Lenovo YOGA C640 เป็น 2-in-1 Notebook ปี 2020 มาพร้อมขุมพลังชิปประมวลผล Intel Core i7-10510U ที่เป็น Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Comet Lake ใหม่ล่าสุดที่การผลิต 14 นาโนเมตร ส่วนสเปกอื่นๆ ก็มาพร้อมกับหน่วยความจำแรมขนาด 8GB และแหล่งเก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อมกับ Windows 10 ในตัวพร้อมได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ โดยมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 32,990 บาท ประกันเป็นระยะเวลา 2 ปี แบบ On-site Service
ได้ดีไซน์หรูหรากะทัดรัด หน้าจอ 13.3 นิ้วแบบทัชสกรีน ตัวเครื่องบางเพียง 16.95 มม. บางกว่าเก่าถึง 11% และเบาเพียง 1.25 กิโลกรัม มาพร้อมกับความเรียบหรูระดับพรีเมี่ยม เป็นโน๊ตบุ๊คที่บางที่สุดรุ่นนึงจากทาง Lenovo บานพับ 360 องศา หน้าจอสัมผัส Full HD พาเนล IPS ขอบบาง ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับการใช้งานหลากหลายโหมดได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Lenovo Active Pen ที่มีเทคโนโลยี Palm-Rejection ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติขณะเขียนเหมือนการเขียนปากกาบนกระดาษ ให้เสียงนุ่มจากลำโพงคุณภาพพร้อมมีระบบ Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีเยี่ยม
NBS Verdict
สรุปรีวิว Lenovo YOGA C640 เป็นอีกหนึ่ง 2-in-1 Notebook มาพร้อมความสมบูรณ์แบบพร้อมเปลี่ยนซีรีส์เป็น YOGA ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน โดยสเปกชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Intel Core i7-10510U สถาปัตยกรรม Comet Lake ที่เน้นเรื่องของประสิทธิภาพความแรงที่มากกว่า Ice Lake ซึ่งเป็น Gen 10 ด้วยกัน โดยทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 25Watt โดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel UHD Graphics UHD620 พร้อมแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 2400MHz ส่วนใส่ที่เก็บข้อมูลให้มาแบบ SSD M.2 NVMe ที่ 512GB ความเร็วสูง
ที่นอกจากความบางเบาพรีเมียมแล้วก็ยังสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว Full HD IPS ให้ขอบเขตสีที่ดีเยี่ยม รองรับการใช้งานมัลติทัชที่ลื่นเสมือนใช้สมาร์ทโฟนแถมยังรองรับการใช้ปากกา Stylus ใช้งานวาดรูป รองรับแรงกดได้หลายระดับเสมือนวาดบนกระดาษเลยจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบสนองคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสักเครื่องที่ไว้ใช้ทำงานและหน้าจอสัมผัสวาดรูปได้เป็นอย่างดีเลย ต่อยอดความสำเร็จจาก YOGA รุ่นก่อนๆ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 18 ชั่วโมงด้วย
โดยประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานนี้เป็นจากการมาของชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์ เพราะได้มีสิ่งใหม่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของ Intel เองที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อน เรื่องของประสิทธิภาพและฟีเจอร์ต่างๆ โดยมาพร้อมมาตรฐานใหม่ๆ ที่ดียิ่งขึ้นไป ทำให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ได้ใช้ของดีที่สำคัญคือในราคาที่ถูกลงคุ้มค่ากว่าเดิม สติกเกอร์ก็แตกต่างจาก Itnel Core i Gen 8U ชัดเจนเลยทีเดิมๆ เป็นสีน้ำเงิน แต่ Intel Core i Gen 10U จะเป็นสีเงินๆ ทั้งหมด
ข้อดี
- วัสดุทำจากวัสดุคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ขอบจอบาง พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- หน้าจอสัมผัสมัลติทัชลื่นมาก รองรับแรงกดได้หลายระดับ พร้อม Stylus สามารถใช้วาดรูปได้ดี
- สเปกแรงคุ้มประสิทธิภาพดีด้วย Core i Gen 10U + RAM 8GB + SSD 512GB
- น้ำหนักเบาเพียง 1.25 กิโลกรัม พกพาง่ายพกพาสะดวก
- หน้าจอคุณภาพสูงทัชสกรีน 10 จุด ได้ sRGB ที่ 96% และ AdobeRGB ที่ 74%
- ลำโพงคุณภาพดีมีระบบ Dolby Atmos ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายโหมด กางหน้าจอได้ 360 องศา
- มีระบบสแกนนิ้วมือใช้กับ Windows Hello รักษาความปลอดภัยได้ดี
- ฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้อง
- มีระบบควบคุมด้วย Lenovo Privacy Essentials by FigLeaf
- มาพร้อมกับ SSD m.2 NVMe ความเร็วสูง
- มีไฟ Backlit Keyboard สวยงาม รวมถึงใช้งานได้เป็นอย่างดี
- ตัวเครื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายโหมด กางหน้าจอได้ 360 องศา
- ปากกาสไตลัส Lenovo Active Pen ให้ประสบการณ์ขีดเขียนได้ดี
- มี Windows 10 แท้ในตัวเครื่อง พร้อมซอฟต์แวร์ที่ดี
- ได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ
- ประกัน 2 ปี มาตรฐาน Lenovo
ข้อสังเกต
- พอร์ตการเชื่อมต่อน้อยไปหน่อย น่าจะให้เป็น Thunderbolt 3 มาเลยด้วย
- จอกระจกทำให้เวลาใช้งานกลางแจ้งเจอแสงสะท้อน
- แกะงัดอัพเกรดและทำความสะอาดยาก
Specification
สเปกของ Lenovo YOGA C640 ตัวที่เราได้รับมารีวิวเป็นเครื่องขายจริงสเปกจริง ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-10510U (Comet Lake) ที่เป็นการทำงานแบบ 4 Core 8 Thread ความเร็ว 1.8GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 4.9GHz) เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 25Watt ส่วนกราฟิกภายในชิปเป็น Intel HD Graphics 620 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 Bus 2400 MHz และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ทั้งมีพื้นที่เยอะและลื่นไหล เพียงพอกับการใช้งาน
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย Lenovo YOGA C640 ใช้หน้าจอขนาด 13.3″ รองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วมือและปากกา ความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 ขอบจอบางเฉียบ พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งจัดว่าเป็นสเปคจอที่เหมาะสำหรับการใช้งานแทบทุกรูปแบบ มาพร้อม Windows 10 Home Single Language และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง
พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A ที่เป็นมาตรฐาน จำนวน 2 พอร์ต ส่วนอีกพอร์ตจะเป็น USB Type-C 3.1ส่วนช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. และ HDMI ยังมีมาให้ นอกจากนี้ยังมี Fingerprint สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Windows Hello ของ Windows 10 เพื่อล็อกอินโดยใช้การสแกนนิ้วอีกด้วย สำหรับประกันเป็น 2 ปีแบบ On-site ตามมาตรฐาน Lenovo
Hardware / Design
สำหรับ Lenovo YOGA C640 รุ่นที่ต่อยอด YOGA รุ่นก่อนๆ ซึ่งเป็นซีรีส์บนกว่า YOGA C340 มาดีไซน์โดยรวมถือว่าปรับปรุงจากรุ่นก่อนๆ ในตระกูลของ 2-in-1 Notebook เพิ่มเติมคือมีใหม่ ตัวตัวเครื่องบางลง น้ำหนักเบาลง ได้สีดำเทาที่ออกแนวแมนๆ หน่อย โดยมีชื่อว่า Iron Grey ฝาหลังเป็นโลหะผิวแบบพ่นทราย ซึ่งต้องยอมรับงานประกอบตัวเครื่องดีมากๆ และด้วยพื้นผิวด้านในเป็นแบบซอฟต์ทัชสีเทาสัมผัสพรีเมียม ทำให้ตัวเครื่องดูเนี้ยบหรูสวยงาม แต่ก็ยังให้ความทนทานไปพร้อมๆ กัน
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ Lenovo ลักษณะแบบแผ่นโลหะที่ดูสวยงาม จะมีอยู่ 1 จุดที่มุมตัวเครื่อง ส่วนโลโก้ YOGA จะติดตั้งอยู่มุมฝาหลังของตัวเครื่อง ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะงานประกอบทั้งหมดแทบจะเป็นชิ้นเดียวกันแบบ Unibody ส่งให้เวลาที่เราจับถือหรือใช้งานจะรู้สึกว่าแน่นหนา ซึ่งจากการใช้งานจริงพื้นผิวบางนี้เป็บรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความสะอาดได้เลย ส่วนปุ่ม Power ถูกติดตั้งเอาไว้ด้านข้างตัวเครื่องตัวสไตล์ 2-in-1 Notebook
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lenovo YOGA C640 เป็น 2-in-1 Notebook ที่ทรงประสิทธิภาพในการทำงานทั่วไปเน้นการพกพา เพราะมีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัมเท่านั้น มาพร้อมความบางเพียง 16.95 มิลลิเมตรเท่านั้น บอกได้เลยว่าบางสุดๆ แบบที่หารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก ซึ่งการที่จะบางขนาดนี้ได้ ฮาร์ดแวร์ภายในจำเป็นต้องฝังบอร์ดเกือบทั้งหมด จะมีเพียง SSD M.2 ที่สามารถอัพเกรดได้
หน้าจอก็เป็นแบบขอบจอบาง กล้อง Webcam อยู่ด้านบนที่มีฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter และยังมีระบบควบคุมด้วย Lenovo Privacy Essentials by FigLeaf ซึ่งเป็นคุณสมบัติเสริมใน Lenovo Vantage เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากอีเมลที่หลอกลวง แจ้งเตือนช่องโหว่ที่เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิด และอื่น ๆ อีกมากมาย มิติตัวเครื่องการถือจับตัวเครื่องสามารถจับถือได้อย่างสะดวกด้วยมือเดียว กดลงแรงๆ ตรงคีย์บอร์ดก็ไม่ได้รู้สึกยวบหรือบุบลงไป เหมาะกับการพกพาไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ หรือจะใช้งานเป็นโหมดเป็นแท็บเล็ตพรีเซนต์งานก็ถือว่าทำได้ดี แต่หากถือนานๆ ก็เมื่อยนิดหนึ่งเพราะตัวเครื่องหนักกว่าแท็บเล็ตปกติอยู่พอสมควร
โดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ Lenovo YOGA C640 รุ่นใหม่นั้น ให้ความสวยงามลงตัวมากกว่าเดิมที่สำคัญขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วขอบบาง เหมือนอยู่บนมิติตัวเครื่อง 12.5 นิ้วเลย นอกเหนือจากนี้ยังมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนแบบ 1 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องขอบด้านหลังตัวเครื่อง ทำให้การทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ในการใช้งานไปแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนภายใน ทางด้านใต้ตัวเครื่อจะมีแผ่นรองยางขนาดใหญ่ พร้อมรูระบายความร้อนที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี มาพร้อมงานประกอบเรียบร้อยมาตรฐานโน๊ตบุ๊ค Lenovo ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ทั้งประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องพร้อมตัวอักษรโปร่งแสง มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดีสไตล์ Lenovo ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังเด้งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกดในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบนพร้อมไฟส่องสว่างแสดงสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ที่สำคัญการเข้าใช้งานผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10 ยังสามารถทำได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ที่ติดตั้งอยู่มุมล่างซ้ายของคีย์บอร์ด แน่นอนว่าทำให้เราไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป แถมยังปลอดภัยและรวดเร็วด้วย ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว ถือว่าทำได้ดีได้ไวมากๆ ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนในตลาดปัจจุบันเลย
Screen / Speaker
หน้าจอของ Lenovo YOGA C640 เป็นแบบด้าน พาเนล IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ที่ให้ภาพคมชัด สวยงามทุกมุมมอง เมื่อประกอบกับขอบจอที่บางเฉียบ ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีที่สมจริงพร้อมรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้การทำงานต่างๆ เปิดหน้าเว็บ การชมภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมถึงการเล่นเกมดูเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าและไมโครโฟน 2 ตัวที่ซ่อนเอาไว้อย่างเรียบเนียน
อีกทั้งใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้ และที่ถึงแม้ขอบจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้งกล้องเว็บแคมไปอยู่บริเวณขอบจอด้านบนของหน้าจอได้ ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น การใช้งานก็ง่ายมากๆ ด้วยการใช้นิ้วเลื่อนเปิดหรือปิดการใช้งานเท่านั้น
ห้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% และ AdobeRGB ที่ 74% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจมาก ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 400 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวกลางและทั้งด้านบนซ้ายรวมไปถึงช่องกลางของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวล่างมุมซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 11% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ด้านของลำโพงสเตอรีโอของ Lenovo YOGA C640 ใช้ระบบเสียงคุณภาพสูงอย่าง Dolby Atmos ให้เสียงที่ดี โดยถูกติดตั้งบริเวณด้านซ้ายขวาขอบคีย์บอร์ด ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานดูหนังฟังเพลงแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Multi-Mode
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Lenovo YOGA C640 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ประจำปี 2020 สเปก Core i Gen 10U ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ Lenovo YOGA C640 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน ตามสไตล์และฟีเจอร์ของ Lenovo ที่มีการต่อยอดตระกูล YOGA มาอย่างยาวนานหลายปี
สำหรับปากกาสไตลัส Lenovo Active Pen มีความสามารถเหมือนกันกับสไตลัสของ Microsoft Surface เช่นจะมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานแบบ N-Trig, มีปุ่มบนตัวสไตลัสจำนวน 2 ปุ่มทางด้านข้าง ที่สำคัญสไตลัสนี้ยังรองรับระดับแรงกดได้มากถึง 2,048 ระดับเลยทีเดียวอันนี้การันตีได้จากผู้ใช้งานนักวาดการ์ตูนหลายคนทีเดียว หรือจะใช้ไว้จดงานเขียนหนังสือก็สามารถทำได้สบายๆ เรียกได้ว่าจะลืมการใช้กระดาษแบบเดิมๆ ไปเลย ให้ประสบการณ์เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเรื่องทัชสกรีนและการใช้ปากกาสไตลัส
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Lenovo YOGA C640 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีการกระชับพื้นที่มากๆ ทำให้ไม่มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันเท่าที่ควร โดยมีเพียง USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต (รองรับการชาร์จไฟไปยังอุปกรณ์อื่นๆ) ที่ติดตั้งอยู่ทางด้านซ้ายและขวาอย่างละ 1 พอร์ต พร้อมติดตั้งพอร์ต USB 3.1 Type-C จำนวน 1 พอร์ตที่ด้านขวา (แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่รองรับการใช้งาน Power Delivery ด้วย) ปิดด้วยช้องช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรที่อยู่ด้านซ้าย ถ้าต้องเชื่อมต่อมากกว่านี้คงต้องอาศัย USB-C Hub เพิ่มเติม
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 13.3 นิ้วแบบยุคก่อนๆ ถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.25 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวก้อนอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว เรียกได้ว่าเอาไปใช้งานตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ หรือมหาวิทยาลัยก็ลงตัวไปหมด เพราะแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานด้วย
Performance / Software
Lenovo YOGA C640 ที่ได้รับมารีวิวเป็นสเปกขายจริง ได้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับสูงอย่าง Intel Core i7-10510U สถาปัตยกรรม Comet Lakeใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.80 – 4.90 GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 10 – 15 – 25Watt ที่เน้นความแรงกว่า Ice Lake 10 นาโนเมตร รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 8GB DDR4 Bus 2400 MHz (แบบ 4GB x 2 ออนอบร์ด) อีกทั้งได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ไม่ต่างจาก Core i Gen 8U ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
ส่วนการทดสอบพลังประมวลผลด้วยโปรแกรม Cinebench ทั้ง 15 และ 20 ก็ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดีตามระดับของ Core i7 Gen 10U สถาปัตยกรรม Comet Lake ซึ่งประสิทธิภาพดีกว่า Core i7 Gen 10U สถาปัตยกรรม Ice Lake เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก แน่นอนว่าถ้าเอาไปใช้งานทั่วไปพื้นฐานก็มีความลื่นไหลไร้ปัญหาแน่นอน และแม้ว่าจะเป็นการ์ดจอออนชิปแต่ก็พอใช้งานได้ 3 มิติได้บ้าง
ด้านของ Storage เป็น SSD มาตรฐาน NVMe ระดับบน ความจุ 512GB ที่ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ก็พบว่าความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 2355 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนก็อยู่ที่ 1408 MB/s ด้านของความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ สามารถใช้งานทั่วไปได้เหลือเฟือ ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ เร็วกว่ามาตรฐาน SATA 3 หลายเท่าตัว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4043 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คทีมีชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 10 ทำให้มีคะแนนพุ่งใกล้เคียงโน๊ตบุ๊คบางเบาในสเปกที่เป็น Intel Core i Gen 8
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง และ Fingerprint ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Lenovo YOGA C640เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด ประมาณ 4,500 mAh สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานเกือบๆ 18 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบดู YouTube ผ่าน Wi-Fi โดยปรับเป็น Power Saver Mode ถือได้ว่าเป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอ 13.3″ อีกรุ่นหนึ่งเลยที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานในระดับที่ดีเยี่ยม ในการใช้งานจริงก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ทั้งวันได้เลย
ผลการตรวจสอบอุณหภูมิขณะเครื่องทำงานปกติ มีเปิดโปรแกรมทำงานอยู่ด้วยบางส่วน โดยทดสอบเมื่ออยู่ในห้องแอร์อุณหภูมิประมาณ 25 องศา พบว่าความร้อนของ CPU จะอยู่ในช่วง 30 – 40 – 50 องศา ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับปกติของโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ใช้ชิป Core i7 ส่วนถ้าเป็นอุณหภูมิหลังจากทดสอบงานประมวลผลหนักๆ แล้ว จะเห็นว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU นั้นพุ่งไปสูงสุดที่ 92 องศาเซลเซียส แม้อาจจะดูว่าอุณหภูมิของ CPU ค่อนข้างสูง แต่ความร้อนที่แผ่ออกมานั้นก็ไม่ได้รบกวนการทำงานแต่อย่างใด รวมไปถึงถ้าไม่ใช้งานหนัก ตัวเครื่องเองก็ระบายความร้อนออกไปได้อย่างรวดเร็วดี
Conclusion / Award
Lenovo YOGA C640 เป็นโน๊ตบุ๊คสายพกพาบางเบาอีกรุ่นที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านของความกะทัดรัดของตัวเครื่อง ที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมนิดๆ ขอบจอบางเฉียบที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งการใช้งานคีย์บอร์ดก็ยังคงยอดเยี่ยม นับได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Lenovo ที่ทำมาได้ดีโดยตลอด ก็พอมีข้อสังเกตอยู่บ้างจอเป็นจอกระจกทำให้ใช้งานกลางแจ้งค่อนข้างลำบากนิดหนึ่งเพราะแสงสะท้อนเวลาใช้งาน แต่ถ้าใช้งานในห้องธรรมดาก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ซึ่งทางหากใครที่ซื้อมาเพื่อทำงานทั่วไป จดโน้ต หรือวาดรูปต่างๆ ไม่ได้เล่นเกมกินที่สเปคมากนัก บอกเลยครับว่า Lenovo YOGA C640 เครื่องนี้ตอบโจทย์ที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะแทบเป็นโน๊ตบุ๊คไม่กี่รุ่นที่หน้าจอรองรับการใช้งาน Stylus ที่สามารถรู้แรงกดของเดาได้หลายระดับในราคาระดับนี้ ซึ่งจากการใช้งานสามารถทำได้ดีจริงๆ รวมไปถึงเอามาใช้งานออฟฟิศ ดูหนังฟังเพลง หรือเล่นเกมออนไลน์เบาๆ ก็ลงตัวทีเดียว จบในเครื่องเดียวสบายๆ ที่สำคัญแบตเตอรี่ยังใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 18 ชั่วโมงด้วย
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มไฮบริดโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ซึ่ง Lenovo YOGA C640 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ Lenovo YOGA C640 มีความโดดเด่นเรื่องสีสัน รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 13.3 นิ้ว ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Lenovo ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Thin & Light
ความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ บางแค่ 16.95 มิลลิเมตร เบาเพียง 1.25 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่อง ทำให้เป็น 2-in-1 Notebook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง ที่สำคัญแบตเตอรี่ยังใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 18 ชั่วโมง แทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์กันเลยทีเดียว
NBS Verdict
สรุปรีวิว Lenovo YOGA C640 เป็นอีกหนึ่ง 2-in-1 Notebook มาพร้อมความสมบูรณ์แบบพร้อมเปลี่ยนซีรีส์เป็น YOGA ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน โดยสเปกชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Intel Core i7-10510U สถาปัตยกรรม Comet Lake ที่เน้นเรื่องของประสิทธิภาพความแรงที่มากกว่า Ice Lake ซึ่งเป็น Gen 10 ด้วยกัน โดยทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 25Watt โดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel UHD Graphics UHD620 พร้อมแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 2400MHz ส่วนใส่ที่เก็บข้อมูลให้มาแบบ SSD M.2 NVMe ที่ 512GB ความเร็วสูง
ที่นอกจากความบางเบาพรีเมียมแล้วก็ยังสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว Full HD IPS ให้ขอบเขตสีที่ดีเยี่ยม รองรับการใช้งานมัลติทัชที่ลื่นเสมือนใช้สมาร์ทโฟนแถมยังรองรับการใช้ปากกา Stylus ใช้งานวาดรูป รองรับแรงกดได้หลายระดับเสมือนวาดบนกระดาษเลยจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบสนองคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสักเครื่องที่ไว้ใช้ทำงานและหน้าจอสัมผัสวาดรูปได้เป็นอย่างดีเลย ต่อยอดความสำเร็จจาก YOGA รุ่นก่อนๆ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 18 ชั่วโมงด้วย
โดยประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานนี้เป็นจากการมาของชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์ เพราะได้มีสิ่งใหม่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของ Intel เองที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อน เรื่องของประสิทธิภาพและฟีเจอร์ต่างๆ โดยมาพร้อมมาตรฐานใหม่ๆ ที่ดียิ่งขึ้นไป ทำให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ได้ใช้ของดีที่สำคัญคือในราคาที่ถูกลงคุ้มค่ากว่าเดิม สติกเกอร์ก็แตกต่างจาก Itnel Core i Gen 8U ชัดเจนเลยทีเดิมๆ เป็นสีน้ำเงิน แต่ Intel Core i Gen 10U จะเป็นสีเงินๆ ทั้งหมด
ข้อดี
- วัสดุทำจากวัสดุคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ขอบจอบาง พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- หน้าจอสัมผัสมัลติทัชลื่นมาก รองรับแรงกดได้หลายระดับ พร้อม Stylus สามารถใช้วาดรูปได้ดี
- สเปกแรงคุ้มประสิทธิภาพดีด้วย Core i Gen 10U + RAM 8GB + SSD 512GB
- น้ำหนักเบาเพียง 1.25 กิโลกรัม พกพาง่ายพกพาสะดวก
- หน้าจอคุณภาพสูงทัชสกรีน 10 จุด ได้ sRGB ที่ 96% และ AdobeRGB ที่ 74%
- ลำโพงคุณภาพดีมีระบบ Dolby Atmos ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายโหมด กางหน้าจอได้ 360 องศา
- มีระบบสแกนนิ้วมือใช้กับ Windows Hello รักษาความปลอดภัยได้ดี
- ฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้อง
- มีระบบควบคุมด้วย Lenovo Privacy Essentials by FigLeaf
- มาพร้อมกับ SSD m.2 NVMe ความเร็วสูง
- มีไฟ Backlit Keyboard สวยงาม รวมถึงใช้งานได้เป็นอย่างดี
- ตัวเครื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายโหมด กางหน้าจอได้ 360 องศา
- ปากกาสไตลัส Lenovo Active Pen ให้ประสบการณ์ขีดเขียนได้ดี
- มี Windows 10 แท้ในตัวเครื่อง พร้อมซอฟต์แวร์ที่ดี
- ได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ
- ประกัน 2 ปี มาตรฐาน Lenovo
ข้อสังเกต
- พอร์ตการเชื่อมต่อน้อยไปหน่อย น่าจะให้เป็น Thunderbolt 3 มาเลยด้วย
- จอกระจกทำให้เวลาใช้งานกลางแจ้งเจอแสงสะท้อน
- แกะงัดอัพเกรดและทำความสะอาดยาก
Specification
สเปกของ Lenovo YOGA C640 ตัวที่เราได้รับมารีวิวเป็นเครื่องขายจริงสเปกจริง ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-10510U (Comet Lake) ที่เป็นการทำงานแบบ 4 Core 8 Thread ความเร็ว 1.8GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 4.9GHz) เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 25Watt ส่วนกราฟิกภายในชิปเป็น Intel HD Graphics 620 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 Bus 2400 MHz และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ทั้งมีพื้นที่เยอะและลื่นไหล เพียงพอกับการใช้งาน
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย Lenovo YOGA C640 ใช้หน้าจอขนาด 13.3″ รองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วมือและปากกา ความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 ขอบจอบางเฉียบ พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งจัดว่าเป็นสเปคจอที่เหมาะสำหรับการใช้งานแทบทุกรูปแบบ มาพร้อม Windows 10 Home Single Language และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง
พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A ที่เป็นมาตรฐาน จำนวน 2 พอร์ต ส่วนอีกพอร์ตจะเป็น USB Type-C 3.1ส่วนช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. และ HDMI ยังมีมาให้ นอกจากนี้ยังมี Fingerprint สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Windows Hello ของ Windows 10 เพื่อล็อกอินโดยใช้การสแกนนิ้วอีกด้วย สำหรับประกันเป็น 2 ปีแบบ On-site ตามมาตรฐาน Lenovo
Hardware / Design
สำหรับ Lenovo YOGA C640 รุ่นที่ต่อยอด YOGA รุ่นก่อนๆ ซึ่งเป็นซีรีส์บนกว่า YOGA C340 มาดีไซน์โดยรวมถือว่าปรับปรุงจากรุ่นก่อนๆ ในตระกูลของ 2-in-1 Notebook เพิ่มเติมคือมีใหม่ ตัวตัวเครื่องบางลง น้ำหนักเบาลง ได้สีดำเทาที่ออกแนวแมนๆ หน่อย โดยมีชื่อว่า Iron Grey ฝาหลังเป็นโลหะผิวแบบพ่นทราย ซึ่งต้องยอมรับงานประกอบตัวเครื่องดีมากๆ และด้วยพื้นผิวด้านในเป็นแบบซอฟต์ทัชสีเทาสัมผัสพรีเมียม ทำให้ตัวเครื่องดูเนี้ยบหรูสวยงาม แต่ก็ยังให้ความทนทานไปพร้อมๆ กัน
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ Lenovo ลักษณะแบบแผ่นโลหะที่ดูสวยงาม จะมีอยู่ 1 จุดที่มุมตัวเครื่อง ส่วนโลโก้ YOGA จะติดตั้งอยู่มุมฝาหลังของตัวเครื่อง ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะงานประกอบทั้งหมดแทบจะเป็นชิ้นเดียวกันแบบ Unibody ส่งให้เวลาที่เราจับถือหรือใช้งานจะรู้สึกว่าแน่นหนา ซึ่งจากการใช้งานจริงพื้นผิวบางนี้เป็บรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความสะอาดได้เลย ส่วนปุ่ม Power ถูกติดตั้งเอาไว้ด้านข้างตัวเครื่องตัวสไตล์ 2-in-1 Notebook
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lenovo YOGA C640 เป็น 2-in-1 Notebook ที่ทรงประสิทธิภาพในการทำงานทั่วไปเน้นการพกพา เพราะมีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัมเท่านั้น มาพร้อมความบางเพียง 16.95 มิลลิเมตรเท่านั้น บอกได้เลยว่าบางสุดๆ แบบที่หารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก ซึ่งการที่จะบางขนาดนี้ได้ ฮาร์ดแวร์ภายในจำเป็นต้องฝังบอร์ดเกือบทั้งหมด จะมีเพียง SSD M.2 ที่สามารถอัพเกรดได้
หน้าจอก็เป็นแบบขอบจอบาง กล้อง Webcam อยู่ด้านบนที่มีฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter และยังมีระบบควบคุมด้วย Lenovo Privacy Essentials by FigLeaf ซึ่งเป็นคุณสมบัติเสริมใน Lenovo Vantage เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากอีเมลที่หลอกลวง แจ้งเตือนช่องโหว่ที่เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิด และอื่น ๆ อีกมากมาย มิติตัวเครื่องการถือจับตัวเครื่องสามารถจับถือได้อย่างสะดวกด้วยมือเดียว กดลงแรงๆ ตรงคีย์บอร์ดก็ไม่ได้รู้สึกยวบหรือบุบลงไป เหมาะกับการพกพาไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ หรือจะใช้งานเป็นโหมดเป็นแท็บเล็ตพรีเซนต์งานก็ถือว่าทำได้ดี แต่หากถือนานๆ ก็เมื่อยนิดหนึ่งเพราะตัวเครื่องหนักกว่าแท็บเล็ตปกติอยู่พอสมควร
โดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ Lenovo YOGA C640 รุ่นใหม่นั้น ให้ความสวยงามลงตัวมากกว่าเดิมที่สำคัญขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วขอบบาง เหมือนอยู่บนมิติตัวเครื่อง 12.5 นิ้วเลย นอกเหนือจากนี้ยังมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนแบบ 1 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องขอบด้านหลังตัวเครื่อง ทำให้การทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ในการใช้งานไปแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนภายใน ทางด้านใต้ตัวเครื่อจะมีแผ่นรองยางขนาดใหญ่ พร้อมรูระบายความร้อนที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี มาพร้อมงานประกอบเรียบร้อยมาตรฐานโน๊ตบุ๊ค Lenovo ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ทั้งประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องพร้อมตัวอักษรโปร่งแสง มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดีสไตล์ Lenovo ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังเด้งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกดในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบนพร้อมไฟส่องสว่างแสดงสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ที่สำคัญการเข้าใช้งานผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10 ยังสามารถทำได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ที่ติดตั้งอยู่มุมล่างซ้ายของคีย์บอร์ด แน่นอนว่าทำให้เราไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป แถมยังปลอดภัยและรวดเร็วด้วย ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว ถือว่าทำได้ดีได้ไวมากๆ ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนในตลาดปัจจุบันเลย
Screen / Speaker
หน้าจอของ Lenovo YOGA C640 เป็นแบบด้าน พาเนล IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ที่ให้ภาพคมชัด สวยงามทุกมุมมอง เมื่อประกอบกับขอบจอที่บางเฉียบ ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีที่สมจริงพร้อมรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้การทำงานต่างๆ เปิดหน้าเว็บ การชมภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมถึงการเล่นเกมดูเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าและไมโครโฟน 2 ตัวที่ซ่อนเอาไว้อย่างเรียบเนียน
อีกทั้งใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้ และที่ถึงแม้ขอบจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้งกล้องเว็บแคมไปอยู่บริเวณขอบจอด้านบนของหน้าจอได้ ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น การใช้งานก็ง่ายมากๆ ด้วยการใช้นิ้วเลื่อนเปิดหรือปิดการใช้งานเท่านั้น
ห้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% และ AdobeRGB ที่ 74% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจมาก ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 400 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวกลางและทั้งด้านบนซ้ายรวมไปถึงช่องกลางของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวล่างมุมซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 11% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ด้านของลำโพงสเตอรีโอของ Lenovo YOGA C640 ใช้ระบบเสียงคุณภาพสูงอย่าง Dolby Atmos ให้เสียงที่ดี โดยถูกติดตั้งบริเวณด้านซ้ายขวาขอบคีย์บอร์ด ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานดูหนังฟังเพลงแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Multi-Mode
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Lenovo YOGA C640 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ประจำปี 2020 สเปก Core i Gen 10U ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ Lenovo YOGA C640 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน ตามสไตล์และฟีเจอร์ของ Lenovo ที่มีการต่อยอดตระกูล YOGA มาอย่างยาวนานหลายปี
สำหรับปากกาสไตลัส Lenovo Active Pen มีความสามารถเหมือนกันกับสไตลัสของ Microsoft Surface เช่นจะมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานแบบ N-Trig, มีปุ่มบนตัวสไตลัสจำนวน 2 ปุ่มทางด้านข้าง ที่สำคัญสไตลัสนี้ยังรองรับระดับแรงกดได้มากถึง 2,048 ระดับเลยทีเดียวอันนี้การันตีได้จากผู้ใช้งานนักวาดการ์ตูนหลายคนทีเดียว หรือจะใช้ไว้จดงานเขียนหนังสือก็สามารถทำได้สบายๆ เรียกได้ว่าจะลืมการใช้กระดาษแบบเดิมๆ ไปเลย ให้ประสบการณ์เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเรื่องทัชสกรีนและการใช้ปากกาสไตลัส
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Lenovo YOGA C640 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีการกระชับพื้นที่มากๆ ทำให้ไม่มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันเท่าที่ควร โดยมีเพียง USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต (รองรับการชาร์จไฟไปยังอุปกรณ์อื่นๆ) ที่ติดตั้งอยู่ทางด้านซ้ายและขวาอย่างละ 1 พอร์ต พร้อมติดตั้งพอร์ต USB 3.1 Type-C จำนวน 1 พอร์ตที่ด้านขวา (แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่รองรับการใช้งาน Power Delivery ด้วย) ปิดด้วยช้องช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรที่อยู่ด้านซ้าย ถ้าต้องเชื่อมต่อมากกว่านี้คงต้องอาศัย USB-C Hub เพิ่มเติม
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 13.3 นิ้วแบบยุคก่อนๆ ถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.25 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวก้อนอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว เรียกได้ว่าเอาไปใช้งานตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ หรือมหาวิทยาลัยก็ลงตัวไปหมด เพราะแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานด้วย
Performance / Software
Lenovo YOGA C640 ที่ได้รับมารีวิวเป็นสเปกขายจริง ได้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับสูงอย่าง Intel Core i7-10510U สถาปัตยกรรม Comet Lakeใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.80 – 4.90 GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 10 – 15 – 25Watt ที่เน้นความแรงกว่า Ice Lake 10 นาโนเมตร รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 8GB DDR4 Bus 2400 MHz (แบบ 4GB x 2 ออนอบร์ด) อีกทั้งได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ไม่ต่างจาก Core i Gen 8U ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
ส่วนการทดสอบพลังประมวลผลด้วยโปรแกรม Cinebench ทั้ง 15 และ 20 ก็ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดีตามระดับของ Core i7 Gen 10U สถาปัตยกรรม Comet Lake ซึ่งประสิทธิภาพดีกว่า Core i7 Gen 10U สถาปัตยกรรม Ice Lake เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก แน่นอนว่าถ้าเอาไปใช้งานทั่วไปพื้นฐานก็มีความลื่นไหลไร้ปัญหาแน่นอน และแม้ว่าจะเป็นการ์ดจอออนชิปแต่ก็พอใช้งานได้ 3 มิติได้บ้าง
ด้านของ Storage เป็น SSD มาตรฐาน NVMe ระดับบน ความจุ 512GB ที่ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ก็พบว่าความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 2355 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนก็อยู่ที่ 1408 MB/s ด้านของความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ สามารถใช้งานทั่วไปได้เหลือเฟือ ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ เร็วกว่ามาตรฐาน SATA 3 หลายเท่าตัว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4043 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คทีมีชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 10 ทำให้มีคะแนนพุ่งใกล้เคียงโน๊ตบุ๊คบางเบาในสเปกที่เป็น Intel Core i Gen 8
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง และ Fingerprint ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Lenovo YOGA C640เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด ประมาณ 4,500 mAh สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานเกือบๆ 18 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบดู YouTube ผ่าน Wi-Fi โดยปรับเป็น Power Saver Mode ถือได้ว่าเป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอ 13.3″ อีกรุ่นหนึ่งเลยที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานในระดับที่ดีเยี่ยม ในการใช้งานจริงก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ทั้งวันได้เลย
ผลการตรวจสอบอุณหภูมิขณะเครื่องทำงานปกติ มีเปิดโปรแกรมทำงานอยู่ด้วยบางส่วน โดยทดสอบเมื่ออยู่ในห้องแอร์อุณหภูมิประมาณ 25 องศา พบว่าความร้อนของ CPU จะอยู่ในช่วง 30 – 40 – 50 องศา ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับปกติของโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ใช้ชิป Core i7 ส่วนถ้าเป็นอุณหภูมิหลังจากทดสอบงานประมวลผลหนักๆ แล้ว จะเห็นว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU นั้นพุ่งไปสูงสุดที่ 92 องศาเซลเซียส แม้อาจจะดูว่าอุณหภูมิของ CPU ค่อนข้างสูง แต่ความร้อนที่แผ่ออกมานั้นก็ไม่ได้รบกวนการทำงานแต่อย่างใด รวมไปถึงถ้าไม่ใช้งานหนัก ตัวเครื่องเองก็ระบายความร้อนออกไปได้อย่างรวดเร็วดี
Conclusion / Award
Lenovo YOGA C640 เป็นโน๊ตบุ๊คสายพกพาบางเบาอีกรุ่นที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านของความกะทัดรัดของตัวเครื่อง ที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมนิดๆ ขอบจอบางเฉียบที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งการใช้งานคีย์บอร์ดก็ยังคงยอดเยี่ยม นับได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Lenovo ที่ทำมาได้ดีโดยตลอด ก็พอมีข้อสังเกตอยู่บ้างจอเป็นจอกระจกทำให้ใช้งานกลางแจ้งค่อนข้างลำบากนิดหนึ่งเพราะแสงสะท้อนเวลาใช้งาน แต่ถ้าใช้งานในห้องธรรมดาก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ซึ่งทางหากใครที่ซื้อมาเพื่อทำงานทั่วไป จดโน้ต หรือวาดรูปต่างๆ ไม่ได้เล่นเกมกินที่สเปคมากนัก บอกเลยครับว่า Lenovo YOGA C640 เครื่องนี้ตอบโจทย์ที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะแทบเป็นโน๊ตบุ๊คไม่กี่รุ่นที่หน้าจอรองรับการใช้งาน Stylus ที่สามารถรู้แรงกดของเดาได้หลายระดับในราคาระดับนี้ ซึ่งจากการใช้งานสามารถทำได้ดีจริงๆ รวมไปถึงเอามาใช้งานออฟฟิศ ดูหนังฟังเพลง หรือเล่นเกมออนไลน์เบาๆ ก็ลงตัวทีเดียว จบในเครื่องเดียวสบายๆ ที่สำคัญแบตเตอรี่ยังใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 18 ชั่วโมงด้วย
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มไฮบริดโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ซึ่ง Lenovo YOGA C640 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ Lenovo YOGA C640 มีความโดดเด่นเรื่องสีสัน รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 13.3 นิ้ว ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Lenovo ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Thin & Light
ความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ บางแค่ 16.95 มิลลิเมตร เบาเพียง 1.25 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่อง ทำให้เป็น 2-in-1 Notebook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง ที่สำคัญแบตเตอรี่ยังใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 18 ชั่วโมง แทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์กันเลยทีเดียว