รักไม่ยุ่งมุ่งแต่เก็บ (เล)เวล ฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ท่านหนึ่งได้กล่าวเอาไว้ เพราะหลายคนนอนหน้าคอมกับคุยกับเพื่อนในเกมมากกว่าแฟน จึงเป็นเรื่องสะเทือนใจใครหลายคน ที่พูดเรื่องนี้ก็เพราะ วันนี้เอาของเล่นสำหรับเกมเมอร์มาให้สนุกกันอีกแล้ว จะได้สุขสมอารมณ์หมายกัน พร้อมกับโยนเมาส์แพดธรรมดาของคุณทิ้งไป แล้วลองเมาส์แพดตัวเจ็บ Razer FireFly Hard Edition นี้ดู
Razer FireFly ถือเป็นเกมมิ่งเมาส์แพดตัวล่าสุดของค่ายเกมมิ่งเกียร์รายใหญ่ของโลกอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเติมไลน์โปรดักส์ให้กับซีรีส์ Chroma ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง และมาจนถึงเมาส์แพด ด้วยจุดเด่นในเรื่องของการแสดงแสงสีได้ถึง 16.8 ล้านสี และให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบของสีได้ตามใจชอบ ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลต์ของเมาส์แพดรุ่นนี้ รวมถึงมีให้เลือก 2 รูปแบบคือ Cloth Edition ที่เป็นแบบผ้าและ Hard Edition เป็นแบบถาดแข็ง แนวเดียวกับ Vespula หรือ Invicta โดยทั้งสองแบบมีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป เพื่อเกมและความชื่นชอบในแต่ละแบบของเกมเมอร์ แต่ที่สำคัญคือ ยังสามารถซิงก์กับอุปกรณ์อื่นๆ ผ่านทาง Razer Synapse ได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นเกมมิ่งเกียร์อีกรุ่นหนึ่ง ที่น่าสนใจมากทีเดียว โดยเฉพาะใครที่ซีเรียสกับการเคลื่อนไหวภายในเกม ที่บางทีมีเมาส์ที่เร็วและอัตราตอบสนองได้ดีอาจยังไม่พอ การมีเมาส์แพดที่ดี ก็จะช่วยดึงประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น
Specification :
- Micro-textured finish for balanced gameplay
- Optimized surface coating for highly responsive tracking
- Razer Chroma customizable lighting
- Inter-device color synchronization
- Non-slip rubber base
- Razer Synapse enabled (for Razer Chroma customizable lighting)
- Gold-plated, USB connector (to power the Razer Chroma customizable lighting)
- 2.13 m / 7 ft lightweight, braided fiber cable
- Approximate size: 355 mm / 13.98 ” (Length) x 255 mm / 10.04 ” (Width) x 4 mm / 0.16 ” (Height)
- Approximate weight: 380 g / 0.84 lbs
แกะกล่อง
ตัวกล่องออกแบบมาในสไตล์ของ Razer อย่างชัดเจน ด้วยกล่องขนาดใหญ่ พร้อมสกรีนรูปสินค้าไว้อย่างชัดเจน
ด้านหลังบอกรายละเอียดครบถ้วน สามารถดูข้อมูลได้ในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ผลิตหลายๆ พยายามบอกทุกสิ่งให้คนที่สนใจได้รู้ข้อมูลมากยิ่งขึ้น แม้จะยังไม่เปิดกล่องก็ตาม
ในกล่องประกอบด้วย Razer FireFly คู่มือการใช้งานและสติ๊กเกอร์มาให้
รูปลักษณ์และการออกแบบ
Razer FireFly ในรูปแบบของ Hard Edition มาในลักษณะของ Hard plate ที่เป็นเมาส์แพดแบบพื้นแข็งขนาดกลาง คล้ายกับใน Invicta แต่ให้ความกว้าง 25cm และยาว 35cm โดยประมาณ ถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่ สำหรับคอเกมชูตติ้ง น่าจะกำลังเหมาะ ไม่ใช้พื้นที่โต๊ะเยอะมากไป
พื้นผิวด้านหน้าเป็นเพลตแข็ง ซึ่งทาง Razer ให้ความสมดุลระหว่าง Speed และ Control ด้วยวัสดุแข็งและมีความละเอียดสูง จึงทำให้การตอบสนองของเซ็นเซอร์เมาส์ทำได้ดียิ่งขึ้น แน่นอนว่าการเล่นเกมชูตติ้งที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง น่าจะชอบ
ด้วยพื้นผิวที่เป็นแบบฮาร์ดเพลทนี้ก็มีข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ ทำความสะอาดง่าย เกมเมอร์ที่ชอบทานอาหาร เครื่องดื่มเวลาที่เล่นเกม ก็น่าจะอุ่นใจได้ระดับหนึ่ง เพราะแค่ใช้ผ้าธรรมดาหรือผ้าหมาดๆ เช็ดคราบสกปรกก็ออกได้ไม่ยาก
ด้านใต้แผ่นเป็นพื้นยางตลอดทั้งผืน จึงช่วยยึดแผ่นเมาส์ให้ติดอยู่กับโต๊ะได้สบายๆ ไม่เลื่อนไปมาให้เสียอารมณ์ ซึ่งหากมีที่วางเหมาะๆ บนโต๊ะ ก็เคลื่อนมือไปมาได้แบบไม่ต้องกลัวจะเลื่อนหลุดไปไหน
สายต่อเป็นสายถักแบบอ่อน จึงพบง่ายและมีความยืดหยุ่น ความยาวประมาณ 2m ซึ่งเพียงพอสำหรับการติดตั้งจากคอมพิวเตอร์มาบนโต๊ะ ด้วยการต่อพ่วงผ่านพอร์ต USB
จุดที่สำคัญก็คือ ขอบโดยรอบของ Razer FireFly เป็นจุดไฮไลต์เพราะด้วยไฟ LED ที่สว่างขึ้นมาโดยรอบคือที่มาของ Chroma นั่นเอง กับสีสันสวยงาม 16.8 ล้านสี ซึ่งสามารถซิงก์กับซอฟต์แวร์ Razer Synapse เพื่อปรับรูปแบบการแสดงผลได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะทำงานแบบเดี่ยวๆ หรือจะเลือกให้ซิงก์ร่วมกันกับเมาส์ คีย์บอร์ดหรือหูฟังที่เป็น Chroma ด้วยกันก็ตาม
ใครที่ชอบสีสันอลังการ ลองจัดเข้าคู่กันดูของอุปกรณ์ต่างๆ แล้วจะรู้สึกถึงพลังได้ (ถ้าไม่โดนคนข้างๆ บ่นเสียก่อน โดยเฉพาะถ้าใช้อุปกรณ์หลายชิ้นร่วมกัน) สว่างทั่วบ้านแน่นอน
การซิงก์กันด้วย Synapse ทำได้ง่าย เพราะแค่เข้าไปในโพรไฟล์ของอุปกรณ์ แล้วเลือก Effect ให้เป็นไปในแบบที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น WAVE, SPECTRUM CYCLING, BREATHING, STATIC และ REACTIVE หรือถ้าต้องการตั้งให้สอดคล้องกับอุปกรณ์อื่นๆ ก็แค่เลือกที่ Profile ให้ใช้เป็นโพรไฟล์เดียวกัน และในส่วนของความสว่าง ก็เลือกปรับตรง Brightness ให้เป็นแบบ Dim, Normal หรือ Bright ได้ เรียกว่าจะเอาความสว่างแค่ไหน ก็จัดได้แบบเต็มๆ ซึ่งจากที่ได้ลอง FireFly กับ DeathAdder Chroma แล้ว บอกเลยว่าสุดๆ แสงสีนี่พริ้วสุดๆ ด้วยการปรับใช้ที่ง่ายแบบนี้ จึงน่าจะเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้แฟนๆ Razer หลงไหลกันไม่น้อยทีเดียว
Conclusion
ในแง่ของการใช้งานเมาส์แพด FireFly รุ่นนี้ อย่างที่กล่าวไว้ในแต่ละช่วงของการใช้งาน สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ อัตราการตอบสนองที่โดดเด่น การสไลด์เมาส์ไปแต่ละครั้งลื่นมากทีเดียว ด้วยโครงสร้างที่เป็นพื้นแข็งและลื่น บางทีต้องอาศัยแรงเสียดทานจากมือช่วยในการควบคุมด้วยเช่นกัน แต่เป็นประโยชน์ทั้งในแง่ของการเล่นเกมแนว FPS และ RTS เพราะแอ็คชั่นชูตติ้ง คุณวาดเมาส์เหมือนสาดกระสุนออกไปได้แทบทันที ยิ่งถ้าเมาส์มีอัตราการตอบสนองที่ดีแล้ว การเล็งเป้าแบบในเกม Battlefield, Call of Duty หรือแม้กระทั่ง Overwatch ก็ถือว่าช่วยให้การยิงมีคุณภาพมากขึ้น ลดอาการสะดุด เนื่องจากหน้าสัมผัสไม่เสมอกันไปได้มาก เพียงแต่ในบางอารมณ์อาจจะต้องทำความคุ้นเคยในสองเรื่องคือ ความลื่นที่มีมากขึ้น อาจทำให้ต้องลองมาปรับในส่วนของฟีตใต้เมาส์ใหม่หรือปรับระดับ DPI จากเดิมเล็กน้อย เพื่อให้ลงตัวกับจังหวะที่คุณคุ้นเคย เรื่องที่สองคือ ใครที่ชอบวางมือแบบลากไปกับพื้นเมาส์แพด อาจจะรู้สึกแข็งๆ สะท้านมืออยู่บ้าง อาจจะต้องปรับตัวให้ชิน หรือยกฝ่ามือขึ้นเล็กน้อย แต่บางทีคุณอาจจะเล่นจนลืมทั้งสองข้อนี้ไปก็ได้ ถามว่าไฮไลต์เรื่อง Chroma มีผลมากน้อยอย่างไร คงตอบได้ง่ายๆ คือ น่าจะเวลาที่คุณวางมือจากเมาส์หรือหยุดเล่นเกม คุณน่าจะได้อิ่มเอมกับแสงสีที่คุณถูกใจได้มากกว่า เพราะน่าจะสนุกไปกับความลื่นไหลในเกมจนบางทีก็ลืมเรื่องสวยงามเหล่านี้ไปได้เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ดีหากคุณเดินมาสายนี้ และชอบความเป็น Razer ที่ถือว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่นแล้ว ก็อย่าได้พลาดไป
จุดเด่น
- มาพร้อมฟีเจอร์ Chroma เรืองแสง และซิงก์กับอุปกรณ์อื่นด้วย Synapse
- หน้าสัมผัสเป็น Hard plate พื้นผิวด้านบนเรียบลื่น ช่วยให้การเลื่อนเมาส์ทำได้รวดเร็ว
- ด้านใต้เป็นแบบยาง เกาะยึดพื้นได้อย่างแน่นหนา
- ทำความสะอาดง่าย
ข้อสังเกต
- ผู้ใช้ที่เปลี่ยนจากเมาส์แพดแบบผ้าธรรมดา อาจต้องใช้เวลาปรับตัว