ในปัจจุบันนั้นระบบปฎิบัติการ Windows 10 ไม่ว่าจะเป็นตัวเต็มหรือตัวที่เป็นเวอร์ชันสำหรับ Insider Program ก็จะมีส่วนที่ให้สามารถปรับค่าของระบบได้ 2 ส่วนครับ ส่วนแรกก็คือ Control Panel ที่เราๆ ท่านๆ นั้นคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเพราะมีใช้มาอย่างยาวนานแล้ว กับอีกส่วนนั้นจะเป็นการปรับ Settings แบบใหม่ที่ปรากฎตัวครั้งแรกใน Windows 8 และมีมาจนถึงระบบปฎิบัติการ Windows 10 นี้ครับ
จาก Twitter ของ Rogers(@billybobjoe2211) ที่ได้มีการโต้ตอบกับ Brandon LeBlanc(@brandonleblanc) และ Gabriel Aul (@GabeAul) เพื่อสอบถามถึงความซ้ำซ้อนของตัวจัดการระบบดังกล่าวนั้นทำให้เราได้ทราบถึงข่าวๆ หนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายดังนี้ครับ
จาก Tweet โต้ตอบดังกล่าวนั้นจะเห็นได้ว่า Microsoft มีความตั้งใจที่จำทำให้ระบบจัดการเครื่องนั้นมีอยู่แค่หนึ่งเดียวครับ จาก Tweet ของ Aul จะเห็นได้ครับว่าการที่มีระบบจัดการเครื่องถึงสองระบบนั้นทำให้ต้องแยกส่วนของการโค้ดออกจากกัน ซึ่งผลที่ตามมาก็คือโค้ดของ Windows 10 นั้นจะมีความซับซ้อนทำให้ใช้พื้นที่ของดิกส์และหน่วยความจำมากจนเกินไป การมีเพียงแค่ระบบจัดการเครื่องเพียงหนึ่งเดียวนั้นจะทำให้ Windows 10 ใช้ทรัพยากรของระบบน้อยกว่าเดิม
และจากที่ LeBlanc ตอบนั้นจะเห็นได้ครับว่าระบบจัดการเครื่องหนึ่งเดียวที่จะยังคงอยู่นั้นก็คือ Settings ที่ได้มีเข้ามาใหม่ตอน Windows 8 เพราะระบบการจัดการเครื่อง Settings นี้จะรองรับการใช้งานอุปกรณ์ Windows ในหลากหลายรูปแบบมากกว่าครับ ทั้งนี้นี่ไม่ใช่การประกาศยืนยันครั้งแรกจากทาง Microsoft ที่จะทำให้ระบบจัดการเครื่องเหลือเพียงหนึ่งเดียวครับ ย้อนไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้นทาง Aul เคยบอกออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า Control Panel จะถูกปรับให้เข้ากับ Modern UI Settings application ใหม่โดย Control Panel แบบเดิมจะถูกกำจัดทิ้งไป แต่ก่อนที่จำกำจัด Control Panel ทิ้งไปอย่างสมบูรณ์นั้นทาง Microsoft ก็จะนำการจัดการทั้งหมดไปรวมอยู่ใน Settings ก่อนครับ
สำหรับกำหนดการแล้วนั้นจากที่ LeBlanc ตอบนั้นเราจะได้เห็นการกำจัด Control Panel ภายใน Windows 10 build ที่จะออกมาภายในเดือนนี้ซึ่งน่าจะเป็นในส่วนของผู้ใช้ Windows Insider Program ก่อนครับที่จะได้รับ ยังไงก็คงต้องตามดูกันต่อไปครับว่า build ไหนที่ทาง Microsoft จะตัด Control Panel ออกอย่างเป็นทางการ
ที่มา : windowscentral