Connect with us

Hi, what are you looking for?

CONTENT

ทำความรู้จักกับ Shell Infrastructure Host พร้อมวิธีแก้ไขการใช้ทรัพยากรเครื่องสูง

Shell Infrastructure Host เป็นโปรเซสที่น่าสงสัยที่สุดบน Windows เพราะใช้ทรัพยากรของเครื่องสูงมาก มาทำความรู้จักกับมันและวิธีจัดการแก้ไขกัน

Shell Infrastructure Host
Shell Infrastructure Host

เคยเจอปัญหาไหมที่อยู่ๆ ก็รู้สึกว่า Windows ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด โดยหากคุณเป็นคนที่คุ้นเคยกับระบบปฎิบัติการ Windows อยู่บ้างเชื่อว่าคุณจะเข้าไปดูโปรเซสที่กำลังทำงานอยู่ผ่านทาง Task Manager ซึ่งในบางครั้งคุณจะพบว่ามีโปรเซสหนึ่งทำงานอยู่ตลอดเวลาภายใต้ชื่อ Shell Infrastructure Host หรือไฟล์ sihost.exe ทำงานอยู่แถมมันก็ใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์คุณ(โดยเฉพาะหน่วยประมวลผล) หนักมาก

หลายท่านอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร เป็นไวรัสหรือไม่ ก่อนที่คุณจะทำอะไรลงไปกับมันนั้น เราอยากขอแนะนำให้คุณทำความรู้จักกับมันผ่านบทความนี้ พร้อมกับวิธีการแก้ไขเบื้องต้นเพื่อที่คุณจะได้สามารถแก้ไขปัญหาที่น่าหนักใจดังกล่าวนี้ได้

Advertisement


ทำความรู้จักกับ Shell Infrastructure Host

sihost exe in windows 10

โปรเซส Shell Infrastructure Host หรือที่อยู่ในรูปแบบไฟล์ sihost.exe บน Windows นั้นมีเอาไว้เพื่อสร้างและดูแลอินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิกสำหรับองค์ประกอบต่างๆ ของระบบปฎิบัติการ Windows ตัวอย่างที่เด่นชัดมากที่สุดเลยก็คือโปรเซสดังกล่าวนี้จะทำหน้าที่ในการจัดการลักษณะที่ปรากฏของพื้นหลังเดสก์ท็อป, การแจ้งเตือนแบบโผล่ขึ้นมาบนหน้าจขอและแถบงานต่างๆ ที่ใช้งานบนหน้าจอ ณ เวลานั้นๆ

Shell Infrastructure Host เป็นโปรเซสที่ทำหน้าที่ดูแล UI บนระบบปฎิบัติการ Windows

โดยทั่วไปโปรเซส Shell Infrastructure Host จะใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างหน่วยประมวลผล(CPU) และหน่วยความจำ(RAM) ไม่สูงมากเท่าไรนัก อันที่จริงแล้วโปรเซส Shell Infrastructure Host แทบจะไม่เป็นภาระต่อระบบปฎิบัติการ Windows ของคุณเลยด้วยซ้ำไป

ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็อย่าพึ่งย่ามใจไปเพราะโปรเซส Shell Infrastructure Host ก็เหมือนกันกับโปรเซสอื่นๆ ของระบบปฎิบัติการ Windows ที่ในบางครั้งปัญหาเกี่ยวกับแอปพลิเคชันบางแอปหรือการเปิดใช้ฟีเจอร์บางอย่างของ Windows อาจทำให้โปรเซส Shell Infrastructure Host ต้องใช้ทรัพยากรมาก ซึ่งนั่นเลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา

Sihost.exe ใน Windows 11 รวมถึง Windows รุ่นก่อนหน้านี้(ย้อนไปถึง Windows 7) เป็นไฟล์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ซึ่งโฟลเดอร์ที่ตัวไฟล์นี้ถูกเก็บอยู่นั้นก็คือ “C:\ Windows\System 32\” ดังนั้นหากถามในเบื้องต้นแล้วบอกได้เลยว่า Shell Infrastructure Host หรือไฟล์ Sihost.exe ที่อยู่ในโฟลเดอร์ดังกล่าวนี้ไม่ใช่ไฟล์มัลแวร์หรือไวรัสที่ผู้ไม่ประสงค์ดีแอบมาติดตั้งไว้บนเครื่องของคุณอย่างแน่นอน

