Connect with us

Hi, what are you looking for?

Mac Corner

Review – iPad Pro 2018 – iPad ที่แรงที่สุด !!! ขอบจอบาง มี Face ID พร้อมเปลี่ยนเป็น USB-C

เปิดตัวออกมาได้สักพักแล้วครับกับ iPad Pro 2018 ที่บอกได้คำเดียวว่าทุกๆ อย่างนั้นดูดีไปหมดไม่ว่าจะเป็นสเปคเครื่องที่แรง(กับชิปเซ็ท A12X ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล

เปิดตัวออกมาได้สักพักแล้วครับกับ iPad Pro 2018 ที่บอกได้คำเดียวว่าทุกๆ อย่างนั้นดูดีไปหมดไม่ว่าจะเป็นสเปคเครื่องที่แรง(กับชิปเซ็ท A12X ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่มีแกนการประมวลผลถึง 8 แกน) ซึ่งนั่นทำให้ iPad Pro 2018 เร็วกว่าโน๊ตบุ๊คแบบพกพาที่มีอยู่ในตลาดมากกว่า 92% นอกเหนือไปจากนั้นแล้วด้านกราฟิก iPad Pro 2018 ก็ยังเร็วกว่า iPad รุ่นแรกถึง 1000 เท่า ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการมาพร้อมกับพอร์ทการเชื่อมต่อแบบ USB-C ที่สามารถทำให้ต่อเชื่อมกับหน้าจอภายนอกได้ด้วยความละเอียดสูงสุดถึง 5K เลยทีเดียวครับ

2018 iPad Pro Review Featured

Advertisement

สำหรับการรีวิวในครั้งนี้ของทาง The Verge นั้นทาง Apple ได้นำตัวเครื่องรุ่นท๊อปสุดให้กับทาง The Verge มาทำการรีวิวครับ(iPad Pro ขนาดจอ 12.9 นิ้วที่มาพร้อมกับแหล่งเก็บข้อมูลภายในความจุ 1 TB โดยที่ตัวเครื่องนั้นรองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย LTE พร้อมด้วย Smart Keyboard Folio และ Apple Pencil ซึ่งรวมแล้วนั้นราคาจะอยู่ที่ $2,227 หรือประมาณ 73,400 บาท) สำหรับในเรื่องของสเปคนั้นคงไม่ต้องพูดถึงกันครับเพราะว่าตัวเครื่องที่แรงขนาดนี้นั้นทำให้ทาง The Verge ได้เห็นถึงความแตกต่างอย่างแท้จริงของ iPad Pro 2018 กับ iPad ในรุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจนครับ

iPad Pro 2018 review 600 02

สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับหลังจากได้เห็น iPad Pro 2018 อย่างใกล้ชิดนั้นก็คือส่วนของดีไซน์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมในทิศทางที่ดีอย่างมากๆ ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมาในรูปแบบของเครื่องเรียบๆ แต่ที่มุมขอบทั้ง 4 มุมนั้นกับแข็งแกร่งทำให้คาดได้ว่า iPad Pro 2018 นั้นไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเครื่องงอ โดยที่ขอบของตัวเครื่องนั้นอยู่ในระดับที่บางเอามากๆ อีกจุดหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือในส่วนของหน้าจอที่คราวนี้นั้นมุมทั้ง 4 ของตัวหน้าจอจะมาในรูปแบบแนวโค้งตามขอบของตัวเครื่องที่จะว่าไปแล้วนั้นก็ทำให้ iPad Pro 2018 ดูดีอย่างมากครับ

สำหรับหน้าจอของ iPad Pro 2018 นั้นน่าเสียดายที่ยังคงใช้พาเนลเป็นแบบ LCD อยู่ ทว่าก็แลกมาด้วยเทคโนโลยีทางด้านหน้าจอที่อัดมาเต็มแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น 120Hz ProMotion ซึ่งทำให้ตัวหน้าจอนั้นดูราบลื่นกว่าเคยและ True Tone automatic color calibration ที่ทำให้ตัวหน้าจอนั้นรองรับความกว้างของสีที่กว้างเอามากๆ แต่ด้วยที่ทาง Apple นั้นพยายามขยายหน้าจอให้ตัวเครื่อง iPad Pro 2018 มีขอบหน้าจอที่บางที่สุดนั้นก็เลยทำให้ระบบปลดล๊อคด้วย Touch ID ถูกตัดออกไปครับ

ถึงแม้ว่าระบบ Touch ID จะถูกตัดออกไป แต่ iPad Pro 2018 ก็มาพร้อมกับระบบปลดล๊อคแบบ Face ID เหมือนกับ iPhoneX ที่ในครั้งนี้นั้นได้รับการอัพเกรดออกมาให้สามารถทำการปลดล๊อคใบหน้าได้จากทุกๆ ด้านไม่ว่าจะวางตัวเครื่องในแนวตั้งหรือแนวนอนนั้นก็สามารถที่จะทำการปลดล๊อคได้หมดซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างหนึ่งที่ดีมากครับ ที่ลืมไม่ได้ก็คือหากว่าคุณเผลอถือตัวเครื่องในมุมที่มือของคุณไปบังกล้องสำหรับ Face ID นั้นตัวเครื่องจะมีลูกศรชี้ออกมาและบอกคุณให้ย้ายสิ่งที่บังกล้องสำหรับการปลดล๊อคด้วย Face ID ออก ทำให้ในการใช้งานจริงนั้นถือว่ามีความสะดวกเป็นอย่างมากครับ

iPad Pro 2018 review 600 03

การตัดปุ่ม Home ออกไปนั้นทำให้การสั่งการใช้งาน iPad Pro 2018 จะต้องใช้วิธีการกวาดมือลงไปบนหน้าจอเพื่อสั่งงาน(เหมือนกับ iPhoneX) ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยในส่วนของข้อเสียนั้นก็คือผู้ใช้อาจจะต้องใช้งาน iPad Pro 2018 สักระยะหนึ่งถึงจะเริ่มชินกับการควบคุมในแบบนี้ แต่เมื่อคุณใช้งานได้ชินแล้วล่ะก็คุณจะพบได้เลยครับว่าการใช้งานด้วยการกวาดมือนั้นถือว่าง่ายเอามากๆ แถมยังสะดวกสบายด้วยครับ

ตัวกล้องหลังของ iPad Pro 2018 นั้นก็ได้รับการอัพเกรดมาใหม่ โดยจะใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 12 MP พร้อมรูรับแสงที่ f/1.8 ซึ่งหากเทียบกับ iPad Pro รุ่นก่อนหน้านี้แล้วนั้นประสิทธิภาพในการถ่ายภาพถือว่าดีกว่า แถมคุณยังสามารถที่จะใช้งานฟีเจอร์ Smart HDR ได้ด้วยอีกต่างหาก แต่ว่ารูปภาพที่ถ่ายโดยใช้ iPad Pro 2018 นั้นก็ไม่ได้ดีเทียบเท่ากับที่ iPhone XS สามารถทำได้นะครับ

iPad Pro 2018 review 600 04

อุปกรณ์เสริมทั้ง Smart Keyboard รุ่นใหม่และ Apple Pencil นั้นถือว่าสามารถทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดีครับ แต่ครับแค่การที่ Apple ปรับมาใช้พอร์ทการเชื่อมต่อแบบ USB-C แทนแบบเดิมนั้นทำให้เวลาใช้งานเพื่อที่จะฟังเพลงหรือดูคลิปจาก iPad Pro 2018 นั้นคุณจะไม่สามารถใช้อุปกรณ์เก่าร่วมด้วยได้เลย สิ่งหนึ่งที่ทาง Apple แก้ปัญหาดังกล่าวนี้ก็คือในชุดรีวิวที่ทาง The Verge ได้รับมารีวิวนั้นจะมาพร้อมกับ AirPods สำหรับใช้งานในการฟังเสียงครับ(แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปแล้วนั่นหมายความว่าคุณต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อที่จะซื้อ AirPods มาใช้ในการทำงานครับ)

แต่ถ้าคุณสามารถที่จะฟังเสียงจาd iPad Pro 2018 แบบไม่ต้องเกรงใจใครได้ล่ะก็ iPad Pro 2018 นั้นก็มาพร้อมกับลำโพงมากถึง 4 ตัวซึ่งจะให้เสียงแบบจำลองรอบทิศทาง ส่วนไมค์รับเสียงนั้นบน iPad Pro 2018 ก็มีติดตั้งมาให้คุณถึง 5 ตัวด้วยกัน แต่ในการทดสอบอักคลิปนั้นไมค์ทั้ง 5 ตัวก็ยังไม่สามารถที่จะรับเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงที่ห่างออกไปได้ดีเท่าไรครับ

iPad Pro 2018 review 600 05

การเปลี่ยนมาใช้ USB-C แทน Lightning นั้นก็ยังคงมีข้อเสียอยู่ครับ โดยทาง Apple ได้บอกเอาไว้ว่าคุณสามารถที่จะใช้ Dock หรือ adapter ที่เปลี่ยนจาก USB-C เป็น USB-A ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณจะไม่สามารถทำได้เลยก็คือตัว iPad Pro 2018 นั้นจะไม่สามารถมองเห็นแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกอย่างเช่น Flash Drive ที่คุณเสียบเข้าไปได้เลยเนื่องจากเป็นข้อจำกัดของทาง Apple เองที่ไม่ต้องการให้ผู้ใช้สามารถใช้งานในส่วนดังกล่าวนี้ได้ กระนั้นแล้วก็ยังมีช่องว่างอยู่โดย Apple ได้บอกเอาไว้ครับว่าหากผู้พัฒนาภายนอกเขียนแอปออกมาให้ติดต่อกับแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกได้คุณก็จะสามารถใช้งานแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกได้ครับ

สิ่งเดียวที่ iOS 12 สามารถทำได้กับแหล่งเก็บข้อมูลภาพนอกนั่นก็คือเมื่อคุณเชื่อมต่อเอาแหล่งเก็บข้อมูลที่มีรูปภาพเข้ากับ iPad Pro 2018 นั้นตัวเครื่องจะเปิดแอป camera roll แล้วให้คุณเลือกได้ครับว่าจะย้ายรูปจากแหบ่วเก็บข้อมูลภายนอกนั้นมาเก็บเอาไว้บน iPad Pro 2018 หรือไม่ โดยที่คุณจะไม่สามารถทำการย้ายรูปจากแหล่งเก็บข้อมูลโดยตรงมาไว้ในแอป Photo ได้ครับ

iPad Pro 2018 review 600 06

โดยรวมแล้วนั้น iPad Pro 2018 ถือได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่แรง เร็วและน่าใช้งานเป็นอย่างยิ่งครับ ทว่าข้อจำกัดในการใช้งานของมันนั้นก็มีเยอะมากจนต้องกลับมาดูในส่วนของราคาอีกครั้งว่ามันจะเหมาะสมหรือไม่เพราะราคานั้นก็ไม่ใช่จะถูกๆ แถมในรุ่นที่ราคาต่ำสุดนั้นคุณสามารถที่จะนำเอาเงินส่วนนั้นไปซื้อโน๊ตบุ๊คได้แบบสบายๆ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ณ ปัจจุบันนี้ยังคงหาผู้พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับ iPad โดยเฉพาะได้ยากครับ ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วแอปที่คุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ก็จะเป็นแอปที่มาจาก iPhone มากกว่า งานนี้คงต้องเลือกเอาแล้วล่ะครับว่า iPad Pro 2018 นั้นจะเหมาะกับการทำงานของคุณหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม iPad Pro 2018 นั้นก็ถือเป็นสุดยอด iPad ในยุคปัจจุบันนี้อยู่ดีครับ

iPad Pro 2018 review 600 01

ที่มา : theverge

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Mac Corner

ขึ้นชื่อว่าเป็นไอโฟนเป็นใครอยากได้ ว่าด้วยราคาเครื่องจะจ่ายเงินสดรอบเดียวก็ยังได้แต่ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะต้องใช้เงินก้อนเมื่อไหร่ หลายคนจึงเลือกวิธีผ่อนไอโฟนทีละงวดไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ 10 ถึง 30 เดือนก็มี ตามที่ร้านค้ากับธนาคารเจ้าของบัตรจะทำข้อตกลงกันไว้ ทำให้ลูกค้าได้เปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น และยังไม่รวมแคมเปญอื่นๆ จาก Apple กับตัวแทนจำหน่ายแต่ละเจ้าเอามาเป็นจุดจูงใจเพิ่มเติมอีกด้วย ข้อดีของการจ่ายเงินผ่อน นอกจากไม่ต้องลงเงินก้อนครั้งเดียวแต่เฉลี่ยจ่ายไปเรื่อยๆ จนครบได้แล้ว ยังมีเครื่องมือทางการเงินอีกหลายอย่างเข้ามาช่วยแบ่งเบาผู้ใช้ได้อีกมาก ไม่ว่าจะใช้แต้มในบัตรเครดิตหักลดราคาเครื่องก่อนผ่อนชำระได้, กดส่งโค้ดเอาแต้มกับเงินคืนไว้ใช้ในโอกาสอื่นได้ไม่พอ ในยุคนี้บางร้านค้ายังให้ผ่อนด้วยบัตรประชาชนใบเดียวได้อีก เป็นทางเลือกเพื่อคนไม่มีบัตรเครดิตแต่มีเงินในกระเป๋าแบ่งจ่ายค่าเครื่องได้สะดวกไม่แพ้กันAdvertisement ผ่อนไอโฟนวิธีไหนได้บ้าง? ปัจจุบันสามารถผ่อนมือถือได้หลายวิธี...

Mac Corner

พอ Apple เปิดตัว iPhone 16 Series เปิดตัว iPhone 15 ราคาก็ถูกลงตามกลไกการตลาด หลีกทางให้สินค้ารุ่นใหม่และเคลียร์สต็อกสินค้าเก่าไปด้วย ถึงจะตกรุ่นแล้วแต่ถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปเน้น Social network, ถ่ายวิดีโอเก็บภาพความทรงจำและเล่นเกมบ้าง ไม่เน้น Apple Intelligence (AI) ตามสมัยนิยมเอาความแรงตัวชิปเซ็ตเข้าว่า ก็พูดได้ว่าราคาไอโฟน 15 ตอนนี้ก็คุ้มดีแล้วใช้เป็นมือถือเครื่องหลักไปได้อีกหลายปีก่อนจะหมดรอบการอัปเดต iOS...

Accessories review

VOLTME Revo 140 กับ VOLTME RUGG CTC 100W คอมโบสายและอะแดปเตอร์สุดเจ๋ง ชาร์จได้หมดทั้งโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตและมือถือ!! ถ้าเปิดกระเป๋ามานอกจากโน๊ตบุ๊คแล้ว หลายคนก็มีแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนติดกระเป๋ากันแน่ๆ ดังนั้นอะแดปเตอร์อย่าง VOLTME Revo 140 กับสายชาร์จ VOLTME RUGG CTC 100W เลยเป็นไอเท็มคู่สำคัญควรมีติดกระเป๋าเอาไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งใครใช้โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงหรือ MacBook...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก