Connect with us

Hi, what are you looking for?

Tips & Tricks

7 วิธีแก้ไขชาร์จแบตไม่เข้า ทำด้วยตัวเองได้ใหม่ 2023 วิธีถนอมแบตให้ใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนแบต

ชาร์จแบตไม่เข้าโน๊ตบุ๊ค เช็คง่ายใน 7 ขั้นตอนดูแล แก้ไขก่อนเปลี่ยนแบตใหม่ รู้จักวิธีถนอมแบตให้ใช้งานได้นาน

fixed Notebook not charge 2023 cov

ชาร์จแบตไม่เข้าโน๊ตบุ๊ค เป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจผู้ใช้หลายคนบางครั้งใช้มา 2-3 ปี ก็เจอปัญหานี้บ้างแล้ว สาเหตุเกิดจากแบตเตอรี่เสื่อม ทำให้ประสิทธิภาพการเก็บประจุได้น้อยลง ทำให้บางครั้งก็ชาร์จได้แต่ช้า จึงเสียเวลาในการทำงาน และใช้งานไม่สะดวกนัก โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางหรือไปข้างนอก ที่บางครั้งอาจหาจุดชาร์จหรือปลั๊กไฟได้ยาก ต้องลุ้นว่าเมื่อไรแบตจะดับ อย่างไรก็ดียังพอมีวิธีจัดการแก้ไขปัญหานี้ได้ในเบื้องต้น ด้วยการตรวจเช็ค ทั้งปลั๊กจุดจ่ายไฟ และการเก็บประจุของแบตเตอรี่ การกระตุ้นแบตให้ใช้งานได้ชั่วคราว ซึ่งในบทความนี้จะรวมไปถึงการแก้ไขก่อนส่งซ่อม เปลี่ยนแบตเตอรี่ และตรวจเช็คราคา สุดท้ายคือวิธีการถนอมแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ป้องกันการเสื่อมสภาพได้ดีกว่าเดิม


ชาร์จแบตไม่เข้าโน๊ตบุ๊ค 7 จุดต้องเช็ค


แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อมเกิดจาก?

ชาร์จแบตไม่เข้า

หลายคนเจอกับปัญหาชาร์จแบตไม่เข้า จากเดิมที่ชาร์จไฟโน๊ตบุ๊คไม่นานก็เต็ม แต่พอใช้ไปไม่นานชาร์จไฟกว่าจะเต็มใช้เวลานานกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงเมื่อชาร์จเต็มแล้ว แต่แบตเตอรี่กลับลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อใช้งาน ตรงนี้ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาการที่บ่งบอกว่าแบตเริ่มเสื่อม ซึ่งระยะเวลาการใช้งานจะลดลงเรื่อยๆ จนกว่าจะชาร์จแบตไม่เข้า เพราะประสิทธิภาพในการเก็บประจุหายไปแล้วนั่นเอง

Advertisement

โดยปกติแบตเตอรี่เองจะมี Cycle หรือรอบการชาร์จของแบต Cycle count ซึ่งแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ จะเริ่มเสื่อมที่ประมาณ Cycle 300-400 รอบขึ้นไป นั่นหมายความว่า ถ้าคุณไม่เตรียมการชาร์จไฟให้ดีตั้งแต่ต้น ก็อาจเกิดการเสื่อมได้ไวขึ้นนั่นเอง ตรงนี้ต้องมาดูกันว่า มีสาเหตุใดบ้างที่ทำให้แบตเสื่อมเร็ว เช่น

ปัญหาหลักๆ ที่เรามักจะเจอเมื่อเกิดอาการชาร์จแบตไม่เข้าเครื่องดับไปดื้อๆ ก็คือ พฤติกรรมของผู้ใช้เอง ไม่ว่าจะเป็น การปล่อยให้แบตหมด เรียกว่าใช้กันจนหมดเครื่องดับไปเอง และอีกเรื่องก็คือ อยู่ในสภาวะที่ร้อนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในสภาวะแวดล้อมที่มีความร้อนสูง หรือปล่อยเอาไว้ในพื้นที่ร้อน ไม่มีการระบายอากาศ เช่น ทิ้งไว้ในรถยนต์กลางแดด อยู่ใกล้พื้นที่การผลิตที่เกิดความร้อนสูง เป็นต้น อีกสิ่งหนึ่งก็คือ การใช้ที่ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ตรงกับโน๊ตบุ๊ครุ่นนั้นๆ ทั้งแรงดันไฟและกระแส ที่ส่งผลต่อแบตเตอรี่โดยตรง ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้หากเป็นไปได้

วิธีเช็คระดับการเก็บประจุของแบตเตอรี่

ชาร์จแบตไม่เข้า

สิ่งที่อาจจะต้องทำ เพื่อเช็คปัญหาชาร์จแบตไม่เข้านี้ อาจะเริ่มจากการเช็คระดับการเก็บประจุ ว่าแบตเตอรี่ยังเป็นปกติหรือไม่ จะได้นำไปวิเคราะห์ปัญหาต่อไป ซึ่งการเช็คการเก็บประจุ ก็ทำได้ตามนี้

  • กดปุ่ม Win แล้วพิมพ์ windows PowerShell แล้วคลิกขวา เลือก Run as Administrator
  • เมื่อหน้าต่าง Windows PowerShell ปรากฏ ให้พิมพ์ “powercfg /batteryreport /output “C:\battery_report.html” แล้ว Enter
  • ย่อหน้าต่างนี้ลงมา จากนั้นไปที่ File Explorer แล้วเข้าไปที่ OS C: แล้วดับเบิลคลิ๊กที่ battery report
  • จากนั้นดูที่ Design capacity คือความจุแบตที่ติดตั้ง
  • และเทียบกับ Full charge capacity จะบอกว่าเมื่อชาร์จเต็มแล้วจะได้เท่าไร ส่วนที่หายไปนั่นคือ ความเสื่อมของแบตโน๊ตบุ๊คนั่นเอง

เปลี่ยนแบตโน๊ตบุ๊คใหม่ราคาเท่าไร

ชาร์จแบตไม่เข้า

ราคาของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับขนาด ความจุของแบต คุณภาพแบตเตอรี่และการรับประกัน ตัวอย่างแบตเตอรี่ Dell แบบบางเบา 52Whr ประกัน 6 เดือน ราคาราว 1,700-1,900 บาท หรืออย่าง Vivobook 15 บางโมเดล ที่มีประกัน 6 เดือนเป็นร้านข้างนอก จะอยู่ที่ 1,800- ,100 บาท โดยประมาณ หรือจะเป็น Lenovo 4-cell 48Whr ประมาณ 1,900-2,300 บาท ย้ำว่าเป็นราคาหน้าร้าน ส่วนถ้าเป็นของศูนย์ก็จะราคาเปลี่ยนแปลงไปจากนี้อีก เช่นเดียวกับการรับประกัน

การเปลี่ยนแบตส่วนใหญ่สามารถเช็คราคาจากหน้าร้าน ด้วยการแจ้งโมเดลของโน๊ตบุ๊ค จากนั้นสามารถยกไปเปลี่ยนได้ทันที ส่วนใหญ่จะไม่มีค่าใช้จ่ายจากทางร้านที่จำหน่าย

วิธีการถนอมแบตเตอรี่ให้ใช้ได้ยาวนาน

หลังจากที่คุณอาจจะต้องถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ หรือซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่แล้ว ถ้าคุณอยากจะให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คใช้งานไปได้นานๆ ก็ต้องมีวิธีการถนอมแบตเตอรี่ในเบื้องต้นที่คุณสามารถทำได้ เช่น

ไม่ควรใช้งานจนแบตหมด เพื่อลดอาการเสื่อมของแบต เรียกว่าใกล้หมดก็ให้ชาร์จเอาไว้ ชาร์จไม่เต็มไม่เป็นไร แต่อย่าให้หมดจนเครื่องดับไปเอง

