Connect with us

Hi, what are you looking for?

Accessories review

รีวิว TP-Link Archer MR402 และ TP-Link Archer MR202 เราเตอร์ใส่ซิม 4G พร้อมใช้ ตั้งค่าง่ายไม่ง้อ Wi-Fi ฟรี!!

TP-Link Archer MR402 และ TP-Link Archer MR202 เราเตอร์ 4G LTE อเนกประสงค์ ใช้ในบ้านก็ได้ พกไปไหนก็เลิศ!

TP-Link Archer MR402

เราเตอร์ใส่ซิม 4G แล้วใช้งานได้ทันทีอย่าง TP-Link Archer MR402 และ TP-Link Archer MR202 เป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ของคนอยากขยายเครือข่าย Mesh Wi-Fi ให้กว้างขึ้นโดยเฉพาะสายเดินทาง ถ้าต้องไปทำงานต่างที่หรือไปเที่ยวแล้วไม่มั่นใจว่า Wi-Fi ฟรีจะแอบขโมยข้อมูลเราไหม ก็มีเราเตอร์คู่นี้ติดกระเป๋าไว้ใส่ซิม 4G LTE ใช้กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สะดวกอุ่นใจขึ้น เพียงเสียบปลั๊กใส่ซิมเข้าไปก็พร้อมใช้งานแล้ว แถมยังตั้งค่าผ่านสมาร์ทโฟนด้วยแอปฯ TP-Link Tether ได้เพียงปลายนิ้ว เวลาอยู่บ้านหรือนั่งทำงานในออฟฟิศไม่ได้ไปไหนก็เปลี่ยนโหมดเชื่อมต่อเข้าเครือข่าย OneMesh เป็นโครงข่ายกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตในบ้านได้ทั่วถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็วอีกด้วย

นอกจากความสะดวก เราเตอร์ตัวนี้ยังกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตแยกเป็นคลื่น  5 GHz และ 2.4 GHz ตามมาตรฐาน Wi-Fi 5 802.11ac ให้ผู้ใช้เลือกจัดสรรสัญญาณได้สะดวก มีระบบแยกสัญญาณชุดหลักกับ Guest network ให้ผู้อื่นร่วมใช้อินเทอร์เน็ตได้ รวมถึง Parental control ให้ควบคุมการเข้าถึงสิ่งสื่อต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตได้อย่างเหมาะสมและป้องกัน Malware ต่าง ๆ จู่โจมได้อีกด้วย

Advertisement
TP-Link Archer MR402

NBS Verdicts

TP-Link Archer MR202

TP-Link Archer MR402 และ TP-Link Archer MR202 จาก TP-Link เป็นเราเตอร์เพื่อผู้ที่ไม่สะดวกติดตั้งเน็ตบ้านหรือต้องเดินทางอยู่เป็นประจำโดยเฉพาะ เวลาไม่ได้เดินทางไปไหนก็เปลี่ยนโหมดเป็น Node กระจายสัญญาณในเครือข่าย OneMesh เชื่อมกับเราเตอร์ตัวหลักเพิ่มวงอาณัติสัญญาณให้กว้างขวาง นอกจากสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คแล้ว ก็ทำให้อุปกรณ์ IoT สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นและมีระบบรักษาความปลอดภัยและ Firewall ไว้ป้องกัน Malware และการเจาะระบบฝังมาให้และเจ้าของก็สามารถ Remote จากระยะไกลเข้ามาตั้งค่าเราเตอร์ได้ ซึ่งสะดวกและมีประโยชน์มาก

ความน่าประทับใจของเราเตอร์ทั้งสองรุ่น นอกจากเรื่องกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากซิม 4G ได้ดีตามหน้าที่แล้ว ถ้าตั้งค่าในแอปฯ TP-Link Tether เสร็จ จะเริ่มใช้ก็ถอดซิมจากมือถือหรือใช้ซิมเน็ต 4G รายปีมาใส่เราเตอร์แล้วเสียบปลั๊ก ปล่อยให้มันตั้งค่าเริ่มใช้งานเล็กน้อยก็ใช้งานได้แล้ว จึงไม่ต้องมากดแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตจากมือถือให้เครื่องร้อนและเปลืองแบตโดยไม่จำเป็นและถ้าจะแชร์สัญญาณเน็ตให้เพื่อนใช้งานด้วย ก็เพียงแค่เปิด Guest network หรือแชร์รหัสให้เพื่อนใช้เน็ตร่วมกันก็ได้

อย่างไรก็ตามแม้ฮาร์ดแวร์จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ความเร็ว Download / Upload เวลาใช้งานในโหมดเราเตอร์ใส่ซิมก็ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตของแต่ละคนว่าใช้งานแบบไหน หรือจะเลือกแก้ปัญหาโดยซื้อ SIM รายปีเอาไว้ใช้คู่กันก็ดีหรือถ้าแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตดีอยู่แล้วก็สมัครบริการ Multi SIM จากค่ายมือถือเอาไว้ใช้คู่กันก็ได้ และถ้าใครมีบุตรหลานแล้วต้องการฟังก์ชัน Parental Control เอาไว้บล็อคการเข้าถึงเว็บไม่พึงประสงค์หรือจะใช้ฟังก์ชัน Local Management Control ก็ต้องเลือกเป็นรุ่น Archer MR402 แทน เพราะทางบริษัทตัดฟังก์ชั่นนี้ออกไปจากรุ่นรองอย่าง Archer MR202 นั่นเอง

ข้อดีของ TP-Link Archer MR402 และ TP-Link Archer MR202

  1. เป็นเราเตอร์ใส่ซิม 4G LTE พร้อมฟังก์ชั่นสลับโหมดเป็น Router ใช้งานในบ้านได้
  2. เราเตอร์มีขนาดเล็กพกพาสะดวก เหมาะกับคนที่อยู่หอพัก คอนโด ที่ไม่สะดวกต่อการติดเน็ตบ้าน หรือต้องเดินทางไปทำงานต่างสถานที่บ่อย ๆ
  3. เริ่มต้นใช้งานได้ง่าย เพียงเสียบปลั๊กแล้วตั้งค่าผ่านแอปฯ TP-Link Tether ก็ใช้งานได้เลย
  4. รองรับ TP-Link OneMesh พ่วงกับอุปกรณ์เน็ตเวิร์กของ TP-Link เช่น Access Points, Range Extender ที่รองรับ OneMesh เพื่อให้สัญญาณครอบคลุมทั่วถึงได้ง่าย
  5. กระจายสัญญาณเป็นคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz ให้เลือกเชื่อมต่อได้ตามเหมาะสม
  6. เปิดระบบ Guest network ให้ผู้อื่นเข้ามาใช้งานได้ผ่านแอปฯ Tether
  7. ตั้งค่า Reboot ตัวเราเตอร์ให้กลับมาทำงานได้เสถียรดังเดิมได้ง่ายในแอปฯ
  8. TP-Link Archer MR402 มีระบบ Parental Control ให้ผู้ปกครองควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
  9. สามารถ Remote การเชื่อมต่อเข้ามายังเราเตอร์จากนอกสถานที่เพื่อตั้งค่าได้
  10. เสริมระบบรักษาความปลอดภัยและ Firewall มาให้ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อุ่นใจขึ้น
  11. มีไฟแสดงสถานะการทำงานที่ตัวเครื่องให้มองเห็นและทำความเข้าใจได้ง่าย
  12. พ่วงเราเตอร์ในบ้านใช้เป็น Backup router ได้เวลาอินเทอร์เน็ตบ้านใช้การไม่ได้

ข้อสังเกตของ TP-Link Archer MR402 และ TP-Link Archer MR202

  1. ความเร็วรับส่งข้อมูลเครือข่ายมือถือสูงสุดจะอยู่ที่ 150/100 Mbps จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น ท่องอินเทอร์เน็ต เล่นโซเชียลมีเดีย หรือมีอุปกรณ์ใช้งานพร้อมกันไม่กี่เครื่อง
  2. ความเร็วของอินเทอร์เน็ต 4G LTE ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตของแต่ละคน และคุณภาพสัญญาณของเครือข่ายในพื้นที่
  3. TP-Link Archer MR202 ไม่มีระบบ Parental Control และ Local Management Control ให้ใช้งาน

รีวิว TP-Link Archer MR402 และ TP-Link Archer MR202


Specification

TP-Link Archer MR402

เราเตอร์สองรุ่นทั้ง Archer MR402 และ Archer MR202 เป็นเราเตอร์ใส่ซิมเน็ต 4G ตั้งค่าด้วยแอปฯ TP-Link Tether แล้วใช้งานได้ทันที เหมาะกับผู้อยู่อาศัยในหอพักที่ไม่สามารถเดินสายอินเทอร์เน็ตได้หรือต้องเดินทางไปทำธุระต่างจังหวัดก็พกไปใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องไปเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi อื่นที่ไม่น่าไว้ใจได้ ซึ่งสเปกของทั้งสองรุ่นจะเหมือนกันแทบทั้งหมด ยกเว้นบางส่วนจะมีรายละเอียดแตกต่างกันบ้าง ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้

Specification / ProductsArcher MR402Archer MR202
Operating Mode3G/4G Router
Wireless Router
3G/4G Router
Wireless Router
Wireless standardsWi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11acWi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac
Frequency2.4 GHz และ 5 GHz2.4 GHz และ 5 GHz
Signal RateAC1200
2.4 GHz ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
5 GHz ความเร็วสูงสุด 867 Mbps
AC750
2.4 GHz ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
5 GHz ความเร็วสูงสุด 433 Mbps
Wireless Devices support64 อุปกรณ์64 อุปกรณ์
Wireless Security64/128-bit WEP, WPA/WPA2, WPA-PSK/WPA2-PSK encryptions64/128-bit WEP, WPA/WPA2, WPA-PSK/WPA2-PSK encryptions
Firewall SecurityDoS
SPI Firewall
IP Address Filter/Domain Filter
IP and MAC Address Binding
DoS
SPI Firewall
IP and MAC Address Binding
Access ControlParental Control
Local Management Control
Network Type4G: FDD-LTE: B1/B3/B5/B7/B8/B20/B28 (2100/1800/850/2600/900/800/700 MHz)

TDD-LTE: B38/B40/B41 (2600/2300/2500 MHz)

3G: HSPA/UMTS: B1/B5/B8 (2100/850/900 MHz)
4G: FDD-LTE: B1/B3/B5/B7/B8/B20/B28 (2100/1800/850/2600/900/800/700 MHz)

TDD-LTE: B38/B40/B41 (2600/2300/2500 MHz)

3G: HSPA/UMTS: B1/B5/B8 (2100/850/900 MHz)
ApplicationTP-Link Tether

iOS คลิกที่นี่

Android คลิกที่นี่
TP-Link Tether

iOS คลิกที่นี่

Android คลิกที่นี่
ManagementAccess Control
Local Management
Remote Management
reboot schedule
Access Control
Local Management
Remote Management
reboot schedule
System requirementsWindows XP หรือใหม่กว่า
MAC OS
NetWare
UNIX
Linux
Nano SIM Card
Windows XP หรือใหม่กว่า
MAC OS
NetWare
UNIX
Linux
Nano SIM Card
Internet Browser requirementsInternet Explorer 11 ขึ้นไป
Firefox 12.0 ขึ้นไป
Chrome 20.0 ขึ้นไป
Safari 4.0 ขึ้นไป
เบราเซอร์ต้องรองรับ Java
Internet Explorer 11 ขึ้นไป
Firefox 12.0 ขึ้นไป
Chrome 20.0 ขึ้นไป
Safari 4.0 ขึ้นไป
เบราเซอร์ต้องรองรับ Java
Price1,590 บาท990 บาท

Unboxing & Design

TP-Link Archer MR402

กล่องใส่เราเตอร์ของ TP-Link นอกจากใช้สีฟ้าอ่อนเหมือนผลิตภัณฑ์ชิ้นอื่นในเครือแล้ว ยังคงเอกลักษณ์อย่างการสกรีนข้อมูลโดยสังเขปเอาไว้ด้านหน้ากล่องให้ผู้ที่สนใจสามารถดูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อได้ ด้านข้างลงรายละเอียดสเปคและลงจุดเด่นเฉพาะตัวของสินค้าชิ้นนั้นไว้ด้านหลังกล่องเป็นพิเศษ

TP-Link Archer MR202

เริ่มต้นจากเราเตอร์ใส่ซิม 4G รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงอย่าง Archer MR402 ด้านหน้ากล่องจะสกรีนโลโก้ SIM Plug & Play บอกผู้ใช้ว่าสามารถใส่ซิมเน็ตแล้วใช้ทำงานได้ทันที ควบคู่กับโลโก้ OneMesh หรือเทคโนโลยีพ่วงเราเตอร์ในเครือ TP-Link เข้าหากันเป็น Mesh Wi-Fi เพิ่มอาณัติสัญญาณให้กว้างครอบคลุมพื้นที่ในบ้านและสำนักงานได้ทุกมุม ด้านข้างซ้ายระบุสเปกเราเตอร์พร้อมภาพพอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังกล่องไว้ ส่วนฝั่งขวาใช้ระบุว่าตัวเราเตอร์รองรับคลื่น 4G/3G ใดบ้างพร้อม QR Code เพื่อสแกนดาวน์โหลดแอปฯ TP-Link Tether มาติดตั้งในสมาร์ทโฟนได้

TP-Link Archer MR402

ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์พื้นฐานเพียง 4 อย่าง คือ เราเตอร์, เสาสัญญาณแบบถอดออกได้หนึ่งคู่, สาย LAN CAT5 และอะแดปเตอร์หัวปลั๊กกลม 12V / 1A อีกชิ้นหนึ่งเท่านั้น เริ่มต้นใช้งานเพียงประกอบเสาสัญญาณทั้งคู่เข้ากับเครื่อง ใส่ซิมและต่อปลั๊กหรือจะต่อสาย LAN กับโน๊ตบุ๊คเพิ่มก็ได้

น้ำหนักของเราเตอร์พอประกอบเสาสัญญาณเสร็จแล้วจะหนัก 244 กรัม รวมอะแดปเตอร์อีก 71 กรัมแล้วจะหนัก 315 กรัม เวลาจำเป็นต้องพกไปใช้งานนอกบ้านก็ถอดเสาอากาศหยิบใส่กระเป๋าไปใช้งานได้ไม่หนักมากนัก

TP-Link Archer MR402

กล่องของ Archer MR202 เองก็จะเหมือนกับ Archer MR402 แทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะสกรีนโลโก้ SIM Plug & Play กับ OneMesh เอาไว้ รวมทั้งสกรีนจุดเด่นของเราเตอร์เอาไว้ด้านหน้ากล่องด้วย แต่ถ้าสังเกตจะเห็นว่าความเร็วของ Dual Band Wi-Fi คลื่น 5 GHz ของ Archer MR202 จะน้อยกว่า Archer MR402 อยู่เล็กน้อย

TP-Link Archer MR202

ภายในกล่องของ Archer MR202 ก็จะมีอุปกรณ์ใช้งานแถมมาให้ในกล่องเหมือนกัน ทั้งเราเตอร์กับเสาอากาศ อะแดปเตอร์และสาย LAN CAT5 สำหรับเชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊คหรือเข้ากับเราเตอร์ตัวหลักจากผู้ให้บริการก็ได้เช่นกัน

TP-Link Archer MR402

จุดรวมพอร์ตและปุ่มต่าง ๆ จะอยู่ด้านหลังกล่องทั้งหมด จากซ้ายมือจะเป็นช่องสำหรับเสียบอะแดปเตอร์ ถัดมาเป็นช่องต่อสาย LAN1~LAN4/WAN มีปุ่ม WPS/Wi-Fi, Reset และช่องใส่ Nano SIM Card ติดมาให้พร้อมสกรีนบอกว่าต้องหันซิมใส่เข้าไปอย่างไร เวลาสอดแผ่นซิมเข้าไปแล้วต้องกดให้สปริงจับเข้าล็อคตัวการ์ดก็จะใช้งานได้

TP-Link Archer MR402

ตัวเครื่องด้านบนสีดำเนื้อมันจะมีส่วนใสให้ไฟแสดงสถานะสีฟ้าลอดออกมาให้ผู้ใช้มองแล้วเข้าใจได้ทันทีว่าเราเตอร์อยู่ในสถานะใด ตอนแรกพอเสียบปลั๊กเริ่มใช้งาน จะมีไฟเครื่องหมาย On/Off กระพริบอยู่สักครู่ก่อนเครื่องหมาย Wireless จะติดขึ้นมา ถ้าตัวกล่องตรวจจับได้ว่าผู้ใช้ใส่ SIM 4G LTE เอาไว้ จะมีเครื่องหมายลูกโลกและไฟขีดสัญญาณ 3 เส้นฝั่งขวาสว่างขึ้นมา แสดงว่าตัวกล่องพร้อมกระจายสัญญาณและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว

กลับกันถ้าถอด SIM 4G LTE ออกระหว่างใช้งาน ไฟลูกโลกและขีดสัญญาณสามเส้นฝั่งขวาจะดับ เหลือแต่ไฟ On/Off และเครื่องหมาย Wireless เท่านั้น เป็นสัญลักษณ์ว่าเราเตอร์พร้อมใช้งานและกระจายสัญญาณไร้สายได้ แต่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้เพราะไม่มี SIM เป็นสื่อกลาง


Performance

ผลทดสอบและซอฟต์แวร์ของ Archer MR402

แม้จะเป็นเราเตอร์ใส่ SIM 4G LTE ก็จริง แต่ก็ยังทำความเร็ว Download / Upload ได้ดีพอสมควร เร็วพอใช้ทำงาน, เปิดเว็บไซต์ดูหนังฟังเพลงได้ดีแน่นอน แต่อาจยังไม่เหมาะกับการเล่นเกมออนไลน์นัก จากการทดสอบโดยใช้ SIM ของ Gomo by AIS แพ็คเกจเน็ตความเร็วสูงสุด 1000 Mbps แต่เวลาทดสอบอินเทอร์เน็ตจาก SIM ใช้ถึงจุดที่กำหนดจนปรับความเร็วลดเหลือ 10 Mbps แล้ว กับเว็บไซต์ Speedtest by Ookla ทั้งแบบเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ LAN จะได้ผลดังนี้

  • เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 5
    • Download 20 Mbps / Upload 19.2 Mbps
    • Ping 28ms
  • เชื่อมต่อผ่านสาย LAN
    • Download 17.36 Mbps / Upload 17.3 Mbps
    • Ping 38ms

ถ้าอิงกับข้อมูลสเปคความเร็วอินเทอร์เน็ตสำหรับดูคลิปวิดีโอบน YouTube แล้ว ทาง Google แจ้งว่าถ้าอินเทอร์เน็ตมีความเร็วเกิน 20 Mbps จะเปิดดูคลิปความละเอียด 4K UHD ได้ กรณีของ Archer MR402 แนะนำให้เชื่อมต่อสาย LAN จะดีสุด อย่างไรก็ตามความเร็วรับส่งข้อมูลก็มีปัจจัยอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะสถานที่วางเราเตอร์, แพ็คเกจอินเทอร์เน็ตของ SIM นั้น รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ที่เลือกเชื่อมต่อก็จะทำให้มีความเร็วมากน้อยแตกต่างกันไป

พอทดสอบดูคลิปบน YouTube ทั้ง 2 ความละเอียด จะเห็นผลชัดเจนว่าเราเตอร์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แต่จะติดจำกัดอยู่กับแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตเป็นหลักทำให้ความเร็ว Download จำกัดอยู่ราว 20 Mbps แต่กรณีใช้งานจริงและอิงกับ Stat for Nerds ใน YouTube จะเป็นดังนี้

  • 2K QHD (1440p) : คลิปเล่นได้ต่อเนื่องไม่แพ้กับการดูคลิป 1080p สังเกตจาก Network Activity จะเห็นว่าตัวเราเตอร์ทำงานรับส่งข้อมูลอย่างต่อเนื่องและ Buffer Health ก็ทำงานได้ต่อเนื่อง คลิปสามารถโหลดเฟรมภาพล่วงหน้าได้ตามปกติ
  • 4K UHD (2160p) : แม้จะเปิดคลิปและเริ่มเล่นได้ สังเกตว่า Connection Speed, Network Activity ทำงานเต็มกำลัง แต่ Buffer Health ที่แสดงว่าตัวคลิปมีการโหลดเฟรมล่วงหน้าเอาไว้มากเท่าไหร่ทำงานได้ไม่ดีมากนัก ทำให้คลิปไม่เล่นเป็นระยะๆ

สรุปในแง่ใช้งานจริง เราเตอร์ Archer MR402 เวลาใช้งานในโหมด SIM 4G LTE จะเปิดดูคลิปบน YouTube ได้ แต่ควรปรับความละเอียดไว้ 1080p~1440p เท่านั้น ไม่แนะนำให้เปิด 2160p นัก แม้จะดูได้ แต่ Buffer Health จะทำงานไม่ต่อเนื่องนัก นั่นรวมถึงการเล่นเกมออนไลน์ซึ่งต้องการ Download speed 20 Mbps ขึ้นไปด้วย

TP-Link MR402
Twitch 1080p Source

ส่วนการเปิดดู Livestreaming ของ Twitch จะเปิดดูได้ไม่มีปัญหาแน่นอนและยังตั้งความละเอียดภาพได้ระดับ 1080p (Source) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดแล้วดูได้โดยไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย ได้เฟรมเรท 60 Fps ขึ้นไปและ Buffer Size ก็โหลดข้อมูลได้ต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาภาพหน่วงกระตุกรบกวนระหว่างดูสตรีมเลย

ผลทดสอบและซอฟต์แวร์ของ Archer MR202

รุ่นรองอย่าง Archer MR202 เองก็มีประสิทธิภาพดีไม่แพ้กัน แม้ความเร็วของ Wi-Fi 5 GHz จะน้อยกว่าบ้าง แต่กรณีใช้งานจริงกลับมีผลไม่มากนัก ยิ่งเป็นโหมดใส่ SIM 4G LTE ก็ทำความเร็วได้ไม่หนีกันมาก จากการทดสอบความเร็วด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และสาย LAN จะมีความเร็วดังนี้

  • เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 5
    • Download 15.7 Mbps / Upload 15.5 Mbps
    • Ping 30ms
  • เชื่อมต่อผ่านสาย LAN
    • Download 16.4 Mbps / Upload 13.41 Mbps
    • Ping 40ms

ด้านความเร็วเวลาดูคลิปบน YouTube จะเหมือนกับ Archer MR402 ไม่มีผิด ถ้าเปิดดูคลิปความละเอียด 2K QHD (1440p) จะสามารถเปิดดูได้รวดเร็วตามปกติ แต่ถ้าเป็น 4K UHD (2160p) แล้ว จะโหลด Buffer มาไม่ทัน ทำให้คลิปหยุดเป็นระยะ ๆ เช่นกัน ดังนั้นถ้าใช้เราเตอร์ตัวนี้ดูคลิป YouTube จะไม่เหมาะกับคลิปความละเอียดเกิน 2K QHD นัก

TP-Link MR202
Twitch 1080p Source

ความเร็วเวลาดู Livestreaming ผ่าน Twitch ตั้งค่าความละเอียดเป็น 1080p (Source) ก็สามารถเปิดดูได้ลื่นไหลต่อเนื่องไม่มีปัญหา อาจมี Buffer Size ไม่มากเท่ากับ Archer MR402 ก็จริง แต่ก็ไม่มีปัญหาอย่างภาพค้าง, ข้ามช่วงสตรีมมิ่งให้เห็นอย่างแน่นอน

จากการทดสอบเราเตอร์ทั้งสองรุ่นของ TP-Link จะเหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น เปิดเว็บไซต์และทำงานเอกสารอย่างแน่นอน สามารถเปิดเว็บโหลดไฟล์เอกสารต่าง ๆ ได้แน่นอน แต่กลับกันถ้าดูคลิปหรือ Livestreaming ควรเลือกความละเอียดภาพเอาไว้ไม่เกิน 2K QHD (1440p) จะเปิดดูได้ต่อเนื่องไม่เกิดปัญหาต้องโหลด Buffer คลิปใหม่เป็นระยะ ๆ หรือเกิดการกระตุกแล้วข้ามเฟรมหรือวิดีโอช่วงใดช่วงหนึ่งไป แนะนำว่าเปิดคลิปความละเอียด 1080p จะดูได้เป็นอย่างดี

ด้านของแอปฯ TP-Link Tether ในสมาร์ทโฟนทั้งดาวน์โหลดมาตั้งค่าเริ่มต้นใช้งานได้แล้ว ยังออกแบบ UI ให้เข้าใจได้ง่าย ในหน้าแรกของเราเตอร์แต่ละตัวจะโชว์ข้อมูลโดยสรุปให้ผู้ใช้ดูได้ว่าตอนนี้สถานะการทำงานเป็นอย่างไร มีอุปกรณ์เครื่องไหนเชื่อมต่ออยู่แล้วใช้งาน Data ไปเท่าไหร่แล้ว แถมในหน้าแรกก็เปิด Guest Network แชร์อินเทอร์เน็ตให้ผู้อื่นใช้งานได้ด้วย

ถ้าแตะเข้าไปในแท็บ More ด้านล่าง จะเปิดหน้าการตั้งค่าโดยละเอียดเพิ่มได้และมีหมวดหมู่ตั้งค่าให้เลือกมากพอควร ซึ่งส่วนที่แนะนำให้ผู้ใช้เลือกใช้งานได้แก่

  • Operation Mode : เลือกระหว่างโหมด LTE Gateway (ค่าตั้งต้น) ไว้ใส่ SIM 4G ใช้งานได้หรือเป็น Wireless Router เหมือนเราเตอร์ปกติหรือพ่วงเข้ากับเครือข่าย OneMesh ก็ได้เช่นกัน
  • Network Mode : เลือกคลื่นสัญญาณไร้สาย ตามปกติแล้วจะเป็น 4G Preferred อยู่แล้ว อาจตั้งค่าเป็น 3G / 4G Only ก็ได้ หากใช้งานทั่วไปไม่จำเป็นต้องตั้งค่าส่วนนี้ก็ได้
  • OneMesh : เชื่อมเข้าเครือข่าย Mesh Wi-Fi ของ TP-Link
  • Data Settings : ดูปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ว่าปัจจุบันใช้งาน Data ไปเท่าไหร่แล้ว สามารถตั้งปริมาณสูงสุดและเลือกรูปแบบการแจ้งเตือนได้ ซึ่งค่าตั้งต้นจะเป็น SMS Alerts
  • Security Scan : สั่งสแกนและตั้งค่าความปลอดภัยให้เราเตอร์
  • Parental Controls : เปิดโหมดตรวจสอบการใช้งานอินเทอร์เน็ตของลูกหลานได้ สามารถสั่งควบคุมเวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ตและคอนเทนต์ที่เข้าถึงได้ มีเฉพาะ Archer MR402 เท่านั้น

นับว่าแอปฯ Tether นอกจากใช้งานได้ง่ายมีหน้าต่างรวมข้อมูลสำคัญไว้หน้าแรกให้ดูได้สะดวกแล้ว ยังมีโหมดการตั้งค่าเราเตอร์รวมมาให้ผู้ใช้ปรับแต่งเราเตอร์ได้ง่ายและละเอียดอีกด้วย นับเป็นจุดแข็งของสินค้าจาก TP-Link ทุกรุ่น ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถตั้งค่าเราเตอร์ให้ทำงานได้ตามต้องการได้ง่าย


User Experience

TP-Link MR402

แง่การใช้งานจริง ถือว่า TP-Link Archer MR402 และ Archer MR202 ต่างทำงานได้ดี แม้จะมีความเร็วต่างกันอยู่บ้าง แต่เวลาใช้งานจริงไม่ว่าจะโหมด Wireless Router เป็นกล่องเสริมพ่วงกับเราเตอร์ตัวหลักจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือเอาเข้ามาเพิ่มในเครือ OneMesh เสริมเข้ากับกล่อง Wi-Fi ของ TP-Link ตัวอื่นก็ทำงานได้ดีมาก ตั้งค่าเปลี่ยนโหมดก็ง่ายเพราะทำในแอปฯ Tether ทั้งหมด ไม่ต้องทำผ่าน Web UI เหมือนกับเราเตอร์ตัวอื่นให้วุ่นวายเลย แถมราคาก็เข้าถึงง่ายจะซื้อมาพ่วงเข้าเครือข่าย Mesh ก่อนแล้วถอดออกมาเป็น 4G LTE Router เวลาต้องเดินทางไปทำงานต่างที่ก็สะดวกดีเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ 4G Backup ถ้าต่อไว้กับเราเตอร์แล้วสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเกิดปัญหา ก็ยังใช้อินเทอร์เน็ตจากซิมมือถือทำงานต่อได้ด้วย

ข้อดีของเราเตอร์ทั้งสองตัว คือ มีพอร์ต LAN ติดตั้งมา 4 ช่อง ให้เอาอุปกรณ์สำคัญอย่างคอมพิวเตอร์หรือ Smart TV มาต่อทิ้งไว้กับมันได้เลย จะได้ใช้อินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลาและทำให้สัญญาณเสถียรต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Android TV จะได้ประโยชน์จากส่วนนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ดูสตรีมมิ่งจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ดีกว่า Wi-Fi อย่างชัดเจน

TP-Link MR402

ส่วนการพกไปใช้งานนอกสถานที่ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการใช้งานหลักของเราเตอร์ซีรีส์นี้ก็ทำงานได้ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเซ็ตอัพให้พร้อมใช้งานได้ง่ายเพียงใส่ SIM 4G แล้วต่อปลั๊กเพียงไม่กี่วินาทีก็เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้วและทำงานได้เสถียรดี สามารถเชื่อมต่อโน๊ตบุ๊คเข้ากับเราเตอร์แล้วเปิดเว็บทำงานหรือดูคลิปวิดีโอบน YouTube ก็ทำได้สบายมาก แต่ถ้าจะเล่นเกมออนไลน์แนะนำให้เช็คความเร็วอินเทอร์เน็ตก่อนว่าในบริเวณที่ใช้งานสัญญาณอินเทอร์เน็ตเร็วหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นอาจเกิดการแล็คแล้วพลาดจังหวะได้

หลายคนอาจคิดว่า TP-Link Archer MR402 กับ Archer MR202 อาจเหมาะกับคนชอบเดินทางในประเทศเป็นหลัก แต่ถ้าดูตามคลื่นสัญญาณที่รองรับจะเห็นว่ามันรองรับคลื่น 4G LTE หลากหลายแบนด์มาก นำติดกระเป๋าไปใช้งานได้กว่า 100 ประเทศทั่วโลก จึงเหมาะกับ Business trip ต่างประเทศเช่นกัน กรณี Wi-Fi ของโรงแรมรับส่งข้อมูลได้ช้าไม่ทันใจและมี Internet SIM พร้อมแพ็คเกจ Unlimited อยู่ จะย้าย SIM มาใส่เราเตอร์ตัวนี้เพื่อใช้ทำงานก็เป็นอีกวิธีที่ดีไม่แพ้กัน


Conclusion

router

เราเตอร์ TP-Link รุ่นใส่ SIM 4G LTE แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่หลายคนมองข้ามเพราะอาจไม่ได้ใช้บ่อย แต่กลับมีประโยชน์มากเพราะปรับโหมดใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำเป็น Wireless Router หรือเชื่อมเข้า TP-Link OneMesh เพิ่มอาณัติสัญญาณก็ได้ เวลาต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศหรือต่างจังหวัดก็ถอดออกมาใส่ซิมเน็ตกระจายสัญญาณให้โน๊ตบุ๊คกับมือถือได้ด้วย เรียกว่ามีประโยชน์กว่าที่คิดแถมราคาก็ไม่แพงเกินไป ถ้าเป็นคนที่ต้องเดินทางไปไหนบ่อยมีเราเตอร์ตัวนี้ติดกระเป๋าไว้ยังไงก็มีประโยชน์กว่าแชร์เน็ตจากมือถือให้เครื่องร้อนแบตเสื่อมเร็วแน่นอน

ถ้าเราเตอร์ทั้งสองรุ่นตอบโจทย์การใช้งานของเราแล้ว แต่ยังฟันธงไม่ถูกว่ารุ่นไหนจะเหมาะกับการใช้งานแบบไหนมากกว่า กรณีนี้ขอแยกเป็น 2 แบบ คือ

  1. เน้นเดินทางไปต่างถิ่นบ่อยกว่า Archer MR202 ก็เพียงพอแล้วเพราะเวลากระจายสัญญาณจาก SIM 4G LTE ได้ความเร็วไม่แพ้กับ Archer MR402 แถมมีราคาถูกกว่าเพียง 990 บาทเท่านั้น
  2. เดินทางบ้างแต่ส่วนใหญ่ติดเป็นจุดกระจายสัญญาณในบ้านหรือออฟฟิศ กรณีนี้ Archer MR402 จะน่าใช้กว่า เพราะเราสามารถใช้โหมด Parental Control ควบคุมการเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตได้และรีโมตเข้ามาแก้ปัญหาได้สะดวกกว่า ราคาอาจจะสูงขึ้นเล็กน้อยเป็น 1,590 บาท แต่ได้ใช้ประโยชน์อย่างแน่นอน
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

Mercusys Halo H80X Mesh Wi-Fi ตัวเล็กสเปกดี กระจายสัญญาณ Wi-Fi 6 ให้ลื่นทั้งบ้านได้สบาย! หลายคนรู้ว่าวิธีทำให้ Wi-Fi ส่งสัญญาณได้ดีสุด คือ ทำให้มันมีสิ่งกีดขวางสัญญาณน้อยที่สุดหรือใช้ Mesh Wi-Fi อย่าง Mercusys Halo H80X มาเป็นตัวช่วยเพิ่มจุดกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมทั่วบ้านและสำนักงานยิ่งขึ้น ซึ่ง Mesh...

Buyer's Guide

ถ้าคิดถึงเราเตอร์ใส่ซิม 5G หลายคนมักคิดถึง Pocket Wi-Fi ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมวดหมู่นี้เท่านั้น ตามจริงแล้วนอกจากตัวกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตขนาดเล็กพกใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้ ก็มีแบบกล่องขนาดเท่าเราเตอร์ทั่วไปเสริมช่องใส่ SIM 5G เข้ามา มันจึงเหมาะกับคนอยู่หอพักหรือคอนโดมิเนียมที่เจ้าของอาคารไม่อนุญาตให้เจาะหรือเดินสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตมาก เพียงต่อปลั๊กใส่ซิมแล้วตั้งค่าผ่านแอปฯ มือถือก็ใช้งานได้ทันที กระจายสัญญาณคลื่น Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax ให้อุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันที ไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลงไปจนเล่นเกมออนไลน์ก็ไม่มีปัญหา เราเตอร์ใส่ซิม 5G...

Tips & Tricks

กำแพงภาษาอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ใครหลายคนไม่อยากเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพราะกลัวจะสื่อสารไม่ได้คุยกับใครไม่รู้เรื่อง แต่ในยุคนี้ก็มีแอพแปลภาษาให้โหลดไปติดตั้งในสมาร์ทโฟนเอาไว้สื่อสารกับชาวต่างชาติได้ง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็สามารถพูดสื่อสารกันได้ตั้งแต่ถามเส้นทางการเดินทางไปจนติดต่อคุยงานกันในยามจำเป็นก็ยังได้ แม้จะไม่ถึงระดับของล่ามที่ฝึกฝนภาษานั้นมาเป็นเวลานานจนเชี่ยวชาญแต่ในนาทีสำคัญมันก็ช่วยแก้ปัญหาให้เราได้แน่นอนแถมส่วนใหญ่เป็นแอพฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือถ้าจ่ายค่าบริการเพิ่มก็ได้ฟีเจอร์มาเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกหลายอย่าง ถ้าพูดถึงแอพฯ เหล่านี้เมื่อไหร่ เป็นใครก็ต้องคิดถึง Google Translate ก่อนเป็นชื่อแรกแน่นอนแ แต่บางประเทศ เช่น จีนแผ่นดินใหญ่ปลายทางยอดนิยมของชาวไทยตอนนี้หรือรัสเซียก็ไม่สามารถใช้ Google ได้ ยกเว้นจะ Roaming สัญญาณเน็ตเข้าไป ก็มีทางออกโดยหันมาใช้แอพฯ เฉพาะของที่นั่นแทน ซึ่งใช้งานได้ดีพอกันและออกแบบมาเพื่อภาษานั้นโดยเฉพาะด้วย ทำให้การแปลภาษาลื่นไหลสื่อสารกับผู้คนได้ต่อเนื่อง แถมแอพฯ เหล่านี้ก็พัฒนาตัวเองให้แปลเอกสารและไฟล์...

Accessories review

TP-Link Tapo C200C กล้องวงจรปิดต่อมือถือได้ พ่วง Google Home ก็สะดวก ส่องสิ่งต่างๆ รอบบ้านได้ทุกเวลา ราคาค่างวดหนึ่งใบม่วง! ในปัจจุบัน เวลาจะไปเที่ยวหรือไปทำงานเช้าเย็นกลับก็ตาม เป็นใครก็ต้องห่วงสมาชิกในบ้านหรือสัตว์เลี้ยงจนต้องหากล้องวงจรปิดมาติดเพิ่มแน่นอน ซึ่ง TP-Link Tapo C200C เป็นกล้องคุณภาพดีราคาเบาเพียง 499 บาท แต่ให้ฟีเจอร์มาเกินราคาพร้อมชุดติดตั้งไม่ว่าจะวางบนโต๊ะหรือแขวนกำแพงกับเพดานก็ได้และสื่อสารกับคนปลายทางได้ผ่าน Tapo App...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก