
รายงานใหม่จาก Bloomberg สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับวงการเทคโนโลยี เมื่อแหล่งข่าวระบุว่า Johny Srouji ผู้บริหารระดับสูงที่กุมทิศทางการพัฒนา Apple Silicon มาเกือบหนึ่งทศวรรษ อาจกำลังพิจารณาอำลาบริษัท แม้ว่าข่าวยังไม่ถูกยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Apple แต่เพียงแค่กระแสข่าวก็เพียงพอให้เกิดความกังวล เนื่องจาก Srouji เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สุดของบริษัท และเป็นศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อมทุกทีมด้านฮาร์ดแวร์เข้าด้วยกัน
Apple ประสบความสำเร็จในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเพราะความสามารถในการควบคุมเทคโนโลยีชิปตั้งแต่การออกแบบ สถาปัตยกรรม การผลิต ไปจนถึงการจัดการ supply chain ดังนั้น Apple Silicon ไม่ได้เป็นเพียงชิป แต่เป็นโครงสร้างหลักของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ตั้งแต่ iPhone, iPad, Mac ไปจนถึงอุปกรณ์ใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในอนาคต การที่หัวเรือใหญ่ด้านชิปอาจพิจารณาเดินจากไปจึงถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อทิศทางของบริษัทในระยะยาวอย่างเลี่ยงไม่ได้
บทบาทระดับยุทธศาสตร์ของ Johny Srouji ในโครงการ Apple Silicon
Srouji เข้าร่วม Apple ในปี 2008 และเริ่มไต่เต้าขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมที่นำการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของบริษัท นั่นคือการเปลี่ยนจากการใช้ชิปของบริษัทอื่น มาใช้ชิปที่ออกแบบเองทั้งหมดภายใต้ชื่อ Apple Silicon ซึ่งเริ่มต้นจาก iPhone ก่อนจะขยายไปสู่ Mac รุ่นใหม่
งานของเขาครอบคลุมหลายมิติ รวมถึง:
- CPU/GPU microarchitecture direction แนวทางสถาปัตยกรรมระดับแกนของชิป
- NPU accelerator design ซึ่งเป็นหัวใจของงาน AI และ Machine Learning บนอุปกรณ์ Apple
- 5G modem direction ความพยายามลดการพึ่งพา Qualcomm
- Packaging strategy เช่น 3D packaging และ unified memory architecture
- การเจรจากับ TSMC เพื่อกำหนดแผนการใช้กระบวนการผลิตใหม่อย่าง N3, N2 และในอนาคตอาจรวมถึง A16
บทบาททั้งหมดนี้ทำให้เขาไม่ได้เป็นเพียงหัวหน้าทีมด้านเทคนิค แต่เป็นตัวเชื่อมระหว่างทีม CPU, GPU, NPU, โมเด็ม, Packaging และทีมจัดการสายการผลิต หากขาดเขาไป Apple จะสูญเสีย “ศูนย์กลาง” ที่คอยประสานงานทุกฝ่ายให้เดินไปในทิศทางเดียวกัน
ทำไมการอำลาของเขาจึงเป็นประเด็นระดับองค์กร
แม้ว่า Apple จะมีผู้บริหารมากประสบการณ์อีกหลายคน เช่น
- Zongjian Chen (หัวหน้าทีม CPU architecture)
- Sribalan Santhanam (หัวหน้า SoC integration)
แต่ไม่มีใครที่มีอำนาจตัดสินใจครอบคลุมทุกส่วนของ Apple Silicon ในภาพรวมเหมือน Srouji การที่ Apple Silicon จะต้องเดินหน้าโดยไม่มีผู้ประสานงานหลัก อาจทำให้แผนการพัฒนาระยะยาว เช่นสถาปัตยกรรมชิปรุ่นใหญ่ หรือการย้ายกระบวนการผลิตไปยัง node ใหม่ของ TSMC เกิดความไม่ต่อเนื่อง
ในโลกเทคโนโลยีปัจจุบันที่ AI เร่งให้เกิดการแข่งขันด้านประสิทธิภาพชิปสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ขับเคลื่อน Apple Silicon จึงมีความสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทอย่างยิ่ง การขาดบุคคลระดับแกนกลางอาจทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ล่าช้าลง หรือกระทบต่อทิศทางผลิตภัณฑ์ในอีก 3–5 ปีข้างหน้า
สถานการณ์ภายใน Apple ที่เปราะบางมากขึ้น
รายงานของ Bloomberg ชี้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา Apple สูญเสียผู้บริหารและวิศวกรระดับสูงหลายราย ขณะที่บริษัทกำลังผลักดันโครงการ AI ครั้งใหญ่ เช่น Apple Intelligence ซึ่งต้องอาศัยความแข็งแกร่งของ Apple Silicon เป็นพื้นฐานสำคัญ
เวลานี้จึงถือเป็นช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ของบริษัท ทั้งในเชิงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงโดยเฉพาะในทีม Apple Silicon อาจทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนและคู่ค้าลดลง แม้ Apple จะยังมีทีมปฏิบัติการที่แข็งแรง แต่การขาดผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างและจับทุกมิติพร้อมกันได้ อาจส่งผลต่อการประสานงานภายในอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Apple Silicon จะไปต่ออย่างไร หากขาดผู้นำศูนย์กลาง
แม้ Apple จะมีโครงสร้างการทำงานแบบ decentralized ที่ให้แต่ละทีมเชี่ยวชาญในงานของตนเอง แต่หัวใจสำคัญของ Apple Silicon คือการทำงานร่วมกันแบบใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU, NPU, memory subsystem หรือ packaging การไม่มีผู้ดูแลภาพรวมอาจทำให้ roadmap ในอนาคตขาดความชัดเจน เช่น
- การนำสถาปัตยกรรม CPU รุ่นถัดไปเข้าสู่ผลิตภัณฑ์
- การพัฒนา GPU เพื่อแข่งขันกับชิปฝั่ง Windows และ AI PC
- การผลักดัน NPU สำหรับ Apple Intelligence
- การย้ายไปใช้กระบวนการผลิตใหม่ เช่น N2 หรือ A16
- การพัฒนาโมเด็มภายในเพื่อหลุดจากการพึ่งพา Qualcomm
จุดแข็งที่สุดของ Apple Silicon คือการออกแบบแบบรวมศูนย์ (vertical integration) และการประสานงานหลายทีมพร้อมกัน หากขาดผู้นำที่มองเห็นทั้งระบบ อาจทำให้ความได้เปรียบนี้ลดลงได้ในระยะยาว
ที่มา: tomshardware




