สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ในครั้งนี้ผม Ogami จะขอมาแนะนำสินค้าสำหรับคอเกมกันนะครับ ซึ่งผมเอง
ก็ได้ติดต่อไปยังเพื่อนๆผู้เล่นเกมหลายๆคนและ ก็มีบทความจากหลายๆที่เขาอยากฝากมาลงให้เพื่อนๆ
ได้อ่านกัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งในครั้งนี้ผมจะนำเสนอ Laser Mouse จากทาง Saitek
รุ่น GM3200?ที่บริษัทเกมนิวอีร่าเป็นตัวแทนจำหน่าย และ สามารถหาซื้อได้จากร้าน Zest
ที่ต่างเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นร้านขายเกมกล่องที่สามารถเข้าไปหาซื้อเกมลิขสิทธิได้ตามศูนย์ไอทีชั้นนำ
แม้สำหรับเจ้าเม้าส์ตัวนี้จะออกมาซักพักใหญ่ๆแล้วก็ตาม แต่ในตลาดเกมบ้านเราที่มีเม้าส์สำหรับ
คอเกมออกมาวางจำหน่ายนั้นก็ยังเรียกได้ว่าเป็นตัวที่น่าสนใจสำหรับเลือกซื้อเลือกหาเลยทีเดียว
เพราะ เป็นเม้าส์เลเซอร์ที่ทำงานได้สูงถึง 3200 DPI เรียกได้ว่าน่าจับตามองไม่น้อย
การรีวิวจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปติดตามกันเลยดีกว่าครับ
———————————
Review :
อย่างที่ทราบกันว่าเวปนี้เน้น อุปกรณ์และเกมสำหรับคอเกมชาว Notebook ผมก็ได้มีโอกาสมารีวิวอุปกรณ์สำหรับเล่นเกมให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ก่อนอื่นเลยหากพูดถึงอุปกรณ์ในการเล่นเกมอย่าง Mouse ก็เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยทีเดียว เพราะจะไปใช้ Pad บนแป้นของ Notebook มาเล่นเกมมันก็ออกจะสามารถเกินไปซะหน่อย?เพราะงั้นในครั้งนี้ผมจะมาแนะนำ Mouse Saitek GM3200 กัน ซึ่งก่อนเราจะอ่านบททดสอบ เราไปยลเจ้าเม้าส์ตัวนี้กันก่อนเลยดีกว่า ว่าหน้าตามันเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากที่เรายลโฉมมันกันไปแล้ว?ก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ เพราะจริงๆแล้วการที่ผมให้เพื่อนๆได้เห็นรูปก่อนเพราะมันมีเหตุว่า ผมอยากให้เพื่อนๆได้เห็นดีไซน์ และ ตำแหน่งของตุ้มน้ำหนัก โดยผมจะขอพูดถึงจุดเด่นของเจ้าเม้าส์ตัวนี้ที่ผมทดสอบมานั้น คือ เราสามารถปรับน้ำหนักได้ตามใจชอบและตามความถนัดของแต่ละคน
นอกจากนั้นเรายังสามารถเลือกความลื่นได้อีกด้วย ผมอยากให้เพื่อนๆดูภาพประกอบข้างบนที่เป็นแผ่นปิดตรงช่องใส่ตุ้มน้ำหนัก ทั้ง 2 ส่วน เจ้าแผ่นนี้จะมี 2 หน้านะครับ หน้าแรกเนี่ยะ จะมีปุ่มที่ทำให้เม้าส์ลื่นเมื่อสัมผัสกับแผ่นรองเม้าส์เล็กๆแผ่นละ 2 ปุ่มด้วยกัน แต่ในอีกด้านนั้นจะเป็นแผ่นหน้าลื่น เต็มแผ่นทั้ง 2 แผ่นเลยเต็มๆ ( เรียกได้ว่าไม่ลื่นหัวทิ่มหัวตำก็ให้มันรู้ไปอ่ะ – -” ) อีกทั้งระบบการปรับ Speed Mouse หรือ ปรับค่า DPI นั้นก็ทำได้ง่าย เนื่องจากมีปุ่มเหมือนเกียร์เล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆติดกับลูกกลิ้ง เมื่อเพื่อนๆดันขึ้นหรือลง จะเป็นการปรับค่าสปีดของ DPI นั่นเอง ( ดูได้จากรูปข้างล่างนะครับ จะมีไฟ LED บอกตำแหน่งของความไว ไว้อยู่ด้วย )
แถมเจ้าเม้าส์ตัวนี้บริเวณปุ่มและบริเวณที่วางนิ้วโป้งขวา ก็ใช้วัสดุเนื้อดีเป็นเหมือนไฟเบอร์แบบเนื้อละเอียด เวลาจับจะหนึบติดมือ แถมตัวเม้าส์เป็นเม้าส์ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควร ทำให้ไม่หลุดมือง่ายๆเวลาเพื่อนๆกำลังอินไปกะเกม และ ตรงส่วนที่เป็นลายเหมือนคาร์บอนก็มีหลากหลายสี และ ลายเองก็ค่อนข้างสวยเข้าตาเลยทีเดียว และ ที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องลง Driver เพื่อใช้ในการปรับ DPI Speed ด้วยครับ ^ ^
นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Mode เอาไว้ให้เพื่อนๆที่ใช้งาน ตามความเหมาะสมของเกมแต่ละเกม โดยตัวโปรแกรมนั้นจะเลือกได้ถึงขั้นที่ว่า เกมนี้จะใช้แบบไหน แล้วพอเปลี่ยนเป็นอีกเกมค่า Config ปุ่มจะเปลี่ยนเป็นแบบไหนโดยอัตโนมัติเลยทีเดียว นอกจากนี้ตัว Driver ในโหมดยังสามารถเซตได้ด้วยว่าเช่นจะให้ปุ่มนี้ทำอะไร หรือ จะตั้งเป็น Hot Key ที่จะให้เราสั่งคำสั่งซ้ำๆกันก็ได้ด้วยการกดเพียงครั้งเดียว?ลูกกลิ้งหมุนเร็วแค่ไหน DPI Speed เองก็สามารถปรับแต่งได้ใน Driver Program เช่นกัน แถมยังตั้งได้ตามใจชอบไม่ต้องตามตำแหน่งไฟ LED อีกทั้งยังใช้ ปุ่ม Mode ในการกระจายค่า DPI Speed ของเราให้มากขึ้นได้ด้วย ( อยากให้นึกว่าปุ่ม Mode ก็ไม่ต่างกับการสลับเล่นม้วนเทปหน้า A หน้า B ครับผม )
ทีนี้ก็เข้ามาสำหรับจุดด้อยของเจ้าเม้าส์ตัวนี้กันบ้าง ประการหลักๆเลยคือ ขนาดที่ค่อนข้างใหญ่โดยเฉพาะส่วนบริเวณอุ้งมือเองนั่นแหละที่ทำให้เจ้าตัวเม้าส์นี้ใช้งานได้ค่อนข้างลำบากสำหรับคนมือเล็ก( ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มือจะไม่ค่อยใหญ่อยู่แล้วด้วย ) เพราะจะทำให้ข้อมือของเราทำงานหนัก และ เกิดอาการที่เรียกว่า”การกดทับ”ที่บริเวณข้อมือเราได้เมื่อใช้ไปเป็นเวลานาน
สำหรับปุ่มสปีดเองอยู่ใกล้ลูกกลิ้งมากเกินไป ทำให้บางทีเวลาเราหมุนลูกกลิ้งก็มีโอกาสที่จะโดนบ่อยมากๆ อีกทั้งการใช้ปุ่ม Mode จะแทบไม่มีประโยชน์นักถ้าเราไม่ทำการลง Driver?นอกจากนี้ปุ่มกดและบริเวณนิ้วโป้งเองก็เป็นรอยมันจากนิ้วมือค่อนข้างง่ายหากมีมือมันๆมาจับเข้าล่ะก็ จะเห็นรอยนิ้วมือกันเลยทีเดียว และ สุดท้ายจุดด้อยในส่วนของบริเวณที่ใส่ตุ้มน้ำหนัก และ แผ่นฝาปิดตุ้มน้ำหนัก ก็คือ ตัวตุ้มน้ำหนักไม่มีการเขียนบอกน้ำหนักเอาไว้ว่าแต่ละก้อนมีน้ำหนักเท่าไหร่ และ แผ่นฝาปิดก็มีข้อล็อก ซึ่งตรงข้อล็อกนั้นก็มีโอกาสที่จะหักได้ง่ายจากการแงะเปลี่ยนหน้าแผ่นลื่นหรือเพิ่ม-ลดน้ำหนักเหล็กถ่วง
สรุปข้อดี
วัสดุที่ใช้มีความลื่นมันเล็กน้อย จับแล้วสบายมือกับนิ้ว อีกทั้งยังยึดเกาะได้ดี
การปรับ Dpi ได้ถึง 3200 Dpi
สามารถปรับเปลี่ยนความลื่นของเม้าส์ได้โดยการสลับหน้าสัมผัส
ปรับเปลี่ยน น้ำหนัก ได้ตามความถนัดแต่ละคน
เซต Hot key ได้ 2 ชุดคำสั่งในแต่ละเกมตามที่เราตั้งเอาไว้
ตอบสนองการเคลื่อนไหวได้ไวและแม่นยำ
เหมาะกับการใช้งานโปรแกรม และ เกมส์ทุกประเภท หรือ ผู้ที่ใช้ขนาดจอใหญ่ๆ
ไม่จำเป็นต้องลง Driver ในการเสียบเพื่อใช้งาน ยกเว้นแต่ผู้ที่ต้องการจะใช้ Hot key
มีระบบตัดสัญญาณเลเซอร์ของเม้าส์อัตโนมัติเมื่อทำการยกลอยขึ้นจากพื้นที่วางเม้าส์ เพื่อเป็นการถนอมหลอดสัญญาณเลเซอร์
หัวเสียบ USB เป็นแบบทอง(เหลืองหรือเปล่าหว่า)
สรุปข้อเสีย
ขนาดที่ใหญ่ไม่เหมาะกับคนมือเล็กหรือเด็ก
เหล็กน้ำหนักไม่มีการบอกน้ำหนักชัดเจนว่าแต่ก้อนถ่วงมีน้ำหนักเท่าไหร่
ไม่รองรับกับการใช้งานบนกระจกแก้วหรือใส
ระบบตัดสัญญาณอัติโนมัติ มีการตัดสัญาณที่ค่อนข้างเร็ว ประมาณ 2 วินาที ซึ่งจะเป็นปัญหากับโปรแกรมหรือเกมส์บางประเภท อีกทั้งผู้เล่นที่ติดนิสัยชอบยกข้อมือและสะบัดระหว่างเล่นเกมด้วย(จะพบเห็นได้บ่อยเวลาผู้เล่นต้องการหันเล็งหน้าจอในเกมประเภทเดินหน้ายิง)
สีที่มีจำหน่ายในไทยยังมีแค่สีน้ำเงิน
สรุปความรู้สึกของผู้เขียนจากการทดสอบ
เม้าส์ Saitek รุ่นนี้ทำออกได้น่าประทับใจ เมื่อนำข้อเด่นกับข้อด้อยมาเทียบกันแล้ว?ไม่ว่าจะเป็นลูกเล่นของ Hot key ที่เราเซตได้ 2 ชุดคำสั่งในแต่ละเกมส์(แม้อาจจะใช้เวลาในการเซตพอสมควรก็ตาม) ใช้วัสดุคุณภาพในการผลิต และ ในราคาที่ไม่สูงนักเมื่อนำไปเทียบกันกับเม้าส์ยี่ห้ออื่นๆในท้องตลาดที่ทำออกมาคุณภาพสูสีกัน?นอกจากนี้การตอบสนองและความไว ก็เรียกได้ว่าเหมาะกับเกมส์ทุกประเภท และ เราสามารถปรับความลื่นของเม้าส์ได้ด้วยจากการสลับหน้าแผ่นรองพื้น ซึ่งในยี่ห้ออื่นๆผมเอก็ยังไม่เห็นการใช้แผ่นลื่นที่มีขนาดใหญ่แบบนี้
รวมไปถึงความสะดวกที่เราไม่จำเป็นต้องลง Driver ของเม้าส์เอง หากเราไม่ต้องการใช้ Option hot key เรียกได้ว่าเราจะเอาเม้าส์ไปเสียบกับคอมเครื่องไหนก็ได้มันก็จะเห็นเป็น Mouse ตามปกติ แถมระบบต่างๆเดิมๆของเม้าส์ก็ใช้ได้ตามปกติด้วย เพียงแต่ปุ่ม Mode อาจจะไม่ได้ใช้เท่านั้นเอง
ซึ่งสุดท้ายนี้ผมจะขอสรุปว่า เม้าส์ตัวนี้ “คุ้มค่าเงิน” ครับ ซึ่งราคาที่ขายอยู่ในตอนนี้คือ 2,490 บาท?และ สามารถสั่งซื้อผ่านร้าน Zest ได้?ซึ่งในราคานี้ผมกลับได้เม้าส์ที่มีคุณภาพเยี่ยมไม่แพ้เม้าส์ดีๆอย่าง เม้าส์ G5 หรือ G7 จากค่าย Logitech แต่อย่างใด นอกเสียจาก ขนาดและรูปทรง ที่ผู้ใช้ที่ใช้เม้าส์ที่มีขนาดพอดีมือหรือขนาดเล็กๆหน่อย ก็อาจจะไม่ประทับใจซักเท่าไหร่นัก?และเม้าส์ตัวนี้ยังมีปัญหาในด้านการตอบสนองของเลเซอร์ที่จะพบปัญหาเวลาที่ใช้กับพื้นที่ที่เป็นกระจกใส อาจจะทำให้นสัญญาณขาดๆหายๆในระหว่างการใช้งานเป็นบางช่วงครับ
————————————————————
ขอขอบคุณ
– บริษัท นิวอีร่า ที่ให้การสนับสนุนสำหรับอุปกรณ์ในการทดสอบในครั้งนี้ด้วยครับ