บางครั้งการลด Cycle ของการชาร์จไฟลง ก็มีส่วนช่วยให้แบตใช้งานได้นานขึ้น ตรงนี้ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน โดยโน๊ตบุ๊คบางรุ่นมีโหมดการชาร์จแบบถนอมแบต โดยจะกำหนดไว้ที่ 80% เมื่อเราชาร์จมาในระดับนี้ ระบบก็จะหยุดการชาร์จไฟเข้าแบตในทันที

โดยการนับ 1 Cycle นั้น จะดูจากแบตเตอรี่ลูกนั้นๆ ถูกชาร์จจากกี่ % จนครบ 100% เท่ากับหนึ่งครั้ง ส่วนถ้าแบตถูกใช้จนหมดไปอยู่ที่ 0% และได้รับการชาร์จจนถึง 100% จะนับ 1 Cycle หรือถ้าเริ่มจากแบต 50% จำนวนชาร์จ 2 ครั้ง ก็เท่ากับ 1 รอบ Cycle นั่นเอง

อย่าเก็บโน๊ตบุ๊คไว้ในที่ร้อน อุณหภูมิสูง นั่นก็เพราะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือแบตเหล่านี้ จะเสื่อมสภาพเร็ว เมื่อเจอกับสภาพแวดล้อมร้อนๆ แบบนี้ เป็นไปได้หาที่จัดเก็บที่มีอุณหภูมิที่เย็นกว่า เพื่อจะได้ถนอมทั้งแบตและโน๊ตบุ๊คให้ใช้งานไปได้นานๆ

โน๊ตบุ๊คบางค่ายมีการเพิ่มระยะประกันแบตเตอรี่ ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดี เพราะอย่างน้อยๆ เงื่อนไขความเสื่อมของแบตโน๊ตบุ๊คยังอยู่ที่การชาร์จและระยะเวลาที่ใช้ ยิ่งนานไปก็จะยิ่งเสื่อมลง แต่ถ้าคุณมีระยะเวลาประกันที่นานขึ้น เมื่อเสื่อมแล้วก็จะได้รับการดูแลต่อไป


1.เช็คปลั๊ก อแดปเตอร์และช่องต่อโน๊ตบุ๊ค

ชาร์จแบตไม่เข้า

บางครั้งการชาร์จไฟต้องผ่านมาหลายการเชื่อมต่อ อย่างเช่น ต่อไฟจากปลั๊กที่ผนัง มายังปลั๊กราง และถึงจะเข้าอแดปเตอร์ ไปยังช่องชาร์จบนโน๊ตบุ๊ค ก็อาจเกิดความผิดพลาดระหว่างช่องทางเหล่านี้ก็เป็นได้ ตั้งแต่ปลั๊กไม่จ่ายไฟ ไปจนถึงอแดปเตอร์เสีย แปลงไฟให้ไม่ได้ ตรงนี้ต้องเช็คไปทีละจุด ตั้งแต่การเปลี่ยน Wall plug ไปจนถึงปลั๊กราง แต่อแดปเตอร์อาจจะยากสักหน่อย หากไม่มีอะไหล่หรือของเทียบเคียง

ซึ่งอแดปเตอร์เหล่านี้ ราคาเริ่มตั้งแต่ครึ่งพัน ไปจนถึง 2-3 พันบาท สำหรับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง ซึ่งการเลือกหามาใช้ จะต้องเช็คค่าโวลต์/แอมป์ให้ตรงกันหรือใกล้เคียง รวมถึงหัวต่อที่เสียบเข้ากับโน๊ตบุ๊คอีกด้วย ดังนั้นควรต้องเช็ครายละเอียดต่างๆ ให้ครบก่อนจะเลือกซื้ออแดปเตอร์มาใช้แทนตัวเก่าที่เสียไป

และสิ่งที่สำคัญก็คือ ควรระมัดระวังกระแสไฟที่ผิดปกติ โดยเฉพาะจากปลั๊กหรือเต้าเสียบที่ไม่แน่น ทำให้จ่ายไฟเข้าสู่โน๊ตบุ๊คไม่นิ่ง ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับโน๊ตบุ๊คได้ในเวลาอันสั้น


