ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใส่ใจลูกค้าและระบบ QC (ค่อนข้าง)จะดีที่สุดบริษัทหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับกับทาง Apple ที่ล่าสุดเมื่อไมานานมานี้ทาง Apple ได้ทำการตรวจสอบที่ชาร์จของ iPhone และ iPad ที่ถูกวางขายอยู่บนเว็บไซต์ขายของชื่อดังอย่าง Amazon.com แล้ว
พบว่ากว่า 90% ของที่ชาร์จของ iPhone และ iPad ที่วางจำหน่ายบน Amazon นั้นเป็นของปลอมและไม่ได้รับมาตรฐานจนในที่สุดทาง Apple ก็ได้ทำการฟ้องร้องบริษัท Mobile Star LLC ที่อยู่ใน Amazon โทษฐานที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของทาง Apple ครับ
ที่ชาร์จของจริงพร้อมการระบุเครื่องหมายทางการค้าของทาง Apple
การฟ้องร้องครั้งนี้ของทาง Apple นั้นเกิดมาหลังจากที่ Apple ได้สั่งซื้อที่ชาร์จของทาง Mobile Star LLC มาจำนวนหนึ่งเพื่อทำการตรวจสอบความปลอดภัยในการใช้งานและพบว่าที่ชาร์จของบริษัทนี้นั้นไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของทาง Apple และโครงสร้างภายในก็ย่ำแย่ มีองค์ประกอบบางอย่างที่หายไปเมื่อเทียบกับที่ชาร์จของจริง เป็นผลทำให้มีดีไซน์ที่ผิดเพี้ยนไปจากของจริงและที่หนักที่สุดเลยก็คือการจ่ายไฟนั้นไม่ได้มาตรฐานตามที่ควรจะเป็นซึ่งอาจจะมีผลกระทบในการใช้งานได้ครับ
ทาง Apple ได้เผยหมายเลขสินค้าที่เป็นที่ชาร์จของปลอมบางอันออกมาด้วยตัวอย่างเช่นสิ้นค้าหมายเลข (ASIN) B012YEWP2K ซึ่งเป็นที่ชาร์จแบบเต้าเสียกับปลั๊กไฟสำหรับใช้งานกับสาย Lightning เพื่อชาร์จ iPhone รุ่น iPhone 5/5c/5s/6/6 Plus โดยราคาของมันนั้นอยู่ที่ $9.35 หรือประมาณ 336.60 บาท(ราคาสำหรับผู้ใช้ Amazon Prime) โดยหลังจากที่มีการเปิดเผยนี้ออกมาแล้วนั้นทาง Amazon ก็สั่งปริ้วหน้าเว็บของสิ้นค้าตัวนี้ไปตามระเบียนครับ
ที่หนักกว่านั้นก็คือหลังจากที่ทาง Apple ได้ลองสั่งซื้ออุปกรณ์ iPhone, ที่ชาร์จและสาย Lightning จากผู้จำหน่ายที่ได้รับชื่อเป็น genuine หรือผู้จัดจำหน่ายของแท้จากทาง Amazon แล้วนั้นพบว่าผลิตภัณฑ์โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นของปลอมที่เสี่ยงต่อการใช้งานของผู้บริโภคเกือบจะทั้งหมด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ผลิตภัณฑ์ปลอมเปล่านี้อาจจะก่อให้เกิดการลัดวงจรต่อผลิตภัณฑ์ของ Apple แล้วก่อให้เกิดการไหม้หรือระเบิดของเครื่องได้ครับ
สำหรับเรื่องจากการฟ้องร้องนั้นก็ต้องว่าต่อไปตามศาลหล่ะครับ แต่เรื่องดังกล่าวนี้เป็นอัวอย่างได้อย่างดีครับว่าการซื้อสินค้าออนไลน์นั้นถึงแม้ว่าร้านค้าดังกล่าวจะได้รับสถานะจากทางเว็บค้าสินค้าออนไลน์(อย่างในที่นี้ก็คือ Amazon) ก็ใช่ว่าสินค้าดังกล่าวนั้นจะเป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานเสมอไป สิ่งที่เราๆ ท่านๆ ที่เป็นผู้บริโภคจะสามารถทำได้นั้นก็คือการคอยระวังตัวเองไว้ให้มากๆ และหากสิ้นค้าไหนที่เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้อกับความปลอดภัยด้วยแล้วหล่ะก็ยอมเสียเงินซื้อสินค้าของแท้จากผู้ผลิตจริงๆ จะดีกว่าซื้อสินค้าจากผู้จัดจำหน่ายที่ไม่รูปที่มาที่ไปหล่ะครับ
ที่มา : forbes