Connect with us

Hi, what are you looking for?

Windows Zone

[Windows Tips] 4 วิธี ลบแอพ ลบไฟล์ เคลีบร์ฮาร์ดดิสก์ คืนพื้นที่เก็บข้อมูลของคุณบน Windows 10

หลายคนคงอาจจะสงสัยว่าทำไมคอมพิวเตอร์ใช้งานไป กลับช้าลงเรื่อยๆ ทั้งที่คิดว่าไม่ได้ใช้งานมากมายนักในแต่ละวัน ส่วนหนึ่งของการที่คอมพิวเตอร์ทำงานช้า นั้นมาจากพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์น้อยลงได้เช่นกัน

หลายคนคงอาจจะสงสัยว่าทำไมคอมพิวเตอร์ใช้งานไป กลับช้าลงเรื่อยๆ ทั้งที่คิดว่าไม่ได้ใช้งานมากมายนักในแต่ละวัน ส่วนหนึ่งของการที่คอมพิวเตอร์ทำงานช้า นั้นมาจากพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์น้อยลงได้เช่นกัน

ซึ่งบางครั้งคุณอาจไม่ได้สังเกต สิ่งสำคัญเลยก็คือ การไม่ได้จัดระเบียบในการจัดเก็บไฟล์ให้ถูกต้อง เช่น การนำไฟล์ที่ซ้ำกันเข้ามาเก็บไว้คนละที่หรือการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์

Advertisement

ยิ่งถ้าใครใช้ SSD ก็จะทราบดีว่า พื้นที่มีอยู่น้อยนิด หากไม่จัดสรรให้ดีๆ ก็อาจจะทำให้ข้อมูลเต็มและเครื่องทำงานช้าลงในทันใด ดังนั้นแล้วการแก้ไขง่ายๆ ก็คือ จัดการเรื่องของข้อมูลต่างๆ ให้เรียบร้อย และจัดให้เป็นระบบระเบียบ

Hyper X Savage-14

การพูดเรื่องพวกนี้อาจดูง่ายก็จริง แต่สิ่งที่ต้องทำไม่ได้ง่าย ซึ่งหากใครยังไม่มีวิธีไว้ในใจหรือจะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน วันนี้เราเอาขั้นตอนที่คุณสามารถจัดการคืนพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์มาให้คุณได้ทำตามในทีละขั้นตอน และยังช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นอีกด้วย สำหรับการทำให้พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ Windows 10 คืนมาได้มากขึ้น

DELETE UNNECESSARY FILES (1)

1
ลบไฟล์ที่ไม่สำคัญทิ้ง

ใน Windows 10 เราสามารถใช้การตั้งค่าการจัดเก็บข้อมูลทั้งในฮาร์ดดิสก์ภายในและภายนอก แต่ที่สำคัญกว่าก็คือ คุณสามารถมองเห็นโฟลเดอร์ที่ใช้พื้นที่มากที่สุดได้ อันจะช่วยให้คุณระบุและตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการไฟล์ เพื่อลบหรือย้ายที่เก็บบางอย่างได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถดูได้ผ่าน System > Storage และจัดการผ่านช่องทางดังกล่าวได้อีกด้วย

1.อันดับแรกให้เรียก Settings app ด้วยการกดปุ่ม Windows + I จากนั้นคลิก System

2.เลือกที่ Storage

DELETE UNNECESSARY FILES-6

3.ในหัวข้อ Storage ให้เลือกไดรฟ์ที่คุณต้องการจะจัดการเคลียร์ไฟล์บางส่วนที่ไม่จำเป็น (ในไดรฟ์ที่เรียกว่า This PC จะเป็นไดรฟ์ที่ติดตั้งระบบ Windows 10 เอาไว้)


DELETE UNNECESSARY FILES-7

4.ในส่วนของ Storage usage คุณจะมองเห็นข้อมูลต่างๆ ที่ถูกจำแนกออกตามโฟลเดอร์เฉพาะของระบบ เช่น Document, Pictures, Music และอื่นๆ รวมถึง App และ Games ไปจนถึง System files โดยที่คุณจะมองเห็นว่าพื้นที่ที่ถูกใช้งานไป และยังคลิกดูข้อมูลในแต่ละส่วนได้อีกด้วย

DELETE UNNECESSARY FILES-8

5.แต่ถ้าต้องการลบข้อมูลบางอย่าง ให้คลิกปุ่ม View ในการเปิดไปยังตำแหน่งของโฟลเดอร์เหล่านั้น และลบไฟล์ได้ตามที่ต้องการ

DELETE UNNECESSARY FILES-9

6.กลับไปที่ Storage usage และคลิก Temporary files ในส่วนดังกล่าวนี้ Windows 10 จะลิสต์รายชื่อที่้เป็น Temp file เหล่านั้น และเลือกลบตามที่ต้องการ ซึ่งประกอบด้วย Temporary files, Downloads folder, Recycle bin หรืออื่นๆ ให้คลิกที่ปุ่มบนเนื้อหาที่ต้องการลบและทำตามขั้นตอน เพื่อลบไฟล์เหล่านั้นออก

DELETE UNNECESSARY FILES-4

7.เมื่อกลับไปยัง Storage usage และคลิกที่ Other ใน Windows 10 จะใช้ในส่วนนี้ลิสตต์รายการโฟลเดอร์ และบอกรายละเอียดว่าโฟลเดอร์แต่ละตัว ใช้พื้นที่ไปมากน้อยเพียงใด รวมถึงคลิก Location เพื่อเข้าถึงโฟลเดอร์เหล่านั้นได้

DELETE UNNECESSARY FILES-5

8.เลือกเนื้อหาที่ต้องการ จากนั้นคลิกขวาและเลือก Delete ในการลบไฟล์และโฟลเดอร์ออกไป

HP Pavilion 14-2016 Review-39

 

2
ลบ History file อีกตัวการเขมือบพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์

ถ้า ณ เวลานี้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ของคุณร่อยหรอลง ทั้งฮาร์ดดิสก์ภายในและภายนอก สิ่งนี้มีความเป็นไปได้ในการช่วยคุณแก้ไข เพราะด้วยไฟล์ที่เพียงเก็บข้อมูลบางส่วนที่เคยใช้ บางทีก็ไม่ได้สำคัญต่อการใช้งานนัก ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าหากคุณตั้งค่าพื้นฐานเอาไว้สำหรับเก็บไฟล์เหล่านี้ไปเรื่อยๆ ก็มีโอกาสที่ทำให้พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์มากมายที่เคยมีอยู่ ลดน้อยลง ในทางกลับกันการลบไฟล์เหล่านี้ทิ้ง ด้วยวิธีการพื้นฐาน ก็สามารถขยายความจุของฮาร์ดดิสก์ที่น้อยลงกลับมาเหมือนเดิมได้ โดยใช้เครื่องมือสำหรับ Cleanup นั่นเอง

1.ให้กดปุ่ม Windows + X บนคีย์บอร์ด เพื่อที่จะเปิดการทำงานของ Power User และเลือกที่ Control Panel

2.คลิกที่ File History ทางด้านซ้ายหรือ Left pane ให้คลิกที่ Advanced settings

DELETE FILE HISTORY VERSIONS-3

3.ในเวอร์ชั่นนี้ ให้เปลี่ยนค่า Default ด้วยการคลิกที่ดรอปดาวน์เมนูทางด้านขวา สำหรับ Save copies of files และ Keep saved versions ในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดตามต้องการ อาทิเช่น มีการตอบสนองในทุก 12 hours และ 3 months เป็นต้น

4.ให้คลิกที่ลิงก์ Clean up version

DELETE FILE HISTORY VERSIONS-4

5.ในส่วนของเครื่องมือ File History Cleanup ให้เลือกที่ file version ที่คุณต้อการลบจากเมนูดรอปดาวน์ ตัวอย่างเช่น All but the lastest one ถ้าคุณเลือกหัวข้อนี้ ระบบจะลบในทุกสิ่ง ยกเว้นเวอร์ชั่นล่าสุดที่เก็บไว้

6.คลิกที่ปุ่ม Clean up เพื่อจบการทำงาน

DELETE FILE HISTORY VERSIONS-6

7.คลิกที่ Save changes บน Advanced settings เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง

ด้วยการปรับตั้งค่าใหม่เหล่านี้ คุณจะสามารถเรียกคืนพื้นที่ว่างและสำรอง File History ในอนาคต จะใช้พื้นที่น้อยลง รวมถึงลดความถี่ในการสำรองข้อมูลของแต่ละไฟล์ลงอีกด้วย

windows81newapps4_1020_verge_super_wide_thumb.jpg

 

3
Uninstall apps ลบแอพฯ ที่ไม่ต้องการทิ้งไป

การ Uninstall app เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยคืนพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ให้กลับมาได้ สิ่งที่ต้องทำก็คือ เปิด Program and Features ใน Control panel เพื่อกำจัดแอพฯ บางอย่างทิ้งไป โดยที่ใน Windows 10 คุณสามารถใช้ Setting app ในการ Uninstall โปรแกรมพื้นฐาน เช่นเดียวกับใน Windows Store app นั่นเอง ส่วนจะต้องทำอย่างไรนั้น ดูได้จากขั้นตอนเหล่านี้

1.ให้กดปุ่ม Windows + I เพื่อเข้าสู่ Settings app จากนั้นคลิก System

2.คลิกที่ Apps & features

3.ตรวจสอบแอพฯ ที่คุณไม่ต้องการและการใช้พื้นที่ในคอมพิวเตอร์ เลือกแอพฯ และคลิกที่ปุ่ม Uninstall

4.ยืนยันการลบ ด้วยการคลิกที่ปุ่ม Uninstall ทั้ง 2 บนหน้าต่าง

UNINSTALL APPS-5

5.ถ้าคุณพยายามที่จะถอดการติดตั้ง Windows 10 Store app ระบบจะไม่ต้องการเพิ่มเติมสิ่งใดในการทำงาน แต่ถ้าเป็นแอพฯ บนเดสก์ทอป คุณต้องทำตามขั้นตอนของระบบ เพื่อการถอนโปรแกรมเหล่านั้นอย่างถูกต้อง

6.ทำตามขั้นตอนต่อๆ ไปสำหรับการลบแอพฯ ที่ไม่ต้องการเหล่านั้น

Duplicate file finder-3

4
Delete Duplicate Photos ลบรูปภาพที่ซ้ำกัน

ไฟล์ภาพที่ซ้ำกันนั้นเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นคือ หากเราไม่ได้มีระบบจัดการไฟล์ที่ดีพอ เช่น ได้รูปภาพที่ไปเที่ยวมา ก็เก็บไว้ที่หนึ่ง ถึงเวลาก็เอาออกมาใช้ แต่ลืมว่าเก็บไว้ที่ไหน ก็เอารูปเดิมไปเก็บไว้ในอีกที่หนึ่ง ไปๆ มาๆ มีไฟล์เดิมๆ อยู่ในหลายที่ ใช้พื้นที่เดิมหนักเข้าไปอีก ยิ่งผู้ใช้ไม่ได้จำกัดการใช้งานพื้นที่ พอมีผู้ใช้หลายๆ คนก็ทำให้รูปภาพบางส่วนซ้ำๆ กันได้ จนเต็มพื้นที่ โดยคุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือ 3rd party ในการตรวจเช็คและลบไฟล์ซ้ำเหล่านั้นได้เช่นกัน อย่างเช่น Awesome Duplicate Photo Finder เป็นต้น

โดยที่คุณสามารถเข้าไปดาวน์โหลด Awesome Duplicate Photo Finder ได้ที่ duplicate-finder

1.เมื่อได้ไฟล์ติดตั้งแล้ว ก็ให้ดับเบิลคลิก แล้วเลือกที่ Extract file

2.เครื่องมือนี้สามารถย้ายการทำงานได้ ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง เริ่มใช้งานบนหน้าจอหลัก ให้คลิกที่ปุ่ม + และใส่โฟลเดอร์และเลือกตำแหน่งของโฟลเดอร์ที่ต้องการ Scan ลงไป ในการตรวจสอบไฟล์ซ้ำ

3.คลิกที่ปุ่ม Start Search เพื่อเริ่มต้นการสแกน

DELETE DUPLICATE PHOTOS-8

4.หลังจากที่สแกนเสร็จสิ้น คุณจะพบกับบรรดาไฟล์ภาพซ้ำๆ ปรากฏให้เห็นมากมาย ให้คลิกที่ปุ่ม Delete button บนภาพที่คุณไม่ต้องการเก็บไว้

DELETE DUPLICATE PHOTOS-4

5.จากนั้นคลิก Yes เพื่อยืนยันการลบไปไว้ที่ Recycle bin

DELETE DUPLICATE PHOTOS-6

6.ทำซ้ำกระบวนการเดิมอีกครั้งหลัง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีรูปภาพเหล่านั้นซ้ำอยู่ในระบบ

ในเวลานี้โฟลเดอร์ที่คุณสแกนควรจะมีภาพที่ถูกต้องเก็บเอาไว้ด้วย เพื่อที่หากเกิดการผิดพลาดจะยังสามารถมีสำรองหรือถ้าหากลบทิ้งไป ก็ใช้การเรียกคืนจาก Recycle bin ได้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า wesome Duplicate Photo Finder จะไม่ค่อยมีการอัพเดตเวอร์ชั่นใหม่ๆ นัก คุณสมบัตอิก็ยังคงเดิม อย่างไรก็ดีในเวอร์ชั่นแบบพกพา ก็ยังช่วยให้คุณจัดการไฟล์ภาพซ้ำได้ดีอยู่

การทำงานใน 4 หัวข้อหลักนี้ เป็นวิธีเบื้องต้นที่จะช่วยให้คุณเรียกคืนพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์กลับคืนมาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งหากทำร่วมกับการลบไฟล์อื่นๆ ที่ไม่จำเป็นออกไปหรือสำรองเอาไว้ในฮาร์ดดิสก์ลูกอื่นที่ไม่ใช่ลูกหลัก ก็จะช่วยให้คุณทำงานได้คล่องตัวขึ้น ไม่ต้องเจอกับทำงานที่ล่าช้าลงกว่าเดิม เพราะฮาร์ดดิสก์ใกล้เต็ม

ที่มา : windowscentral

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

10 Tips Microsoft Edge 2024 ช่วยทำงานไว ปรับแต่งง่าย ใช้งานสะดวกกว่าเดิมเยอะ Microsoft Edge อีกหนึ่งเว็บเบราว์เซอร์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และยังไม่ต้องไปหาดาวน์โหลดเพิ่ม เพราะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแล่ว อย่างล่าสุด Windows 11 ก็พร้อมใช้งาน และยังมีฟีเจอร์อย่าง Microsoft Copilot เข้ามาเพิ่มความสามารถให้ใช้งาน AI ได้สะดวกยิ่งขึ้น...

Tips & Tricks

วิธีอัดหน้าจอคอมอัดเกม Screen recorder หน้าจอ แคปเจอร์วีดีโอ Windows 11 อัดหน้าจอคอมให้อยู่ในรูปแบบของวีดีโอ ปัจจุบันมีวิธีมากมายให้ใช้ เริ่มต้นจากฟีเจอร์บน Windows 11 หรือ Windows 10 ก็จัดว่าเพียงพอต่อการใช้งานในเบื้องต้น แต่หลายคนก็เลือกวิธีการลงแอพฟรีเสริมให้การแคปเจอร์หน้าจอ หรือบันทึกวีดีโอหน้าจอทำได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดีในครั้งนี้เราเสนอไอเดียไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ต้องการอัดหน้าจอในแบบง่ายๆ ไว้เป็นทางเลือกหลายๆ รูปแบบ มีทั้งเน้นงานด่วน งานไว รวมถึงงานที่ต้องการความละเอียดก็มีให้...

How to

ในยุคนี้ใครๆ ก็ต้องมีโน๊ตบุ๊คเอาไว้ทำงานสักเครื่อง แต่จะซื้อมือหนึ่งแล้วต้องรอให้ถึงช่วงโปรโมชั่นก็ไม่ไหวหรือถึงจะลดราคาแล้วก็ยังจ่ายไม่ไหวก็มี โน๊ตบุ๊คมือสองจึงกลายเป็นทางเลือกของผู้ใช้หลายๆ คนที่ต้องการคอมสเปคดีราคาไม่แรงเอาไว้ทำงานสักเครื่อง ซึ่งช่องทางหาซื้อในปัจจุบันก็มีตั้งแต่วิธีคลาสสิคอย่างไปซื้อจากหน้าร้านคอมมือสองตามห้างไอที, ค้นหาทางเว็บไซต์เว็บบอร์ดไปจนตามหาซื้อในกลุ่ม Facebook และ Marketplace แล้วนัดเจอรับสินค้าก็ทำกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ถ้าคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คจากร้านมือสองหรือต่อจากคนอื่น นอกจากโฟกัสให้ได้ราคาที่ตั้งใจเอาไว้ก็ต้องดูสเปคให้พอดีกับงานของเราด้วย ซึ่งวิธีง่ายสุดก็ให้ดูก่อนว่าในเครื่องเป็น Windows 11 แล้วหรือยัง จะได้อัปเดตแพทช์รักษาความปลอดภัยได้เรื่อยๆ หรือถ้าสเปคน่าสนใจแต่ยังเป็น Windows 10 ก็เช็คจากตารางซีพียู AMD, Intel...

How to

โลกในตอนนี้ไม่สามารถตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตได้เลยไม่ว่าจะเรื่องงานหรือความบันเทิงก็ต้องใช้มันทั้งนั้น แต่อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้นต่างต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ตบ้างให้อุปกรณ์ได้โหลดการตั้งค่ากลับมาใหม่อีกครั้งเป็นระยะๆ เพื่อให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการรีเซ็ตสัญญาณจะคล้ายกับวิธีการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ แต่ในบทความนี้จะเน้นเรื่องลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาเน็ตบ้านหรือเน็ตออฟฟิศใช้งานไม่ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นก่อนติดต่อช่างให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในภายหลัง เมื่อไหร่ต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ต? ทำแล้วดีอย่างไร? การรีเซ็ตสัญญาณอินเทอร์เน็ตนอกจากการปิดเปิดเราเตอร์ ก็รวมถึงการรีเซ็ตในระบบปฏิบัติการด้วย ถ้าไดรเวอร์มีปัญหาสามารถกด Roll Back driver หรือโหลดมาติดตั้งใหม่จะช่วยแก้ปัญหาได้ ถ้ารีเซ็ตสัญญาณแล้วใช้งานไม่ได้ อาจเกิดปัญหาจาก Node กระจายสัญญาณของผู้ให้บริการก็ได้ เมื่อติดตั้งเน็ตบ้านเอาไว้แล้ว แนะนำให้ขอบัญชีและรหัสผ่านเอาไว้เข้าไปตั้งค่าเราเตอร์เผื่อไว้ด้วย 6 วิธีรีเซ็ตสัญญาณเน็ตด้วยตัวเอง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก