
Micron ผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ของโลกสร้างความสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับตลาดคอนซูเมอร์ หลังประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะ “ยุติธุรกิจ Crucial” ซึ่งเป็นแบรนด์ SSD และ RAM สำหรับผู้ใช้ทั่วไปทั้งหมด โดยจะทยอยหยุดจำหน่ายภายใน สิ้นไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2026 (ประมาณกุมภาพันธ์ 2026) และหลังจากนั้นจะ “หันการผลิต DRAM ทั้งหมดไปป้อนตลาด AI เต็มรูปแบบ” เพื่อรองรับความต้องการในศูนย์ข้อมูลที่สูงเป็นประวัติการณ์
การประกาศครั้งนี้สะท้อนชัดเจนว่าอุตสาหกรรมหน่วยความจำกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการจาก AI มากกว่าตลาดคอนซูเมอร์ทั่วไป ไม่ต่างจากแนวโน้มของ Samsung และ SK hynix ที่ออกมาระบุว่าธุรกิจหน่วยความจำจะมุ่งสู่กำไรระยะยาวจากเซกเมนต์ AI แทนตลาดผู้ใช้ทั่วไปเช่นกัน
Micron ยุติแบรนด์ Crucial อย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าทรานส์ฟอร์มองค์กรเข้าสู่ธุรกิจที่เติบโตสูงกว่า
Micron ระบุในประกาศเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2025 ว่าจะหยุดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดภายใต้แบรนด์ Crucial ซึ่งหมายถึง SSD, RAM และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ทั่วไปคุ้นเคยในตลาดมากว่า 29 ปี โดยยังคงขายสินค้าในช่องทางค้าปลีกตามปกติไปจนถึงสิ้นไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2026 หลังจากนั้นจะไม่มีสินค้า Crucial รุ่นใหม่อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม Micron ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการด้านการรับประกันและการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Crucial ต่อไป ไม่ได้ทอดทิ้งลูกค้าปัจจุบัน
บริษัทระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “การจัดพอร์ตธุรกิจใหม่” เพื่อตอบโจทย์ทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมด้าน AI ที่ต้องการหน่วยความจำและสตอเรจประสิทธิภาพสูงเป็นจำนวนมาก และพร้อมจ่ายในราคาสูงกว่าตลาดคอนซูเมอร์หลายเท่า
แน่นอนว่าการเปลี่ยนทิศนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ Crucial ถือเป็นแบรนด์ที่ผู้ใช้ทั่วไปเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความเสถียรมานานเกือบสามทศวรรษ แต่ในมุมธุรกิจ การผลิต DRAM เพื่อซัพพอร์ต AI, LLM, Data Center และ Cloud Service Providers นั้นมีอัตรากำไรสูงกว่ามากในช่วงเวลาที่ดีมานด์ AI พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงทั่วโลก
ทำไม Micron ถึงยอมทิ้งตลาดคอนซูเมอร์ทั้งตลาด?
ประเด็นสำคัญที่สุดอยู่ที่ “ดีมานด์จาก AI สูงจนผู้ผลิตไม่สามารถผลิตทัน” โดยเฉพาะ DRAM ที่ใช้ใน GPU สำหรับ AI, HBM, Server DRAM และสตอเรจความเร็วสูงสำหรับ Data Center ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ยอมจ่ายแพงกว่าอย่างมีนัยสำคัญเพื่อให้ได้สินค้าก่อนคู่แข่ง
ปัจจุบันบริษัท Cloud รายใหญ่ทั่วโลก เช่น Google, Microsoft, Meta, Amazon และผู้พัฒนาระบบ AI ทุกราย กำลังแย่งชิงกำลังการผลิต DRAM และ NAND ด้วยการจ่ายราคาพรีเมียมให้ผู้ผลิตหน่วยความจำ ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตอย่าง Micron มองว่าการป้อนสินค้าสู่ตลาดคอนซูเมอร์แทบไม่คุ้มค่าอีกต่อไปเมื่อเทียบกับตลาด AI
กล่าวง่าย ๆ คือ:
- ผลิตให้คอนซูเมอร์ → กำไรต่อหน่วยต่ำ
- ผลิตให้ลูกค้า AI → กำไรสูงกว่าและดีมานด์ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
เพียงเท่านี้ทิศทางของธุรกิจหน่วยความจำก็ชัดเจนว่าควรหันไปหา “ตลาดที่คุ้มค่าที่สุด”
แล้วผู้ใช้ทั่วไปจะได้รับผลกระทบแค่ไหน?
ผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉพาะสายพีซี เกมเมอร์ และช่างประกอบคอม อาจได้รับผลกระทบดังนี้:
1. SSD และ RAM ที่ใช้ชิปของ Micron จะเริ่มขาดตลาดหรือราคาพุ่ง
เมื่อ Crucial หยุดจำหน่ายในปี 2026 ตลาดผู้ใช้ทั่วไปอาจเห็นราคาของ SSD และ RAM ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ชิป DRAM จาก Micron
2. ผู้ใช้จะมีทางเลือกน้อยลง
Crucial ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านความเสถียร เช่น Crucial MX, P-series SSD และ Ballistix RAM (ก่อนถูกยุติไปก่อนหน้า) การสูญเสียแบรนด์นี้ทำให้ตลาดเหลือผู้เล่นหลักน้อยลง เช่น Samsung, Kingston, WD, Lexar, Adata
3. ตลาดอาจเข้าสู่ยุคที่ “สินค้าราคาเอื้อมถึงยากขึ้น”
ความต้องการหน่วยความจำระดับ Data Center ทำให้การผลิตสำหรับผู้ใช้ทั่วไปถูกลดความสำคัญลง โดยเฉพาะ DRAM ซึ่งอาจทำให้ราคาเพิ่มขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ “ตลอดทั้งปี 2026” หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
Micron จะรับมืออย่างไรกับพนักงานเดิม?
Micron ยืนยันในประกาศว่า พนักงานที่เคยเกี่ยวข้องกับธุรกิจ Crucial จะได้รับโอกาสในการโยกย้ายไปตำแหน่งอื่นภายในบริษัท เพื่อลดผลกระทบจากการยุติไลน์ธุรกิจนี้ ถือเป็นการปรับทิศทางอย่างมีระบบและไม่กระทบพนักงานมากจนเกินไป
การเคลื่อนไหวของ Micron สอดคล้องกับผู้ผลิตรายอื่นในอุตสาหกรรม
ไม่นานมานี้ ทั้ง Samsung และ SK hynix ต่างออกมายืนยันแบบเดียวกันว่า พวกเขาจะไม่เพิ่มปริมาณการผลิตหน่วยความจำอย่างฉับพลัน แม้ราคา DRAM และ HBM จะพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการรักษา “กำไรระยะยาว” และลดความเสี่ยงจากภาวะ Oversupply ในอนาคต
กล่าวได้ว่าการที่ Micron เลือกยุติแบรนด์ Crucial เป็นสัญญาณชัดเจนแล้วว่า “ตลาดคอนซูเมอร์” ไม่ใช่สนามแข่งขันหลักในยุค AI อีกต่อไป
มุมมองของผู้เขียน: เป็นข่าวร้ายสำหรับเกมเมอร์ แต่สะท้อนความจริงของตลาดยุคนี้
ในมุมผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉพาะเกมเมอร์และผู้ประกอบคอม นี่เป็นข่าวร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะ Crucial เป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ดีและเชื่อถือได้ ทั้งในด้านเสถียรภาพของ SSD และ RAM ราคาคุ้มค่าที่เข้าถึงง่าย
แต่ในมุมธุรกิจ นี่เป็นการตัดสินใจที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” เพราะ:
- AI ต้องการ DRAM และ NAND จำนวนมหาศาล
- ลูกค้า AI ยอมจ่ายราคาแพงกว่าคอนซูเมอร์หลายเท่า
- ตลาดผู้ใช้ทั่วไปมีอัตรากำไรต่ำและการแข่งขันสูง
- การผลิตหน่วยความจำระดับสูงมีต้นทุนสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ยุคที่อุปกรณ์คอนซูเมอร์ได้สินค้าหน่วยความจำในราคาถูกเพราะกำลังการผลิตล้นตลาดอาจกำลังจะหมดไปในอนาคตอันใกล้
สรุป: Micron ทิ้งตลาดคอนซูเมอร์เพื่ออนาคตที่ทำกำไรสูงกว่า
การประกาศยุติธุรกิจ Crucial ของ Micron คือการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อทุ่มทรัพยากรทั้งหมดให้กับตลาด AI ที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด การตัดสินใจนี้จะส่งผลต่อตลาดคอมพิวเตอร์ผู้ใช้ทั่วไปอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องราคา อุปทาน และตัวเลือกสินค้า
และเมื่อมองภาพรวมของ Samsung, SK hynix และ Micron แล้ว เราอาจกำลังเข้าสู่ยุคที่ “AI กำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมหน่วยความจำ” อย่างเต็มรูปแบบ
ที่มา: wccftech





