
โน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท ในปัจจุบันจะนับเป็นกลุ่มพรีเมี่ยมก็ไม่ผิดเพราะผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ก็เลือกใส่ฟีเจอร์, วัสดุ, ดีไซน์และฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาในโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้มากมาย ไม่ว่าจะชิปเซ็ตจากผู้ผลิตชั้นนำ 3 เจ้าหลัก ไม่ว่าจะ AMD Ryzen AI, Intel Core Ultra Series และน้องใหม่สาย ARM Architecture ซึ่งหลายแบรนด์ให้ความสนใจอย่าง Snapdragon X Series ซึ่งเอาข้อดีด้านการจัดการพลังงานได้ยอดเยี่ยมแถมทำงานได้รวดเร็ว ผสานกับ Prism Emulator ในระบบปฏิบัติการ Windows 11 แล้ว ชิปเซ็ตนี้ก็ใช้งานได้ดีไม่แพ้กันอย่างแน่นอน
จุดน่าสนใจถัดมาของโน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท คือ ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คแต่ละเจ้าจะเอาฟีเจอร์ใหม่มาใส่ในโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้ก่อนเป็นประจำ ไม่ว่าจะใช้วัสดุเนื้อผสมทำตัวเครื่อง, ดีไซน์ให้ถอดหน้าจอแยกออกมาเพื่อใช้งานแบบแท็บเล็ตได้, ใส่ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมเข้ามาในทัชแพดให้ทำงานได้มากกว่าใช้ลากเคอร์เซอร์เมาส์ไปมาและกดคลิ๊กเลือกสิ่งต่างๆ ได้เท่านั้น ทำให้โน๊ตบุ๊คเหล่านี้ดูมีสีสันน่าสนใจกว่ารุ่นทั่วไปซึ่งเน้นสเปกต่อราคาคุ้มค่าอย่างเดียวแน่นอน
โน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท น่าซื้ออย่างไรบ้าง?
- โน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท ในปัจจุบันมักติดตั้งซีพียูรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงมาให้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะ AMD Ryzen AI, Intel Core Ultra หรือ Snapdragon X Series ก็ได้
- โน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท บางรุ่น เช่น IdeaPad Duet 5 หรือ Surface Pro 11 ถูกดีไซน์ให้ถอดหน้าจอแยกเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ต ใช้งานได้แบบ 2 in 1
- โน๊ตบุ๊คบางเบากลุ่มนี้มักติดตั้งเซนเซอร์สแกนใบหน้ามาให้ ทำให้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกขึ้น

7 โน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท สเปกน่าใช้ พกง่ายสบายไหล่แน่นอน!!
- MSI Prestige 14 AI Studio C1VEG (38,990 บาท)
- Lenovo IdeaPad Duet 5 12IRU8 (40,990 บาท)
- Lenovo Yoga 7 2-in-1 14IML9 (40,990 บาท)
- ASUS ZenBook 14 OLED UM3406KA (43,990 บาท)
- HP OmniBook X AI 14-fe1012QU (44,990 บาท)
- Acer Swift AI 14 SF14-51-73EM (44,990 บาท)
- Microsoft Surface Laptop 7 (45,490 บาท)
1. MSI Prestige 14 AI Studio C1VEG (38,990 บาท)

CPU | Intel Core Ultra 7 155H แบบ 16 คอร์ 22 เธรด (6P+8E+2LPE) ความเร็วสูงสุด 4.8 GHz |
GPU | NVIDIA GeForce RTX 4050 VRAM 6GB GDDR6 |
SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
RAM | 32GB DDR5 บัส 5600MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
Display | 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880*1800) พาเนล IPS 100% DCI-P3 |
Price | 38,990 บาท (Advice, BaNANA) |
MSI Prestige 14 AI Studio C1VEG เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท ติดตั้งจีพียู NVIDIA GeForce RTX 4050 มาให้ทำงานและประมวลผลกราฟิคได้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะใช้ตัดต่อวิดีโอ, แต่งภาพหรือเล่นเกมชั้นนำเพื่อฆ่าเวลาก็ได้ด้วยหน้าจอ 14″ 2.8K ขอบเขตสี 100% DCI-P3 หรือจะใช้ทำงานออฟฟิศก็สะดวกเพราะมีทั้ง Windows 11 และ Microsoft Office Home & Student 2021 ติดมาให้พร้อมใช้งาน เพียง Sign in ก็ใช้งานได้แล้ว แถมสเปกตั้งต้นจากโรงงานก็เพียงพอใช้งานและตั้งราคามาเข้าถึงง่าย จึงเอางบ 50,000 บาท ไปลงกับอุปกรณ์เสริมอย่าง USB-C Hub, เมาส์, คีย์บอร์ดทำงานหรือหน้าจอแยกได้เลย ตอบโจทย์พนักงานออฟฟิศและครีเอเตอร์แน่นอน
ข้อดี
- ได้ซีพียู Intel Core Ultra 7 155H กับ GeForce RTX 4050 ใช้ทำงานได้เป็นอย่างดี
- หน้าจอมีความละเอียด 2.8K ขอบเขตสี 100% DCI-P3 แสดงสีสันได้สวยสมจริง
- USB-C เป็น Full Function กับ Thunderbolt 4 อย่างละช่อง ใช้ต่ออุปกรณ์และชาร์จไฟได้
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7
- ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือและใบหน้ามาให้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกรวดเร็ว
- มีระบบ Tobii Aware ไว้ตรวจจับคนแอบมองหน้าจอ เพิ่มความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
- สามารถดาวน์โหลด MSI AI Artist มาใช้ AI วาดภาพเพื่อใช้งานได้
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
ข้อสังเกต
- อัปเกรด RAM ได้มากสุดเพียง 32GB เท่านั้น ไม่ได้ 64GB เท่ารุ่นอื่นในเครือ
- น้ำหนัก 1.7 กก. หนักกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นอยู่บ้าง แต่ก็ยังพกพาสะดวก
2. Lenovo IdeaPad Duet 5 12IRU8 (40,990 บาท)

CPU | Intel Core i7-1355U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็วสูงสุด 5 GHz |
GPU | Intel Iris Xe Graphics |
SSD | M.2 NVMe SSD 512GB |
RAM | 16GB LPDDR4x บัส 4266MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
Display | ทัชสกรีน 12.4 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560*1600) พาเนล IPS 95% DCI-P3 Dolby Vision |
Price | 40,990 บาท (BaNANA) |
ถ้าต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท ในรูปร่างแท็บเล็ต จะมี Lenovo IdeaPad Duet 5 12IRU8 ให้เลือก ข้อดีคือรูปร่างเป็นแท็บเล็ตทำให้พกพาง่ายและน้ำหนักเบาเท่ากับแท็บเล็ตพร้อมคีย์บอร์ดเซ็ตหนึ่งเท่านั้น ภายในกล่องก็มีสไตลัส Lenovo Pen แถมมาให้ จึงใช้เขียนจดหรือเซ็นเอกสารได้สะดวก ไม่ต้องทำงานข้ามอุปกรณ์ไปมาให้เสียเวลาและติดเซนเซอร์สแกนใบหน้ามาให้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกขึ้น เหมาะกับการพกพาไปเข้าห้องเรียนหรือเข้าประชุมมาก แต่อย่างไรก็ตาม IdeaPad Duet 5 มีขนาดค่อนข้างเล็กและเป็นทรงแท็บเล็ต ดังนั้นเวลาตั้งโต๊ะใช้เป็นเครื่องเดสก์ท็อปแนะนำให้หา USB-C Hub มาต่อเพิ่มจะใช้งานได้สะดวกขึ้น ด้านซีพียูแม้จะยังเป็น Intel 13th Generation แต่ก็ยังใช้ทำงานได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพสูงพอใช้ทำงานออฟฟิศได้อย่างแน่นอน
ข้อดี
- หน้าจอทัชสกรีนรองรับ Dolby Vision และแสดงขอบเขตสีได้กว้าง 95% DCI-P3
- สามารถถอดหน้าจอแยกจากเครื่องใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้ ใช้สไตลัสเขียนจดสิ่งต่างได้สะดวก
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
- กล้องหน้าติดตั้งเซนเซอร์สแกนใบหน้า IR Camera มาให้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวก
- น้ำหนักเบาเพียง 1.18 กก. เท่านั้น พกพาได้สะดวกเหมือนแท็บเล็ตเครื่องหนึ่ง
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 6
- มีพอร์ต USB-C 3.2 Full Function ให้ใช้งาน 2 ช่อง ใช้ต่ออุปกรณ์เสริมได้มากขึ้น
ข้อสังเกต
- ซีพียูยังเป็น Intel Core i7-1355U ไม่ได้เป็น Intel Core Ultra แต่ก็ยังใช้ทำงานได้ดี
- ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างเล็ก ถ้าใช้เป็นคอมตั้งโต๊ะควรหาอุปกรณ์เสริมมาใช้ร่วมกัน
3. Lenovo Yoga 7 2-in-1 14IML9 (40,990 บาท)

CPU | Intel Core Ultra 7 155H แบบ 16 คอร์ 22 เธรด (6P+8E+2LPE) ความเร็วสูงสุด 4.8 GHz |
GPU | Intel Arc Graphics |
SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
RAM | 16GB LPDDR5X บัส 7467MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
Display | ทัชสกรีน 14 นิ้ว ความละเอียด WUXGA (1920*1200) พาเนล OLED 100% DCI-P3 Dolby Vision VESA DisplayHDR True Black 500 |
Price | 40,990 บาท (BaNANA) |
Lenovo Yoga 7 2-in-1 14IML9 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท ที่ออกแบบมาใช้ทำงานโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะได้ซีพียู Intel Core Ultra 100 Series กับ Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้ใช้งานพร้อมกับหน้าจอขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 จึงใช้ทำงานออฟฟิศได้ทุกแบบ ตั้งแต่งานเอกสารทั่วไปจนกระทั่งตัดต่อแต่งภาพกับวิดีโอก็ทำงานได้ดีแน่นอน แถมพาเนลหน้าจอยังเป็นแบบทัชสกรีนและมีสไตลัสแถมมาให้ จึงเอาไว้เซ็นเอกสารและใช้จดวาดเนื้อหาต่างๆ เข้าไปในเอกสารได้โดยตรง ไม่ต้องส่งงานข้ามเครื่องไปมาระหว่างโน๊ตบุ๊คกับแท็บเล็ตก็จบงานในคอมเครื่องเดียวได้ แถมขาบานพับหน้าจอยังดีไซน์มาให้พลิกกลับ 360 องศา เป็นแท็บเล็ตจึงใช้งานได้สะดวกยืดหยุ่นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมาก
ข้อดี
- ซีพียูเป็น Intel Core Ultra 7 155H ประสิทธิภาพสูง ใช้ทำงานและรัน AI ได้ดี
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
- หน้าจอทัชสกรีน มีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 และรองรับ Dolby Vision
- บานหน้าจอพับกลับเป็นแท็บเล็ตได้และมีสไตลัสไว้เขียนจดสิ่งต่างๆ ได้สะดวก
- ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้ 2 ช่อง ต่อหน้าจอแยก, ชาร์จไฟและโอนไฟล์ได้
- ติดตั้งกล้อง IR Camera มาให้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ง่าย
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 6E
ข้อสังเกต
- หน้าจอมีความละเอียดระดับ WUXGA เท่านั้น หากเป็น WQXGA ก็จะดีมาก
- RAM เป็นแบบ LPDDR5X ไม่สามารถเปิดฝาอัปเกรดในภายหลังได้
4. ASUS ZenBook 14 OLED UM3406KA (43,990 บาท)

CPU | AMD Ryzen AI 7 350 แบบ 8 คอร์ 16 เธรด (Zen 5*4 / Zen 5c*4) ความเร็วสูงสุด 5GHz |
GPU | AMD Radeon 860M |
SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
RAM | 32GB LPDDR5X บัส 5200MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 Microsoft 365 Basic |
Display | 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880*1800) พาเนล OLED Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 600 |
Price | 43,990 บาท (BaNANA, ASUS Official Store) |
กลุ่มโน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท ติดฟีเจอร์ใช้งานมาให้หลายอย่าง เช่น ASUS ZenBook 14 OLED UM3406KA นับว่าน่าสนใจมาก ด้านสเปกได้ทั้ง AMD Ryzen AI 7 350, RAM 32GB LPDDR5X กับ SSD 1TB ติดตั้งมาให้ เท่านี้ก็ใช้ทำงานออฟฟิศได้สบายแถมเล่นเกมฆ่าเวลาได้แล้ว ด้านลูกเล่นพิเศษก็มีทั้ง ASUS NumberPad ไว้ใช้พิมพ์ตัวเลขได้ดีไม่แพ้ Numpad ทั่วไป, ติดตั้ง USB-C Full Function มา 2 ช่อง ไว้ใช้ต่อหน้าจอ ชาร์จไฟหรือโอนไฟล์ก็ได้ รวมถึงได้หน้าจอความละเอียดสูงขอบเขตสีกว้างอีก จะใช้ทำงานออฟฟิศทั่วไปก็ใช้ได้หรือจะใช้ตัดต่อแต่งภาพกับวิดีโอก็ทำได้ดี แถมตัวเครื่องยังเบาเพียง 1.2 กก. พกไปไหนก็สะดวกมาก ตอบโจทย์คนทำงานสายเซลส์และ AE ที่ต้องไปพบลูกค้าเป็นระยะๆ แน่นอน
กลับกัน Zenbook 14 OLED อาจไม่ถูกใจคนชอบเปิดฝาอัปเกรดนักเพราะมีอินเทอร์เฟส M.2 NVMe SSD เพียงช่องเดียวเท่านั้นและ RAM ก็ติดตั้งมาแบบออนบอร์ดจึงทำอะไรไม่ได้มาก ถ้าพฤติกรรมการใช้งานคือซื้อเครื่องมาเปิดใช้งาน ไม่ยุ่งอะไรกับชิ้นส่วนภายในเครื่องก็ไม่มีปัญหาแน่นอน
ข้อดี
- ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen AI 7 350 ใหม่มาให้ มีคอร์ 2 ชุด จึงทำงานได้ดีและประหยัดแบตฯ
- ติดตั้งหน่วยความจำในเครื่องมามากเพียงพอใช้งาน มี RAM 32GB LPDDR5X และ SSD 1TB
- แป้นทัชแพดเป็น NumberPad พิมพ์ตัวเลขได้เหมือนแป้น Numpad ทั่วไป
- หน้าจอมีความละเอียด 2.8K ขอบเขตสี 100% DCI-P3 แสดงสีสันได้สวยสมจริง
- ติดตั้ง Microsoft Office Home 2024 มาให้พร้อมใช้งาน
- น้ำหนักเบามากเพียง 1.2 กก. เท่านั้น พกพาได้สะดวกสบาย
- ติดตั้งกล้องอินฟาเรด IR Camera มาให้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ง่าย
- พอร์ต USB-C เป็น Full Function ทั้งสองช่อง ใช้ต่อหน้าจอแยก, ชาร์จไฟและโอนไฟล์ได้
ข้อสังเกต
- อัปเกรดเพิ่ม RAM ไม่ได้ และมีช่อง M.2 NVMe SSD เพียงช่องหลักช่องเดียวเท่านั้น
- แนะนำให้เปิดระบบ Pixel Refresh เอาไว้ตลอดเวลาเพื่อถนอมพาเนล OLED
5. HP OmniBook X AI 14-fe1012QU (44,990 บาท)

CPU | Qualcomm Snapdragon X Plus X1P-42-100 แบบ 8 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.2~3.4 GHz |
GPU | Qualcomm Adreno |
SSD | M.2 NVMe SSD 512GB |
RAM | 16GB LPDDR5X บัส 8400MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
Display | ทัชสกรีน 14 นิ้ว ความละเอียด 2.2K (2240*1400) พาเนล IPS 100% sRGB |
Price | 44,990 บาท (Advice, BaNANA) |
ถ้าอยากใช้โน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท แล้วหวังจะลองใช้ชิปเซ็ต Snapdragon X Series ณ ตอนนี้ HP OmniBook X AI 14-fe1012QU เป็นรุ่นที่สเปกกับราคาอยู่ในระดับกำลังดี ได้ชิป Snapdragon X Plus กับ RAM 16GB LPDDR5X เท่านี้ก็ใช้รัน AI และทำงานออฟิศได้แล้ว ซึ่งตอนนี้ชิป Snapdragon X Series ก็ใช้งานกับโปรแกรม เช่น Office Suite, Adobe Suite หรือซอฟท์แวร์สายโปรแกรมมิ่งอย่าง Visual Studio, Unity, Python หรือ Docker Desktop ได้แล้ว แถมทาง HP ก็ได้ทาง Poly Studio มาช่วยปรับแต่งไมค์, ลำโพงและกล้องเว็บแคมให้ใช้ประชุมงานออนไลน์ได้ภาพและเสียงคมชัดยิ่งขึ้น ดังนั้น OmniBook X AI นี้จึงตอบโจทย์พนักงานออฟฟิศโดยเฉพาะงานธุรการและเซลส์แน่นอนอย่างมาก ด้านงานกราฟิคก็ใช้งานได้ไม่ว่าจะแต่งภาพหรือตัดต่อวิดีโอก็เหมาะเช่นกัน หากใครอยากลองใช้โน๊ตบุ๊ค Snapdragon เครื่องนี้ก็นับว่าน่าสนใจเช่นกัน
ข้อดี
- ชิปเซ็ตเป็น Qualcomm Snapdragon X Plus ใช้ทำงานได้ดีและประหยัดพลังงานมาก
- ได้หน้าจอความละเอียดสูง 2.2K ขอบเขตสี 100% sRGB แสดงสีสันได้สวยงาม
- พอร์ต USB-C ทั้งสองช่องเป็น Full Function ต่อหน้าจอแยก, ชาร์จไฟและโอนไฟล์ได้เร็ว
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
- ระบบกล้องหน้าและลำโพงปรับจูนโดย Poly Studio ให้เหมาะกับการทำงานออนไลน์ยิ่งขึ้น
- กล้องเว็บแคมติดตั้งเซนเซอร์ IR Camera มาให้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้เร็วและง่าย
ข้อสังเกต
- หากทาง HP ติดตั้ง RAM ในเครื่องมา 32GB LPDDR5X จะเปิดโปรแกรมต่างๆ ได้มากขึ้น
- RAM ติดตั้งแบบออนบอร์ด จึงอัปเกรดได้เฉพาะ M.2 NVMe SSD เท่านั้น
6. Acer Swift AI 14 SF14-51-73EM (44,990 บาท)

CPU | Intel Core Ultra 7 258V แบบ 8 คอร์ 8 เธรด (4P+4LPE) ความเร็วสูงสุด 4.8 GHz |
GPU | Intel Arc Graphics 140V |
SSD | M.2 NVMe SSD 512GB |
RAM | 32GB LPDDR5X บัส 8533MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
Display | 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1920*1200) พาเนล OLED 100% DCI-P3 |
Price | 44,990 บาท (Advice) |
นอกจากจะเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท แล้ว Acer Swift AI 14 SF14-51-73EM ก็ยังเหมาะกับการใช้งาน AI อีกด้วย เพราะซีพียู Intel Core Ultra 7 258V มีกำลังประมวลผลรวม 115 TOPS เวลารันโปรแกรมหรือส่วนเสริมภายในโปรแกรมที่เป็น AI จะได้ผลลัพธ์รวดเร็วขึ้น แถมพลังประมวลผลต่างๆ ก็ดีกว่าในอดีตชัดเจนไม่ว่าจะเปิดใช้ทำงานกับโปรแกรมต่างๆ ตามปกติ, ทำงานกราฟิคหรือเล่นเกมก็ใช้ได้ ประกอบกับสเปกส่วนอื่นไม่ว่าจะ RAM 32GB และซอฟท์แวร์ Windows, Microsoft Office ใน M.2 NVMe SSD แล้ว เจ้าของเครื่องเพียงแค่ Sign in ก็พร้อมใช้ทำงานทันที จุดน่าสนใจถัดมา คือ กล้องเว็บแคมถูกอัปเกรดความละเอียดขึ้นเป็น 1440p ทำให้เวลาประชุมงานกับผู้อื่นจะเห็นใบหน้าของเราชัดเจนขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ทาง Acer ติดตั้ง SSD 512GB มาให้เท่านั้น ถ้าใครจะติดตั้งโปรแกรมหรือเก็บไฟล์งานไว้ในเครื่องแนะนำให้เพิ่มความจุอีกสักนิดจะดีกว่า ซึ่งตัวระบบรองรับมากสุดถึง 2TB ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นอย่างแน่นอน
ข้อดี
- ซีพียูเป็น Intel Core Ultra 7 258V ประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงานและใช้งานดีรอบด้าน
- ได้ RAM 32GB LPDDR5X ติดตั้งมาให้จากโรงงาน ไม่ต้องอัปเกรดเพิ่มก็ยังได้
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งานทันที
- หน้าจอแสดงขอบเขตสีได้กว้าง 100% DCI-P3 ได้สีสันสวยสมจริง ใช้ทำงานกราฟิคได้
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7
- ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้ 2 ช่อง ต่อหน้าจอแยก, โอนไฟล์และชาร์จไฟได้ในตัว
- น้ำหนักเบาเพียง 1.26 กก. เท่านั้น พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก
- ติดตั้งเซนเซอร์ทั้งสแกนใบหน้าและนิ้วมือมาให้เลือกใช้งานได้ตามต้องการ
ข้อสังเกต
- ถ้าได้ M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB จากโรงงานก็จะดี จะได้ติดตั้งโปรแกรมทำงานได้มากขึ้น
- ควรเปิดฟีเจอร์ถนอมพาเนล OLED เอาไว้ตลอด เพื่อป้องกันอาการหน้าจอเบิร์น
7. Microsoft Surface Laptop 7 (45,490 บาท)

CPU | Qualcomm Snapdragon X Plus X1P-42-100 แบบ 8 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.2~3.4 GHz |
GPU | Qualcomm Adreno |
SSD | M.2 NVMe SSD 512GB |
RAM | 16GB LPDDR5X บัส 8448MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft 365 |
Display | ทัชสกรีน 13.8 นิ้ว ความละเอียด 2304*1440 พิกเซล พาเนล IPS Refresh Rate 120Hz Dolby Vision |
Price | 45,490 บาท (Advice) |
หากใครอยากใช้โน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท แล้วได้รับประสบการณ์ Windows 11 อย่างที่ Microsoft อยากให้เป็น ก็ต้องใช้โน๊ตบุ๊คที่ทางบริษัทออกแบบเองอย่าง Microsoft Surface Laptop 7 ซึ่งรุ่นล่าสุดนี้นอกจากออกแบบให้เข้าเงื่อนไขเป็น Copilot+ PC ให้รันโปรแกรมกับส่วนเสริม AI ได้ดีด้วยชิปเซ็ต Snapdragon X Plus ซึ่งปัจจุบันสามารถเปิดใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้แล้ว และได้เปรียบตรงการจัดการพลังงานอีกด้วย ด้านการทำงานทั่วไปสามารถทำได้ดีแล้ว ความบันเทิงก็ไม่แพ้กันเพราะหน้าจอรองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision ให้ภาพสวยงามคมชัดและลื่นไหลด้วยค่า Refresh Rate 120Hz แล้ว ยังเป็นทัชสกรีน จึงเอานิ้วแตะเลือกสิ่งต่างๆ บนหน้าจอได้เลยไม่ต้องใช้เมาส์ก็ได้
กลับกัน ถ้า SSD 512GB ภายในเครื่องมีความจุไม่พอแล้วอยากอัปเกรดจำเป็นต้อง Clone Windows จากไดรฟ์ตัวเก่ามาใส่ SSD ขนาด M.2 2230 ตัวใหม่แทน หากวิธีนี้ดูยุ่งยากไปบ้างก็แนะนำให้หา External SSD มาใช้คู่กันก็จะสะดวกกว่า
ข้อดี
- ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon X Plus ใช้ทำงานได้ดีและประหยัดพลังงานมากและรัน AI ได้ดี
- เป็น Copilot+ PC ได้ใช้งานฟีเจอร์ AI ใหม่ จาก Microsoft เป็นกลุ่มแรกๆ
- หน้าจอเป็นทัชสกรีนความละเอียดสูงและรองรับ Dolby Vision ใช้งานได้ดี
- น้ำหนักเบาเพียง 1.34 กก. เท่านั้น พกพาสะดวกใช้งานได้ง่าย
- กล้องเว็บแคมติดเซนเซอร์สแกนใบหน้ามาให้ ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกรวดเร็ว
- ติดตั้งพอร์ต USB-C 4.0 Full Function มาให้ ต่อหน้าจอแยกและชาร์จไฟได้
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7
ข้อสังเกต
- มี RAM 16GB LPDDR5X อัปเกรดเพิ่มความจุในภายหลังไม่ได้
- ถ้าใช้งานโปรแกรมหลายตัวและเก็บไฟล์งานไว้ในเครื่องเยอะ ควรเพิ่มความจุ SSD เป็น 1TB
สรุปสเปก 7 โน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท ใช้งานดี โปรแกรมครบเครื่อง!!



ว่าด้วยองค์ประกอบต่างๆ ของโน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท ก็นับเป็นกลุ่มพรีเมี่ยมในยุคนี้ได้เต็มปาก สังเกตว่าผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ก็พากันใส่ฟีเจอร์และเลือกใช้วัสดุแบบใหม่ให้ตัวเครื่องบางและเบาลงไปเรื่อยๆ จนเริ่มแตะระดับ 1 กก. หรือต่ำกว่านั้นแล้ว หรือไม่ก็เปลี่ยนแนวทางทำให้เครื่องนั้นเป็นโน๊ตบุ๊ค Copilot+ PC ให้รัน AI ได้รวดเร็วขึ้นแทน ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะเหมาะกับคนแตกต่างกันไปตามโจทย์การใช้งาน
ในบรรดาโน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท แต่ละรุ่นถ้านับตามจุดเด่นแล้ว คนที่ต้องรัน AI เป็นประจำแนะนำว่าหารุ่นชิปเซ็ต Snapdragon X Plus อย่าง Microsoft Surface Laptop 7 หรือ HP OmniBook X AI มาใช้ก็จะดีสุด แต่ในกรณีต้องทำงานกราฟิคด้วย MSI Prestige 14 AI Studio พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA จะตอบโจทย์กว่า ด้านความเบาพกง่ายก็ยังต้องยกให้ Acer Swift AI 14, ASUS Zenbook 14 OLED กับ Lenovo IdeaPad Duet 5 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสุด ณ จุดนี้ ถ้าโจทย์การใช้งานของเราเข้ากับตัวอย่างแบบไหน ก็เลือกรุ่นนั้นไปเป็นเครื่องคู่ใจใช้งานได้โดยไม่ผิดหวังแน่นอน
FAQ
1. ระหว่าง AMD กับ Intel ซีพียูแบบไหนเหมาะกับโน๊ตบุ๊คทำงานมากกว่า?
ตอบ ซีพียูทั้งสองแบรนด์ต่างใช้ทำงานได้ดีมาก แต่ถ้าเป็นงานเฉพาะทางอย่างตัดต่อวิดีโอ, แต่งภาพหรือพัฒนาโปรแกรม Intel จะเหมาะกว่าเพราะมีชุดคำสั่ง (Instruction) ภายในรองรับเยอะกว่า ด้าน AMD จะเหมาะกับโปรแกรมกับงานเน้นกำลังและปริมาณคอร์ซีพียูเป็นหลัก
2. ข้อแตกต่างระหว่าง Microsoft Office Home & Student 2021 กับ Microsoft Office Home 2024 มีเรื่องไหนบ้าง?
ตอบ ในแง่การใช้งานจริง โปรแกรมทั้งสองเวอร์ชั่นมีความแตกต่างกันน้อยมาก แต่ Microsoft Office Home 2024 จะปรับแต่งหน้าตาของโปรแกรมให้ดูสวยงามขึ้น, เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามา เช่น การคอมเมนต์เอกสารงานของผู้อื่นแล้วเจ้าของงานสามารถส่ง Reaction กับความเห็นนั้นได้, นำภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนเข้ามาใส่เอกสารได้โดยตรง, รองรับไฟล์ OpenDocument Format (ODF) 1.4 ฯลฯ หากไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ก็ไม่จำเป็นนัก
3. ซีพียู Intel Core i7-1355U ณ ตอนนี้ยังน่าใช้อยู่หรือเปล่า?
ตอบ ตัวชิปเซ็ตเป็น Intel 13th Generation มี 10 คอร์ 12 เธร็ด แบ่งเป็น 2 P-Core กับ 8 E-Core มีประสิทธิภาพสูงพอใช้ทำงานออฟฟิศทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาแน่นอน
4. โน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท แบบพับหน้าจอกลับเป็นแท็บเล็ตได้จะแข็งแรงทนทานไหม?
ตอบ บานพับหน้าจอของโน๊ตบุ๊คบางเบา 50000 บาท ถูกออกแบบให้บานพับแข็งแรงมากอยู่แล้ว ในกรณีใช้งานตามปกติก้านบานพับจะมีโอกาสเสียหายน้อยมาก
5. ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon X Plus ใช้งานดีหรือไม่?
ตอบ ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon X Plus เป็นรองจากชิปรุ่นสูงสุดอย่าง Snapdragon X Elite ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้งานกับโน๊ตบุ๊คในปัจจุบัน มีข้อดีตรงการทำงานรวดเร็วและจัดการพลังงานได้เยี่ยม ใช้งานกับโปรแกรมทั่วไปในชีวิตประจำวันได้แน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
