
Monster Hunter Wilds หนึ่งในเกมแอ็กชันล่าแย้ที่ได้รับความคาดหวังสูงเมื่อเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็หนีไม่พ้นเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับความยากที่ “ต่ำเกินไป” โดยเฉพาะช่วงเนื้อหาเปิดเกม ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนใหญ่ที่ทำให้ผู้เล่นจำนวนไม่น้อยเล่นจบแล้ววางเกมไปในทันที แม้กระทั่งสายล่าไม่ประจำหรือผู้เล่นทั่วไปก็ยังรู้สึกว่าความท้าทายไม่ได้ถึงระดับที่คาดหวังไว้
ล่าสุด Yuya Tokuda โปรดิวเซอร์ของเกมได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้อย่างตรงไปตรงมาในงาน PlayStation Partner Awards 2025 Japan Asia โดยยืนยันว่าทีมงานไม่ได้มองข้ามเสียงของผู้เล่น พร้อมย้ำว่าปัญหาเรื่องความง่ายเกินไปได้รับการแก้ไขผ่านอัปเดตหลายครั้งตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึง endgame แบบปรับใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ผู้เล่นใหม่ง่ายขึ้น แต่ผู้เล่นเก่า “อาจง่ายเกินไป”
Tokuda อธิบายว่าการออกแบบ Wilds นั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะต้องทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่สามารถเข้าถึงเกมได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลดทอนความท้าทายสำหรับผู้เล่นประจำ
เขากล่าวว่า ทีมงานได้วิเคราะห์ว่าผู้เล่นใหม่ใน Monster Hunter: World และเกมก่อนหน้า “ติดอยู่” ตรงไหนบ้าง เช่น การเข้าถึงมอนสเตอร์บางตัว การคราฟต์อาวุธ หรือการผ่านช่วงเนื้อเรื่องบางช่วง จึงใช้ข้อมูลเหล่านั้นมาปรับสมดุล Wilds ทำให้เส้นทางการเล่นของผู้เล่นใหม่ราบรื่นกว่าเดิม
นอกจากนี้ ยังใส่ระบบใหม่อย่าง Focus Mode ที่ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนของการต่อสู้ ช่วยให้ผู้เล่นใหม่จับจังหวะการหลบ การตี และการโจมตีจุดอ่อนของมอนสเตอร์ได้ง่ายขึ้น
ผลคือ “เกมอาจง่ายเกินไปสำหรับผู้เล่นประสบการณ์สูง” ซึ่ง Tokuda ยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่าในช่วงเปิดตัว ความยากมีช่องโหว่จริง
ทีมงานอัปเดตต่อเนื่อง พร้อมเติมความท้าทายให้ Monster Hunter Wilds
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน Wilds ได้รับอัปเดตหลายชุดที่เพิ่มทั้งระบบต่อสู้ ปรับปรุง AI, เพิ่มมอนสเตอร์ใหม่, และขยาย endgame แบบที่ผู้เล่นต้องใช้ทักษะและความเข้าใจเกมมากกว่าเดิม
Tokuda จึงกล่าวอย่างชัดเจนว่า:
“ถ้าคุณเล่นจบช่วงเปิดตัวแล้ววางเกมไป ผมอยากให้ลองกลับมาเล่นอีกครั้งครับ”
ถือเป็นการสื่อสารตรงถึงผู้เล่นที่ผิดหวังในช่วงแรก ว่า Wilds ในตอนนี้ไม่ใช่เกมเดียวกับตอนเปิดตัวอีกต่อไป โดยเฉพาะสายล่าที่ต้องการความท้าทายมากขึ้นจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
แต่ปัญหาใหญ่ที่ยังคงอยู่คือ “Performance”
แม้ความยากจะถูกปรับสมดุลแล้ว แต่ผู้เล่นจำนวนมากยังคงวิจารณ์เรื่อง performance โดยเฉพาะบนพีซี เช่น เฟรมเรตตกในบางพื้นที่ การโหลด texture ช้า และปัญหา stuttering ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขจนสมบูรณ์ ณ วันที่เขียนบทความนี้ (วันที่วันนี้)
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้เล่นหลายคน แม้จะสนใจเนื้อหาใหม่ ก็ยังลังเลที่จะกลับมาเล่นจนกว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Monster Hunter Wilds ยังมีศักยภาพมากกว่านี้ และปีหน้าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
แม้ตัวเกมจะเริ่มต้นไม่สวยนัก แต่ระบบ open-world progression ที่ปรับใหม่ใน Wilds ถือเป็นการพัฒนาครั้งใหญ่ของซีรีส์ ผู้เล่นสามารถล่า สำรวจ เก็บทรัพยากร และพัฒนาตัวละครแบบต่อเนื่องในพื้นที่ open-world กว้าง ๆ ได้แบบไร้รอยต่อ ถือเป็นแนวทางที่ช่วยทำให้เกมในภาคนี้ทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจน
ด้วยอัปเดตที่ยังเหลืออยู่ และ “ส่วนขยายใหญ่” (Expansion) ที่คาดว่าจะเปิดตัวในอนาคต Wilds ยังมีศักยภาพที่จะกลายเป็นภาคที่ยอดเยี่ยมได้ หากทีมงานสามารถแก้เรื่อง performance ให้ดีขึ้นตามมาตรฐานของซีรีส์ Monster Hunter
สรุป
- Wilds เปิดตัวได้ไม่ดีนักเพราะความยากน้อยเกินไป
- ทีมงานยอมรับและแก้ไขผ่านอัปเดตหลายครั้ง
- มี endgame ใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม
- โปรดิวเซอร์เชิญผู้เล่นเก่ากลับมาเล่นอีกครั้ง
- แต่ performance ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ต่อ
- ระบบ open-world progression ยังเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจและมีอนาคตดี
ที่มา: wccftech





