วันนี้จะมา Review เกมแนว Hack & Slash หรือเรียกง่ายๆว่าแนว Diablo อีกเกมหนึ่งซึ่งน่าสนใจมากชื่อว่า Path of Exile โดยตัวเกมเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปลายปี 2006 และเริ่มเปิดให้เล่น Closed Beta ตั้งแต่ สิงหาคม 2011 และกำลังจะเป็น Open Beta ภายในปีนี้ ส่วนตอนนี้ถ้าใครต้องการ Closed Beta Key ต้องไปสมัครในเว็บไซต์ของมันก่อน มันจะสุ่ม Key ให้ทุกๆ 5 นาทีถ้าโชคดี แต่ถ้าอยากเล่นมากสามารถบริจาคเงิน 10$ แล้วเราก็จะได้รับ Closed Beta Key มาทันทีในฐานะ Supporter แต่ตัวเกมเต็มถ้าเปิดจริงๆจะ Free to Play ครับไม่เสียเงินในการเข้าเล่น
ตอนนี้มีทั้งหมด 5 อาชีพนะครับ (จริงๆมี 6 กำลังพัฒนาอยู่อีก 1) ประกอบด้วย
The Marauder ถ้าไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็เข้าใจง่ายๆว่าบาบาเรี่ยนในเดียโบนั่นแหละเน้นการใช้พละกำลังเป็นหลัก
The Ranger เน้นความว่องไวในการโจมตีและหลบหลีก สามารถโจมตีทะลุชุดเกราะได้
The Witch เก่งกาจในเรื่องมนตรา สามารถโจมตีศัตรูให้ตายได้ภายในคราเดียว แต่ต้องแลกกับความอ่อนแอของตัวละคร
The Duelist มีทั้งพละกำลังและความว่องไว ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายใช้เทคนิคผสมผสานเพื่อจัดการศัตรู
The Templar อัศวินศักสิทธิ์ผู้ใช้เวทย์มนต์และอาวุธในการต่อสู้
จะเห็นได้ว่า คลาสทั้งหมดนั้นแบ่งตามค่าสเตตัสเป็นหลัก
The Marauder = STR
The Ranger = DEX
The Witch = INT
The Duelist = STR + DEX
The Templar = STR + INT
ตอนนี้ก็ยังเหลืออีกอาชีพหนึ่งที่ยังไม่ถูกประกาศออกมาว่าเป็นอะไรก็รอลุ้นกันต่อไปนะครับ
โดยเริ่มเกมมาเราจะเป็นผู้นักโทษที่ถูกเนรเทศแต่เรือดันล่มก่อนระหว่างเดินทางก็เลยต้องมาลุยต่อเพื่ออยู่รอด ซึ่ง Theme ของเกมจะออกอารมณ์ Dark หน่อยๆไม่ค่อยมีกลิ่น Fantasy ออกมาเท่าไหร่นัก ระบบพื้นฐานผมจะไม่พูดถึงมากเท่าไหร่ เกมนี้มีระบบอื่นที่น่าสนใจกว่ากันมาก มาเริ่มกันที่อย่างแรก
1.ระบบเงิน
เกมนี้ไม่มีระบบเงิน !!! งงกันละสิ มีแต่เป็นของเท่านั้น แล้วอย่างงี้เวลาเราขายของให้ NPC เราจะได้อะไรมาละ คำตอบก็คือ แล้วแต่ครับ เช่นขายอาวุธธรรมดาไม่มีออฟชั่นก็จะได้ ชิ้นส่วนของกระดาษไว้ identify ของที่มีออฟชั่น เก็บให้ครบ 5 อันถึงได้ครบหนึ่งชิ้นเต็มๆ หรือขายของที่มีออฟชั่นนี้ๆๆๆแล้วก็จะได้วัตถุดิบหรือชิ้นส่วนวัตถุดิบ เอาไว้เสริมออฟชั่นให้อาวุธบลาบลาบลา พวกนี้ก็จะมีค่าแตกต่างตามๆกันไปเป็นอีกหนึ่งสกุลเงินที่แปลกดีเหมือนกัน เป็นเกมแรกเลยที่เจอระบบแบบนี้ จะว่าดีไหมมันก็ดี จะว่าไม่ดีมันก็ไม่ดี ดีตรงที่ไม่ได้เป็นแค่ก้อนเงินเก็บไว้เฉยๆ สามารถเอาไปทำอย่างอื่นได้เยอะแยะ ไม่ดีตรงที่เวลาจะขายของอะไรสักชิ้นจะตีราคากันยากมากไม่รู้ว่าจะคุ้มหรือไม่คุ้ม
2. ระบบการอัพ Skill
เกมนี้มีสกิล 2 ประเภทครับแบ่งกันอย่างชัดเจน Passive Skill และ Active Skill
โดย Passive Skill นั้นเราจะได้อัพต่อเมื่อ Level Up โดยจะเป็น Skill Tree ขนาดใหญ่ ใครที่เล่น Final Fantasy X คงจะคุ้นๆกับระบบนี้อยู่ โดยจะเริ่มจากตรงกลางแล้วเราจะเลือกอัพอะไรต่อไปเรื่อยๆก็ได้ จะผสมกันกี่สายก็ว่ากันไป
ส่วน Active Skill จะ Drop หรือได้รับจาก Quest เป็น item ชนิดหนึ่ง โดยสามารถใส่ได้หลายสกิลขึ้นอยู่กับจำนวน Slot ของชุดและอาวุธที่ใส่อยู่ วิธีใช้คือ ทันทีที่ได้เพชร Skill มา เราต้องดูว่ามันเป็นเพชรสีอะไร จากนั้นเราก็สามารถเลือกได้ว่าจะใส่กับอาวุธหรือชุดอันไหนที่มีรูใส่สีตรงกัน สามารถถอดออกสลับไปใส่อย่างอื่นได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกลัวว่าใส่สกิลนี้ไปกับชุดนี้แล้วตอนหลังจะเปลีย่นชุดถอดออกมาเก็บไว้ไม่ได้ ส่วนการเลเวลอัพสกิลก็คือการเก็บเลเวลไปเรื่อยๆนั่นแหละ แต่ละสกิลก็จะมี Exp bar แยกกันออกไป
3. ความอิสระของระบบ
เกมนี้มีคอนเซปที่ว่า เป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น เพราะฉะนั้นอาชีพไหนก็ใช้ความสามารถข้ามอาชีพได้เพราะ Passive Skill Tree เหมือนกันทุกอาชีพ และ Active Skill ก็สามารถหามาใส่เองได้ เพราะฉะนั้นชุดและอาวุธก็สลับกันใส่ได้อิสระ จะให้จอมเวทย์ถือขวานสองมือก็ได้ ให้จอมโจรถือคทาก็ได้ ถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า “เอ้าแล้วงี้ทุกอาชีพจะมีความแตกต่างยังไงกันถ้ายังไงๆก็อัพสกิลข้ามสายถืออาวุธอะไรก็ได้แบบนี้” คำตอบคือจะแตกต่างกันตอนเริ่มต้นครับ โดยต่างกันอยู่ 2 อย่างคือ ค่า Status เริ่มต้นของแต่ละอาชีพจะไม่เท่ากัน และ จุดเริ่มสตาร์ทของ Skill Tree จะเริ่มจากต่างจุดกัน เช่น Witch ก็จะเริ่มสตาร์ทจาก Skill Tree ที่อยู่ใกล้ๆสกิลสนับสนุนจำพวกเวทย์มนต์ก่อน เป็นต้น
4. ระบบ HP Potion และ Mana Potion
ปกติเกมอื่นๆขวดยาเติม HP กับเติม Mana นี้ ส่วนใหญ่ก็จะใช้แล้วก็หมดไปใช้แล้วทิ้งใช่ไหมครับ แต่ไม่ใช่กับ The Path of Exile พอกินแล้วก็จะเหลือขวดไว้เติมมาใช้ใหม่ได้โดยการฆ่า Monster 1 ตัวได้ 1 ชาร์จ ดื่มครั้งนึงใช้กี่ชาร์จก้ว่ากันไป แถมขวดยาพวกนี้ยังมีแบบที่มีออฟชั่นด้วยนะ เช่น จุชาร์จได้มากกว่าปกติ หรือ ดื่มแล้วฟื้นเลือดมากกว่าปกติ เป็นต้น
4 ระบบนี้เป็น 4 ระบบใหญ่ๆที่ทำให้เกม The Path of Exile แตกต่างจากเกม Hack & Slash เกมอื่นๆ อย่าง Diablo และ Torch Light และเราจะมาพูดถึงข้อเสียของเกมนี้กันบ้างดีกว่า
1. ระบบ Community
ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หาปาร์ตี้ยากพอสมควร แล้วตัวเกมไม่ค่อยสนับสนุนปาร์ตี้เท่าไหร่นัก เพราะตัวเกมมันจะยากขึ้น จนยอมเล่นคนเดียวดีกว่า แถมมันไม่สามารถตั้งเป็นห้องมิสชั่นเควสได้ว่าห้องนี้ถึงเควสนี้นะ หรือจะตามหาคนที่ค้างเควสเดียวอยู่กับเราก็ไม่ได้ ต้องพิมพ์หากันเอง เหมือนเกมออนไลน์ทั่วไป แต่เราจะเจอคนอื่นได้เฉพาะตอนอยู่ในเมืองเท่านั้น ออกไปนอกเมืองเมื่อไหร่ก็ถือเป็นโลกส่วนตัวของเราทันที
2. Warp Scroll
ราคาค่อนข้างแพงมากสำหรับตอนเริ่มต้น เพราะฉะนั้นต้องวิ่งลุยทีเดียวให้จบเควสแล้วกดออกเข้าเกมใหม่กลับเมืองง่ายกว่า แต่ตลกตรงที่ว่ามันดันไม่มีปุ่มกลับเมืองให้ในเกมเลยต้องออกเข้าเกมใหม่มา แล้วถ้าเกิดเราเล่นแล้วเราหลุดกลางทางเราก็ต้องไปตั้งต้นเริ่มใหม่ที่เมืองเลย ลำบากพอสมควร
3. Look and Feel
เนื่องจาก Theme ของเกมนี้มันออกแนวๆ Dark, Survivor อารมณ์นี้ ส่วนกลิ่น Fantasy มีให้ดมนิดหน่อยเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องหวังว่าพอเราเลเวลสูงๆชุดเกราะเราจะหรูๆอลังการไฮโซๆ ไม่ใช่นะครับ ก็ยังเดิมๆคล้ายๆกันหมด ดูเป็นยาจกยากจนเหมือนกันหมด 5555+ (ที่เห็นในรูปมี NPC แค่ 2 ตัวเท่านั้นที่เหลือคือผู้เล่นทั้งหมด มีทั้งเลเวลสูงและเลเวลต่ำ จะเห็นได้ว่าชุดมันก็คล้ายๆกันทั้งหมดเลย) แต่เอฟเฟคสกิลยังพอแพรวพราวอยู่ครับพอให้อภัยได้ (แต่บางคนอาจจะชอบนะดูเถื่อนๆดิบๆดี)
4. Inventory Slot
เกมนี้ Inventory ของเรามีน้อย Slot มา ใส่ไม่กี่อย่างก็เต็มแล้ว ทำให้เวลาไปลุยแต่ละทีต้องเลือกของที่อยากได้เท่านั้น ฟาร์มอะไรมากไม่ได้ เพราะจะกลับไปกลับมาค่า Town Portal ก็แพงไม่คุ้มกัน ออแล้วอีกอย่างคือ เราไม่สามารถ Double Click เพื่อขายของหรือสวมใส่ของได้ ตั้งลากมาลากไป ลากมาลากไป… เป็นเรื่องเล็กน้อยแต่สร้างความรำคาญมาพอสมควร
สรุป : โดยรวมแล้วเป็นเกมที่น่าสนใจดีครับ คิดว่ากว่าจะเปิดให้บริการตัวเต็มๆคงจะพัฒนาขึ้นมากกว่านี้อีกเยอะ เป็นเกมอีกเกมที่น่าจับตามองเลยทีเดียว อาจจะเป็นม้ามืดของปีนี้เลยก็ได้ 55+ เกมเพลย์โอเคไหลลื่นเล่นแล้วไม่งง ใครที่ชอบเกม Diablo มาลองแล้วอาจจะติดใจครับ (แต่โดยรวมผมเทใจให้ Diablo มากกว่านะ แต่อันนี้ก็พอเป็นขนมเคี้ยวเล่นได้แถมอร่อยด้วย) ว่าแล้วเราก็ไปเก็บเลเวลต่อดีกว่า ไว้เจอกันโอกาสหน้าคร้าบบ