Connect with us

Hi, what are you looking for?

CONTENT

9 วิธีเบื้องต้นสำหรับแก้ปัญหา Windows 10/11 ค้างอยู่บ่อยๆ

ต่อให้คอมพิวเตอร์ดีแค่ไหนคุณก็ไม่สามารถเลี่ยงอาการ Windows ค้างได้ ดังนั้นมาดูกันว่าถ้าเครื่องค้างจพมาจากสาเหตุอะไรและจะแก้ไขด้วยวิธีใดกัน

9 วิธีเบื้องต้นสำหรับแก้ปัญหา Windows 10/11 ค้าง
9 วิธีเบื้องต้นสำหรับแก้ปัญหา Windows 10/11 ค้าง

ถึงในปัจจุบันนี้ฮาร์ดแวร์ต่างๆ จะมาพร้อมกับความแรงที่มากขึ้นกว่าสมัยก่อน ทว่าปัญหาหนึ่งที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยนั้นก็คือระบบปฏิบัติการ Windows ทั้ง 10 และ 11 ชอบค้างตอนใช้งานอยู่บ่อยๆ ซึ่งสาเหตุของอาการแบบนี้นั้นมีเยอะเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะมาจากการที่ระบบปฏิบัติการเสียหาย, ระบบไฟล์เสีย, เครื่องติดมัลแวร์หรือไวรัส ไปจนกระทั่งปัญหาที่ใหญ่ที่สุดซึ่งนั่นก็คือปัญหาที่เกินขึ้นมาจากฮาร์ดแวร์ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ

หาคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows 10 หรือ Windows 11 ชอบค้างอยู่บ่อยๆ ล่ะก็ ในบทความนี้นั้นเราจะขอนำเสนอ 9 วิธีแก้ไขปัญหาเครื่องค้างบ่อยให้คุณได้ทราบกันเผื่อว่าคุณจะสามารถทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ได้โดยไม่ต้องยกเครื่องไปให้ช่างให้เสียเวลา วิธีการแก้ไขเบื้องต้นจะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย

Advertisement

  1. ตรวจสอบบันทึกใน Event Viewer
  2. เรียกใช้ตัวตรวจสอบไฟล์ระบบ
  3. อัพเดตไดรเวอร์และ Windows
  4. ทำความสะอาดและตรวจสอบไดรฟ์ระบบ
  5. ปิดการใช้งานคุณสมบัติการประหยัดพลังงาน
  6. ตรวจสอบแรม
  7. การเรียกคืนระบบ
  8. ทำความสะอาดการติดตั้ง Windows
  9. ทางเลือกสุดท้ายเปลี่ยนฮาร์ดแวร์

ตรวจสอบบันทึกใน Event Viewer

2 Launch Event Viewer

หากคุณไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของปัญหา คุณอาจได้รับเบาะแสจากบันทึกเหตุการณ์ ซึ่งมีคนไม่มากที่ทราบเรื่องนี้ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ Event Viewer ที่จะเก็บไฟล์บันทึกจำนวนมากไว้เพื่อบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ แทบทุกการกระทำที่เกิดขึ้นบนคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่น ความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์และการเปลี่ยนแปลงด้านความปลอดภัย ทุกอย่างที่คุณทำและเกิดขึ้นกับตัวระบบปฏิบัติการจะอยู่ในนี้ทั้งหมด ดังนั้นแล้วนี่ควรเป็นจุดแรกของคุณสำหรับการค้นหาสาเหตุว่าอาการเครื่องค้างนั้นเกิดจากอะไร วิธีการเข้าถึง Event Viewer นั้นคือให้คลิกขวาที่ปุ่ม Start แล้วเลือก Event Viewer จากเมนู

 

3 Event Viewer

เมื่อคุณอยู่ใน Event Viewer ให้ใส่ใจเป็นพิเศษกับคำเตือนและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Windows หยุดทำงาน

4 Event Viewer warnings and errors

บันทึกจะทำเครื่องหมายด้วยเครื่องหมายอัศเจรีย์สีเหลืองหรือไอคอน x สีแดง หากคุณไม่พบข้อมูลใดๆ แสดงว่าเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักไม่ได้ถูกบันทึกไว้ มันขึ้นอยู่กับประเภทของอาการค้างที่คุณกำลังเผชิญอยู่ ในกรณีนี้ คุณจะต้องทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาอื่นๆ ต่อไป


เรียกใช้ตัวตรวจสอบไฟล์ระบบ

5 system scan

ในหลายกรณี Windows 10 และ Windows 11 ยังคงค้างเนื่องจากไฟล์ระบบเสียหายหรือสูญหาย คุณยังคงโชคดีอยู่ที่ Windows 10 และ Windows 11 มีเครื่องมือ System File Checker เพื่อช่วยเรากู้คืนไฟล์ต้นฉบับได้ หากโชคดีมันจะแก้ปัญหาของคุณโดยอัตโนมัติ วิธีการใช้เครื่องมือ ให้เปิด Command Prompt ในฐานะผู้ดูแลระบบ แล้วพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้

sfc /scannow.sfc

Windows จะสแกนไฟล์โดยอัตโนมัติเพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติ หากพบไฟล์ที่เสียหายหรือหายไประบบไฟล์จะพยายามแก้ไขโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม หากไม่พบปัญหาเป็นไปได้ว่าไฟล์ระบบของคุณไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้เกิดการค้าง


อัพเดตไดรเวอร์และ Windows

6 Device Manager

จากประสบการณ์ไดรเวอร์ที่ล้าสมัยเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดมากมาย สิ่งเหล่านี้มักจะทำให้พีซี Windows 10 และ Windows 11 ของคุณค้าง คุณสามารถอัปเดตไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดได้จาก Device Manager

ใน Device Manager นี้คุณสามารถที่จะอัปเดทฮาร์ดแวร์ทั้งหมดในตัวเครื่องได้ ซึ่งนั่นรวมไปถึงการ์ดเสียง, การ์ดเครือข่าย, ฮาร์ดไดรฟ์และฮาร์ดแวร์อื่นๆ ที่คุณมักนึกไม่ถึง สำหรับส่วนประกอบบางอย่างเช่น การ์ดแสดงผลคุณควรโหลดไดรเวอร์จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตจะดีกว่า

ขณะดำเนินการอัปเดต คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมี Windows เวอร์ชันล่าสุด Microsoft ออกการอัปเดตและการแก้ไขบ่อยครั้ง และคุณอาจแก้ไขปัญหาของคุณได้อย่างง่ายดาย


ทำความสะอาดและตรวจสอบไดรฟ์ระบบ

7 Disk cleanup drive selection

หาก Windows พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลดิสก์เหลือน้อย ระบบจะเริ่มค้างนั่นทำให้คุณจำเป็นต้องมีพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับไฟล์ชั่วคราว ดังนั้นให้เริ่มต้นด้วยโฟลเดอร์ Temp ลบไฟล์ทั้งหมดที่คุณพบที่นั่น คุณควรเรียกใช้เครื่องมือ Disk Clean-Up เพื่อลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นทั้งหมดซึ่งกินพื้นที่

หากคุณต้องการเข้าถึง Disk Cleanup อย่างรวดเร็ว เพียงพิมพ์ “disk cleanup” ในแถบค้นหาของ Windows และเลือกผลลัพธ์แรกหน้าต่างการเลือกไดรฟ์จะเปิดขึ้น

เลือกไดรฟ์ที่คุณติดตั้ง Windows 10 และ Windows 11 ซึ่งตามค่าเริ่มต้นควรเป็นไดรฟ์ C: ในหน้าต่างถัดไป ให้เลือกประเภทข้อมูลที่คุณต้องการลบ หากคุณมีพื้นที่ไม่เพียงพอ คุณสามารถเลือกทุกอย่างได้

8 Disk Clean Up

หากพื้นที่ไม่เพียงพอไม่เป็นปัญหา ขั้นตอนต่อไปคือการวินิจฉัยแหล่งเก็บข้อมูลไดรฟ์ระบบ Windows มีเครื่องมือสำหรับสิ่งนั้น และคุณสามารถค้นหาได้โดยไปที่ Local Disk > Properties > Tools

9 Drive Check Tool

เลือกปุ่มตรวจสอบ(Check)เพื่อค้นหาข้อผิดพลาดของระบบ หากพบข้อผิดพลาดเครื่องมือจะให้ตัวเลือกแก่คุณในการซ่อมแซม เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้นคุณควรรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และดูว่ายังคงค้างอยู่หรือไม่


ปิดการใช้งานคุณสมบัติการประหยัดพลังงาน

10 Power options

Windows 10 และ Windows 11 มีตัวเลือกพลังงานขั้นสูงที่อาจทำให้เกิดปัญหาหากกำหนดค่าไม่ถูกต้อง ตัวการที่ร้ายที่พบบ่อยที่สุดคือการจัดการพลังงานสถานะ PCI Express Link

  • เริ่มต้นให้คุณไปยังการตั้งค่าแผนการใช้พลังงานของคอมพิวเตอร์ของคุณโดยไปที่แผงควบคุม > ระบบและความปลอดภัย > ตัวเลือกการใช้พลังงาน(Control Panel > System and Security > Power Options)
11 Change plan settings
  • คลิกที่ เปลี่ยนการตั้งค่าแบตเตอรี่(Change battery settings) เพื่อเปิดหน้าต่างแผนการใช้พลังงาน(power plan)
  • คลิกที่ เปลี่ยนการตั้งค่า(Change settings) เพื่อแก้ไขแผนการใช้พลังงาน(power plan)
12 Change advanced power settings
  • จากนั้นคลิกที่ เปลี่ยนการตั้งค่าพลังงานขั้นสูง(Change advanced power settings)
13 Power Options PCI
  • เลื่อนลงไปที่ PCI Express และปิดใช้งาน Link State Power Management โดยตั้งค่าเป็น “ปิด(Off)”

หากคอมพิวเตอร์ของคุณยังคงค้างหลังจากนี้ คุณสามารถปิดใช้งานตัวเลือกการประหยัดพลังงานอื่นๆ ได้เช่นกัน


ตรวจสอบแรม

KduAD2k5LDTyLXQG35XCiR

หน่วยความจำผิดพลาดมักเป็นสาเหตุของการค้างแบบสุ่ม การตรวจจับอาการนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นอย่าลืมลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ทั้งหมดก่อนดำเนินการขั้นตอนนี้

วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบ RAM ที่เสียหายคือการเรียกใช้ Windows Memory Diagnostic หากไม่พบข้อผิดพลาด แสดงว่าหน่วยความจำน่าจะยังปกติดี อย่างไรก็ตามแต่การวินิจฉัยนี้ไม่ได้น่าเชื่อถือที่สุด เราแนะนำให้คุณใช้โปรแกรมวินิจฉัยขั้นสูงเช่น Memtest86 จะดีกว่า


การเรียกคืนระบบ

14 Settings System

หากยังไม่ช่วยอะไรได้ คุณสามารถลองกู้คืนระบบของคุณเป็นวันที่ก่อนหน้าได้ คุณสามารถเข้าถึงตัวช่วยสร้างการคืนค่าระบบ(System Restore)ได้ในแผงคุณสมบัติของระบบตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

  • เปิดแอปการตั้งค่า Windows(Windows Settings app) และเลือกระบบ(System)
15 Settings About page
  • เปิดหน้า About
16 System Protection
  • เลื่อนลงจนกว่าคุณจะพบ System Protection แล้วคลิก
17 System Restore
  • เลือกจุดคืนค่าและเลือกถัดไป(Next)
18 System restore point

Windows จะรีเซ็ตการตั้งค่าและไฟล์ทั้งหมดของคุณเป็นวันที่ก่อนหน้าโดยอัตโนมัติ หากปัญหาการค้างเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ วิธีแก้ปัญหานี้น่าจะได้ผล


ทำความสะอาดการติดตั้ง Windows

clean windows 11 001

หากคุณได้ลองทุกอย่างแล้ว แต่ Windows 10 และ Windows 11 ยังคงค้างอยู่ นั่นอาจหมายถึงเวลาที่คุณต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยการติดตั้ง Windows ใหม่ทั้งหมด การล้างข้อมูลไดรฟ์และการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดจะช่วยแก้ไขปัญหาด้านประสิทธิภาพและหน่วยความจำส่วนใหญ่ได้

ก่อนเริ่มต้น ให้สำรองเอกสารและไฟล์สำคัญๆ เอาไว้ก่อน เราขอให้คุณจำไว้ว่าเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ คุณควรล้างข้อมูลทุกอย่างออกจากไดรฟ์ของคุณ อย่าเพิ่งติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่ต้องฟอร์แมต การดำเนินการนี้จะลบแอปพลิเคชันที่ติดตั้งทั้งหมดและเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ของคุณกลับเป็นค่าเริ่มต้น

หลังจากติดตั้ง Windows แล้ว ให้ติดตั้งและอัปเดตไดรเวอร์ทั้งหมดของคุณ และรอเพื่อดูว่าระบบของคุณเริ่มค้างอีกครั้งหรือไม่


ทางเลือกสุดท้ายเปลี่ยนฮาร์ดแวร์

19 Changing hardware

หากวิธีการทั้งหมดที่เรากล่าวมาไม่ได้ผล คุณอาจมีปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งนี่คือจุดที่คุณควรเริ่มเปลี่ยนส่วนประกอบเฉพาะหรือนำคอมพิวเตอร์ไปหาช่างเทคนิค เริ่มต้นด้วยไดรฟ์ที่มันมักจะเป็นต้นเหตุของปัญหาในอันดับต้นๆ แม้ว่าจะผ่านการทดสอบทั้งหมดก็ตาม นอกจากนี้แหล่งเก็บข้อมูล ยังมีราคาถูกกว่าการเปลี่ยนชิ้นส่วนพีซีส่วนใหญ่อีกด้วย หาก Windows 10 และ Windows 11 ยังคงค้างหลังจากนี้ คุณควรเปลี่ยนการ์ดหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ของคุณ ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่มีการทดสอบใดที่แม่นยำ 100% ดังนั้นอาจมีบางอย่างผิดปกติกับ RAM ก็เป็นได้(เช่นหากคุณใช้ RAM ทั้ง 4 แถวแต่เป็นคนละยี่ห้อกันแล้วล่ะก็ อาการค้างมักจะเกิดขึ้นได้เนื่องจาก RAM แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติไม่ตรงกัน)

ที่มา : windowsreport, drivereasy, helpdeskgeek

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

CONTENT

มารู้จักกับวิธีการสำรองข้อมูลของ Windows 11 ที่ถูกต้องและมีประโยชน์มากที่สุดกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย แม้ว่า Windows Backup จะเป็นวิธีการสำรองข้อมูลที่ดีสำหรับ Windows 11 ที่แถมมากับ Windows ในตัว แต่ทว่ามันก็มีข้อจำกัดนั่นเป็นเหตุผลที่เราอาศัยกระบวนการสามขั้นตอนในการสำรองข้อมูลพีซี Windows 11 ของเราอย่างเหมาะสม ต่อไปนี้คือวิธีที่เราดำเนินการด้วยการสำรองข้อมูล Windows จะมีวิธีอะไรและต้องทำอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกัน ใช้ Windows Backup...

CONTENT

สำหรับผู้ใช้โน๊ตบุ๊คสิ่งสำคัญมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยืนยาวแน่ๆ และนี่คือ 10 เทคนิคการปรับแต่งสำหรับ Windows 11 ที่จะช่วยให้คุณยืดอายุมันได้ยาวๆ แบตเตอรี่แล็ปท็อปเสื่อมสภาพตามกาลเวลาและสูญเสียความจุ ส่งผลให้มีเวลาทำงานน้อยลง เราเองก็เผชิญกับสถานการณ์เดียวกันกับโน๊ตบุ๊ค Windows 11 ของเรา แต่หลังจากปรับแต่งการตั้งค่า Windows 11 ที่ซ่อนอยู่ดังต่อไปนี้เราพบว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่มีการปรับปรุงดีขึ้นเป็นอย่างมาก จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย ปรับแต่งโหมดพลังงาน เปิดใช้งาน Battery Saver หรือ Energy...

Tips & Tricks

วิธีอัดหน้าจอคอมอัดเกม Screen recorder หน้าจอ แคปเจอร์วีดีโอ Windows 11 อัดหน้าจอคอมให้อยู่ในรูปแบบของวีดีโอ ปัจจุบันมีวิธีมากมายให้ใช้ เริ่มต้นจากฟีเจอร์บน Windows 11 หรือ Windows 10 ก็จัดว่าเพียงพอต่อการใช้งานในเบื้องต้น แต่หลายคนก็เลือกวิธีการลงแอพฟรีเสริมให้การแคปเจอร์หน้าจอ หรือบันทึกวีดีโอหน้าจอทำได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดีในครั้งนี้เราเสนอไอเดียไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ต้องการอัดหน้าจอในแบบง่ายๆ ไว้เป็นทางเลือกหลายๆ รูปแบบ มีทั้งเน้นงานด่วน งานไว รวมถึงงานที่ต้องการความละเอียดก็มีให้...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก