Connect with us

Hi, what are you looking for?

How to

7 วิธีแก้ปัญหาคอมฟรี ด้วยตัวเองปี 2024 จัดการง่ายไม่กี่ขั้นตอน แก้ได้ไม่ยาก!

วิธีแก้ปัญหาคอม

ถ้าคอมพิวเตอร์เสียนอกจากเสียงานแล้วถ้างานยังไม่เสร็จก็เป็นอันเสียอารมณ์ไปตามกัน ดังนั้นถ้ารู้วิธีแก้ปัญหาคอมเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ นอกจากแก้ปัญหาเร่งด่วนตรงหน้าได้แล้วยังไม่ต้องเสียเงินค่าช่างเพิ่มและยังเพิ่มความมั่นใจ ว่าถ้ามีปัญหานี้เกิดขึ้นมาในอนาคตไม่ว่าจะกับคอมตัวเองหรือของเพื่อนร่วมงานก็จัดการให้เรียบร้อยได้ด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม วิธีแก้ปัญหาคอมฉบับทำด้วยตัวเองทั้ง 7 ขั้นตอนนี้จะเป็นวิธีทั่วไปซึ่งอาจจพบได้ในบางโอกาส ยังไม่ได้รวมวิธีการแก้ปัญหา BSoD (Blue Screen of Death) เข้าไป ซึ่งกรณีนั้นมีรายละเอียดและต้นเหตุหลากหลายปัจจัยมากหลากหลาย Code จนแยกเป็นอีกบทความได้จึงต้องขอยกยอดออกไปโดยเฉพาะจะได้ครอบคลุมกว่านี้

Advertisement

วิธีแก้ปัญหาคอมฉบับทำด้วยตัวเองไม่ง้อช่าง ต้องเข้าใจเรื่องอะไรบ้าง?

  • ปัญหาอาจเกิดจากการใช้งานมาอย่างยาวนานแล้วซอฟท์แวร์ภายในเกิด Error ได้
  • ฮาร์ดแวร์บางชิ้น เช่น แบตเตอรี่ถ้าใช้มาสักพักใหญ่อาจเสื่อมสภาพก็เป็นต้นเหตุเช่นกัน
  • การรันคำสั่งเช็คเครื่องต้องเปิด Command Prompt บ้าง แต่คำสั่งใช้งานได้ไม่ยากมาก
  • แนะนำให้โหลดไฟล์ Windows Image จาก Microsoft มาทำแฟลชไดรฟ์เผื่อติดตั้งใหม่หรือเรียกซ่อมไฟล์เผื่อไว้จะดีสุด
วิธีแก้ปัญหาคอม

7 วิธีแก้ปัญหาคอมด้วยตัวเองไม่กี่ขั้นตอน ทำเสร็จใช้ได้สบายใจไม่ต้องง้อช่าง!

  1. System File Checker ของดีจาก Microsoft ในคอมเรา
  2. รันคำสั่ง Disk Check ดูว่าไดรฟ์มีปัญหาอะไรไหม
  3. คำสั่ง Troubleshoot ประจำ Windows 11 กดแล้วแก้ง่ายๆ
  4. เช็คตัวเครื่องโดยละเอียด้วย Performance Monitor ให้ละเอียดยิบ
  5. Windows Memory Diagnostic เผื่อว่า RAM มีปัญหาก็รู้นะ
  6. เช็คสภาพแบตเตอรี่ด้วยคำสั่งง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน!
  7. ปัญหามันเยอะก็แก้มันใน Safe Mode ให้จบไป

1. System File Checker ของดีจาก Microsoft ในคอมเรา

วิธีแก้ปัญหาคอม

หลายคนอาจจะไม่รู้หรือไม่เคยใช้ แต่คำสั่ง System File Checker ภายในระบบปฏิบัติการ Windows นั้นมีประโยชน์มาก ช่วยแก้ปัญหาเวลาไฟล์บางอย่างในระบบปฏิบัติการเกิดเสียหาย (corrupt) เปิดโปรแกรมแล้วล่มบ่อยๆ ก็ใช้ฟังก์ชั่นนี้แก้ปัญหาได้ ซึ่งขั้นตอนใช้งานถือว่าง่ายมากโดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. กดปุ่ม Windows พิมพ์หาโปรแกรม Command Prompt แล้วสั่งเปิดแบบ Run as administrator
  2. ถ้าเปิดถูกต้อง หน้าบรรทัดจะเป็น C:\Windows\System32> เพราะต้องใช้สิทธิ์ระดับ Admin เท่านั้น
  3. พิมพ์คำสั่งดังนี้

sfc /scannow

Windows 11 ใช้คำสั่งนี้ได้ทันที

DISM.exe /Online /Cleanup-image /Restorehealth

สำหรับ Windows 10, Windows 8.1 และ Windows 8

แต่ถ้าเกิดปัญหา Windows Update ที่ระบบ Windows 10 เรียกขึ้นมาทำงานไม่ได้ ให้ต่อแฟลชไดรฟ์ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 เข้ากับคอมพิวเตอร์แล้วพิมพ์คำสั่งตามข้างล่างนี้เพื่อโหลดไฟล์ตั้งต้นเข้ามาซ่อมระบบปฏิบัติการก่อน

DISM.exe /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth /Source:C:\RepairSource\Windows /LimitAccess

วิธีแก้ปัญหาคอมด้วยคำสั่ง System File Checker จะใช้เวลาสักพักและจะขึ้นบรรทัดแจ้งผู้ใช้ว่าตอนนี้ไม่พบปัญหาใดๆ (did not find any integrity violations.) หรือถ้ามีไฟล์เสียหายก็จะแจ้งว่าตัวระบบซ่อมไฟล์จนเสร็จแล้วไปจนแนะนำให้บูตเข้า Safe mode แล้วสั่งสแกนซ่อมไฟล์อีกครั้งหนึ่ง


2. รันคำสั่ง Disk Check ดูว่าไดรฟ์มีปัญหาอะไรไหม

วิธีแก้ปัญหาคอม

นอกจากเช็คด้วย System File Checker ในข้อก่อนแล้ว ถ้าพีซีของใครมีไดรฟ์ D:\, E:\ ฯลฯ ติดตั้งเพิ่มเข้ามาแล้วต้องการเช็คปํญหารายไดรฟ์เพื่อเช็คปัญหาเชิงลึกลงไปเลย จะมีวิธีการดังนี้

  • เปิด Command Prompt แบบ Administrator mode ให้ใช้คำสั่งของ Windows ได้ครบถ้วน
  • พิมพ์คำสั่งลงไปตามนี้

chkdsk c: /f /r

หากต้องการสั่งสแกนไดรฟ์อื่นนอกจาก C:\ ให้เปลี่ยน c: เป็น Drive path อื่นแทน ส่วนคำสั่ง /f /r จะสั่งให้แก้ error (fix error) และฟื้นฟูข้อมูลที่สูญหาย (recover data)
  • ระบบของ Command Prompt จะแจ้งว่าไดรฟ์ C:\ ซึ่งเป็นไดรฟ์หลักยังถูกเรียกใช้งานอยู่แล้วจะรันตรวจสอบไดรฟ์เมื่อสั่งรีเซ็ตคอมพิวเตอร์ (Chkdsk cannot run because the volume is in use by another process.) แต่คำสั่งนี้จะทำงานเมื่อรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ใหม่อีกครั้งแทน
  • ให้กด Y เพื่อตอบรับแล้ว Enter จะขึ้นบรรทัดแจ้งว่าระบบจะสั่งเช็คไดรฟ์เมื่อรีสตาร์ทเครื่องใหม่
  • หากมีไดรฟ์อื่นต้องการเช็คเพิ่มเติม สามารถรันคำสั่งข้างต้นแล้วเปลี่ยน drive path ได้ตามสะดวก
  • ถ้าสั่งสแกนไดรฟ์อื่นนอกจาก C:\ ระบบ Windows จะขึ้นหลอดเปอร์เซ็นต์ว่าตอนนี้สแกนไดรฟ์ดังกล่าวไปเท่าไหร่แล้ว เมื่อเสร็จจะขึ้นว่า “The operation completed successfully”

ซึ่งวิธีแก้ปัญหาคอมด้วยการสแกนแต่ละไดรฟ์แนะนำให้ทำก็ต่อเมื่อไดรฟ์นั้นๆ เกิดปัญหาทำงานช้าลงหรือเข้าไปใช้งานไดรฟ์ไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องทำบ่อยยกเว้นไดรฟ์ C:\ ซึ่งเป็นไดรฟ์หลักแนะนำให้ทำราว 6 เดือนครั้งให้เรียกไฟล์ได้รวดเร็วตามปกติ


3. คำสั่ง Troubleshoot ประจำ Windows 11 กดแล้วแก้ง่ายๆ

วิธีแก้ปัญหาคอมด้วยระบบของ Windows 11 คือการสั่ง Troubleshoot โดยรวมอยู่ในหมวด Settings > System > Troubleshoot ซึ่งในหน้านี้จะมีตัวเลือกทั้งหมด 3 หัวข้อคือ

  • Recommend troubleshooter preferences: ตั้งค่าเพื่อเรียกคำสั่ง Windows Troubleshooter ได้ 4 แบบด้วยกัน คือ
    • Run automatically, don’t notify me : รันคำสั่งได้โดยอัตโนมัติและไม่ต้องแจ้งเตือนผู้ใช้
    • Run automatically, then notify me : รันได้โดยอัตโนมัติแต่แจ้งเตือนผู้ใช้ด้วย
    • Ask me before running : ถามผู้ใช้ก่อนรันฟังก์ชั่นนี้เสมอ เป็นค่า Default ของ Windows 11
    • Don’t run any : ห้ามรัน Troubleshooter
  • Recommended troubleshooter history: เก็บประวัติการทำ Troubleshooter เอาไว้ว่าแก้ปัญหาอะไรไปวันที่เท่าไหร่
  • Other troubleshooters: รวมคำสั่งแก้ปัญหาฟังก์ชั่นพื้นฐานต่างๆ ของ Windows 11 หากมีปัญหาใช้งานไม่ได้สามารถเข้าหน้าต่างนี้มาแล้วกด Run แก้ปัญหาหัวข้อนั้นได้ทันที
วิธีแก้ปัญหาคอม

Other troubleshooters จะมีหน้า Run แก้ปัญหาพาร์ทต่างๆ ของคอมพิวเตอร์รวมเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะ Audio, Network and Internet, Printer, Windows Update ฯลฯ หากใช้งานแล้วเจอปัญหาส่วนใดก็มาใช้ฟังก์ชั่นนี้แก้ปัญหาได้ทันที


4. เช็คตัวเครื่องโดยละเอียดด้วย Performance Monitor

Performance Monitor เป็นฟังก์ชั่นตรวจสอบการทำงานของระบบปฏิบัติการและคอมพิวเตอร์ ซึ่งทาง Microsoft ใส่ฟังก์ชั่นนี้มาให้ตั้งแต่ Windows 10 แล้ว นับเป็นคำสั่งตรวจสอบและแก้ปัญหาฮาร์ดแวร์เชิงลึกและให้ข้อมูลเป็นกราฟการทำงานโดยละเอียด ซึ่งบางครั้งปัญหาของคอมเราอาจจะมาจากฮาร์ดแวร์เสื่อมสภาพก็เป็นได้ วิธีการเช็คและเก็บข้อมูลกราฟการทำงานจะมีวิธีดังนี้

  • กดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า Performance Monitor กด Enter
  • ในหน้า Performance Monitor ให้กดแท็บฝั่งซ้ายในชื่อเดียวกัน จะเห็นเป็นกราฟการทำงาน
วิธีแก้ปัญหาคอม
  • หัวข้อ System กดเปิดหัวข้อลงมาจะเห็น System Diagnostics ให้คลิกขวากด Start เพื่อรันคำสั่งแก้ปัญหาของตัวเครื่องโดยละเอียด สังเกตด้านขวาในกรอบใหญ่จะเห็นว่า System Diagnostics กำลัง Running เพื่อแก้ปัญหา

หากโน๊ตบุ๊คมีปัญหาในส่วนใด โปรแกรม Performance Monitor จะขึ้นหน้าต่าง Report แสดงปัญหาในเครื่องให้ผู้ใช้ได้รับทราบแล้วแก้ปัญหาได้ตามเหมาะสม


5. Windows Memory Diagnostic เผื่อว่า RAM มีปัญหาก็รู้นะ

วิธีแก้ปัญหาคอม

นอกจากซีพียูแล้ว หน่วยความจำของคอมอย่าง RAM ก็อาจจะเกิดปัญหาระหว่างใช้งานแล้วทำให้ข้อมูลบางส่วนซึ่งระบบนำไปพักไว้ในหน่วยความจำนี้หายแล้วเครื่องทำงานช้าลง, เครื่องเกิดการ Crash บ่อยขึ้นจนสังเกตได้ไปจนถึงจีพียูไม่สามารถเรนเดอร์ภาพขึ้นจอและเกิดไฟล์เสีย (corrupted data files) ขึ้นในระบบมากขึ้นได้เช่นกัน วิธีการเช็คและแก้ปัญหาให้เริ่มต้นดังนี้

  • กดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า Event Viewer กด Enter
  • ในแถบฝั่งซ้ายในหมวด Windows Logs กดเลือกหัวข้อ System
  • ในหน้าต่างรวมตรงกลางจะรวม Logs เบื้องหลังของ Windows เอาไว้ทั้งหมด ถ้าส่วนไหนมีปัญหาจะขึ้นเป็นไอคอนสามเหลี่ยมพร้อมคำแจ้งเตือน Warning พร้อมลงรายละเอียดว่าเกิดจากอะไรบ้าง

วิธีการรันคำสั่งตรวจสอบและแก้ปัญหา RAM จะต้องเปิดผ่านคำสั่ง Run ของ Windows โดยมีวิธีดังนี้

  • กดปุ่ม Windows+R เปิดหน้า Run ขึ้นมาแล้วพิมพ์คำสั่ง mdsched.exe กด Enter
  • ในหน้าต่าง Windows Memory Diagnostic จะมีตัวเลือก 2 อย่าง ได้แก่
    • Restart now and check for problems (recommend): รีสตาร์ทเครื่องทันทีแล้วเช็คปัญหาของ RAM แต่ก่อนใช้วิธีแก้ปัญหาคอมนี้ แนะนำให้เซฟงานทั้งหมดก่อน
    • Check for problems the next time I start my computer: สั่งให้ Windows สแกน RAM หลังจากกดเปิดเครื่อง แนะนำให้กดวิธีนี้แล้วปล่อยระบบ Windows สแกนจนเสร็จ

6. เช็คสภาพแบตเตอรี่ด้วยคำสั่งง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน!

วิธีแก้ปัญหาคอม

บางครั้งถ้าแบตเตอรี่ใช้งานมานานแล้วเริ่มเสื่อมสภาพก็ทำให้โน๊ตบุ๊คไม่สามารถดึงประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่และอาจเกิดปัญหาเวลาใช้งานได้เป็นระยะๆ หากต้องการรู้ว่าแบตเตอรี่ในโน๊ตบุ๊คเสื่อมแล้วหรือยังให้เปิด Command Prompt ในโหมด Administrator แล้วพิมพ์คำสั่งดังนี้

powercfg /batteryreport

วิธีแก้ปัญหาคอม

คำสั่งนี้ Windows จะรันตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่ว่าเป็นอย่างไรแล้วเซฟข้อมูลเป็นไฟล์ .html ไว้เปิดใน Web browser โดยไฟล์อยู่ในโฟลเดอร์ System32 แต่ถ้าต้องการเปิดไฟล์อย่างรวดเร็วสามารถ Copy คำสั่งด้านล่างนี้ไปใส่ในช่อง Address bar ของ File Explorer ได้ทันที

C:\Windows\system32\battery-report.html

วิธีแก้ปัญหาคอม
แบตฯ ไม่ได้เสื่อมนะ แค่สั่งให้เครื่องชาร์จเพียง 80% เฉยๆ

ไฟล์ Battery report ของ Windows จะรวมข้อมูลโดยละเอียดว่าตอนนี้โน๊ตบุ๊คของเราเป็นยี่ห้อ, รุ่นอะไรไปจนถึงประเภทและความจุของแบตเตอรี่ไปจนถึงความจุที่ชาร์จได้ ถ้าไม่ได้สั่งให้ตัวเครื่องชาร์จไฟไว้ 80% ตามในภาพตัวอย่างแล้วได้ความจุ Full Charge Capacity ไม่เท่ากับ Design Capacity ก็นำเครื่องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่กับศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คแบรนด์นั้นๆ ได้ทันที


7. ปัญหามันเยอะก็แก้มันใน Safe Mode ให้จบไป

วิธีแก้ปัญหาคอม

สุดท้ายวิธีแก้ปัญหาคอมคือการบูตเข้าสู่ Windows Safe Mode เป็นโหมดพื้นฐานของ Windows ไว้จำกัดปริมาณไฟล์และไดรเวอร์ที่ใช้งาน ซึ่งถ้าทุกอย่างใช้งานได้ตามปกติก็สันนิษฐานได้ทันทีว่าชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหา

Windows Safe Mode จะมีตัวเลือก 2 แบบ คือ Safe Mode พื้นฐานแบบใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้ หรือเป็น Safe Mode with Networking ไว้เช็คเผื่อว่าปัญหามาจากสาย LAN หรือ Wi-Fi Adapter ได้ ซึ่งวิธีการเปิดโหมดนี้จะแยกเป็น 2 แบบ คือ Windows 11 กับ Windows 10 ดังนี้

Windows 11

เปิดจากหน้า Settings

  1. กดปุ่ม Windows+i เพื่อเปิด Settings
  2. เลือกหัวข้อ System เข้าหัวข้อ Recovery
  3. เลือก Advanced startup ในหัวข้อ Recovery options แล้วกด Restart now
  4. ตัวเครื่องจะบูตเข้าหน้าตัวเลือกแก้ปัญหาของ Windows อย่างหน้า Choose an options
    1. เลือก Troubleshoort
    2. กดเข้า Advanced options
    3. เลือก Startup Settings แล้วกด Restart

จากหน้า Sign-in

  1. กดปุ่ม Shift บนคีย์บอร์ดค้างไว้ ใช้เมาส์กดปุ่ม Power มุมหน้าจอและเลือก Restart
  2. ตัวเครื่องจะบูตเข้าหน้า Choose an option ให้เลือกเข้าตามวิธีข้างบน
วิธีแก้ปัญหาคอม

กรณีหน้าจอดำหรือเป็นจอว่าง

  1. กดปุ่ม Windows+R เปิดคำสั่ง Run
  2. พิมพ์ msconfig แล้วกด Ok
  3. เลือกแท็บ Boot ตรงหัวข้อ Boot options มุมล่างขวาจะมีตัวเลือก Safe boot ให้ติ๊กถูกตามภาพแล้วเลือกหัวข้อแก้ปัญหาได้ตามสะดวก

Windows 10

หน้า Settings

  1. กดปุ่ม Windows+i เพื่อเข้าหน้า Settings
  2. เลือกหัวข้อ Update & Security กด Recovery
  3. ในหน้า Advanced startup เลือก Restart now
  4. ตัวเครื่องจะรีสตาร์ทเข้าหน้า Choose an option ให้ทำตามแบบ Windows 11
  • หน้า Sign-in : ให้ทำตามวิธีของ Windows 11 ได้ทันที
  • กรณีหน้าจอดำหรือเป็นจอว่าง : ทำตามวิธีของ Windows 11 ได้ทันที

วิธีแก้ปัญหาคอม

ใดๆ แล้ววิธีการแก้ปัญหาคอมทั้ง 7 วิธีในบทความอาจจะไม่ได้ครอบคลุมปัญหาทั้งหมดของระบบปฏิบัติการ Windows ก็จริง แต่ก็ยังพอจัดการปัญหาจิปาถะที่อาจจะเจอระหว่างการใช้งานได้ระดับหนึ่ง แต่นิสัยหนึ่งซึ่งควรมีติดตัวเวลาใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ คือ ควรเป็นคนช่างสังเกตและค้นหาข้อมูลวิธีการแก้ปัญหาในอินเทอร์เน็ตเป็นประจำและอย่าไปกลัวปัญหา เพราะถ้าแก้ได้ก็ช่วยให้เราจัดการปัญหาเก่านั้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้นในครั้งต่อๆ ไปนั่นเอง

Photo credit: Microsoft, Israel Andrade via Unsplash, ian dooley via Unsplash


บทความที่เกี่ยวข้อง

TP-Link Archer TX20U Nano
Gigabyte G6X 9KG
ASUS ZenBook 14 OLED UM3406H
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

CONTENT

10 Tips Microsoft Edge 2024 ช่วยทำงานไว ปรับแต่งง่าย ใช้งานสะดวกกว่าเดิมเยอะ Microsoft Edge อีกหนึ่งเว็บเบราว์เซอร์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และยังไม่ต้องไปหาดาวน์โหลดเพิ่ม เพราะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแล่ว อย่างล่าสุด Windows 11 ก็พร้อมใช้งาน และยังมีฟีเจอร์อย่าง Microsoft Copilot เข้ามาเพิ่มความสามารถให้ใช้งาน AI ได้สะดวกยิ่งขึ้น...

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

How to

ขึ้นชื่อว่าทำงานเอกสาร นอกจากคิดถึง Microsoft Word ซึ่งเป็นโปรแกรมทำงานเอกสารในปัจจุบันนี้ไปแล้ว พอมีเอกสารเนื้อหาสอดคล้องกันหลายฉบับก็คิดอยากรวมไฟล์ Word ที่กระจัดกระจายให้กลายเป็นฉบับเดียวกันจะได้ทำงานสะดวกขึ้นไม่ว่าจะส่งให้ผู้อื่นหรือสั่งปริ้นท์ก็จะได้ทำทีเดียวจบ แต่เชื่อว่าหลายคนจะใช้วิธีกดคีย์ลัด Copy/Cut แล้ว Paste เข้าเอกสารต้นทางเป็นประจำแน่นอน แต่ตามจริงวิธีการรวมไฟล์เอกสารหลายฉบับให้กลายเป็นชิ้นเดียวกันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นมากทั้งในตัวโปรแกรมโดยตรงหรือจะใช้เว็บไซต์รวมไฟล์ก็ใช้ได้สะดวกรวดเร็วจนไม่จำเป็นต้องใช้เว็บไซต์แยกมารวมให้เสียเวลาก็ยังได้ ว่าด้วยไฟล์ Microsoft Word และการรวมไฟล์ Word ไฟล์ Word ตอนนี้จะมี 2 แบบ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก