
หนึ่งในปัญหายอดนิยมเวลามีคอมพิวเตอร์ Windows สักเครื่อง คือโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ คอมพิวเตอร์ต่อเน็ตไม่ติด ซึ่งปัญหานี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้หลากหลายทางมาก ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์, ซอฟท์แวร์ไปจนเครือข่ายมีปัญหาเองก็ได้ทั้งนั้น แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออกและวิธีแก้ไขทั้งนั้น ถ้าสันนิษฐานได้ว่าปัญหาน่าจะมาจากจุด A, B หรือ C แล้ว ก็แก้ปัญหาได้ในเวลาไม่นาน แถมวิธีทำก็ง่ายมากและทำตามขั้นตอนในบทความนี้ได้ง่ายๆ ก่อนส่งให้ศูนย์บริการรับผิดชอบต่อได้ด้วย
วิธีเช็คและแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้
- ถ้าต่ออินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้ เริ่มต้นให้ไล่เช็คปัญหาตามจุดต่างๆ แล้วตัดจุดน่าเกิดปัญหาทีละส่วน
- ถ้าเราเตอร์มีปัญหาแนะนำให้กดปิดสวิตช์แล้วปล่อยทิ้งไว้ 2-3 นาที ให้ระบบรีเซ็ตใหม่ก่อนจะช่วยได้
- ในระบบปฏิบัติการ Windows มีฟังก์ชั่น Troubleshooter ไว้ตรวจสอบและแก้ปัญหาเบื้องต้นได้

10 วิธีแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ด้วยตัวเองก่อนถึงมือช่าง ทำง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน!
- ดูเราเตอร์ก่อนว่าทำงานปกติไหม ไฟ LOS ติดหรือเปล่า
- ดูสถานะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและ Airplane Mode
- ทดสอบเชื่อมต่อเครือข่ายเดิมด้วยอุปกรณ์อีกชิ้นดู
- สั่ง Forget เครือข่ายก่อนแล้วเชื่อมต่อใหม่หรือเปลี่ยนแชนแนลดู
- เปิด Windows Troubleshooters มาใช้งาน
- ใช้ Network commands แก้ปัญหาดู
- Network Reset อาจช่วยได้
- ปิดฟังก์ชั่น Power saving ทิ้งเผื่อช่วยได้
- ลบไดรเวอร์ลงใหม่ช่วยคุณได้!
- อัพเดต Windows, Fix problem using Windows Update
1. ดูเราเตอร์ก่อนว่าทำงานปกติไหม ไฟ LOS ติดหรือเปล่า

จุดเริ่มต้นเวลาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ ไม่ใช่เริ่มต้นจากการกด Restart ปิดเปิดคอมใหม่ แต่ควรเริ่มจากเช็คต้นขั้วตัวปล่อยสัญญาณอย่างเราเตอร์ในบ้านหรือสำนักงานก่อน ว่ามันยังทำงานได้ปกติดีไหมโดยดูจากไฟสัญญาณหน้ากล่องเป็นอันดับแรก หากมีไฟ LOS (Loss Of Signal) กระพริบสีแดงอยู่ ก็สรุปได้ทันทีว่าตัวการไม่ได้มาจากอุปกรณ์ของเราแต่มาจากเครือข่ายผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีความเป็นไปได้หลายแบบ ไม่ว่าทางบริษัทจะส่งช่างเข้ามาซ่อมบำรุงหรือ Hub กระจายสัญญาณเสียหายก็เป็นไปได้
วิธีแก้ปัญหาเวลาไฟดวงนี้สว่างอยู่ แนะนำให้เอาสมาร์ทโฟนของเราเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB แล้วให้สมาร์ทโฟนกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตชั่วคราวไปก่อน หรือถ้าเราเตอร์มีพอร์ต USB-A และมีฟีเจอร์ใช้มือถือกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G จาก SIM ได้ ก็แนะนำให้ใช้ฟีเจอร์นี้แก้ขัดไปก่อนจนกว่าช่างของเครือข่ายจะทำงานเสร็จและไฟ LOS ดับไปค่อยกลับไปใช้งานตามปกติ แนะนำว่าหลังจากช่างของเครือข่ายแก้ปัญหาเสร็จไม่มีไฟดังกล่าวแล้ว ให้ปิดสวิตช์เราเตอร์ทิ้งไว้ 2-3 นาที ค่อยเปิดใช้งานอีกครั้งให้ระบบรีเซ็ตการรับส่งสัญญาณใหม่อีกครั้ง
2. ดูสถานะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและ Airplane Mode

ปกติแล้วไอคอน Airplane Mode ใน Action Center ของ Windows 11 ต้องดับอยู่คอมพิวเตอร์ถึงจะใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ หากติดอยู่ให้กดปิดทิ้งได้เลยเพราะโหมดนี้ออกแบบมาเพื่อตัดการทำงานการเชื่อมต่อผ่านคลื่นวิทยุ (RF – Radio Frequency) ทั้งหมดเวลาเดินทางโดยอากาศยานแบบต่างๆ ซึ่งคลื่นวิทยุ RF นั้นรวมหมดทั้ง WiFi, Bluetooth และสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อให้คลื่นสัญญาณจากอุปกรณ์ไม่รบกวนการทำงานของระบบการทำงานของเครื่องบินให้เดินทางได้ปลอดภัย
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA – International Air Transport Association) ก็แนะนำไว้บนหน้าเว็บไซต์ให้เปิดโหมดนี้เสมอก่อนเครื่องบินจะเริ่มเดินทาง แม้บางคนอาจแย้งว่าตอนนี้คลื่นสัญญาณของคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟนกับเครื่องบินอยู่คนละช่องทางกันแล้วจะเปิดใช้งานก็ไม่เป็นไร แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้คนส่วนรวมจะตัดเข้าสู่โหมด Offline แล้วย้ายไปใช้บริการ Passenger WiFi (คลื่น WiFi เพื่อผู้โดยสาร) สักระยะก็ไม่น่าเป็นปัญหา แต่ถ้าอยู่ในบ้านหรือสำนักงานก็ไม่จำเป็นต้องเปิดโหมดนี้ก็ได้
3. ทดสอบเชื่อมต่อเครือข่ายเดิมด้วยอุปกรณ์อีกชิ้นดู

วิธีนี้ไม่เชิงว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาแต่เป็นการตรวจสอบเพื่อตัดความเป็นไปได้ ซึ่งวิธีตรวจสอบไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์แต่ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อคลื่น WiFi เดียวกันกับโน๊ตบุ๊คหรือคอมเครื่องที่มีปัญหาก่อนว่าอีกอุปกรณ์ยังใช้งานได้ปกติหรือเปล่า? ซึ่งโอกาสเป็นไปได้มี 3 ทาง คือ
- ถ้าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและกดใช้ Speedtest ได้ความเร็วตรงตามแพ็คเกจ แต่โน๊ตบุ๊คใช้งานไม่ได้ แสดงว่าคอมพิวเตอร์มีปัญหา
- ถ้าใช้งานไม่ได้ทั้งคู่แสดงว่าเราเตอร์หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมีปัญหา แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ
- หากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อได้ตามปกติ แต่ความเร็วต่ำกว่าแพ็คเกจใช้งานแนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการให้ส่งช่างเข้ามาปรับแต่งหรือเปลี่ยนกล่องเราเตอร์หรือบางครั้งสายไฟเบอร์ออฟติกจากจุดกระจายสัญญาณอาจเสียหายก็เป็นไปได้
4. สั่ง Forget เครือข่ายก่อนแล้วเชื่อมต่อใหม่หรือเปลี่ยนแชนแนลดู

วิธีแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ ขั้นตอนแรกเริ่มต้นให้ลองตัดการเชื่อมต่อแล้วคลิกขวาเลือก Forget เพื่อลบการเชื่อมต่อกับ WiFi คลื่นนั้นทิ้งเสียก่อน จากนั้นให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายนั้นและกรอกรหัสผ่านใหม่อีกครั้ง ถ้าเชื่อมต่อใช้งานได้ตามปกติก็ไม่มีปัญหาสามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งปัญหานี้อาจพบเจอได้ทั่วไปไม่ว่าจะใช้ในบ้าน, สำนักงานหรือร้านกาแฟทั่วไปก็มีโอกาสขึ้นได้ นอกจากนี้ยังใช้วิธีนี้เวลากรอกรหัสผ่าน WiFi ผิดได้ด้วย

นอกจากการกด Forget เพื่อลบการเชื่อมต่อกับคลื่นใดไปแล้วยังเชื่อมต่อไม่ได้ แนะนำให้เปลี่ยนคลื่นเชื่อมต่อ เช่น เชื่อมต่อ 5 GHz อยู่แล้วใช้งานไม่ได้ก็เปลี่ยนไปต่อ 2.4 GHz เพื่อใช้งานแทนได้ หากใช้งานได้อาจมาจากตัวเราเตอร์ทำงานผิดพลาด แต่ถ้าไม่ได้ทั้งสองคลื่นอาจสันนิษฐานว่ามาจากผู้ให้บริการหรือกล่องเราเตอร์เกิดตั้งค่าผิดพลาดก็เป็นไปได้
5. เปิด Windows Troubleshooters มาใช้งาน

วิธีแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ กรณีอุปกรณ์ภายนอกยังทำงานได้ตามปกติแต่ปัญหามาจากโน๊ตบุ๊คเอง วิธีเบื้องต้นอาจมาจากชุดคำสั่งภายในเครื่องเสียเองแนะนำให้ใช้ Windows Troubleshooter แก้ปัญหาเป็นขั้นตอนแรก โดยวิธีเปิดฟังก์ชั่นนี้ขึ้นมาใช้งานให้ทำตามนี้
- กดปุ่ม Windows+i เพื่อเปิดหน้า Settings
- ในหน้า Settings เลือกหัวข้อ System ฝั่งซ้ายมือ
- หน้ารวมการตั้งค่าของ System จะมีตัวเลือก Troubleshoot
- กดเข้าหน้า Troubleshoot เลือก Other troubleshooters
- ภายในหัวข้อ Other troubleshooters ให้กด Run ในหัวข้อ Network and Internet
ภายในหน้า Troubleshoot จากด้านบนจะมีกรอบตัวเลือกการเชื่อมต่อว่าต้องการทดสอบและเช็คปัญหาช่องทางเชื่อมต่อแบบใด ซึ่งปกติแล้วจะมี 1-2 ช่องทาง คือ Wi-Fi กับ LAN เมื่อเลือกแล้วถัดลงมาด้านล่างจะมีตัวเลือก Run network tests พอกดแล้ว Windows จะรันทดสอบการเชื่อมต่อจนเสร็จและขึ้นข้อความบอกผู้ใช้ 2 แบบ คือ
- กรอบเขียวใต้สัญลักษณ์การเชื่อมต่อพร้อมข้อความว่า “You’re connected to the internet. We didin’t find any problems with your network.” แสดงว่าช่องทางเชื่อมต่อนั้นใช้งานได้ปกติ
- กรอบสีเหลืองหรือแดง จะมีข้อความบอกปัญหาเวลาทดสอบ เช่นในภาพไม่ได้ต่อสาย LAN หรือสายเกิดขาดใน จะขึ้นข้อความว่า “Ethernet cable isn’t plugged in.”
6. ใช้ Network commands แก้ปัญหาดู

วิธีใช้ Network commands แก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้เป็นวิธีรีเซ็ต TCP/IP ให้ตัวเครื่องเรียก IP Address มาใหม่ ต่อด้วย Flush กับรีเซ็ต DNS client resolver cache ที่ Windows เก็บเอาไว้ในระบบให้กลับไปเป็นศูนย์อีกครั้งแล้วเริ่มต้นส่ง Request ไปยัง CDN Server อีกครั้ง

เริ่มต้นให้กดปุ่ม Windows พิมพ์คำว่า Command Prompt เลือก Run as administrator ได้สิทธิ์สั่งปรับแต่งได้ทุกอย่าง สังเกตว่าในบรรทัดจะขึ้นเป็น C:\Windows\System32> แต่ถ้าเป็นสิทธิ์ระดับ User ผู้ใช้จะเป็น C:\Users\(ชื่อ User)> เท่านั้น
ในหน้า Command Prompt ให้พิมพ์คำสั่งตามนี้
- netsh winsock reset แล้วกด Enter
- netsh int ip reset กด Enter
- ipconfig /release กดปุ่ม Enter
- ipconfig /renew แล้วกด Enter
- ipconfig /flushdns กดปุ่ม Enter

หลังจากสั่ง Netsh และ IP Config ใหม่ทั้งหมดแล้วให้สั่ง Restart คอมพิวเตอร์ 1 ครั้ง เพื่อให้ตัวเครื่องโหลดการตั้งค่าใหม่ จากนั้นแนะนำให้ Ping test กับเว็บไซต์หรือ DNS server ใดๆ ก็ได้ เช่น 1.1.1.1 ของ Cloudflare หรือ 8.8.8.8 ของ Google ก็ได้ โดยพิมพ์คำสั่งตามนี้
ping [ชื่อเว็บไซต์หรือ IP Address]
ตัวอย่าง: ping 1.1.1.1
หรือ
ping notebookspec.com
คำสั่ง Ping จะยิง packet ไปยัง Address ปลายทางเพื่อทดสอบว่าคอมพิวเตอร์ของเราสามารถทำงานได้ดีหรือไม่ทั้งหมด 4 ครั้ง และเราสามารถเล่นกับ Command นี้ได้อีกพอควรโดยเพิ่มแท็กคำสั่งเข้าไปอีกนิดหน่อยก่อนตัวเลข เช่น
ping [คำสั่ง] [ชื่อเว็บไซต์หรือ IP Address]
ตัวอย่าง: ping /t 1.1.1.1

ตัวอย่างคำสั่งแนะนำให้นำไปใช้ทดสอบหลังแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ จะมีดังนี้
- /t = สั่ง Ping ไป Server ปลายทางต่อเนื่องจนกว่าเราจะกด Ctrl+C เพื่อหยุด
- /n [ตัวเลข] = สั่ง Ping ไป Server ปลายทางตามจำนวนครั้งที่กำหนด
- /l [ตัวเลข] = กำหนดขนาด Packet ที่จะ Ping ไป Server ที่กำหนด
นอกจากพิมพ์ทีละคำสั่ง เราก็สามารถเพิ่มคำสั่ง Ping เข้าไปได้ด้วย เช่น ping /n 10 /l 64 1.1.1.1 เพื่อ echo packet ขนาด 64 Byte จำนวน 10 ครั้ง ไปยัง Server ของ Cloudflare เป็นต้น และนอกจากคำสั่งเบื้องต้นในภาพแล้ว ทาง Microsoft ก็รวมคำสั่งและคำอธิบายทั้งหมดเอาไว้ให้ทดลองใช้ในลิ้งค์นี้ หากใครสนใจสามารถไปทดลองใช้ดูได้
7. Network Reset อาจช่วยได้
วิธีง่ายๆ สำหรับผู้ใช้ทั่วไปเวลาต้องการแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ คือการกด Network reset เพื่อรีเซ็ตการเชื่อมต่อทำงานของ Wi-Fi และ LAN โดยลบไดรเวอร์สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งหมดทิ้งไปและย้อนกลับไปใช้ไดรเวอร์ดั้งเดิมตัวแรกสุดในเครื่อง กดแล้วอินเทอร์เน็ตจะถูกตัดการเชื่อมต่อและระบบจะ Restart ภายใน 5 นาที พอบูตเครื่องกลับมาแล้วการตั้งค่า VPN, Virtual Switchs และรหัสผ่าน Wi-Fi ทั้งหมดจะถูกล้างทิ้ง ก่อนทำแนะนำให้เซฟงานทั้งหมดให้เรียบร้อย
ขั้นตอนการทำให้กด Win+i เพื่อเปิดหน้า Settings ของ Windows เลือกหัวข้อ Network & Internet จะมีตัวเลือก Network reset อยู่ เมื่อเข้ามาแล้วให้กด Reset now เพื่อลบไดรเวอร์และติดตั้งใหม่แล้ว Restart เครื่องได้ทันที หากเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตใช้งานได้ตามปกติก็ไม่มีปัญหาแล้ว
8. ปิดฟังก์ชั่น Power saving ทิ้งเผื่อช่วยได้

วิธีแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้ขั้นตอนถัดไปจะเข้าไปปรับแต่งภายใน Device Manager ศูนย์รวมไดรเวอร์ทั้งเครื่อง ซึ่งปัญหาบางครั้งอาจมาจากระบบ Power Saving ที่ลดประสิทธิภาพการทำงานลงในบางโอกาสแล้วไม่ยอมกลับมาทำงานหรือเกิดปัญหาได้บ้าง โดยวิธีการปิดโหมดนี้จะมีขั้นตอนดังนี้
- เปิด Device Manager แล้วเลือก Network adapters กด Drop down box ให้เห็นตัวเลือกทั้งหมด
- คลิกขวาตรง Wi-Fi ในเครื่อง เลือก Properties
- แท็บบนสุดเลือก Advanced หาตัวเลือก Power Saving
- ฝั่งขวาตรง Value เปลี่ยนจาก Auto เป็น Disabled กด OK
9. ลบไดรเวอร์ลงใหม่ช่วยคุณได้!

การลบลงไดรเวอร์เป็นวิธีก่อนมีคำสั่ง Network reset ให้กดใช้งานโดยเฉพาะถ้าคอมเครื่องไหนติดตั้ง Windows 10 อยู่ก็ทำได้ แต่ก่อนลบไดรเวอร์ติดตั้งใหม่ควรใช้คอมอีกเครื่องดาวน์โหลดไดรเวอร์ของโน๊ตบุ๊ครุ่นนั้นมามารอไว้ก่อน เวลาเรียกติดตั้งใหม่จะได้ใช้ได้เลย
เริ่มต้นจากหน้า Device Manager ให้คลิกขวาไดรเวอร์ WiFi จากนั้นจะมีตัวเลือกหลัก 3 หัวข้อให้ใช้ คือ
- Update driver: สั่งอัพเดตไดรเวอร์โดยใช้ Windows Update หรือระบบเบื้องหลังโดยตรง
- Disable driver: ปิดการทำงานไดรเวอร์นั้นทิ้งชั่วคราว คลิกขวาอีกครั้งจะกลายเป็นคำสั่ง Enable
- Uninstall driver: ถอนการติดตั้งไดรเวอร์ออกจากเครื่อง เมื่อทำแล้วจะใช้ไดรเวอร์นั้นไม่ได้
หลังจากถอนการติดตั้งแล้ว ให้คลิกขวาตรงชื่อคอมพิวเตอร์ด้านบนสุดเลือกคำว่า Scan for hardware changes ให้ระบบปฏิบัติการสแกนหาฮาร์ดแวร์ภายในเครื่องก่อน ซึ่งในขั้นตอนนี้ตัวเครื่องจะดึงไดรเวอร์ตั้งต้นของ WiFi กลับมาให้ซึ่งปกติแล้วจะใช้งานได้ทันที
หลังจากลบและโหลดไดรเวอร์กลับมาเป็นค่าตั้งต้นเสร็จแล้ว แนะนำให้ดาวน์โหลดไดรเวอร์ตรงรุ่นมาติดตั้ง โดยคลิกขวาตรง Wi-Fi เลือก Update driver > Browse my computer for drivers จากนั้น Browse หาโฟลเดอร์นั้นและกด Next ตัวเครื่องจะดึงไฟล์ใหม่เข้าไปอัพเดตให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดหรือจะเลือก Search automatically for drivers ก็ได้เช่นกัน
10. อัพเดต Windows, Fix problem using Windows Update

วิธีสุดท้ายให้เปิด Windows Update กดเช็คหาอัพเดทใหม่ว่าทาง Microsoft ปล่อยแพทช์ใหม่มาแก้บั๊กไหนในระบบปฏิบัติการบ้างและมี Cumulative updates รวมแพ็คเกจอัพเดตตัวเครื่องมาให้ซึ่งแก้ปัญหาต่างๆ ได้ และในหน้านี้แนะนำให้เลือก Advanced options > Optional updates ให้ Windows สแกนหาและอัพเดตไดรเวอร์ใหม่แก้ปัญหาและช่วยให้คอมทำงานได้ดีขึ้น

สุดท้ายถ้า WiFi ใช้งานไม่ได้แต่ยังต่อ LAN ให้ใช้อินเทอร์เน็ตได้อยู่ แนะนำให้เปิด Settings > System > Recovery เลือก Fix problems using Windows Update ให้ Windows 11 ดาวน์โหลดระบบปฏิบัติการกลับมาใหม่แล้วซ่อมไฟล์ที่เสียหายทั้งเครื่องให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

ปัญหาเรื่องโน๊ตบุ๊คต่อ WiFi ไม่ได้เป็นเรื่องเบื้องต้นพบเจอได้เป็นประจำของระบบปฏิบัติการ Windows บางครั้งอาจก็ทำให้งานไม่เดินหน้าต่อจนใครหลายคนเสียอารมณ์ ดังนั้นถ้าเข้าใจวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นไว้ก่อนสัก 2-3 วิธี ก็จะช่วยย่นเวลาให้กลับมาทำงานได้เร็วขึ้น จุดสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ นอกจากเป็นคนช่างสังเกตก็ต้องวิเคราะห์ปัญหาให้เข้าใจว่าต้นตอของมันมาจากอะไรจะจัดการได้ตรงจุดกว่าแน่นอน
Photo Credits: John Schnobrich via Unsplash, Benjamin Dada via Unsplash, Tarn Nguyen via Unsplash
บทความที่เกี่ยวข้อง



