เป็นอีกหนึ่ง Gaming Notebook สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H ที่ถูกพูดถึงที่สุด ด้วยการมาของ Lenovo Legion 5 ซึ่งนับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นแรกของแบรนด์ Lenovo ที่เลือกใช้ AMD เป็นครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีหลายๆ แบรนด์ได้เลือกใช้ AMD มาซักระยะแล้ว (แต่ใช้ Ryzen 3000U ใน Notebook ประเภทอื่นๆ) เชื่อได้ว่าเลยสมการรอคอยของใครหลายๆ คนทีเดียว เพราะทาง Lenovo มีชื่อเสียงเรื่อง Gaming Notebook ตระกูล Legion มาซักพักแล้ว แต่เป็นการเลือกใช้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i ทั้งหมด
ทำให้การมาของ Lenovo Legion 5 เป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจมากๆ แน่นอนว่ามาจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H ที่ทรงพลัง ในราคาไม่แพง อีกทั้งได้เทคโนโลยีต่างๆ จาก Legion ที่โดดเด่น ช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานยิ่งขึ้นไปอีก ในการจัดการความร้อนที่ดีกว่า รวมถึงดีไซน์การออกแบบก็มีความพิเศษไม่เหมือนใคร ได้รับความเป็น DNA ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ดูดีสุดๆ เรียกได้ว่ามองแวปเดียวก็รู้นว่าเป็น Lenovo Legion 5 แต่ก็แฝงไปด้วยจุดเด่นอย่างไฟ RGB แบบ 4 โซน อีกทั้งได้พอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันกว่า Gaming Notebook รุ่นใกล้เคียงกันด้วย
ดูรีวิว Lenovo Legion 5 สเปก AMD Ryzen 5 4600H + GTX 1650 Ti + จอ IPS 144Hz
- AMD Ryzen 5 4600H ทำงาน 6C/12T ความเร็ว 3.00 – 4.00 GHz (8 MB L3 Cache)
- AMD Ryzen 7 4800H ทำงาน 8C/16T ความเร็ว 2.90 – 4.20 GHz (8 MB L3 Cache)
สเปกของ Lenovo Legion 5 รุ่นที่ขายจริง สนนราคามีตั้งแต่ 26,990 – 32,990 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 5 4600H / AMD Ryzen 7 4800H บนสถาปัตยกรรม Zen 2 (Renoir) ล้ำด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธรด ส่งผลให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ร้อนน้อยลงด้วย พร้อมการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) / GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ที่ให้ความแรงลื่นทั้งในการทำงานหรือเล่นเกมเหนือชั้นกว่า Gaming Notebook รุ่นก่อนๆ
ได้ที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB รองรับการอัพเกรดเพิ่ม HDD SATA 3 ได้ภายหลัง ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz หนึ่งแถว (โดยรองรับได้สูงสุด 32GB) ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก แน่นอนว่าสเปกแบบนี้ใช้งานทั่วไปพื้นฐานลื่นไหลแน่นอน รวมไปถึงเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ ก็ดีเยี่ยมมากๆ อย่างไรก็ตามแนะนำให้อัพเกรดแรมเป็น 16GB จะดีมากๆ ที่สามารถดูผลการทดสอบได้ ที่นี่
ได้หน้าจอขนาด 15.6″ แบบด้าน ขอบหน้าจอบางพิเศษเป็น ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี Refresh Rate รองรับ 120Hz / 144Hz (IPS คนละเกรดกัน แนะนำตรงนี้ว่าควรเลือกเป็นรุ่น 144Hz ให้ขอบเขตสีดีกว่า) ให้สีสันสวยงามและมุมมองที่กว้าง เหมาะกับการทำงานหรือเล่นเกม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง 1 x USB 3.1 Type-C, HDMI, 4 x USB 3.1 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น ประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน รวมไปถึงมีประกันอุบัติเหตุแบบเคลม 100% และมีเครื่องสำรองระหว่างใช้งาน อีกทั้งมี Call Center 24/7 ด้วย แบ่งออกเป็นรุ่นต่างๆ ดังนี้
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 26,990 บาท
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 27,990 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 29,990 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 30,990 บาท
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 30,990 บาท
- Ryzen 7 4800H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 32,990 บาท
การเลือกซื้อ Lenovo Legion 5 ที่เป็น Gaming Notebook ปี 2020 จากการที่ได้สเปคสุดแรง AMD Ryzen 4000H รุ่นล่าสุด ซึ่งได้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร มีตัวเลือกทั้ง Ryzen 5 4600H และ Ryzen 7 4800H ส่วนการ์ดจอได้เป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti เรียกได้ว่าเข้าคู่กันเป็นอย่างดี ดีขึ้นทั้งประสิทธิภาพ ร้อนน้อยลง และแบตยาวนาน แน่นอนว่าถ้าเป็นได้ไปควรเลือกเป็นตัวที่แรงที่สุดถ้างบถึงอย่าง Ryzen 7 4800H + GTX 1650 Ti หรือ Ryzen 5 4600H + GTX 1650 Ti ก็ได้ (Ryzen 7 แรงกว่า Ryzen 5 ประมาณ 30% และการ์ดจอเป็นรุ่นใหม่จริงๆ อย่าง GTX 1650 Ti)
และที่สำคัญคือสเปกหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD (1920 x 1080) พาเนล IPS ที่มีทั้งรุ่นรองรับ Refresh Rate ที่ 144 Hz มีเทคโนโลยี VESA DisplayHDR 400 ใกล้เคียง 100% sRGB และคมชัด สมจริงด้วย Dolby Vision ตรงนี้ถ้าเทียบกับรุ่นหน้าจอ 120Hz อีกสเปก ต้องบอกว่ามีความต่างอย่างชัดเจน ในสเปกที่เหมือนกันในทุกๆ อย่างทั้งชิปประมวลผลและการ์ดจอ ราคารุ่นจอ 144Hz จะมีราคาสูงกว่า 120Hz ที่ 1,000 บาทเท่านั้น โดยรุ่นหน้าจอ 144Hz ให้สีสันและประสบการณ์ใช้งาน ขอบเขตสีที่ดีกว่าแน่นอน เทียบกับ 1,000 บาทที่ต้องจ่ายเพิ่ม นับว่ามีความคุ้มค่า ฉะนั้นแนะนำเลือก 144Hz ดีกว่า
สเปกอื่นๆ ที่เหมือนกันทุกรุ่นคือได้หน่วยความจำแรมจากโรงงานมาขนาด 8GB DDR4 Bus 3200MHz ซึ่งควรเผื่อเงินพันนิด ไว้ใส่แรม 8GB อีกแถวก็จะดีมากๆ และมีที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ทุกๆ รุ่น โดย Lenovo Legion 5 ทุกรุ่นรองรับ Wi-Fi 6และ Dolby Atmos ตัวเครื่องสี Phantom Black น้ำหนักอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม มีเทคโนโลยี Rapid Charge Pro เทคโนโลยี Lenovo Legion Coldfront 2.0 ที่ช่วยควบคุมความอุณหภูมิ
ฟีเจอร์อื่นๆ อย่างคีย์บอร์ด Lenovo Legion TrueStrike แม่นยำ นุ่มนวล หนักแน่น พร้อม 4-zone RGB รองรับ anti-ghosting 100% และตอบสนองได้รวดเร็วใน 1ms ทนทานมากขึ้นด้วยการเคลือบสารให้คุณสมบัติต้านทานการเสียดสีและการสึกกร่อน และแบตเตอรี่ที่ปรับใหม่ให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น (ใช้ได้นานถึง 8 ชั่วโมง) ด้วยเทคโนโลยี Advanced Optimus และ Hybrid Mode อีกทั้งสามารถเลือกปรับโหมดได้เองระหว่างโหมดการรักษาอุณหภูมิ Quiet, Balance และ Performance
นอกจากนี้ยังสามารถเร่งความแรงได้ด้วยการเปิด Dual Burn เพื่อดัน CPU และ GPU ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไปพร้อมๆ กัน สมกับเป็น Gaming Notebook มีความเป็น Legion ที่ไม่ใช่แค่สวยงามดุดันแต่เน้นประสิทธิภาพด้วย ทำให้ไม่ว่าเราจะใช้งานทั่วไปอย่าง ดูหนังฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต ทำงานเอกสารลื่นไหลแน่นอน รวมไปถึงเอาไปทำงานตัดต่อวีดีโอโปรเซสไฟล์ภาพก็สบายๆ
ปิดท้ายสรุปสเปกราคา Lenovo Legion 5 แม้ดีไซน์หลักจะยังเป็นรูปแบบเดิมแบบ Legion Y540 และเหมือนใน Legion 5 (สเปก Intel) แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นดีไซน์ที่ลงตัวที่สุดแบบหนึ่ง เพราะทำให้ตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อนได้ทั้ง 3 ทิศทาง พอร์ตเชื่อมต่อที่มากกว่าและสามารถใช้ประโยชน์เครื่องจากด้านหลังได้เต็มที่ รวมไปถึงจอภาพที่สามารถกางได้ 180 องศา โดยใน Lenovo Legion 5 ยังได้อัพเกรดขึ้นมาหลายๆ ส่วน ยิ่งถ้าดูราคาเทียบกับการรับประกันขั้นเทพแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นอีกหนึ่ง Gaming Notebook ที่ขายดีมากๆ
อย่างไรก็ตามแม้ว่า Lenovo Legion 5 จะมีรุ่นใหม่เลือกมากมายแล้ว แต่คาดว่ายังไม่ถูกใจทุกคน เพราะบางคนอยากจะได้สเปกที่กว่านี้ โดยเพิ่มราคาไปได้อีก ซึ่งมาพร้อมกับสเปก AMD Ryzen 7 4800H หรือ Ryzen 9 4900H จับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2060 ได้แรมขนาด 16GB มาทันที พร้อมด้วย SSD ความจุใหญ่โต 1TB กับช่วงราคา 35,000 – 40,000 บาท รวมถึงมีรุ่นหน้าจอ 17.3″ ให้เลือกเพิ่ม เชื่อว่าต้องมีคนซื้อและสนใจอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าทาง Lenovo อาจจะมีแผนเข้ามาจำหน่ายเร็วๆ นี้ก็เป็นไปได้
สรุปจุดเด่น Lenovo Legion 5
- ดีไซน์การออกแบบสวยงาม งานประกอบแน่นวัสดุดี แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
- ตัวเครื่องเล็กกระชับ แม้จะเป็นหน้าจอ 15.6″ แต่เล็กพอๆ กับโน๊ตบุ๊คจอ 14″
- ตัวเครื่องมีความบางและเบาที่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐาน Gaming Notebook ปี 2020
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Ryzen 4000H และการ์ดจอ GTX 1650 / GTX 1650 Ti
- ได้ SSD M.2 NVMe PCIe ความเร็วแรงระดับสูง ดีกว่าในรุ่นราคาใกล้เคียงกัน
- ประสิทธิภาพในการเล่นเกมดีลื่นไหลทั้ง แนวออฟไลน์และออนไลน์
- หน้าจอคุณภาพสูง พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz / 144Hz
- คีย์บอร์ดมีไฟเป็น 4-zone RGB รองรับ anti-ghosting 100%
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- มีพอร์ต USB 3.1 Type-C และ USB 3.1 Type-C จำนวน 4 พอร์ต
- ลำโพงคุณภาพเสียงดีจาก Harman Kardon + Dolby Atmos น่าประทับใจ
- ความร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อใช้งานหนักๆ จัดว่ามีอุณหภูมิที่เย็นมากๆ จาก Legion Coldfront 2.0
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ราวๆ 8 ชั่วโมง ถือว่าใช้งานได้ยาวนานเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook ด้วยกัน
- ประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน และบริการหลังการขายอื่นๆ