2.เช็คอุปกรณ์ชาร์จผ่าน USB-C

ชาร์จแบตไม่เข้า

โน๊ตบุ๊คบางรุ่นมาพร้อมการชาร์จผ่าน USB-C ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีอแดปเตอร์ USB-C มาให้พร้อมใช้งาน แต่บางคนก็มักจะหาที่ชาร์จอย่าง Fast Charger มาสำรองเอาไว้ เผื่อนำไปใช้งานนอกสถานที่ เพราะขนาดที่เล็กกระทัดรัดกว่า อีกทั้งมีหลายพอร์ต รองรับการชาร์จได้ทั้งโน๊ตบุ๊ค มือถือ แท็ปเล็ต ไม่ต้องพกไปหลายอย่าง ก็จัดว่าสะดวกดี

แต่ก็มีเรื่องที่ต้องระวังเช่นกัน เพราะโน๊ตบุ๊คมีระดับพลังการชาร์จทั้งโวลต์/แอมป์ กำหนดมาอยู่แล้ว โน๊ตบุ๊ค เช่น ASUS ExpertBook B5 ที่เดิมรองรับการชาร์จอแดปเตอร์ 90W, 4.5A แต่ถ้าคุณใช้อุปกรณ์ Fast Charger ที่เป็นแบบ 90W-100W เช่นกัน แต่แอมป์น้อยกว่า หรือคุณเลือกชาร์จโน๊ตบุ๊ค 90W และมือถือ 25W ไปพร้อมกัน ก็อาจจะทำให้ลดประสิทธิภาพการชาร์จลง ซึ่งอาจจะทำให้ชาร์จช้าลง หรือบางครั้งชาร์จได้เพียงอุปกรณ์เดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ก็ควรเลือกชาร์จทีละอย่าง หรือคุณจะใช้ Powerbank ในการชาร์มือถือแทน ก็เป็นทางออกที่ดี

การเลือกสายชาร์จ USB-C ก็สำคัญ เพราะสายจะต้องรองรับระดับการชาร์จไฟได้มากพอ โดยจะระบุแรงดันไฟและพอร์ตที่สนับสนุนเอาไว้อย่างชัดเจน


3.ปิดเครื่องชาร์จแบต

ชาร์จแบตไม่เข้า

ในกรณีที่คุณใช้งานโน๊ตบุ๊คไปด้วย ชาร์จไฟไปด้วย แต่แบตเตอรี่อาจจะไม่สามารถเก็บแบตได้ดี ชาร์จแบตไม่เข้า เหมือนกับแบตลดลงเรื่อยๆ ไม่สามารถชาร์จได้ทันกับการใช้งาน วิธีการแก้ไขอีกแนวทางหนึ่งก็คือ การชาร์จไฟแบบปิดระบบทุกอย่าง ด้วยการ Shutdown หรือปิดเครื่องชาร์จไฟนั่นเอง ส่วนหนึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นแบตเตอรี่ไปในตัว เผื่อจะช่วยให้การชาร์จมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วิธีการคือ ให้ปิดเครื่องหรือสั่งชัตดาวน์ระบบ จากนั้นปิดฝาพับและเสียบสายชาร์จทิ้งเอาไว้ ซึ่งอาจจะใช้เวลายาวนานในกรณีที่แบตเตอรี่ยังคงสภาพการเก็บประจุพอได้อยู่ และแบตบางส่วนที่ยังใช้งานไม่เต็มที่ จะกลับมาเก็บไฟได้ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของการใช้งานปกติ หรือมีการชาร์จไฟที่เร็วขึ้น ก็ช่วยให้เราใช้งานไปได้อีกสักระยะ ก่อนจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่


4.ตั้งค่าหน้าจอและระบบให้ประหยัดพลังงาน

ชาร์จแบตไม่เข้า

แต่ในกรณีที่ตรวจเช็คระดับการเก็บประจุของแบตเตอรี่แล้ว มีระดับการเก็บไฟได้ลดลง ชาร์จไฟไม่เข้า ผู้ใช้ก็ต้องปรับตัวในการใช้งานโน๊ตบุ๊คให้สอดคล้องกัน วิธีง่ายๆ ในการที่จะใช้งานแบตเตอรี่ให้ได้ยาวนานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถเสียบไฟหรือต่อสายชาร์จได้ตลอดเวลาก็คือ การใช้งานในโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งทำได้ด้วยการตั้งค่าการใช้งานบนโน๊ตบุ๊คในแบบต่างๆ เหล่านี้

ด้วยการเข้าไปที่ Power & Battery แล้วเลือก Power Mode ให้เป็น Power efficiency เพื่อลดการใช้พลังงานในส่วนต่างๆ ประสิทธิภาพลดลงบ้าง แต่ยังทำงานได้ตามปกติ

ลดการใช้ Visual Effect ของระบบ ซึ่งบางครั้งเอฟเฟกต์ที่สวยงามบนหน้าเดสก์ทอป ก็ทำให้ใช้พลังของระบบมากขึ้น มีผลอย่างยิ่งกับการใช้พลังงาน การปรับลดความสวยงาม แต่ช่วยให้ใช้ได้นานขึ้น ก็ดูจะเป็นผลดีมากกว่า และยังช่วยให้โน๊ตบุ๊คที่อาจจะไม่แรงมาก ทำงานได้ลื่นขึ้นอีกด้วย วิธีการทำได้ดังนี้

คลิ๊กขวาที่โลโก้ Win > เลือก System > Advanced System Settings > เลือกที่ Settings ที่หัวข้อ Performance > ในหัวข้อ Visual Effects เลือก Adjust for best performance

ในบางครั้งตั้งค่าแอพพลิเคชั่นที่ใช้ ให้แสดงผลในแบบ Dark Mode ก็มีส่วนทำให้ประหยัดพลังงานได้ แม้เป็นเรื่องถกเถียงกันมานาน ในแง่ของการประหยัดไฟ จากข้อมูลในสื่อต่างประเทศ ยังคงยืนยันถึงการใช้พลังงานลดลง เมื่ออยู่ใน Dark Mode หรือว่า Dark Theme โดยลดลงมากกว่า 40% ในโหมดความสว่างสูงสุด เมื่อเทียบกับการใช้งานบนธีมสีปกติอีกด้วย ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย สบายตามากกว่าด้วย


5.ทำ Calibrate battery

ชาร์จแบตไม่เข้า

การแก้ไขโน๊ตบุ๊คชาร์จแบตไม่เข้าอาจจะใช้วิธีการ Calibrate battery มีส่วนช่วยให้ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ โดยเฉพาะเมื่อการใช้งานของคุณ ที่บางครั้งไฟสถานะของแบตยังไม่หมด แต่อยู่ๆ โน๊ตบุ๊คก็ดับไป ซึ่งอาจจะเกิดจากระบบไม่สามารถอ่านค่าของแบตที่แท้จริงได้ รวมถึงความเสื่อมของแบตเตอรี่ที่มีมากขึ้น โดยใช้วิธีดังกล่าวนี้มาปรับแก้

เริ่มต้นให้ชาร์จไฟแบตเตอรี่จนกว่าจะเต็ม 100% หรือถ้าแบตเสื่อมแล้ว ชาร์จไปได้สุดที่กี่ % ก็ให้ยึดเอาตามนั้น และเมื่อเต็มที่ ก็ปล่อยชาร์จทิ้งไว้อีก 2-3 ชั่วโมง

จากนั้นให้เข้าไปตั้งค่าบน Sleep mode ไม่ให้โน๊ตบุ๊คเข้าสู่โหมดนี้ เมื่อแบตเตอรี่ลดลงหรือใกล้หมด แล้วใช้งานต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกว่าแบตโน๊ตบุ๊คจะหมด

เสร็จแล้วให้ชาร์จไฟจนกว่าจะเต็มอีกครั้ง ด้วยวิธีการนี้ เป็นการทำให้ระบบสามารถตรวจเช็คระดับแบตที่แท้จริงได้ดีขึ้น และให้ใช้แบตที่ยังคงดีอยู่ใช้งานต่อไปได้ เมื่อแบตในส่วนอื่นๆ มีการลดลงอย่างรวดเร็ว เรียกว่าพอให้ระบบเช็คระดับแบตได้ดีกว่าเดิม

แม้ว่าการ Calibrate จะไม่ได้ช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น หรือกลับสู่สภาพเดิม แต่ก็ทำให้ระบบเช็คระดับแบตได้ดี ไม่ดับหรือปิดหน้าจอ ในขณะที่ยังมีแบตเหลืออยู่


6.ลดการเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็น

ชาร์จแบตไม่เข้า

และในเมื่อโน๊ตบุ๊คชาร์จแบตไม่เข้า และเรายังคงต้องใช้งานต่อไป ระหว่างจะไปเปลี่นยแบตเตอรี่หรือซื้อเครื่องใหม่ เราก็ยังพอใช้งานได้ ด้วยการลดการเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็น เพื่อลดการใช้พลังงาน ซึ่งมีด้วยกันหลายวิธี เช่น

  1. ปิดฟังก์ชั่นบางอย่างลงบ้าง เช่น ถ้าไม่ได้ต่อไฟชาร์จ ก็อาจงดใช้เมาส์ เปลี่ยนมาใช้ทัชแพด
  2. บลูทูธเปิดค้างไว้ แล้วไม่ได้ต่อใช้อุปกรณ์ ก็ปิดการเชื่อมต่อได้
  3. หน้าจอที่สว่างเกินไป ปรับลดลงมาให้พอมองเห็นชัดเจน ก็ช่วยลดการใช้แบตไปได้เยอะ
  4. การพิมพ์งานในห้องปกติ มีแสงไฟสว่าง ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟคีย์บอร์ด
  5. กล้องเว็บแคมที่ไม่ได้ใช้ประชุมในระหว่างนั้น ปิดลงก็ได้เช่นกัน
  6. ถ้าต่อ Cooling Pad ที่มีพัดลมอยู่และใช้ไฟจาก USB ก็ให้ถอดออกก่อน เพื่อถนอมแบตได้นานขึ้น

และยังมีอีกหลายวิธีในการปิดใช้อุปกรณ์บางอย่างลง เพื่อลดการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค และช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม แม้จะไม่ได้ต่อสายชาร์จไฟเอาไว้ก็ตาม


7.ติดต่อศูนย์บริการ

ชาร์จแบตไม่เข้า

ถ้าสุดท้ายแล้ว ไม่สามารถใช้งานแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คได้หรือชาร์จแบตไม่เข้าได้ตามปกติ หรือถ้าไม่ได้เสียบไฟแล้วเครื่องดับเลยทันที ตรงนี้ก็คงต้องได้เวลาที่ต้องส่งโน๊ตบุ๊คเข้าศูนย์บริการ เพื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ในการคืนชีวิตให้กับโน๊ตบุ๊คของคุณอีกครั้ง ซึ่งในการเปลี่ยนใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่คุณอาจจะต้องเดินทางไปที่ศูนย์บริการด้วยตัวเอง หรือผ่านตัวแทนที่เป็นสาขาในแต่ละแห่งทั่วภูมิภาค

  • ศูนย์บริการ ASUS
  • ศูนย์บริการ Acer
  • ศูนย์บริการ MSI
  • ศูนย์บริการ Lenovo
  • ศูนย์บริการ HP
  • ศูนย์บริการ Dell

สิ่งที่จะต้องติดตามก็คือ การรับประกันแบตเตอรี่เป็นอย่างไร ระยะเวลาที่เหลือ เงื่อนไขหรือมีการรับประกันเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง เช่น โน๊ตบุ๊คบางรุ่นมีการขยายการรับประกันแบตเตอรี่จากเดิม 1 ปี เป็น 2 ปี ในกรณีที่อยู่ในเงื่อนไข ก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างอุ่นใจยิ่งขึ้น บางครั้งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าให้ความคุ้มค่าในระยะยาว


Conclusion

วิธีการข้อดี
1.เช็คปลั๊ก อแดปเตอร์และช่องต่อโน๊ตบุ๊คตรวจเช็คสาย ปลั๊ก อแดปเตอร์ที่ต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊คเช็คในเบื้องต้นที่อาจเกิดจากสายชาร์จ
2.เช็คอุปกรณ์ชาร์จผ่าน USB-Cเช็คที่ชาร์จเสริม เช่น Fast Charger มีระดับการชาร์จได้ตามปกติหรือไม่เช็คได้ง่าย สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมได้
3.ปิดเครื่องชาร์จแบตชัตดาวน์โน๊ตบุ๊คแล้วชาร์จไฟเป็นการกระตุ้นแบต
4.ตั้งค่าหน้าจอและระบบให้ประหยัดพลังงานDimm แสงไฟหน้าจอ ปรับโหมดประหยัดพลังงานใช้งานได้นานขึ้น แม้แบตจะเสื่อมลงแล้ว
5.ทำ Calibrate batteryเซ็ตให้โน๊ตบุ๊คเช็คระดับแบตได้ลดปัญหาแบตยังไม่หมดแต่โน๊ตบุ๊คดับ
6.ลดการเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็นลดการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และอุปกรณ์ไร้สายลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ประหยัดแบตได้
7.ติดต่อศูนย์บริการส่งศูนย์บริการ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยแก้ปัญหาเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ใช้ได้อีกนาน

อาการของโน๊ตบุ๊คชาร์จแบตไม่เข้า แม้จะเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่น่าปวดหัว ที่แม้จะปี 2023 นี้แล้ว ก็ยังส่งผลกระทบต่อผู้ใช้โน๊ตบุ๊คไม่น้อยเลยทีเดียว หากคุณเจอกับปัญหาจากแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คนี้ ลองใช้วิธีง่ายๆ ในการตรวจเช็ค และปรับใช้ในช่วงที่ยังไม่ไปเปลี่ยนแบตใหม่ ไปลองทำกันดูครับ การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของรูปแบบแบตเตอรี่ในปัจจุบัน ก็มีทั้งเรื่องที่ดี และไม่ดีคละกันไป นั่นก็คือ แบตเตอรี่เปลี่ยนมาเป็นลิเธียมโพลิเมอร์ ที่มีคุณภาพในการเก็บประจุสูง ชาร์จได้เร็ว และทนทาน แต่ในการถอดเปลี่ยนไม่ง่ายเหมือนในอดีต ที่อยู่ภายนอก ปลดตัวล็อคแล้วเอาแบตใหม่มาเปลี่ยนได้เลย ในปัจจุบันต้องแกะโน๊ตบุ๊ค ถอดสายต่อขั้วแบตบนเมนบอร์ด ถึงจะเปลี่ยนแบตลูกเก่าออกได้ ซึ่งโน๊ตบุ๊คบางรุ่นแกะยากมาก ต้องพึ่งพาช่างซ่อมที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น อย่างไรก็ดีผมแนะนำว่า ถ้าเช็คแล้วแบตเสื่อมสภาพมากเกินไป ให้เปลี่ยนใหม่จะเหมาะสมที่สุด เพราะให้ความปลอดภัย และแบตเตอรี่ใหม่ ก็ยังใช้งานได้ยาวนานขึ้น สนนราคาก็ถูกลงกว่าในอดีตอยู่ไม่น้อยเลย ศูนย์บริการหรือร้านต่างๆ ก็สามารถเปลี่ยนให้ได้ ลองดูแนวทางตามที่สะดวกได้เลยครับ

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

สำหรับผู้ใช้โน๊ตบุ๊คสิ่งสำคัญมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยืนยาวแน่ๆ และนี่คือ 10 เทคนิคการปรับแต่งสำหรับ Windows 11 ที่จะช่วยให้คุณยืดอายุมันได้ยาวๆ แบตเตอรี่แล็ปท็อปเสื่อมสภาพตามกาลเวลาและสูญเสียความจุ ส่งผลให้มีเวลาทำงานน้อยลง เราเองก็เผชิญกับสถานการณ์เดียวกันกับโน๊ตบุ๊ค Windows 11 ของเรา แต่หลังจากปรับแต่งการตั้งค่า Windows 11 ที่ซ่อนอยู่ดังต่อไปนี้เราพบว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่มีการปรับปรุงดีขึ้นเป็นอย่างมาก จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย ปรับแต่งโหมดพลังงาน เปิดใช้งาน Battery Saver หรือ Energy...

Buyer's Guide

เลือกปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง เน้นทน ต่อได้เยอะ เริ่มแค่หลัก 100 ปี 2024 ปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง หรือราง ปลั๊กไฟ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ใช้อุปกรณ์ไอที นอกเหนือจากเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะให้ความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และพกพาไปใช้ได้ทุกที่ โดยเฉพาะคนเดินทาง ที่บางครั้งปลั๊กไม่พอใช้ แต่การเลือกใช้ปลั๊กรางแบบนี้ ก็ต้องพิจารณาในหลายส่วนด้วยกัน เพื่อความปลอดภัยต่ออุปกรณ์ และระบบไฟในบ้าน จะต้องดูสิ่งใดบ้าง รวมถึง...

Buyer's Guide

หลังจาก iPhone 12 เป็นต้นมามีฟีเจอร์ MagSafe ซึ่งเป็นการเสริมวงแม่เหล็กเข้ามาล้อมคอยล์ชาร์จไร้สายแล้ว ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมก็ทำพาวเวอร์แบงค์ใช้กับ MagSafe ได้ออกมาวางขายเพิ่ม สังเกตจะเห็นว่าบอดี้ของมันจะเหมือนแบตสำรองรุ่นที่มีขายมาก่อนหน้านี้แต่เพิ่มวงกลมสีเข้มเข้ามาบอกว่าให้เอาด้านนี้ติดด้านหลังมือถือก็จะชาร์จไร้สายได้ทันที ด้านมือถือ Android ถ้าชาร์จไร้สายได้ก็ใช้ได้แต่จะไม่ดูดติดอยู่ด้านหลังเครื่อง ต้องหาเอาวงแหวนแม่เหล็กมาติดเพิ่มซึ่งแบตสำรองบางตัวก็แถมมาให้หรือซื้อเพิ่มราคาก็ไม่กี่สิบบาทเท่านั้น พาวเวอร์แบงค์ MagSafe ดีอย่างไร? พาวเวอร์แบงค์ MagSafe ใช้เทคโนโลยีชาร์จไร้สายชาร์จไฟให้สมาร์ทโฟนและยึดติดหลังมือถือด้วยแม่เหล็ก จึงติดสนิทไม่หลุดง่าย iPhone 12 เป็นมือถือรุ่นแรกที่มีแม่เหล็ก...

Buyer's Guide

แนะนำวิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่ ไอแพด ที่ Apple หมดประกันก็ทำได้ แถมยังได้เครื่องใหม่ด้วย อัพเดท 2024 ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบไหนที่ใช้งานแบตเตอรี่ เมื่อใข้งานไป 1-2 ปีขึ้นไป ก็มักจะพกกับอาการแบตเสื่อม ทำให้ช่วงระยะเวลาในการใช้งานผ่านแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานได้น้อยลง กับอุปกรณ์อย่าง iPad เองก็เช่นเดียวกัน ซึ่งหลายๆ คนก็มักจะเลือกนำไอแพดไปเปลี่ยนแบตเตอรี่กับร้านตามท้องตลาดที่มีหลากหลายร้าน แต่สิ่งที่ต้องแลกมานั่นก็คือแบตเตอรี่ไม่อาจจะไม่ใช่ของแท้ ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากจะพามาดูราคาและเงื่อนไขสำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ไอแพด...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก