้าเว็บไซต์ รวมกับอะแดปเตอร์ Delta 330W เข้าไปอีก 983 กรัม จะมีน้ำหนัก 3.59 กก. ประกอบกับมิติความหนาและขนาดตัวเครื่อง 16 นิ้วแล้ว ถ้าตั้งโต๊ะทำงานก็เป็น Desktop replacement laptop ประสิทธิภาพสูง ใช้ทำงานหนักได้สบายมาก
ในทางกลับกันถ้าพกไปทำงานนอกสถานที่เมื่อไหร่ แนะนำให้หากระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกม 17.3 นิ้วพร้อมซับไหล่หนามาใช้เท่านั้น เพราะถ้ารวมกับอุปกรณ์เสริม, เอกสารและของใช้ส่วนตัวแล้วน้ำหนักต้องเพิ่มขึ้นอีกหลายกิโลกรัม ถ้าใช้กระเป๋าธรรมดาสายซับไหล่บางอาจทำให้หลังและไหล่บาดเจ็บได้
Inside & Upgrade

การเปิดฝา MSI Vector 16 HX AI A2XWIG เพื่ออัปเกรด RAM, SSD จะทำได้ค่อนข้างยากและมีขั้นตอนมากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ซึ่งขั้นตอนการเปิดฝาจะมีวิธีดังนี้
- ขันน็อต Philips Head ทั้ง 13 ดอกออกออกแล้วแยกเอาไว้
- นำการ์ดแข็งงัดบริเวณประกับหลังเครื่อง แนะนำให้เริ่มจากส่วนเหนือคีย์บอร์ดและด้านหลังเครื่อง เมื่อดึงออกแล้วจะเห็นตะเข็บตัวล็อคฝาหลังที่ซ่อนอยู่
- นำการ์ดแข็งหรือปิ๊กกีตาร์กดแล้วไล่กรอบฝาหลังออกได้เลย แนะนำให้ระวังพอร์ต Audio combo เป็นพิเศษเพราะกรอบฝาหลังจะครอบหัวแจ็คอยู่ หากดึงออกมาทันทีอาจเกิดความเสียหายได้
บนเมนบอร์ดของ MSI Vector 16 HX AI จากซ้ายมือใต้ฮีตซิ้งค์จะมีหัวอินเทอร์เฟสสำหรับ M.2 NVMe SSD รวม 2 ช่อง แยกเป็น PCIe 4.0 กับ PCIe 5.0 ถัดมาตรงกลางในกรอบอลูมิเนียมสีดำปิด RAM ทั้ง 2 ช่องเอาไว้เพื่อป้องกันความเสียหายจากเหตุสุดวิสัยได้ ติดตั้งมาให้ 16GB DDR5 (8GB*2) เพิ่มความจุได้มากสุด 96GB ไว้รองรับโปรแกรมกินทรัพยากรได้ดีขึ้น สมฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คใช้ทำงาน STEM ได้ดีอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม RAM 48GB DDR5 ณ ตอนนี้มีราคาร่วม 6,000 บาท ถ้าต้องการเพิ่มความจุไปถึงขีดจำกัดต้องเตรียมเงินเผื่อเอาไว้ราว 12,000 บาท หรือไม่จะเพิ่มไปเพียง 64GB DDR5 ก็ซื้อ RAM 32GB ราคาราว 2,500 บาทต่อชิ้น รวม 5,000 บาท มาใส่แทนก็น่าจะเพียงพอต่อการทำงานในปัจจุบันแล้ว
Performance & Software

ซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX ภายใน MSI Vector 16 HX AI A2XWIG เป็นซีพียูซีรีส์ประสิทธิภาพสูง มี 24 คอร์ 24 เธรด แยกเป็น 8 Performance-Core กับ 16 Efficient-Core มีความเร็วสูงสุด 5.4 GHz รหัสพัฒนา Intel Arrow Lake สถาปัตยกรรม TSMC N3B ค่า TDP 55W มี L3 Cache 36 MB
จุดเด่นของ Intel Core Ultra 200HX-series ใหม่ อ้างอิงสรุปจากข่าวเปิดตัวของ Intel คือ ตัวชิปเซ็ตจะออกแบบโดยเน้นกำลังประมวลผลร่วมหลายคอร์ (Multi-thread) ได้ดีกว่า Intel HX-series รุ่นก่อนมากสุดถึง 41% เน้นกลุ่มผู้ใช้เป็นเกมเมอร์, ครีเอเตอร์และงาน STEM ที่ต้องการซีพียูประสิทธิภาพสูงเอาไว้ใช้งาน มีฟีเจอร์เด่นได้แก่
- มีระบบโอเวอร์คล็อก P-Core และ E-Core ด้วยระบบโดยอัตโนมัติ
- มี Intel Extreme Memory Profile (XMP) เพื่อโอเวอร์คล็อก SO-DIMM DDR5 RAM
- อินเทอร์เฟสโอเวอร์คล็อกแบบใหม่ สามารถปรับอัตราความเร็วเพิ่มลดได้ละเอียดถึง 16.6 MHz ได้
- ออกแบบการโอเวอร์คล็อกใน Intel Extreme Tuning Utility ให้ใช้ง่าย เพียงกดคลิกครั้งเดียวทำงานร่วมกับฟีเจอร์ Intel Speed Optimizer
ด้าน RAM 16GB DDR5 ภายในเครื่องติดตั้งมาแบบ 8GB*2 ชิปแรมผลิตจากโรงงาน Samsung มีบัส 5600 MHz ค่า CL46 สามารถอัปเกรดเพิ่มได้มากสุด 96GB ให้เหมาะกับการทำงาน STEM และอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น หรือถ้าใช้เล่นเกมแนะนำเพิ่มไปราว 32~64GB ก็เพียงพอแล้ว

จีพียู NVIDIA GeForce RTX 5080 มี VRAM 16GB GDDR7 ค่า TGP 175W พร้อม CUDA 7,680 Unified เอาไว้ใช้ประมวลผลงานกราฟิคต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่จีพียู GeForce RTX 50 Series นี้จะไม่รองรับ PhysX แล้ว แต่ชุดคำสั่งหลักอย่าง DirectX 12, OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Vulkan และ Ray Tracing ยังรองรับครบถ้วนเช่นเดิม

ชิ้นส่วนภายใน MSI Vector 16 HX AI A2XWIG จาก Device Manager จะมีเซนเซอร์สแกนใบหน้าไว้ใช้ยืนยันตัวเจ้าของเครื่องเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ทำงานร่วมกับชิปเซ็ต TPM 2.0 และระบบ Windows Hello ตัวระบบสามารถทำงานได้รวดเร็วและปลดล็อคแทบจะในทันทีเมื่อตรวจจับใบหน้าได้

ชิปสำหรับการเชื่อมต่อไร้สายเป็น Intel AX211 ตามสเปกแล้วจะรองรับ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax มีแบนด์วิดท์กว้าง 160 MHz มีความเร็วรับส่งข้อมูลไร้สายสูงสุด 2.4 Gbps เชื่อมต่อใช้งานคลื่น 2.4, 5 และ 6 GHz ได้ รองรับ MU-MIMO, OFDMA, Intel vPro และรองรับ Bluetooth 5.3 ในตัว
พอทดสอบความเร็วกับเว็บไซต์ Speedtest by Ookla โดยตั้งเครื่องไว้ในห้องนอนห่างจากจุดกระจายสัญญาณ 10 เมตร มีประตูไม้กั้นเอาไว้ 1 บาน แพ็คเกจอินเทอร์เน็ตเป็นแบบ 500 / 500 Mbps ของ AIS มีความเร็ว Download 811.79 Mbps และ Upload 899.92 Mbps แม้จะไม่ได้เป็น Intel Killer สำหรับการเล่นเกมหรือเป็น Wi-Fi 7 BE-Series รุ่นล่าสุดก็ยังใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเน้นเล่นเกมแนะนำว่าต่อ LAN RJ45 เข้ากับชิป Realtek Gaming 2.5GbE แทน นอกจากจะรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรกว่ามาก
SSD มีพื้นที่มากกว่า 50% SSD มีพื้นที่น้อยกว่า 50%
M.2 NVMe SSD รุ่น OEM ในเครื่องผลิตจากโรงงาน Samsung รหัส MZVL81T0HFLB มีความจุ 1TB จากการทดสอบแล้วมีความเร็วเขียนอ่านไฟล์สูงน่าประทับใจ แต่มีข้อสังเกตว่าถ้าไดรฟ์มีไฟล์เขียนไว้มากจนเกือบเต็มแล้วคอนโทรลเลอร์จะทำงานได้ช้าลง จากการทดสอบกับ CrystalDiskMark 8.0.5 จะได้ผลดังนี้
ความเร็ว | Read (MB/s) | Write (MB/s) |
Sequential (พื้นที่ว่างเกิน 50%) | 7,012.34 | 5,530 |
Sequential (พื้นที่ว่างต่ำกว่า 50%) | 6,137.87 | 983.17 |
RND4K (พื้นที่ว่างเกิน 50%) | 750.8 | 529.83 |
RND4K (พื้นที่ว่างต่ำกว่า 50%) | 753.68 | 355.36 |
สังเกตว่า OEM SSD จาก Samsung ตัวนี้ถ้าพื้นที่ภายในไดรฟ์มีความจุมากเกิน 80% ขึ้นไปหรือเกือบเต็มเมื่อไหร่ คอนโทรลเลอร์จะมีความเร็วลดลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ยังใช้งานได้อยู่ แนะนำว่าถ้ามีเกมหรือโปรแกรมติดตั้งไว้ใช้เยอะควรหา M.2 NVMe SSD อีกตัวมาติดตั้งเพิ่ม อาจเป็น WD Black SN850X, Lexar NM800 หรือ Samsung 990 PRO มาติดตั้งเพิ่มให้ข้อมูลไม่กองอยู่กับไดรฟ์ C:\ อย่างเดียว จะได้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา

ด้านการทำงานโดยรวมจากการทดสอบกับ PCMark 10 จะเห็นว่า MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ทำคะแนนเฉลี่ยได้สูงถึง 8,389 คะแนน เทียบชั้นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงในปัจจุบันได้สบาย สามารถทำงานเอกสารในออฟฟิศและประชุมงานออนไลน์ได้อย่างยอดเยี่ยม สังเกตในหมวด Digital Content Creation จะเห็นว่าคะแนน Rendering and Virtualization ทำได้สูงมาก เหมาะกับการทำงานกับโปรแกรมประเภท Blender, SolidWorks หรือ AutoCAD ที่สุด สามารถ Preview และแก้ไขโมเดล 3D ได้ลื่นไหลไม่ติดขัดเลย
คะแนนการทดสอบกับโปรแกรมทดสอบการเรนเดอร์ 3D ตระกูล CINEBENCH จะเห็นว่าคะแนนของ Intel Core Ultra 9 275HX ใน MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ทรงพลังระดับใช้ทำงานได้เยี่ยมมาก โดยแต่ละเวอร์ชั่นจะได้คะแนนทดสอบดังนี้
- 2024 – ใช้ทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูกับจีพียูอย่างหนักพร้อมกันโดยใช้เอนจิ้น Redshift สำหรับอุตสาหกรรมภาพยนต์ ได้ CPU (Multi-Core) 1,940 pts และ CPU (Single Core) 131 pts
- R23 – ใช้ทดสอบพลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก มีความละเอียดและแม่นยำสูง ได้คะแนน Multi Core 33,557 pts และ Single Core อีก 2,180 pts
- R20 – ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก ได้คะแนน CPU 14,862 pts
Blender CPU Blender iGPU Blender dGPU
ส่วนการทดสอบเรนเดอร์กับโปรแกรม Blender Benchmark เพื่อทดสอบว่าซีพียูกับจีพียูเรนเดอร์โมเดลได้กี่ Sample ต่อนาที ถ้าเรนเดอร์ออกมาได้มากแสดงว่าชิปเซ็ตมีกำลังประมวลผลสูง ซึ่งผลลัพธ์จะเป็นดังนี้
การทดสอบ (Sample/นาที ยิ่งมากยิ่งดี) | CPU | Intel Graphics | NVIDIA GeForce RTX 5080 |
monster | 243 | 140 | 3,372 |
junkshop | 146 | 50 | 1,902 |
classroom | 108 | 82 | 1,746 |
Geekbench 6 Geekbench ML ONNX Geekbench AI NPU Geekbench AI CPU ONNX Geekbench AI CPU OpenVINO
การทดสอบกับโปรแกรมตระกูล Geekbench ทั้งหมด จะเห็นว่าซีพียู Intel กับจีพียู NVIDIA ใน MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ทรงพลังระดับใช้ทำได้ทุกงานไม่ว่าจะเป็นงานทั่วไปหรือใช้กับ AI ก็ทำได้สบายมาก โดยเริ่มต้นจะเป็นผลคะแนนจากการทดสอบกับ Intel Core Ultra 9 275HX จะได้ผลดังนี้
- Geekbench 6 – ใช้ทดสอบว่าซีพียูสามารถประสานงานกับหน่วยความจำในเครื่องได้ดีหรือไม่ โดยจำลอง workloads งานประเภทการบีบอัดข้อมูล (data compression), การประมวลผลภาพ (image processing), Machine Learning และ Compile code มาทดสอบ
- Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบว่าซีพียูคำนวน vector integer ได้รวดเร็วหรือไม่ ถ้าเป็น Single-Core ทำได้ 2,965 คะแนน และ Multi-Core ได้ 18,534 คะแนน
- Geekbench ML ทดสอบด้วย ONNX CPU – ใช้ทดสอบว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้นสามารถใช้งานโปรแกรม Machine Learning ได้ดีหรือไม่ ในส่วนนี้ทำได้ 5,919 คะแนน
- Geekbench AI – คำนวณว่าซีพียูนั้นสามารถรันการทำงานกับโปรแกรม AI ต่างๆ ได้แม่นยำหรือรวดเร็วหรือไม่ แบ่งเป็น Single Precision เน้นความเที่ยงตรงของคำสั่ง, Half precision เน้นความเร็วมากขึ้นและลดความแม่นยำลง และ Quantized Score เน้นความเร็วแต่ไม่แม่นยำนัก
- ONNX ได้คะแนน Single Precision 5,551 คะแนน, Half precision 1,082 คะแนน และ Quantized Score 6,473 คะแนน
- OpenVINO ได้คะแนน Single Precision 7,705 คะแนน, Half precision 7,781 คะแนน และ Quantized Score 13,844 คะแนน
- Intel AI Boost ได้คะแนน Single Precision 8,938 คะแนน, Half precision 8,917 คะแนน และ Quantized Score 13,344 คะแนน
Geekbench 6 iGPU OpenCL Geekbench 6 iGPU Vulkan GeekbenchML iGPU ONNX DirectML Geekbench AI iGPU ONNX DirectML Geekbench AI iGPU OpenVINO
ถัดมาเป็นการทดสอบกับจีพียู Intel Graphics ภายใน Intel Core Ultra 9 275HX จะได้คะแนนดังนี้
- Geekbench 6 – ใช้ทดสอบว่าจีพียูสามารถประสานงานกับหน่วยความจำในเครื่องได้ดีหรือไม่ โดยจำลอง workloads งานประเภทการบีบอัดข้อมูล (data compression), การประมวลผลภาพ (image processing), Machine Learning และ Compile code มาทดสอบ
- OpenCL, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบว่าคำนวน vector integer ได้รวดเร็วหรือไม่ ซึ่งจีพียูทดสอบด้วย OpenCL framework ทำได้ 18,558 คะแนน
- Vulkan, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบว่าคำนวน vector integer ได้รวดเร็วหรือไม่ ซึ่งจีพียูทดสอบด้วย Vulkan framework ทำได้ 17,766 คะแนน
- Geekbench ML ทดสอบด้วย ONNX DirectML – ใช้ทดสอบว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้นสามารถใช้งานโปรแกรม Machine Learning ได้ดีหรือไม่ ในส่วนนี้ทำได้ 3,451 คะแนน
- Geekbench AI ทดสอบว่าสามารัน AI ได้ดีหรือไม่
- GPU OpenVINO – Single Precision 5,199 คะแนน, Half precision 8,022 คะแนน และ Quantized Score 12,523 คะแนน
- ONNX DirectML – Single Precision 3,792 คะแนน, Half precision 5,518 คะแนน และ Quantized Score 2,547 คะแนน
Geekbench 6 dGPU OpenCL Geekbench 6 dGPU Vulkan GeekbenchML dGPU ONNX DIrectML
ส่วนคะแนนของ NVIDIA GeFoce RTX 5080 ก็ทำคะแนนได้สูง และจะได้คะแนนดังนี้
- Geekbench 6 – ใช้ทดสอบว่าจีพียูสามารถประสานงานกับหน่วยความจำในเครื่องได้ดีหรือไม่ โดยจำลอง workloads งานประเภทการบีบอัดข้อมูล (data compression), การประมวลผลภาพ (image processing), Machine Learning และ Compile code มาทดสอบ
- OpenCL, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบว่าคำนวน vector integer ได้รวดเร็วหรือไม่ ซึ่งจีพียูทดสอบด้วย OpenCL framework ทำได้ 202,410 คะแนน
- Vulkan, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบว่าคำนวน vector integer ได้รวดเร็วหรือไม่ ซึ่งจีพียูทดสอบด้วย Vulkan framework ทำได้ 192,741 คะแนน
- Geekbench ML ทดสอบด้วย ONNX DirectML – ใช้ทดสอบว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้นสามารถใช้งานโปรแกรม Machine Learning ได้ดีหรือไม่ ในส่วนนี้ทำได้ 21,923 คะแนน
จากผลการทดสอบทั้งหมดสามารถสรุปฟันธงได้ว่า MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ใช้ทำงานได้ทุกรูปแบบตั้งแต่เอกสารทั่วไปในออฟฟิศ, ตัดต่อวิดีโอไปจนงานระดับ STEM ได้สบาย ยิ่งถ้าใครทำงานกับโปรแกรมกลุ่ม SolidWorks, AutoCAD, Blender อยู่แล้วยิ่งเหมาะ เพราะทางบริษัทตั้งใจจัดสเปกออกแบบมาให้ทำงานประเภทนี้อยู่แล้ว แต่แนะนำให้เพิ่ม RAM เป็น 32GB ขึ้นไปจะใช้งานได้ดีขึ้น
นอกจากฐานะโน๊ตบุ๊คทำงาน STEM ในฐานะโน๊ตบุ๊คเล่นเกมก็ไม่แพ้รุ่นใดในปัจจุบันอย่างแน่นอน ดูจากผลคะแนนจากโปรแกรม 3DMark ทั้ง 2 รูปแบบการทดสอบแล้วจะเห็นว่า Vector 16 HX AI นั้นพร้อมเล่นเกมชั้นนำทุกเกมในปัจจุบันได้อย่างแน่นอน
เริ่มจาก 3DMark Time Spy ที่จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอ 2K QHD ตั้งค่ากราฟิคระดับสูง จะทำคะแนนเฉลี่ยได้ 19,337 คะแนน ได้ CPU score 13,138 คะแนน กับ Graphics score 21,094 คะแนน นับว่าสูงในระดับเทียบชั้นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งระดับเรือธงหรือเกมมิ่งพีซีสเปกแรงในปัจจุบันได้สบายมาก
ถ้าชอบเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด 4K ตั้งค่ากราฟิคระดับสูง MSI Vector 16 HX AI ก็รันไหวเช่นกัน จากการทดสอบกับ 3DMark Steel Nomad นอกจากได้คะแนนเฉลี่ยสูง 5,052 คะแนนแล้ว ยังได้เฟรมเรทเฉลี่ย 50.53 FPS ทีเดียว ถ้าใครจะเอาเครื่องนี้ไปต่อกับหน้าจอเกมมิ่งความละเอียดสูงระดับนี้ก็ต่อเล่นได้สบาย ยิ่งถ้าใช้ NVIDIA DLSS และ Frame Generation เสริมก็เล่นได้อย่างแน่นอน
กราฟเฟรมเรทของแต่ละเกมชั้นนำในปัจจุบัน จะเห็นว่า MSI Vector 16 HX AI ทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้เกิน 60 FPS แทบทุกเกม อาจมีบางเกมยังไม่ได้จัดการ Optimize ให้เหมาะสมจะมีเฟรมเรทต่ำกว่านั้นเล็กน้อยแต่ก็อยู่ในระดับเล่นได้อย่างแน่นอน โดยประสบการณ์การเล่นของแต่ละเกมจะเป็นดังนี้
- Cyberpunk 2077 (REDEngine 4) – ตัวเกมถูก Optimize ได้เหมาะสมแล้ว สามารถเล่นเกมได้เป็นอย่างดีตลอดเวลา แสงเงาสวยสมจริงและเล่นได้อย่างต่อเนื่องแสดงแสงเงาได้สวยงาม ฉากต่อสู้สามารถตอบสนองได้รวดเร็วต่อเนื่องไม่มีอาการเฟรมเรทตกกะทันหันหรือภาพหน่วงแม้แต่น้อย แต่ถ้าจะเปิด Ray Tracing หรือเสริมรายละเอียดสิ่งต่างๆ ในเกมแนะนำให้เปิด NVIDIA DLSS Quality เพิ่มจะเล่นได้ดีมาก
- Monster Hunter Wilds (RE Engine) – ตอนทดสอบเลือกใช้ Texture ความละเอียดสูงที่ทางผู้พัฒนาเปิดให้โหลดมาเพิ่ม เวลาเล่นสามารถเล่นและเข้าฉากได้รวดเร็ว ฉากการตี, แสดงเอฟเฟคการต่อสู้ต่างๆ ทำได้ต่อเนื่องไม่เกิดอาการเฟรมเรทตกกะทันหันจนเสียจังหวะการเข้าปะทะกับมอนสเตอร์ในเกม แต่ตอนเริ่มต้นเข้าด่านบางจังหวะอาจมีภาพวุ้นราว 1-2 วินาทีก่อนเล่นได้ตามปกติ แนะนำให้เปิด NVIDIA DLSS ตั้งค่าระดับ Quality จะสามารถเล่นได้ดีหรือจะเพิ่ม Frame Generation เข้าไปก็ไม่มีปัญหา
- Spider-Man Remastered (Engine พัฒนาเฉพาะ) – สามารถเล่นได้เป็นอย่างดี ภาพต่อเนื่องและแสดงแสงเงากับวัตถุต่างๆ ได้สวยงาม ไม่ว่าจะอาคาร, รถยนต์หรือสะท้อนขอบสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ก็ได้ เวลาเข้าปะทะศัตรูก็ทำได้รวดเร็วต่อเนื่องแม้จะไม่ได้เปิด NVIDIA DLSS ก็ตาม และคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปิดก็ได้เพราะเวลาเล่นตามปกติเฟรมเรทเฉลี่ยก็เกิน 100 FPS แล้ว และไม่เจออาการเฟรมเรทตกกะทันหันสักครั้ง
- God of War (Engine พัฒนาเฉพาะ) – สามารถเล่นได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องเปิด NVIDIA DLSS เสริมแม้แต่น้อย สามารถควบคุมตัว Kratos เข้าปะทะกับมอนสเตอร์จำนวนมากในฉากได้โดยไม่มีปัญหาและเฟรมเรทไม่ตกแม้แต่นิดเดียว
- Black Myth: Wukong (Unreal Engine 5) – การตั้งค่ากราฟิคระดับ Cinematic ทำให้ภาพสวยงามและยังได้เฟรมเรทสูงเกิน 50 เฟรม ทำให้ตอบสนองได้ดีไม่มีปัญหาเวลาปะทะมอนสเตอร์หรือเข้าปะทะบอสก็ตาม อย่างมากอาจเปิด NVIDIA DLSS เสริมนิดหน่อยก็ได้ภาพลื่นเหลือเฟือ
- Red Dead Redemption II (RAGE Engine) – ควบคุมและเล่นได้เป็นอย่างดี ตอบสนองกับอีเว้นท์ต่างๆ ภายในเกมได้รวดเร็วและแสดงแสงเงาในฉากได้สวยงามสมจริงมาก ถ้าใครชื่นชอบบรรยากาศคาวบอยในอดีตสามารถเปิดเล่นได้เลย ถ้าเปิดการตั้งค่าโดยละเอียดเร่งรายละเอียดน้ำ, แสงเงาและต้นไม้ใบหญ้าก็ยังเล่นได้ลื่นไหลดี
- Forza Horizon 5 (Forza Tech) – สามารถควบคุมรถวิ่งผ่านฉากต่างๆ ได้สบาย แม้จะไม่ได้เปิด NVIDIA DLSS ก็ยังเปิด Ray Tracing เสริมเข้าไปได้สบายมาก ถ้าเปิด Upscalling เข้ามาเมื่อไหร่ภาพจะยิ่งลื่นกว่าเดิม เหมาะกับคนชอบเกมขับรถมากและถ้าไม่ได้ต่อหน้าจอแยก 4K ก็ไม่จำเป็นต้องเปิด Frame Generation เสริมก็ยังได้
- Call of Duty: Modern Warfare II (IW 9.0 Engine) – การเข้าฉากยิงตอบโต้กับคู่ต่อสู้ทำได้รวดเร็วต่อเนื่อง ไม่พบอาการ Input Lag ระหว่างการเล่นแม้แต่นิดเดียว จะเล่นในโหมดเนื้อเรื่องหรือ Multiplayer ก็ไม่มีปัญหา แม้จะเปิด NVIDIA DLSS เสริมก็เล่นได้สบายมาก

จุดน่าสนใจของจีพียู NVIDIA GeForce RTX 5080 คือ ฟีเจอร์ Multi Frame Generation ที่เริ่มปล่อยให้เกมชั้นนำต่างๆ ใช้งานได้แล้วโดยเฉพาะ Cyberpunk 2077 ที่ตั้งได้ว่าต้องการ Fame Generation กี่เท่า เลือได้ตั้งแต่ 2X, 3X และมากสุด 4X แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ต้องรีสตาร์ทเกมใหม่ 1 ครั้ง ถึงจะใช้งานได้ ถ้าเปิดแล้วเข้าเกมเลยจะไม่มีตัวเลือก Multi Frame Generation ให้เลือก
จากกราฟจะเห็นว่าเฟรมเรทเวลาใช้ฟีเจอร์นี้จะเบิ้ลเฟรมเรทไปหลายเท่ามาก โดยเฉพาะเฟรมเรทเฉลี่ยจะสูงจนน่าตกใจโดยเฉพาะการเปิด NVIDIA DLSS Quality ควบคู่กันจะทำให้เฟรมเรทขึ้นไปเกิน 250 FPS ได้สบายมาก หรือถ้าเปิด Ray Tracing จะเห็นได้ว่าเฟรมเรทเฉลี่ยระดับ 2X อยู่ระดับ 80 FPS หรือไปสุด 4X จะขึ้นไปเกือบ 150 FPS ทีเดียว และหลายคนอาจสงสัยว่าการใช้ AI เข้ามาช่วยสร้างเฟรมเติมเข้าไป 2~4 เท่าจะเกิด Input Lag หรือไม่? ตอบได้เลยว่าไม่เจอแม้แต่น้อย สามารถเล่นได้เหมือนปกติไม่ว่าจะขับรถ, เดินเท้าไปมาในฉากหรือยิงปะทะกับศัตรูก็ไม่มีปัญหา
นอกจากทำงานได้เยี่ยม MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ก็เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสุดทรงพลังเพื่อเกมเมอร์ตัวยงโดยเฉพาะ จากเฟรมเรทของแต่ละเกมในแต่ละการทดสอบพูดได้เต็มปากว่ามันเล่นเกมชั้นนำได้หมดทุกเกม ตั้งค่ากราฟิคสูงสุดเปิด Ray Tracing เพิ่มความสวยงามแล้วเล่นได้หมด หรือใครอยากเอาไปต่อหน้าจอแยกความละเอียด 4K 120 Hz ด้วยพอร์ต HDMI 2.1 ก็ได้

ด้านซอฟท์แวร์ตั้งค่าตัวเครื่องประจำแบรนด์อย่าง MSI Center นอกจากหน้าตาดูเรียบง่ายใช้สะดวกแล้ว ก็มีฟังก์ชั่นให้ตั้งค่าได้หลายอย่าง โดยเฉพาะโหมด User Scenario จะเลือกตั้งค่าโหมดการทำงานและการตัดต่อการทำงานของ MUX Switch ได้ ถ้าตั้งค่าเป็นโหมด MSHybrid Graphics Mode จะปล่อยให้ตัวชิปเลือกตัดต่อจีพียูให้โดยอัตโนมัติได้ แต่ถ้าต้องการเน้นกำลังประมวลผลสูงสุดก็เลือกเป็น Extreme Performance คู่กับ Discrete Graphics Mode ได้เลย
ในโปรแกรมนี้นอกจากการตั้งค่าตัวเครื่อง ยังรวมการตั้งค่าต่างๆ เช่น การเลือกเชื่อมต่อและสแกนเช็คสัญญาณ Wi-Fi, อัปเดตเฟิร์มแวร์หรือแม้แต่ใช้ MSI AI Engine ให้ระบบตัวเครื่องเลือกเปลี่ยนการทำงานให้เข้ากับโปรแกรมต่างๆ โดยอัตโนมัติได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกไม่ต้องมาคอยเปลี่ยนโหมดเอง
Battery & Heat & Noise

แบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลีเมอร์ในโน๊ตบุ๊คเล่นเกม MSI Vector 16 HX AI A2XWIG มีความจุ 90Whr วัดความจุเป็น Typical Capacity ได้ 5,845mAh (90Whr) กับ Rated Capacity ได้ 5,675mAh (87.3Whr) มีความจุมากพอจะใช้งานได้นานหลายชั่วโมงและยังไม่เกิน 99.9Whr จึงยังพกใส่กระเป๋าเป้นำขึ้นเครื่องบินไปได้โดยไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตล่วงหน้า

จากการทดสอบการใช้งานตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์โดยเปิดความสว่างหน้าจอเพียง 50% และลดเสียงลำโพงเหลือ 10% ตั้งค่าให้ MUX Switch ทำงานในโหมด Integrated Graphics เรียกใช้แต่จีพียูของ Intel ควบคู่กับโหมดประหยัดพลังงานในโปรแกรม MSI Center แล้วดูคลิป YouTube นาน 30 นาที ด้วย Microsoft Edge จะใช้งานได้นาน 5 ชม. 34 นาที ในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูง นับว่าใช้งานได้นานพอจะอยู่ได้จนจบเลคเชอร์หรือเข้าประชุมทั่วไปจนถึงระดับ Town hall ได้แน่นอน
เรื่องอุปกรณ์เสริมขอแนะนำให้เตรียมแบตสำรองหรืออะแดปเตอร์ GaN 65W ติดกระเป๋าเอาไว้สักชุด จะใช้ต่อชาร์จไฟให้โน๊ตบุ๊คเล่นเกม MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ส่วนอะแดปเตอร์ Delta 330W แนะนำให้ตั้งติดโต๊ะคอมเวลาต้องการใช้งานเต็มกำลังดีกว่าและลดน้ำหนักกระเป๋าได้อีกหนึ่งกิโลกรัมด้วย

อุณหภูมิภายนอกและภายในเครื่องเวลาทำงานเต็มกำลังถือว่าสูงและขอแนะนำให้หาแท่นวางโน๊ตบุ๊คมีพัดลมระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงมาตั้งเครื่องจะช่วยลดความร้อนได้ดี ภาพจากกล้องอินฟาเรดและเลเซอร์วัดอุณหภูมิจะเห็นว่าโซนเหนือคีย์บอร์ดโดยเฉพาะช่องระบายความร้อนทั้งสองด้านจะมีอุณหภูมิพื้นผิวสูงราว 48 องศาเซลเซียสทีเดียว ส่วนภายในเครื่องเมื่อเช็คด้วย CPUID HWMonitor แล้วแต่ละชิ้นส่วนจะมีอุณหภูมิดังนี้
ชิ้นส่วน / อุณหภูมิ | อุณหภูมิต่ำสุด | อุณหภูมิสูงสุด |
Mainboard | 43 | 79 |
Intel Core Ultra 9 275HX (Package) | 49 | 105 |
NVIDIA GeForce RTX 5080 | 43 | 87 |
RAM 1 | 43.5 | 71.3 |
RAM 2 | 43.5 | 70.3 |
SSD | 41 | 61 |
จากอุณหภูมิทั้งเครื่องถึงจะสูงก็จริง แต่เวลาใช้งานจริงชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 ก็ทำงานเต็มกำลังและดึงอุณหภูมิของซีพียูกับจีพียูให้ลดลงมาอยู่ในช่วง 80~95 องศาเซลเซียสได้อย่างรวดเร็ว ค่าอุณหภูมิสูงสุดนั้นจะเกิดขึ้นเพียงชั่วเสี้ยววินาทีไม่กี่ครั้งเท่านั้นจึงไม่ต้องกังวลนัก แต่ก็แนะนำให้หาแท่นวางโน๊ตบุ๊คพร้อมพัดลมประสิทธิภาพสูงสักชุดมาใช้ร่วมกันจะทำให้ตัวเครื่องไม่ร้อนเกินและถนอมชิ้นส่วนภายในให้อายุการใช้งานนานขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

เสียงเวลาชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 ทำงานเต็มกำลังจะได้ยินเสียงพัดลมชัดเจน พอวัดด้วยเครื่องวัดเสียงจากด้านหน้าเครื่องจะดัง 60dB ส่วนหลังเครื่องได้ 64.5dB พอกับเสียงพูดคุยตามปกติของมนุษย์ ส่วนด้านข้างเครื่องจะมีเสียงดังถึง 71dB พอกับความดังภายในห้องโดยสารรถยนต์เวลาวิ่งด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. ระดับความดังถือว่าพอระดับได้แต่ก็แนะนำให้สวมหูฟังเวลาเล่นเกมหรือใช้งานเต็มกำลังจะได้ลดเสียงรบกวนลงไปได้ระดับหนึ่ง
User Experience

แม้ว่า MSI Vector 16 HX AI A2XWIG จะมีจุดสังเกตเรื่องการเปิดฝาอัปเกรดค่อนข้างยากและอุณหภูมิเวลาทำงานเต็มกำลังสามารถขึ้นไปได้สูงระดับ 100 องศาเซลเซียสจนควรมีแท่นวางโน๊ตบุ๊คติดพัดลมระบายความร้อนก็จริง แต่ในเมื่อถูกออกแบบมาเพื่อทำงานกลุ่ม STEM ซึ่งกินทรัพยากรเครื่องหนักอยู่แล้วก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ก็แค่หาแท่นวางโน๊ตบุ๊คพร้อมพัดลมระบายความร้อนมาวางเพิ่มก็ช่วยได้มากแล้วและช่วยถนอมชิ้นส่วนภายในได้ดีขึ้นอีก
ถ้าทำงานได้ดีมากแล้วเรื่องการเล่นเกมก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน ด้วยซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX กับ NVIDIA GeForce RTX 5080 สามารถเล่นเกมชั้นนำได้ดีมากและการเลือกใช้หน้าจอ 2K QHD ค่า Refresh Rate 240 Hz มาให้แทนจะเป็นจอ 4K 120 Hz ก็เหมาะกว่า เพราะขนาดกรอบหน้าจอ 16 นิ้ว เหมาะกับความละเอียดระดับนี้อยู่แล้วแถมยังรีดเฟรมเรทออกมาได้ดี จากตอนเล่นเกมด้วยหน้าจอของ Vector 16 HX AI A2XWIG แล้วตั้งค่ากราฟิคเอาไว้ระดับสูงสุดทุกอย่าง ไม่เปิด NVIDIA DLSS และ Frame Generation ก็ทำเฟรมเรทได้สูง ยิ่งเปิดแล้วภาพยิ่งลื่นและไม่มีอาการ Input Lag ให้เห็นสักนิดเดียว หรือถ้าใครอยากได้ภาพคมชัดขึ้นไปอีกก็ต่อหน้าจอ 4K แยกออกไปเลยก็เล่นได้สบายมากอาจนับได้ว่าตอนนี้เข้าสู่ยุคของ 4K Gaming แล้วก็ว่าได้

ในเมื่อเป็นโน๊ตบุ๊คก็ต้องพกไปใช้งานนอกสถานที่ได้ด้วย MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ก็ทำได้ แต่มีเงื่อนไขอยู่เล็กน้อย คือ ต้องใช้กระเป๋าเป้ซับไหล่หนาสำหรับโน๊ตบุ๊ค 17.3 นิ้วเท่านั้นถึงจะพกไปใช้นอกสถานที่ได้ ไม่แนะนำกระเป๋าไซซ์ 15.6 นิ้ว เพราะตัวเครื่องหนาจนใส่ช่องเก็บโน๊ตบุ๊คไม่ได้ และควรพกอะแดปเตอร์ GaN 100W ติดกระเป๋าเอาไว้เผื่อใช้ชาร์จเครื่องในยามจำเป็น ซึ่งถ้าตั้งค่าตามการทดสอบข้างต้นก็พกเข้าห้องเลคเชอร์หรือประชุมแล้วใช้งานได้นานร่วม 6 ชม. นานพอจะใช้ทำงานได้ระดับหนึ่งแน่ แถมจุดที่ชอบเป็นการส่วนตัว คือ เซนเซอร์สแกนใบหน้าตรงกล้องเว็บแคมที่ช่วยยืนยันตัวปลดล็อคเครื่องได้รวดเร็วและรักษาความเป็นส่วนตัวได้ดี ป้องกันผู้อื่นขโมยใช้งานคอมของเราโดยพลการได้แน่นอน
MSI ตั้งราคา MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ไว้ 84,990 บาท ประกอบกับสเปกระดับนี้ถือว่าคุ้มเกินตัว ถ้าเอาเงื่อนไขว่าจีพียูต้องเป็น NVIDIA GeForce RTX 5080 เป็นตัวตั้ง ก็ยังไม่มีแบรนด์ใดทำสเปกและตั้งราคามาดีระดับนี้ แม้จะให้ RAM ตั้งต้นมา 16GB DDR5 ก็ยังเปิดเครื่องเพิ่มความจุในภายหลังได้เอง จึงไม่ได้เป็นประเด็นนัก อย่างราคาของ RAM 32GB ก็ตกชิ้นละ 2,500 บาท ซื้อคู่ละ 5,000 บาท ก็เพิ่มไปได้ 64GB แล้ว และถ้าจะเติม M.2 NVMe SSD อีก 1~2TB ก็ว่าไปตามต้องการ
Conclusion & Award

ข้อดีของการซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งประสิทธิภาพสูงอย่าง MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ไว้ใช้งานมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะใช้เล่นเกมชั้นนำได้ทุกเกมไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องได้นานหลายปีแล้ว ถ้าเป็นเกมเมอร์กับครีเอเตอร์ต้องการโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งไว้สร้างสรรค์คอนเทนต์ก็เป็น Desktop replacement laptop ชั้นเยี่ยมกับราคาสมเหตุผล ด้านคนทำงานกลุ่ม STEM ซึ่งต้องการคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงก็เอาไว้ใช้ทำมาหากินต่อได้สบายมาก จะทำโมเดลรายละเอียดเยอะ คิดคำนวณอาคารสถาปัตยกรรมรายละเอียดสูงแบบใดก็ทำได้สบายมาก เพียงอัปเกรดต่ออีกสักนิดหาอุปกรณ์เสริมเอามาใช้งานร่วมกันสักหน่อยมันก็พร้อมจะจัดการงานทั้งหมดให้จบได้เร็วทันใจตามต้องการได้แน่นอน
Award

Best Features
Vector 16 HX AI มัดรวมฟีเจอร์น่าใช้มามากมาย ไม่ว่าจะ Matrix Display ต่อหน้าจอแยก 3 บาน ติดพอร์ต Thunderbolt 5 มาให้ 2 ช่อง มี M.2 NVMe SSD อินเทอร์เฟส PCIe 5.0 ไม่พอ ยังสแกนใบหน้าด้วยกล้องอินฟาเรดได้ นับว่าครบเครื่องเกินค่าตัวไปมาก

Best Performance
การจับคู่ซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX กับจีพียู NVIDIA GeForce RTX 5080 เอาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเกมชั้นนำกินกำลังแค่ไหน โปรแกรม STEM สุดหินแบบใด MSI Vector 16 HX AI A2XWIG ก็ใช้งานได้หมด และทำได้ดีอีกด้วย

Best Gaming
ซีพียูกับจีพียูใน MSI Vector 16 HX AI A2XWIG จัดว่ามีกำลังประมวลผลอยู่ในระดับเหลือเฟือไม่ว่าจะเล่นเกมบนหน้าจอ 2K QHD หรือ 4K UHD ก็เล่นได้แบบตั้งค่ากราฟิคสูงสุด เป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นที่ลงเงินไปแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
Gallery
บทความที่เกี่ยวข้อง