Sihost.exe ที่อยู่ในโฟลเดอร์ “C:\ Windows\System 32\” เป็นไฟล์ของ Microsoft โดยตรงไม่ใช่ไวรัส

แต่ว่าอย่าพึ่งไว้ใจไปเพราะผู้ไม่ประสงค์ดีมักจะตั้งชื่อไฟล์มัลแวร์หรือไวรัสให้เหมือนกันกับไฟล์ที่เป็นระบบปฎิบัติการเครื่องอยู่ซึ่งไฟล์ Sihost.exe เองนั้นก็โดนปลอมแปลงกับเขาด้วยเช่นเดียวกันเนื่องจากมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะทำให้ผู้ใช้ทั่วไปอย่างเราๆ ท่านๆ ไม่สนใจว่ามันเป็นมัลแวร์หรือไวรัสถึงแม้ว่ามันจะใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์สูงอยู่ตลอดเวลามาก็ตาม

Sihost.exe Process in Windows 10 1

คุณสามารถที่จะตรวจสอบการทำงานของโปรเซส Shell Infrastructure Host ได้โดยการเปิด Task Manager โดยการคลิกขวาที่ Task bar แล้วเลือก “Task Manager” จากนั้นดูที่แท็บ ” Processes” แล้วเลื่อนเลื่อนลงไปข้างล่างทีละเล็กน้อยเพื่อดูโปรเซส “Shell Infrastructure Host” หรือไฟล์ Sihost.exe 

หากคุณพบว่าโปรเซส Shell Infrastructure Host ไม่ได้ใช้ทรัพยากรของเครื่องมากจนผิดปกติ เราขอยินดีด้วยว่าเครื่องของคุณนั้นน่าจะยังไม่มีปัญหากับโปรเซส Shell Infrastructure Host ณ เวลาที่คุณเปิดดูอย่างแน่นอน

เราสามารถ Disable หรือ Terminate การทำงานของไฟล์ Sihost.exe ได้หรือไม่

คุณสามารถยุติกระบวนการ Sihost.exe ได้โดยคลิกปุ่ม “End Task” ใน Task manager ซึ่งการกระทำเช่นนี้นั้นจะยุติกระบวนการทำงานของไฟล์ Sihost.exe ลง อย่างไรก็ดีกระทำดังกล่าวไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งหากเครื่องของคุณทำงานได้อย่างปกติและโปรเซส Shell Infrastructure Host ไม่ได้ใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมากจนผิดสังเกต

การยุติการทำงานโปรเซส Shell Infrastructure Host นั้นอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงกับระบบเนื่องจาก Sihost เป็นไฟล์ระบบดังที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น แต่ถ้าหากคุณยังอยากจะซนลองยุติการทำงานมันดูแล้วล่ะก็คุณอาจจะได้เจอกับปัญหาการใช้งานเช่นไม่สามารถเปิด Start Menu และ Cortana ได้ นอกไปจากนี้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคุณอาจพบการหยุดทำงานของ file explorer บ่อยครั้งจนทำให้ใช้งานอะไรไม่ได้เลย

อย่าลบไฟล์ Sihost.exe ที่อยู่ในโฟลเดอร์ “C:\ Windows\System 32\” เด็ดขาดเพราะมันจะเป็นการทำให้ Windows Shell เสียหายอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งวิธีแก้ปัญหาคือคุณต้องลง Windows ใหม่เท่านั้น

จะเกิดอะไรขึ้นหาก Sihost.exe เสียหาย

ไฟล์ Sihost.exe หรือโปรเซส Shell Infrastructure Host ที่มีข้อบกพร่อง(หรือได้รับความเสียหาย) อาจทำให้ระบบของคุณทำงานช้าและแสดงข้อความแสดงข้อผิดพลาดประเภทต่างๆ เช่น

  • Shell Infrastructure Host has stopped working.
  • A problem has occurred that caused the program to terminate.
  • Access violation of the address FFFFFFFF in Shell Infrastructure Host (Sihost.exe) module and reading the address 00000000 (an Unknown hard error).

Sihost.exe ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อระบบคอมพิวเตอร์ของคุณอย่างที่เราได้กล่าวไว้แล้วในข้างต้น แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าบางทีมันก็น่าสงสัยว่า Sihost.exe ที่ใช้งานทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์มากจนเกินไปนั้นเป็นมัลแวร์หรือไวรัสรึไม่ ขึ้นตอนต่อไปเราจะมาทำการตรวจสอบดูกันว่า Sihost.exe ที่คุณกำลังสงสัยอยู่นั้นเป็นไฟล์ระบบจริงๆ หรือเป็นมัลแวร์ที่แอบแผงเข้ามาในเครื่องของคุณ


วิธีเช็คว่า Shell Infrastructure Host เป็นไวรัสหรือไม่

Sihost.exe Process in Windows 10 2

อย่างที่บอกไปว่ามัลแวร์และไวรัสจำนวนมากสามารถแฝงตัวไปยังไฟล์ระบบได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะหลอกให้คุณไม่สงสัยว่าได้โดนมัลแวร์หรือไวรัสเข้าไปแล้ว ดังนั้นหากคุณต้องการตรวจสอบดูว่าไฟล์ Sihost.exe ยังคงเป็นไฟล์ระบบจากทาง Microsoft ที่ไม่มีอันตรายแฝงตัวหรือไม่ให้ทำตามขึ้นตอนดังต่อไปนี้

  • เปิด “Task Manager” และเลือก “Shell Infrastructure Host” คลิกขวาแล้วเลือก “Properties”
Sihost.exe Process in Windows 10 3 353x500 1
  • คลิกที่แท็บ “Details” และอ่านคำอธิบายของไฟล์ หากเป็นไฟล์ของแท้จะมีลิขสิทธิ์จาก Microsoft Corporation

อีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถทำการตรวจสอบว่า Sihost.exe เป็นไฟล์ที่เป็นอันตรายหรือไม่นั่นก็คือการตรวจสอบตำแหน่งในไดเร็กทอรีโดยสามารถที่จะทำตามขั้นตอนด้านล่างต่อไปนี้

Sihost.exe Process in Windows 10 4
  • เปิด Task Manager คลิกขวาที่ “Shell Infrastructure Host” และเลือกตัวเลือก “Open File Location
  • ตรวจสอบไดเร็กทอรีที่มีไฟล์อยู่ หากอยู่ในไดเร็กทอรี C:\Windows\System32 คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกต่อไป แต่ถ้าไดเร็กทอรีอื่นๆ แล้วล่ะก็ นี่เป็นสัญญาณว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณโดนไวรัสหรือมัลแวร์เข้าให้แล้ว

เตือนอีกครั้งอย่าลบอย่าลบไฟล์ Sihost.exe ที่อยู่ในโฟลเดอร์ “C:\ Windows\System 32\” เด็ดขาด

Sihost.exe Process in Windows 10 5

จัดการ “Shell Infrastructure Host” ปลอมที่เป็นมัลแวร์หรือไวรัส

ทีนี้เรามาดูกันต่อว่าเราจะจัดการกับโปรเซส “Shell Infrastructure Host” หรือไฟล์ Sihost.exe ที่เป็นไวรัสหรือมัลแวร์กันได้อย่างไร วิธีการที่ง่ายที่สุดคือจัดการสแกนพีซีของคุณด้วยซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและมัลแวร์ชื่อดัง

ในกรณีที่คุณพบว่าโปรเซส “Shell Infrastructure Host” หรือไฟล์ Sihost.exe ยังไม่โดนมัลแวร์หรือไวรัสฝัง คุณสามารถที่จะป้องกันได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้

  • อัปเดต Windows ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุด เพราะการอัปเดตใหม่ล่าสุดจะมีการแก้ไขช่องโหว่ในตัวระบบปฎิบัติการที่เป็นเป้าหมายของของผู้ไม่ประสงค์ดีได้
  • ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีประสิทธิภาพและอย่าปิดไฟร์วอลล์
  • อัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสของคุณให้ทันสมัยอยู่เสมอ
  • อย่าเปิดลิงค์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
  • อย่าบันทึกรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญของคุณบนเว็บเบราว์เซอร์ โดยเฉพาะรายละเอียดบัตรเครดิตและธนาคารเนื่องจากอาจถูกดูดข้อมูลออกไปได้โดยไม่รู้ตัว
  • ติดตั้ง Windows ที่ถูกลิขสิทธิ์เสมอ การโหลดไฟล์ ISO  Windows ที่ผ่านการดัดแปลงมาเพื่อติดตั้งคุณอาจจะได้มัลแวร์หรือไวรัสเป็นของแถม

การแก้ไข Shell Infrastructure Host ใช้งานทรัพยากรเครื่องสูง

หากคุณได้อ่านมาจนถึงตรงนี้และทำการตรวจสอบแล้วว่าโปรเซส “Shell Infrastructure Host” หรือไฟล์ Sihost.exe ไม่ได้ติดมัลแวร์หรือไวรัสอย่างแน่นอน แต่โปรเซส “Shell Infrastructure Host” หรือไฟล์ Sihost.exe ก็ยังคงใช้ทรัพยากรของเครื่องมากผิดปกติ เหตุการดังกล่าวนี้อาจจะมาจากสาเหตุหลักสองประการคือหน่วยความจำรั่วจากแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมบางโปรแกรม และการตั้งค่าส่วนบุคคลหรือ Personalization ไม่ถูกต้อง ซึ่งเราจะแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามขั้นตอนด้านล่างต่อไปนี้

ทำการตรวจสอบเบื้องต้น

  1. ปิดแอปที่เน้นกราฟิกทั้งหมดและเปิดทีละแอปหากคุณใช้งานหลายแอปพร้อมกัน(โดยเฉพาะกับผู้ใช้งานโปรแกรม Wallpaper Engine ที่ใช้งานทรัพยากรสูงมากสำหรับกราฟิกหน้าเดสก์ท็อปบางประเภท)
  2. ปิดใช้งานวิดเจ็ตและการปรับแต่งเดสก์ท็อปอื่นๆ ชั่วคราว
  3. ไปที่ Task Manager ค้นหากระบวนการ Shell Infrastructure Host คลิกขวาที่มันแล้วกด End task แล้วทำการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ระบบเริ่มต้นใหม่
  4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบปฏิบัติการ Windows ของคุณเป็นรุ่นล่าสุด
  5. ตรวจสอบว่ากระบวนการของ Shell Infrastructure Host เป็นของแท้และไม่ใช่ไวรัสที่ตั้งชื่อตามชื่อไฟล์ระบบของ Microsoft
  6. เรียกใช้การสแกน SFC และ DISM เพื่อแก้ไขไฟล์ระบบที่เสียหายซึ่งอาจทำให้ระบบของคุณทำงานหนักเกินไป(สามารถดูวิธีการใช้งานได้จาก 20 Windows Command Prompt (CMD) ที่คุณควรรู้)
  7. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไดรเวอร์กราฟิกของคุณเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดเสมอเนื่องจากในเวอร์ชันใหม่ๆ นั้นจะมีการแก้ไขปัญหาออกมาอย่างต่อเนื่อง
  8. ใช้การสแกนมัลแวร์แบบออฟไลน์ของ Microsoft Defender ตรวจสอบให้มั่นใจว่า Shell Infrastructure Host บนเครื่องของคุณนั้นไม่ได้ถูกมัลแวร์หรือไวรัสแฝงตัวอยู่

หากทำตามขั้นตอนขั้นต้นแล้วก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณสามารถลดการใช้ทรัพยากรของโปรเซส Shell Infrastructure Host ได้โดยการตรวจสอบการรั่วไหลของหน่วยความจำในแต่ละแอปพลิเคชันและปรับแต่งการตั้งค่าส่วนบุคคล ซึ่งสามารถที่จะทำได้ตามวิธีการทางด้านล่างต่อไปนี้

วิธีจัดการแก้ไขปัญหาหน่วยความจำรั่วไหล

หน่วยความจำรั่วในแอปที่เน้นการใช้งานทรพยากรด้านกราฟิกเช่น แอปสำหรับดูรูปภาพที่ติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows, Paint 3D และอื่นๆ เป็นสาเหตุหลักอันดับแรกๆ ที่โปรเซส Shell Infrastructure Host ใช้หน่วยความจำ(RAM) มากเกินไป

หน่วยความจำรั่วคือการที่ระบบปฎิบัติการจัดสรรทรัพยากรหน่วยความจำ(RAM) ไม่ถูกต้อง ตัวอย่างง่ายๆ ที่สามารถเห็นได้ชัดเจนก็คือแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมที่เปิดขึ้นมาใหม่ไม่สามารถเรียกใช้งานได้ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วหน่วยความจำของคุณจะว่างอยู่ก็ตาม

วิธีการสังเกตว่าแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมไหนที่มีอาการหน่วยความจำรั่วก็คือให้คุณทำการดูใน Task Manager ว่าแอปหรือโปรแกรมนั้นใช้หน่วยความจำ(RAM) มากผิดปกติหรือบ่อยๆ หรือไม่ หากคุณเจอแอปหรือโปรแกรมที่คุณสงสัยแล้วว่าทำให้เกิดอาการหน่วยความจำจะรั่ว คุณสามารถที่จะแก้ไขได้ตามขั้นตอนทางด้านล่างต่อไปนี้

Image 1 Changing Advanced Options Settings of Microsoft Photos App in Windows Settings App
  • คลิกขวาที่ปุ่ม Windows Start แล้วเลือก Apps and Features
  • ค้นหาแอปที่มีปัญหาในรายการ
  • คลิกที่จุดแนวตั้งสามจุดถัดจากแอป(จุดที่อยู่ทางด้านขวา) แล้วเลือก  Advanced options
Image 2 Clicking on the Repair Button under Reset Option in the Advanced Options Settings of Microsoft Photos App in Windows Settings App
  • จากนั้น เลื่อนลงและคลิก Repair

นอกจากจะ Repair แล้วคุณยังสามารถ Reset แอปได้โดยคลิกที่ปุ่ม Reset ที่อยู่ด้านล่าง Repair อย่างไรก็ตามก่อนที่จะ Reset นั้นเราขอให้คุณลอง Repair ดูก่อนว่าแก้ปัญหาได้หรือไม่เนื่องจากการ Reset นั้นจะทำให้ข้อมูลของแอปดังกล่าวหายทั้งหมด ขั้นต่อมาหาก Reset ดูแล้วก็ยังไม่ได้ผลให้คุณทำการถอนแล้วติดตั้งแอปนั้นใหม่อีกครั้ง

Image 3 Clicking on the Reset Button under Reset Option in the Advanced Options Settings of Microsoft Photos App in Windows Settings App

หากการติดตั้งใหม่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของหน่วยความจำ บางทีปัญหาอาจจะเกิดขึ้นจากตัวแอปนั้นๆ เองที่มีปัญหาหน่วยความจำรั่วไหล วิธีแก้นี้คุณอาจจะต้องรอผู้พัฒนาทำการอัปเดทแอปเวอร์ชันใหม่หรือลองใช้แอปรูปแบบเดียวกันดูแทน

ปรับแต่งการตั้งค่า Personalization

โปรเซส Shell Infrastructure Host จัดการองค์ประกอบกราฟิกส่วนใหญ่ในการตั้งค่าส่วนบุคคลของ Windows เช่น themes, colors, transparency effects ฯลฯ เพื่อจัดการให้โปรเซส Shell Infrastructure Host ใช้ทรัพยากรน้อยลงคุณสามารถที่จะลองทำการปิดใช้งานคุณสมบัติที่ไม่จำเป็นบางอย่างได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

Image 4 Tweaking the Personalization Settings by Selecting a Static Background in Windows Settings App
  • หากคุณใช้ฟีเจอร์ฺ wallpaper slideshow หรือ Windows spotlight ของ Windows คุณควรเปลี่ยนกลับมาใช้งานเป็นพื้นหลังแบบภาพนิ่งก่อน โดยคลิกขวาที่ปุ่ม Start ของ Windows แล้วเลือก Settings จากนั้นคลิก Personalization ในแถบด้านข้างซ้าย ต่อด้วยการคลิกที่ดรอปดาวน์ถัดจาก Personalize your background แล้วเลือก Picture แล้วกดตกลง
  • หากคุณเปิดใช้ฟีเจอร์ contrast theme เพื่อการเข้าถึงที่ดีขึ้น ให้กดปุ่มคีย์บอร์ด Alt ซ้าย + Shift ซ้าย + Print Screen(PrtSc) พร้อมกันเพื่อปิดใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว
  • ต่อไปให้ไปที่ Personalization > Colors และปิดใช้งาน Transparency effects 
  • หากคุณใช้สี Accent แบบกำหนดเองให้เปลี่ยนการตั้งค่าเป็น Automatic แทน
Image 5 Turning Off Transparency Effects and Changing Accent Color to Automatic in Windows Personalization Settings
  • เปลี่ยนไปใช้ Themes เริ่มต้นของ Windows หากคุณใช้ Themes อื่นๆ ที่โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต(ซึ่งอาจจะมีการใช้งานกราฟิกสูง)

คุณยังสามารถปิดใช้งานหรือปรับแต่งคุณสมบัติอื่นๆ ในการตั้งค่า personalization ดูได้แล้วทำการตรวจสอบว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ ช่วยลดการใช้หน่วยความจำของโปรเซส Shell Infrastructure Host หรือไม่

อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นปัญหาดังกล่าวทั้งหมดนี้อาจจะมีสาเหตุอีกอย่างหนึ่งมาจากการที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเริ่มช้าเกินไปสำหรับระบบปฎิบัติการ Windows เวอร์ชันใหม่ ดังนั้นคุณควรดูสเปคความต้องการของ Windows เวอร์ชันที่คุณต้องการจะติดตั้งก่อนว่าเข้ากันได้กับสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณหรือไม่

ที่มา : compspice, windowsreport, makeuseof, thewindowsclub, howtogeek

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Mac Corner

ถ้าใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ไม่ว่าจะ Windows หรือ MacBook ทุกคนย่อมกดคีย์ลัดสั่งการให้คอมของตัวเองทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอน ถ้าใช้คอมมานานแล้ว คีย์ลัด Mac ก็ยังใช้วิธีกดปุ่มคำสั่ง 2-3 ปุ่มรวมกัน แค่เปลี่ยนชื่อกับภาพไอคอนปุ่มคำสั่ง (Modifier) บางปุ่มให้เป็นตามแบบฉบับของ Apple เอง คนที่ย้ายจาก Windows มาใช้ macOS ก็ใช้เวลาปรับตัวเรียนรู้คีย์ลัดสักระยะก็ใช้งานได้ถนัดอย่างแน่นอน ก่อนจะเริ่มใช้งานคีย์ลัด Mac...

How to

โลกในตอนนี้ไม่สามารถตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตได้เลยไม่ว่าจะเรื่องงานหรือความบันเทิงก็ต้องใช้มันทั้งนั้น แต่อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้นต่างต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ตบ้างให้อุปกรณ์ได้โหลดการตั้งค่ากลับมาใหม่อีกครั้งเป็นระยะๆ เพื่อให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการรีเซ็ตสัญญาณจะคล้ายกับวิธีการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ แต่ในบทความนี้จะเน้นเรื่องลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาเน็ตบ้านหรือเน็ตออฟฟิศใช้งานไม่ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นก่อนติดต่อช่างให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในภายหลัง เมื่อไหร่ต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ต? ทำแล้วดีอย่างไร? การรีเซ็ตสัญญาณอินเทอร์เน็ตนอกจากการปิดเปิดเราเตอร์ ก็รวมถึงการรีเซ็ตในระบบปฏิบัติการด้วย ถ้าไดรเวอร์มีปัญหาสามารถกด Roll Back driver หรือโหลดมาติดตั้งใหม่จะช่วยแก้ปัญหาได้ ถ้ารีเซ็ตสัญญาณแล้วใช้งานไม่ได้ อาจเกิดปัญหาจาก Node กระจายสัญญาณของผู้ให้บริการก็ได้ เมื่อติดตั้งเน็ตบ้านเอาไว้แล้ว แนะนำให้ขอบัญชีและรหัสผ่านเอาไว้เข้าไปตั้งค่าเราเตอร์เผื่อไว้ด้วย 6 วิธีรีเซ็ตสัญญาณเน็ตด้วยตัวเอง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก