Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

IT NEWS

Hacker ถูกจับ หลังแพร่ KMSAuto ปลอมกว่า 2.8 ล้านครั้ง ขโมยคริปโตกว่า 46 ล้านบาท

KMSAuto malware

ในช่วงปลายปี 2025 ตำรวจเกาหลีใต้เปิดเผยความคืบหน้าคดีอาชญากรรมไซเบอร์รายใหญ่ หลังสามารถจับกุมแฮกเกอร์ชาวลิทัวเนียวัย 29 ปี ซึ่งอยู่เบื้องหลังการแพร่ KMSAuto ปลอมไปทั่วโลก ส่งผลให้มีคอมพิวเตอร์ติดมัลแวร์มากกว่า 2.8 ล้านเครื่อง และเกิดความเสียหายจากการโจรกรรมคริปโทเคอร์เรนซีคิดเป็นมูลค่ากว่า 46 ล้านบาท

คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างชัดเจนของความเสี่ยงจากการใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน โดยเฉพาะเครื่องมือ Activate Windows หรือ Office อย่าง KMSAuto ที่มักถูกใช้เป็นช่องทางฝังมัลแวร์มานานแล้ว

Advertisement

ใช้ KMSAuto ปลอมเป็นเหยื่อล่อ ฝัง Clipper Malware

ตามข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ (Korean National Police Agency) ผู้ต้องหาได้แจกจ่ายไฟล์ KMSAuto เวอร์ชันที่ถูกดัดแปลง ซึ่งภายนอกดูเหมือนเป็นเครื่องมือ Activate Windows และ Microsoft Office แบบผิดกฎหมายทั่วไป

แต่ในความเป็นจริง ไฟล์ดังกล่าวถูกฝัง clipper malware เอาไว้ โดยมัลแวร์ประเภทนี้จะคอยตรวจสอบข้อมูลใน clipboard ของระบบ หากพบว่าผู้ใช้คัดลอก address กระเป๋าเงินคริปโต มันจะเปลี่ยนปลายทางเป็น wallet ของแฮกเกอร์ทันทีโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว

ผลลัพธ์คือ เมื่อผู้ใช้ทำธุรกรรมโอนคริปโต เงินทั้งหมดจะถูกส่งไปยังผู้โจมตีแทน


แพร่มัลแวร์กว่า 2.8 ล้านครั้งทั่วโลก

ตำรวจระบุว่า ระหว่างเดือนเมษายน 2020 ถึงมกราคม 2023 แฮกเกอร์รายนี้สามารถเผยแพร่ KMSAuto ได้มากถึง 2.8 ล้านชุดทั่วโลก ครอบคลุมผู้ใช้งานในหลายประเทศ

จากการสืบสวนพบว่า มี wallet ผู้เสียหายอย่างน้อย 3,100 address ที่ถูกโจมตี และเกิดธุรกรรมขโมยคริปโตมากกว่า 8,400 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1.7 พันล้านวอนเกาหลีใต้ หรือราว 46 ล้านบาทไทย

มัลแวร์ดังกล่าวยังถูกพบว่าเชื่อมโยงกับการโจมตีผู้ใช้งานคริปโตผ่านแพลตฟอร์ม exchange อย่างน้อย 6 แห่ง ทำให้ขอบเขตของความเสียหายขยายวงกว้างกว่าที่คาดไว้ในช่วงแรก


จุดเริ่มต้นคดี มาจากรายงานเหยื่อ Cryptojacking

การสอบสวนเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หลังมีผู้เสียหายรายหนึ่งแจ้งความว่าเงินคริปโตของตนถูกโอนออกไปโดยไม่ตั้งใจ ภายหลังพบว่าคอมพิวเตอร์ติดมัลแวร์ที่เปลี่ยน address ระหว่างการโอน

เมื่อตรวจสอบเชิงลึก ตำรวจพบว่าต้นตอของการติดมัลแวร์มาจากเครื่องมือ KMSAuto ปลอม ซึ่งนำไปสู่การขยายผลและติดตามเส้นทางการเงินของคริปโตที่ถูกขโมย


ตรวจค้นในลิทัวเนีย ก่อนจับกุมได้ระหว่างเดินทาง

หลังสามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ ตำรวจเกาหลีใต้ได้ประสานงานกับหน่วยงานระหว่างประเทศผ่าน Interpol จนนำไปสู่การบุกตรวจค้นในประเทศลิทัวเนียเมื่อเดือนธันวาคม 2024

ในการเข้าตรวจค้นครั้งนั้น เจ้าหน้าที่สามารถยึดอุปกรณ์ได้มากถึง 22 รายการ รวมถึง laptop และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งภายหลังพบหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาและกระจาย KMSAuto

สุดท้าย แฮกเกอร์รายนี้ถูกจับกุมได้ในเดือนเมษายน 2025 ขณะเดินทางจากลิทัวเนียไปยังประเทศจอร์เจีย ก่อนถูกส่งตัวข้ามแดนมายังเกาหลีใต้เพื่อดำเนินคดี


ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน เสี่ยงติดมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว

ตำรวจเกาหลีใต้ออกมาเตือนประชาชนอีกครั้งว่า การใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะเครื่องมือ Activate Windows หรือ Office แบบไม่ถูกต้อง เป็นความเสี่ยงสูงอย่างมากต่อความปลอดภัยของระบบ

ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ถูกใช้เป็นช่องทางแพร่มัลแวร์มาหลายครั้งในอดีต ไม่ใช่เฉพาะกรณี KMSAuto เท่านั้น ล่าสุดยังมีกรณีที่อาชญากรไซเบอร์ปลอมเครื่องมือ Microsoft Activation Scripts (MAS) เพื่อแพร่ PowerShell script ที่นำไปสู่ Cosmali Loader malware อีกด้วย


คำแนะนำด้านความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ Windows

หน่วยงานด้านความปลอดภัยแนะนำว่า ผู้ใช้งานควรหลีกเลี่ยงซอฟต์แวร์ Activate ที่ไม่เป็นทางการทุกประเภท และไม่ควรเปิดไฟล์ Windows executable ที่ไม่มี digital signature หรือไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน

แม้การใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนอาจดูเหมือนช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะสั้น แต่ความเสียหายจากมัลแวร์ โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี อาจสูงกว่าหลายเท่าตัว และยากต่อการกู้คืน


บทสรุป

คดี KMSAuto ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า อาชญากรรมไซเบอร์ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมักอาศัยพฤติกรรมผู้ใช้เป็นจุดอ่อนสำคัญ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ และใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของระบบ ยังคงเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดในระยะยาว โดยเฉพาะในยุคที่คริปโทเคอร์เรนซีและธุรกรรมดิจิทัลกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ

ที่มา: bleepingcomputer

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

IT NEWS

ตลอดช่วงหลัง Windows 11 เริ่มถูกวิจารณ์มากขึ้น ไม่ใช่เพราะฟีเจอร์ใหม่หรือหน้าตาที่เปลี่ยนไป แต่เป็นแนวทางการพัฒนาที่ Microsoft เลือกใช้ โดยเฉพาะการนำเว็บเทคโนโลยีมาใช้แทนระบบแบบ native ในหลายส่วนของตัวระบบเอง ตั้งแต่แอปยอดนิยม ไปจนถึงฟีเจอร์พื้นฐานที่ผู้ใช้ต้องใช้งานทุกวัน ประเด็นนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น เมื่อ Brendan Eich ผู้สร้างภาษา JavaScript และ CEO ของ Brave Browser...

IT NEWS

แนวคิดของระบบ Aim Assist ในเกมมักถูกพูดถึงในบริบทของคอนโซลหรือซอฟต์แวร์ช่วยเล็ง แต่โปรเจกต์ล่าสุดจาก Nick ยูทูบเบอร์เจ้าของช่อง Basically Homeless ได้พาแนวคิดนี้ไปไกลกว่านั้น ด้วยการสร้างระบบช่วยเล็งแบบ “กลไกจริง” ที่ไม่ได้แตะต้องตัวเกมหรือเมาส์เลยแม้แต่น้อย แทนที่จะขยับเมาส์ ระบบนี้กลับเลือกขยับ แผ่นรองเมาส์ทั้งแผ่น ใต้เมาส์แทน และผลลัพธ์ที่ได้คือความแม่นระดับยิงหัวแบบเลเซอร์ จนคนเล่นด้วยเริ่มคิดว่าตัวเองมีสกิลระดับ eSports โดยไม่รู้ตัว Advertisement แนวคิดเริ่มต้น: เมื่อเล่นเกมเก่งเกินไปจนเริ่มเบื่อ...

IT NEWS

Microsoft เริ่มทยอยอัปเดต Copilot บนเว็บ, Windows และอุปกรณ์พกพา ด้วยโมเดล AI รุ่นใหม่ GPT 5.2 ภายใต้ชื่อโหมด Smart Plus โดยเปิดให้ใช้งานเป็นการอัปเกรดฟรี และยังคงใช้งานควบคู่ไปกับ GPT 5.1 ที่อยู่ในโหมด Smart ตามเดิม การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนทิศทางชัดเจนว่า Microsoft ต้องการยกระดับ...

IT NEWS

Microsoft เริ่มทดสอบการปรับปรุง File Explorer ใน Windows 11 อีกครั้ง โดยรอบนี้เน้นไปที่เรื่องประสิทธิภาพของระบบค้นหาไฟล์โดยตรง ทั้งในแง่ความเร็ว และการใช้ทรัพยากรของเครื่อง โดยเฉพาะ RAM การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่าน Windows 11 Insider Preview Build 26220.7523 สำหรับผู้ใช้งานใน Dev Channel และ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก