Connect with us

Hi, what are you looking for?

How to

แนะนำวิธีเปลี่ยนภาษา Windows 10 และ Windows 11 ฉบับพาทำทุกขั้นตอนแบบง่ายๆ อัปเดตปี 2024

เปลี่ยนภาษา Windows 10 และ Windows 11 ฉบับง่าย จับมือทำทีละขั้นตอนจนเป็นได้เลย!!

เปลี่ยนภาษา Windows 10

วิธีการเปลี่ยนภาษา Windows 10 และ Windows 11 นอกจากการกดปุ่ม Grave Accent (`) หรือเรียกติดปากกันว่า “ปุ่มตัวหนอน” แล้วก็มีวิธีเปลี่ยนภาษาแบบอื่นซึ่ง Microsoft มีมาให้ใช้ซึ่งแตกต่างจากวิธีปกติและคีย์ลัด Windows+Spacebar ซึ่งมีมาให้ใช้ตั้งแต่ Windows 10 ได้ด้วย ซึ่งการเปลี่ยนไปกดปุ่มอื่นจะมีประโยชน์ต่อสายภาษามากเพราะได้ไอคอน Tilde (~) และพิมพ์เครื่องหมายเปอร์เซ็นต์ (%) ตรงปุ่มนี้ได้ด้วย โดยเฉพาะงานสายอักษรศาสตร์เอกสารติดต่อต่างประเทศจะได้ใช้เป็นประจำแน่นอน ส่วนการตั้งค่าของ Windows ทั้งสองเวอร์ชั่นก็ไม่ต่างกันมากและยังเอามาใช้ร่วมกันได้อีกด้วย

เปลี่ยนภาษา Windows 10

วิธีเปลี่ยนภาษา Windows 10 และ Windows 11 อยากเปลี่ยนภาษาพิมพ์หรือเขียนเลือกดูตรงนี้!


เปลี่ยนภาษา Windows 10 ได้ง่ายๆ แถมวิธีของ Windows 11 ให้ด้วย!

เปลี่ยนภาษา Windows 10

เริ่มต้นจาก Windows 10 เวอร์ชั่นยอดนิยมของผู้ใช้หลายๆ คนในปัจจุบัน จะมีวิธีเข้าหน้าตั้งค่าภาษาต่างจาก Windows 11 เล็กน้อยในช่วงเริ่มต้น แต่ปลายทางจะไปจบตรงหน้าต่าง Text Services and Input Languages เหมือนกัน ซึ่งวิธีการเข้าไปยังหน้าเปลี่ยนภาษาจะมีขั้นตอนดังนี้

Advertisement
  1. กดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า Typing settings จะขึ้นเป็นไอคอนรูปคีย์บอร์ดแล้วกด Enter
  2. เลื่อนลงมาด้านล่างสุดตรง More keyboard settings เลือกหัวข้อ Advanced keyboard settings
  3. เข้ามาแล้วจะมีตัวอักษรสีฟ้าใต้หัวข้อ Switching input methods เขียนว่า Language bar options
  4. กดเข้าไปจะมี Text Services and Input Languages ขึ้นมา ให้เลือกแท็บ Advanced Key Settings กดเข้าไปแล้วจะเป็นหน้ารวมวิธีเปลี่ยนภาษา
  5. เลือกหัวข้อ Between input languages จะเห็น Key sequence อยู่ด้านข้าง ปกติจะเป็น Left Alt+Shift ตั้งต้นจากตัวระบบปฏิบัติการ Windows ให้เลือก Change Key Sequence…
  6. จะมีหน้าต่างเลือกวิธีเปลี่ยนภาษา ให้โฟกัสตรงกรอบ Switch Input Language ด้านซ้ายมือ จะเป็นการเลือกเปลี่ยนวิธีเปลี่ยนภาษา
  7. จะมีตัวเลือกทั้งหมด 4 แบบ คือ
    • Not Assigned ไม่ตั้งค่าใช้คีย์ลัดตามปกติ จะใช้วิธีกดปุ่ม Win+Spacebar แทน
    • Ctrl+Shift กดได้ทั้งสองฝั่งของคีย์บอร์ด ซึ่งปกติแล้วจะใช้กับคีย์ลัดต่างๆ ของ Windows ถ้ากดกับปุ่ม Shift ก็เปลี่ยนภาษาได้ เป็นคีย์ลัดที่ผู้เขียนชอบใช้และแค่เลื่อนมือซ้ายลงมาเล็กน้อยก็เปลี่ยนภาษา Windows 10 และ 11 ได้ทันที
    • Left Alt+Shift เป็นวิธีเปลี่ยนภาษาแบบสากลและเป็นคำสั่งพื้นฐานของ Windows ด้วย
    • Grave Accent (`) ปุ่มเปลี่ยนภาษา Windows 10 และ 11 ยอดนิยมของคนไทย ซึ่งตัวสัญลักษณ์ของปุ่มนี้มักจะใช้กับภาษาต่างประเทศบ่อยๆ หากใครทำเอกสารติดต่องานต่างประเทศเป็นประจำก็ควรเว้นปุ่มนี้เอาไว้จะพิมพ์ได้สะดวกขึ้น

วิธีเปลี่ยนภาษา Windows 11 ไม่ยาก ทำตามขั้นตอนได้เลย!

ขั้นตอนการเข้าหน้าตั้งค่าปุ่มเปลี่ยนภาษาของ Windows 11 จะมีอยู่ 2 วิธี ได้แก่

  1. สังเกตตรง Taskbar ด้านล่างขวา คลิกตรงชื่อภาษาแล้วจะมีหน้าต่าง Keyboard layout แสดงภาษาทั้งหมดในเครื่อง ให้เลือก More keyboard settings เพื่อเข้าสู่หน้าตั้งค่าภาษา
  2. อีกวิธีคือเข้าผ่านการตั้งค่ารวม (Settings) เลือก Time & language เข้าหัวข้อ Language & region
เปลี่ยนภาษา Windows 10

ทั้งสองวิธีจะเข้ามาในหน้าต่างรวมการตั้งค่าภาษาของตัวเครื่องเหมือนกัน ให้เลือกเข้าหัวข้อ Typing ต่อได้ทันที แต่ในหน้านี้จะรวมการตั้งค่าอื่นๆ เอาไว้ด้วย ได้แก่

เปลี่ยนภาษา Windows 10
  • Country or region – เลือกประเทศของผู้ใช้ได้ เพื่อให้ระบบของ Windows คัดเลือกคอนเทนต์ที่เข้ากับความสนใจของเรามานำเสนอตรงกรอบ Widgets ตรงฝั่งซ้ายของ Taskbar โดยปกติจะแสดงข้อมูลของสภาพอากาศ, ดัชนีหุ้น, สภาพการจราจรไปตามจังหวะเวลานั้นๆ ว่ามีเนื้อหาอะไรเหมาะสมและเป็นประโยชน์กับเจ้าของคอมบ้าง สามารถคลิกซ้ายเพื่อเปิดออกมาอ่านข้อมูลโดยสรุปได้ทันที
  • Regional format – ตั้งค่าการแสดงผลบางอย่างเช่นวันและเวลาให้เข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้ใช้ ในส่วนนี้ปล่อยให้เป็น Recommended เอาไว้ก็ได้หรือจะเลือกเป็นแบบไทยในตัวเลือก Thailand ด้านล่างสุดก็ได้เช่นกัน
  • Administrative language settings – กดแล้วจะเปิดคำสั่ง Region ขึ้นมาเพื่อตั้งค่าได้ว่าจะเซ็ตหน้าเริ่มต้นล็อคอินใช้งานในหัวข้อ Welcome screen and new user accounts หรือเซ็ตภาษาสำหรับใช้ในโปรแกรมต่างๆ ใน Language for non-Unicode programs ก็ได้เหมือนกัน

คำสั่งคีย์ลัดเปลี่ยนภาษา Windows 10 ทาง Microsoft จะย้ายมันมาอยู่ในหัวข้อ Advanced keyboard settings เมื่อกดเข้าไปแล้วจะมีหัวข้อสีฟ้าเขียนว่า Language bar options ให้เลือก แต่หัวข้ออื่นๆ ในหน้าต่างนี้ก็น่าสนใจเช่นกัน โดยแต่ละหัวข้อจะมีดังนี้

เปลี่ยนภาษา Windows 10
  • Touch keyboard – เปิดแป้นคีย์บอร์ดหน้าจอขึ้นมาใช้งานเหมือนแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ปกติแล้วจะทำงานต่อเมื่อ Windows ตรวจพบว่าคอมเครื่องนั้นไม่ได้ต่อหรือถอดคีย์บอร์ดแยกออกจากเครื่อง (When no keyboard attached) แต่ถ้าต้องการเปิดคีย์บอร์ดบนหน้าจอ ต้องเข้าหัวข้อ Accessibility > Keyboard แล้วเลื่อนลงมาจะมีหัวข้อ On-screen keyboard ให้เปิด
  • Show text suggestions when typing on the physical keyboard – ใช้ฟังก์ชั่นแนะนำคำที่เหมาะสมในรูปประโยคนั้นๆ แต่จะจำกัดใช้งานได้บางภาษาเท่านั้น หลักๆ คือภาษาอังกฤษ
  • Multilingual text suggestion – แนะนำคำใช้งานในภาษาต่างๆ เวลาพิมพ์งาน โดยขึ้นเป็นกรอบคำแนะนำเหนือตัวอักษรนั้นๆ ให้เลือกกดใส่เข้าไปในประโยคได้ทันที
  • Autocorrect misspelled words – แก้คำพิมพ์พิมพ์ผิดให้โดยอัตโนมัติ เปิดใช้งานตั้งแต่เริ่มใช้งาน Windows เป็นค่าตั้งต้นอยู่แล้ว
  • Highlight misspelled words – เน้นคำผิดให้เห็นชัดเจนให้ผู้ใช้สังเกตเห็นแล้วแก้ไขได้ทันที เปิดมาเป็นค่าตั้งต้นอยู่แล้วเช่นกัน
เปลี่ยนภาษา Windows 10
  • Typing insights – หน้าเก็บข้อมูลวิธีการพิมพ์ของผู้ใช้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วแบ่งหัวข้อออกเป็นหมวดต่างๆ เพื่อบอกผู้ใช้ว่านิสัยเวลาพิมพ์งานเป็นอย่างไร โดย Windows จะใช้ AI ภายในเครื่องช่วยแนะนำคำและวิธีการพิมพ์ให้ ในหน้านี้จะแสดงหัวข้อแยกเป็นหมวดต่างๆ คือ
    • Autocompleted words – ให้ระบบเขียนคำที่แนะนำและต้องการให้เสร็จสรรพ
    • Suggested words – ใช้คำจากการแนะนำของระบบปฏิบัติการกี่ครั้ง
    • Keystrokes saved – ลดปริมาณการกดปุ่มบนคีย์บอร์ดเมื่อพิมพ์ตามคำแนะนำไปกี่คำ
    • Spelling corrections – แก้คำเขียนผิดของผู้ใช้ให้ถูกต้องกี่ครั้ง
    • Swiped words – ใช้วิธีปาดนิ้วเพื่อเอาคำตามแนะนำของ Windows ไปกี่ครั้ง มักเกิดขึ้นตอนพิมพ์บนหน้าแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสแล้วปาดนิ้ว

หลังจากกดเข้า Language bar options แล้ว จะเข้ามายังหน้า Text Services and Input Languages ซึ่งเป็นหน้าเปลี่ยนคีย์ลัดเปลี่ยนภาษา Windows 10 และ 11 ซึ่งหน้าต่างนี้จะมี 2 หัวข้อด้วยกัน คือ หน้า Language Bar สำหรับตั้งค่าว่าจะให้ตัวหน้าต่างนี้แสดงผลอย่างใด โดยเลือกได้ 3 แบบ คือ

  1. Floating On Desktop – เป็นหน้าต่างลอยอยู่บนหน้า Desktop เล็กๆ ให้เห็นภาษาพิมพ์ได้ทันที
  2. Docked in the taskbar – ฝังเอาไว้กับแถบ Taskbar ด้านล่างซ้ายมือตามปกติ
  3. Hidden – ซ่อนแถบภาษาเอาไว้ไม่ต้องโชว์ขึ้นมา

ถ้าต้องการเปลี่ยนคีย์ลัดให้กดแท็บ Advanced Key Settings ด้านบนก่อนแล้วจะมีหน้าต่าง Hot keys for input languages รวมคีย์ลัดเปลี่ยนภาษาและเลย์เอ้าท์ของคีย์บอร์ดขึ้นมาให้ดู แยกเป็นภาษาและ Key sequence หรือคำสั่งคีย์ลัดเปลี่ยนภาษาในเครื่อง แต่ถ้าใครมีภาษาที่ 3 นอกจากไทยและอังกฤษก็มีวิธีเซ็ตคีย์ลัดเปลี่ยนข้ามไปภาษาที่ต้องการได้ทันที ถ้าเปลี่ยนภาษาตามปกติให้เลือก Between input languages กดปุ่ม Change Key Sequence… ได้เลย

ในกรอบหน้า Change Key Sequence จะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ Switch Input Language คือเปลี่ยนภาษาพิมพ์ของคีย์บอร์ดตามปกติ เลือกได้ 3 แบบ คือ Grave Accent (`) ตามปกติ, Left Alt+Shift ตามค่าตั้งต้นของ Windows หรือใช้ Ctrl+Shift บนคีย์บอร์ดก็ได้เหมือนกัน

กรณีมีภาษาที่ 3 อย่างจีน, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศษ ฯลฯ แล้วต้องการเปลี่ยนไปภาษานั้นทันทีก็ตั้งค่าได้ โดยเลือกภาษานั้นก่อนแล้วกด Change Key Sequence จะเป็นในตัวอย่างภาพขวา โดยจะมีหน้าต่างปุ่มเปลี่ยนภาษาโดยเฉพาะอีกแบบให้เลือก สามารถคลิก Enable Key Sequence แล้วเลือกได้ว่าจะกด Ctrl, Ctrl+Shift, Left Alt+Shift รวมกับปุ่มตัวเลข 0~9, Tilde (~) หรือ Grave Accent (`) แล้วเปลี่ยนไปพิมพ์ภาษานั้นเลยก็ได้ หากคอมใครมีเกิน 2 ภาษาควรมาเซ็ตคีย์ลัดนี้เอาไว้จะใช้งานได้สะดวกขึ้น


ไม่ได้จะเปลี่ยนภาษาพิมพ์ แต่เปลี่ยนภาษาตัวเครื่อง Windows 11 ให้ทำตามนี้!

วิธีการเปลี่ยนภาษาตัวเครื่องของ Windows 10 จะเปลี่ยนโดยเข้าไปในคำสั่ง Options ของแต่ละภาษาหรือเปลี่ยนตอนเพิ่มภาษาพิมพ์เข้าไปในเครื่องก็ได้โดยทำตามวิธีดังนี้

  1. กดปุ่ม Start เลือกหัวข้อ Settings
  2. เลือกหัวข้อ Time & Language เข้าหัวข้อ Language
  3. ในหัวข้อ Windows display language จะมีหัวข้อ Preferred languages
  4. เลือกภาษาที่ต้องการในหัวข้อนี้ แล้วเพิ่มภาษาในหัวข้อ Display language แล้วกดติ๊กถูกในหัวข้อ Install language pack ถัดลงมาจะมีหัวข้อให้เลือกว่า Set as my Windows display language ให้กดตรงนี้จะเปลี่ยนภาษาตัวเครื่องได้ ถ้าอยากให้เครื่องเป็นภาษาไทยก็เลือกหัวข้อนี้
  5. เมื่อกดเปลี่ยนแล้วภาษาในเครื่องจะเป็นภาษาไทยไปบางส่วนก่อน ถ้าต้องการให้แสดงผลครบถ้วนจะต้อง Sign out หรือ Restart เครื่องหนึ่งครั้งจะแสดงผลได้ครบถ้วน

ส่วนการเปลี่ยนภาษาแสดงผลของ Windows 11 จะอยู่ในหน้า Language & region ตรงกรอบด้านบนสุดในหัวข้อ Windows display language และจะมีกรอบให้เลือกภาษาตัวเครื่องได้ แต่ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คพร้อม Windows 11 มักจะเป็นเวอร์ชั่น Single Language (Windows 11 SL) คือเลือกภาษาแสดงผลได้แค่ภาษาเดียวและมักเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น หากเปลี่ยนภาษาไม่ได้จะขึ้นกรอบสีเหลืองห้อยอยู่ด้านล่างของกรอบเปลี่ยนภาษาว่า Your Windows license only supports one display language ถ้าแต่ถ้าซื้อเป็นกล่องแยกมาติดตั้งเพิ่มมักเปลี่ยนภาษาได้

วิธีเปลี่ยนภาษาตัวเครื่องจะต้องเพิ่มภาษาใหม่เข้าไปก่อน แล้วจะมีกรอบ Language preferences เพิ่มเข้ามาให้ติ๊กเลือก Set as my Windows display language ใช้เป็นภาษาแสดงผลได้ แต่พอดาวน์โหลดและเพิ่มภาษาพิมพ์เข้าไปจะต้องไปเลือกใน Windows display language อีกครั้งแล้ว Sign out แล้ว Windows 11 จะเปลี่ยนการแสดงผลให้เมื่อ Sign in กลับเข้ามาใช้งานหรือจะกด Restart เครื่องก็ได้


เปลี่ยนภาษา Windows 10

จะเห็นว่าการเปลี่ยนภาษาของ Windows 10 และ Windows 11 นอกจากคล้ายกันแล้ว ยังเปลี่ยนได้หลายแบบ ไม่ว่าจะกดเปลี่ยนตามปกติแล้วเปลี่ยนคีย์ลัดเอา หรือเปลี่ยนข้ามไปภาษาอื่นในเครื่องเพื่อพิมพ์ข้อความติดต่อต่างประเทศก็ทำได้ง่ายๆ ถ้าให้ดีก็อยากแนะนำให้ฝึกใช้คีย์ลัดแบบ Left Alt+Shift หรือกด Ctrl+Shift ก็จะเพิ่มเครื่องหมายให้พิมพ์งานได้มากขึ้น โดยเฉพาะคนพิมพ์งานภาษาต่างประเทศโซนยุโรปอาจต้องได้ใช้เครื่องหมาย Tilde และ Grave Accent อย่างแน่นอน หรือใครอยากใช้ภาษาไทยเป็นภาษาระบบตัวเครื่องก็แนะนำให้ลองทำตามนี้จะได้ใช้งานได้สะดวกขึ้น

Photo Credits : Microsoft (1), Microsoft (2)


บทความที่เกี่ยวข้อง

ตัวขยายสัญญาณ WiFi
แคปหน้าจอคอม
อัดหน้าจอคอม
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

CONTENT

มารู้จักกับวิธีการสำรองข้อมูลของ Windows 11 ที่ถูกต้องและมีประโยชน์มากที่สุดกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย แม้ว่า Windows Backup จะเป็นวิธีการสำรองข้อมูลที่ดีสำหรับ Windows 11 ที่แถมมากับ Windows ในตัว แต่ทว่ามันก็มีข้อจำกัดนั่นเป็นเหตุผลที่เราอาศัยกระบวนการสามขั้นตอนในการสำรองข้อมูลพีซี Windows 11 ของเราอย่างเหมาะสม ต่อไปนี้คือวิธีที่เราดำเนินการด้วยการสำรองข้อมูล Windows จะมีวิธีอะไรและต้องทำอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกัน ใช้ Windows Backup...

CONTENT

สำหรับผู้ใช้โน๊ตบุ๊คสิ่งสำคัญมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยืนยาวแน่ๆ และนี่คือ 10 เทคนิคการปรับแต่งสำหรับ Windows 11 ที่จะช่วยให้คุณยืดอายุมันได้ยาวๆ แบตเตอรี่แล็ปท็อปเสื่อมสภาพตามกาลเวลาและสูญเสียความจุ ส่งผลให้มีเวลาทำงานน้อยลง เราเองก็เผชิญกับสถานการณ์เดียวกันกับโน๊ตบุ๊ค Windows 11 ของเรา แต่หลังจากปรับแต่งการตั้งค่า Windows 11 ที่ซ่อนอยู่ดังต่อไปนี้เราพบว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่มีการปรับปรุงดีขึ้นเป็นอย่างมาก จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย ปรับแต่งโหมดพลังงาน เปิดใช้งาน Battery Saver หรือ Energy...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก