Connect with us

Hi, what are you looking for?

Tips & Tricks

ไดรเวอร์มีปัญหา อย่ารอช้า! แก้ด้วย Roll Back

บางครั้งการใช้ไดรเวอร์ใหม่ ก็อาจเกิดปัญหาได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าเกิดลงไดรเวอร์ใหม่ๆ ไปแล้ว ใช้งานไม่ถูกใจ ก็แก้ไขได้โดยไม่ต้อง Remove Driver แต่ใช้วิธี Roll Back ไดรเวอร์ได้เช่นกัน ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

ไดรเวอร์เป็นของคู่กับฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการมาช้านานก็ว่าได้ เพราะเป็นเหมือนสะพานเชื่อมกันให้ระบบสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นอุปกรณ์ชนิดใดและทำงานได้อย่างไร โดยที่ส่วนใหญ่ก็จำเป็นจะต้องอัพเดต เพื่อปิดช่องโหว่หรือเพิ่มความสามารถให้กับการทำงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการใช้งานอีกด้วย สังเกตได้ว่าแม้ระบบปฏิบัติการจะตรวจสอบในเบื้องต้นให้ใช้งานได้แล้วก็ตาม แต่บางครั้งก็ไม่อาจเรียกประสิทธิภาพหรือฟีเจอร์บางอย่างออกจากอุปกรณ์ได้จริงๆ เพราะไม่มีตัวขับเคลื่อนที่ถูกต้อง เหมือนกับกุญแจไขเปิดให้เครื่องยนต์ทำงานนั่นเอง

Roll Back Driver-0

Advertisement

แต่ในบางกรณีการอัพเดตไดรเวอร์ ก็อาจส่งผลต่อการใช้งานอยู่ด้วย เช่น การอัพเดตไดรเวอร์ไม่ตรงรุ่นหรือเลือกไดรเวอร์ที่เก่าเกินไปหรือใหม่เกินไป ก็ส่งผลต่อการทำงานบางอุปกรณ์ได้เช่นกัน ซึ่งเราต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม บางครั้งการใช้ไดรเวอร์ใหม่หรือไดรเวอร์ไม่ตรงรุ่น ก็อาจเกิดปัญหาได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าเกิดลงไดรเวอร์ใหม่ๆ ไปแล้ว ใช้งานไม่ถูกใจ ก็แก้ไขได้โดยไม่ต้อง Remove Driver แต่ใช้วิธี Roll Back ไดรเวอร์ได้เช่นกัน ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

Roll Back Driver-1

1
ในขั้นแรกให้เปิด Device Manager ด้วยการเข้าไปที่ Control Panel หรือถ้าเป็น Windows 8 สามารถคลิกขวาที่มุมด้านล่างซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือกที่ Device Manager ได้เลย

Roll Back Driver-2

2
เมื่อเข้าสู่ Device Manager ให้เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ Roll Back ในกรณีที่หาไดรเวอร์อุปกรณ์ที่ต้องการไม่พบ สามารถเลือก Scan for hardware change เพื่อค้นหาได้

Roll Back Driver-3

3
แต่ในกรณีที่เคยซ่อนอุปกรณ์บางตัว เพื่อไม่ให้ระบบค้นหา ก็สามารถคลิกที่เมนู View > Show hidden devices เพื่อเปิดการทำงานของอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่บนระบบทั้งหมด

Roll Back Driver-4

4
จากนั้นเมื่อเจอไดรเวอร์อุปกรณ์ที่ต้องการ ให้คลิกขวาที่รายชื่อ แล้วเลือก Properties เพื่อเข้าสู่การทำงาน

Roll Back Driver-5

5
ในหน้าต่าง Properties นั้น ให้เลือกไปที่แท็บ Driver จากนั้นคลิกที่ Roll Back Driver

Roll Back Driver-6

6
ระบบจะกล่องคำถามเพื่อยืนยันการทำงาน “Are you sure you would like to roll back to the previously installed driver software?” ให้คลิก Yes เพื่อยืนยันการทำงาน

Roll Back Driver-7

7
รอจนกว่าระบบจะทำการ Roll Back เสร็จสิ้น พร้อมกับการ Restart หนึ่งครั้่ง เมื่อเข้าสู่ระบบอีกครั้ง ไดรเวอร์จะถูกเปลี่ยนไป ให้ตรวจสอบอีกครั้งว่าการทำงานกลับเป็นปกติหรือไม่

การติดตั้งหรือลงไดรเวอร์ใหม่ ปัจจุบันไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ซึ่งหากไม่ต้องที่จะอัพเดตไดรเวอร์ตัวใดก็สามารถทำได้หรือต้องการอัพเดต ก็อาจจะสังเกตรุ่นหรือเวอร์ชั่นที่ทางผู้ผลิตแจ้งมา น่าจะเหมาะสมที่สุด ทางที่ดีหากไม่ต้องการยุ่งยากอาจเลือกซอฟต์แวร์ตัวช่วยที่อัพเดตให้เราอัตโนมัติก็ได้ เพราะจะช่วยเราจัดการและลดขั้นตอนความยุ่งยากไปได้มากทีเดียว

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Mac Corner

ถ้าใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ไม่ว่าจะ Windows หรือ MacBook ทุกคนย่อมกดคีย์ลัดสั่งการให้คอมของตัวเองทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอน ถ้าใช้คอมมานานแล้ว คีย์ลัด Mac ก็ยังใช้วิธีกดปุ่มคำสั่ง 2-3 ปุ่มรวมกัน แค่เปลี่ยนชื่อกับภาพไอคอนปุ่มคำสั่ง (Modifier) บางปุ่มให้เป็นตามแบบฉบับของ Apple เอง คนที่ย้ายจาก Windows มาใช้ macOS ก็ใช้เวลาปรับตัวเรียนรู้คีย์ลัดสักระยะก็ใช้งานได้ถนัดอย่างแน่นอน ก่อนจะเริ่มใช้งานคีย์ลัด Mac...

How to

โลกในตอนนี้ไม่สามารถตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตได้เลยไม่ว่าจะเรื่องงานหรือความบันเทิงก็ต้องใช้มันทั้งนั้น แต่อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้นต่างต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ตบ้างให้อุปกรณ์ได้โหลดการตั้งค่ากลับมาใหม่อีกครั้งเป็นระยะๆ เพื่อให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการรีเซ็ตสัญญาณจะคล้ายกับวิธีการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ แต่ในบทความนี้จะเน้นเรื่องลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาเน็ตบ้านหรือเน็ตออฟฟิศใช้งานไม่ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นก่อนติดต่อช่างให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในภายหลัง เมื่อไหร่ต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ต? ทำแล้วดีอย่างไร? การรีเซ็ตสัญญาณอินเทอร์เน็ตนอกจากการปิดเปิดเราเตอร์ ก็รวมถึงการรีเซ็ตในระบบปฏิบัติการด้วย ถ้าไดรเวอร์มีปัญหาสามารถกด Roll Back driver หรือโหลดมาติดตั้งใหม่จะช่วยแก้ปัญหาได้ ถ้ารีเซ็ตสัญญาณแล้วใช้งานไม่ได้ อาจเกิดปัญหาจาก Node กระจายสัญญาณของผู้ให้บริการก็ได้ เมื่อติดตั้งเน็ตบ้านเอาไว้แล้ว แนะนำให้ขอบัญชีและรหัสผ่านเอาไว้เข้าไปตั้งค่าเราเตอร์เผื่อไว้ด้วย 6 วิธีรีเซ็ตสัญญาณเน็ตด้วยตัวเอง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก