ASUS V500MV คอมทำงานมีจอพร้อมใช้ ประหยัดไฟ ได้ MS Office ไม่ต้องซื้อเพิ่มประกัน 3 ปี
ASUS V500MV เป็นพีซีสำเร็จรูป ที่ออกแบบมาเพื่องานสำนักงาน แต่ตอบโจทย์การใช้งานในบ้านได้ ทั้งงานทั่วไป การเล่นเกม ท่องเว็บหรือแต่งภาพก็ตาม มีด้วยกันประมาณ 6 โมเดล แตกต่างกันตรงที่ซีพียู และแรม โดยรุ่นที่เราได้รับมาทดสอบนี้ เป็นรุ่นพิเศษเพราะเป็นโมเดลที่ได้แถมจอมอนิเตอร์ 24″ 120Hz IPS มาให้ด้วย กับสเปคที่ประกอบไปด้วย ซีพียู Intel Core i5-13420H มาพร้อมแรม DDR5 16GB มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 512GB เป็นแบบ M.2 NVMe 2280 PCIe 4.0 กับเพาเวอร์ซัพพลาย 180W ที่เป็นแบบ 80+ Bronze รวมถึงมี Microsoft Office Home 2024 พร้อมใช้งาน และ Microsoft 365 Basic ฟรี 12 เดือน โดยมีประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีแรก* พร้อม On-Site Service 3 ปี มาให้อีกด้วย สนนราคา 20,990 บาท เท่านั้น จัดว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
ASUS V500MV
NBS Verdict
ASUS V500MV จัดเป็นคอมสำเร็จรูปพร้อมใช้ ที่มาพร้อมสเปคตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้ค่อนข้างดี กับซีพียูที่มีให้เลือกตั้งแต่ Intel Core i3 ไปจนถึง Intel Core i7 แต่ทีเด็ดคือ การดีไซน์ให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ลงตัว กับโครงสร้างที่ดูสบายตา มีความเรียบง่าย แต่ก็ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างครบครัน ทั้งชุดประมวลผล รองรับการอัพเกรดและการเชื่อมต่อ พอร์ตต่อพ่วงมีให้ครบครัน ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเครื่อง ให้การเชื่อมต่อเครือข่ายได้ทั้ง Gigabit LAN และ WiFi 6 กับการมีซอฟต์แวร์สำนักงานที่จัดว่ามีมูลค่าค่อนข้างสูงอย่าง Microsoft Office Home 2024 พร้อมใช้งาน และ Microsoft 365 Basic มาให้ใช้อีกด้วย เรียกว่าเปิดเครื่อง ลงทะเบียน ก็พร้อมใช้งานได้ทันที และประโยชน์ทางอ้อมนั่นคือ ได้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเสริมบน Cloud ที่มาพร้อม Microsoft Office มาอีกด้วย
และอย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ โปรโมชั่นพิเศษสำหรับพีซี ASUS เซ็ตนี้ นั่นคือ V500MV-13420H050WA ซึ่งเป็นรุ่นที่เรานำมารีวิวในวันนี้ บันเดิลจอมอนิเตอร์ ASUS VY249HGR ที่เป็นเกมมิ่งมอนิเตอร์น่าใช้ พื้นที่แสดงผล 23.6″ IPS ความละเอียด Full-HD ให้อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 120Hz มีเทคโนโลยีถนอมสายตา Eye Care Plus Blue Light Filter, Flicker Free เช่นเดียวกับมีซอฟต์แวร์ช่วยในการปรับแต่ง และลูกเล่นอีกมากมาย เพื่อการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การดูหนัง ทำงานเอกสาร แต่งภาพ ไปจนถึงการเล่นเกมอีกด้วย
ในภาพรวมเป็นพีซีพร้อมใช้ของจริง นั่นก็เพราะมีทั้งคอมพิวเตอร์เป็นพีซีขนาดกระทัดรัด และยังให้ซอฟต์แวร์สำนักงาน ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ยังมีเมาส์และคีย์บอร์ดแบบไร้สายมาให้ รวมถึงเตรียมจอมอนิเตอร์เอาไว้ให้ใช้งานอีกด้วย อีกทั้งรับประกัน 3 ปีแบบ On-Site Service รวมถึง ประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีแรก กับราคาเบาๆ แค่ 20,990 บาท เท่านั้น
Specification
| Description | |
| Model | V500MV |
| Color | Gray |
| Operating System | Windows 11 Home – ASUS recommends Windows 11 Pro for business |
| Processor | Intel® Core™ i7-13620H Processor 2.4 GHz (24MB Cache, up to 4.9 GHz, 10 cores, 16 Threads) Intel® Core™ i3-1315U Processor 1.2 GHz (10MB Cache, up to 4.5 GHz, 6 cores, 8 Threads) Intel® Core™ i5-13420H Processor 2.1 GHz (12MB Cache, up to 4.6 GHz, 8 cores, 12 Threads) |
| Thermal | Air Cooler |
| Memory | 2x DDR5 SO-DIMM slot, 16GB DDR5 SO-DIMM, Memory max up to:64GB 2x DDR5 SO-DIMM slot, 8GB DDR5 SO-DIMM, Memory max up to:64GB |
| SATA | 2 x SATA พอร์ต 6.0Gb/s |
| Storage | 512GB M.2 2280 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD |
| Optical Drive (Optional) | ไม่มีออปติคัลไดรฟ์ |
| Front I/O Ports | 1x USB 3.2 Gen 1 Type-C 2 x USB 3.2 Gen 1 Type-A 1 x แจ็คเสียงคอมโบ 3.5 มม. |
| Rear I/O Ports | 1 x RJ45 Gigabit Ethernet 1 x HDMI 1.4 1x Displayport 1.4 1 x เสียง 7.1 ช่องสัญญาณ (3 พอร์ต) 1 x กุญแจล็อก Kensington 4 x USB 2.0 Type-A |
| Expansion Slots(includes used) | 1x PCIe® 4.0 x 16 (operating at PCIe® 4.0 x8) 1 x ขั้วต่อ M.2 สำหรับ WiFi 2x M.2 2280 connector for storage 2x DDR5 SO-DIMM slot |
| Audio | High Definition 7.1 Channel Audio |
| Network and Communication | Wi-Fi 6(802.11ax) (Dual band) 2*2 + Bluetooth® 5.4 Wireless Card |
| Power Supply | 330W power supply (80+ Platinum, peak 660W) อุปกรณ์จ่ายไฟ 180W (80+ บรอนซ์, สูงสุด 228W) |
| Weight | 6.00 kg. |
| Dimensions (W x D x H) | 15.50 x 29.60 x 34.70cm. |
| Price | 20,990 บาท |
ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS
Unbox
เปิดกล่อง ASUS V500MV-13420H050WA มีอุปกรณ์เสริมพร้อมใช้มาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสายไฟ 3 ขาหัวกลม และคู่มือ รวมถึงเอกสารแนะนำสินค้า ซึ่งมีรายละเอียดช่วยในการติดตั้งให้ใช้อยู่ด้วย โดยมีเรื่องขององค์ประกอบต่างๆ เอาไว้พอสมควร
นอกจากนี้ทาง ASUS ยังให้ชุดเมาส์ คีย์บอร์ดมาให้ใช้งานอีกด้วย โดยเป็น AW311 series เป็นแบบมีสาย ต่อพ่วงกับ USB Type-A ก็ถือว่าพร้อมใช้ได้ทันที ผู้ที่ใช้คอมเซ็ตนี้ ก็ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม
คีย์บอร์ดเลย์เอาท์ TH-EN ปุ่มขนาดกลาง เป็นแบบ Rubber Dome กดใช้ง่าย นุ่มนวลตามสไตล์ของคีย์บอร์ดทำงาน ระยะกดค่อนข้างลึกอยู่บ้าง แต่แทบไม่มีเสียงรบกวน พร้อมปุ่มฮอตคีย์ด้านบน สามารถใช้งานคีย์ลัดได้สะดวกทีเดียว และยังมี Number Pad ที่เป็นคีย์ตัวเลขมาให้อีกด้วย อาจจะเหมาะสำหรับการทำงาน ส่วนการเล่นเกมก็ยังพอใช้ได้ แต่ถ้าต้องการความสะดวกลื่นไหลในการเล่นเกม อาจจะต้องหาเกมมิ่งคีย์บอร์ดมาเพิ่ม
นอกจากนี้ก็มีเมาส์อยู่ในเซ็ตมาด้วยเช่นกัน เป็นเมาส์แบบมีสายต่อกับ USB ขนาดกำลังพอเหมาะเป็นแบบสมมาตร คือใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและขวา การเคลื่อนไหวค่อนข้างทำได้ดี โดยเฉพาะ Scroll mouse ถือว่าช่วยในการท่องเว็บ เล่นเน็ตและทำงานเอกสารได้ดีในระดับหนึ่ง
Design
การออกแบบโครงสร้างเป็นเคสในระดับ Mini Tower ซึ่งจะมีมิติเล็กกว่า Mid-Tower โดยมิติจะอยู่ที่ประมาณ W 15.50cm x L 29.60cm x H 34.70cm. สัดส่วนต้องถือว่าค่อนข้างเล็ก ประมาณครึ่งหนึ่งของเคสปกติทั่วไป แต่ยังคงเน้นไปที่แนวตั้ง ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเคสแนวนอนแต่อย่างใด
ด้านหน้าออกแบบได้ลงตัว ซึ่งเป็นสไตล์ที่ทาง ASUS มักวางเอาไว้สำหรับคอมทำงาน หรือเป็นพีซีสำนักงาน กับเส้นสายที่ไม่ให้เรียบจนเกินไป แต่มีการใช้ประโยชน์จากการออกแบบนี้ด้วย เพราะด้านหน้านี้จะเป็นช่องลมที่ช่วยให้มีการไหลเวียนอากาศทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงพอร์ตด้านหน้าที่จัดมาให้ใช้งานอย่างครบครัน
ด้านบนสุดเป็นเหมือนสล็อตเล็กๆ ซึ่งปกติจะสามารถใช้ในการติดตั้งออพติคอลไดร์ได้ เพื่อให้ผู้ใช้ที่ต้องการใช้งาน เช่นในกลุ่มของสำนักงาน สามารถเพิ่มเติมได้ในรูปแบบของ Optional เลื่อนลงมาเล็กน้อย จะเป็นปุ่มเพาเวอร์ มีแสงไฟสีขาวสว่างขึ้น บอกสถานะในการใช้งาน
ด้านใต้ปุ่มเพาเวอร์ มาเป็นพอร์ต USB 3.2 Gen 1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต และ USB 3.2 Gen 1 Type-C มี 1 พอร์ต รวมถึง Combo jack 3.5mm สำหรับหูฟังและไมโครโฟน
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องเป็นช่องลมเล็กๆ จำนวนมากเช่นกัน และมีโลโก้ Intel Core i5 ที่เป็นขุมพลังหลักบนพีซีเครื่องนี้ และโลโก้ ASUS อยู่ใกล้ๆ กัน
จากมุมนี้จะเห็นช่องเล็กๆ ที่เห็นทะลุไปยังฮาร์ดแวร์ด้านใน ซึ่งเป็นจุดเด่น ทำให้การไหลเวียนอากาศทำได้ดีขึ้น โดยแทบจะไม่ต้องติดตั้งพัดลมจำนวนมากให้เกิดเสียงขณะทำงาน
ด้านข้างขวาเป็นฝาปิดโลหะสีดำ เป็นแบบปิดทึบ เนื่องจากเป็นจุดที่ใช้วางเมนบอร์ดและการจัดเก็บสายไฟ และสายสัญญาณต่างๆ ส่วนบริเวณด้านล่างระบุรุ่น การจ่ายไฟ รวมถึงสัญลักษณ์สำคัญ นั่นคือ Perfect Warranty ในปีแรกของการใช้งาน ให้ผู้ใช้ได้อุ่นใจ
ฝาด้านข้างซ้ายของตัวเคส เป็นจุดที่ใช้ในการระบายความร้อน เพราะทำเป็นช่องลมขนาดใหญ่ และมีรูระบายอากาศขนาดเล็กอยู่มากมาย ทำให้เห็นภายในได้ชัดเจน เพื่อการไหลเวียนอากาศ
ด้านหลังเป็นพื้นที่ของ Back I/O ที่มาพร้อมพอร์ตต่อพ่วงสำคัญให้ใช้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort อย่างละ 1 สำหรับต่อจอแสดงผล และมี USB 2.0 Type-A มาให้ถึง 4 พอร์ต เหมาะกับการต่อเมาส์ คีย์บอร์ดหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ได้เน้นความเร็วมากนัก นอกจากนี้ก็ยังมี RJ45 สำหรับเชื่อมต่อ Gigabit Ethernet รวมถึง Line-In, Out และ Microphone มาครบ
ตรงกลางที่เป็นช่องต่อ Bracket มีมาให้ 4 สล็อตด้วยกัน รองรับการอัพเกรดการ์ดจอแยกได้อีกด้วย ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องระบายอากาศ และต่อสายไฟเข้าสู่ตัวเครื่องนั่นเอง
ใกล้กันกับ I/O Port จะเป็นช่องพัดลมขนาด 120mm ใช้ในการดูดลมร้อน เป่าลงระบบฮีตไปป์ ที่ดึงความร้อนมาจากซีพียู ผ่านทางฮีตซิงก์ให้ออกไปยังด้านนอกเคส ซึ่งกระบวนการระบายความร้อนนี้ จะอธิบายเพิ่มเติมในส่วนของการทดสอบอุณหภูมิต่อไปครับ
ASUS VY249HGR
สำหรับโปรโมชั่นพิเศษที่ผู้ใช้จะได้รับนั่นคือ จอคอม 24″ จากทาง ASUS ในรุ่น VY249HGR มาใช้งาน ซึ่งเป็นจอที่เหมาะทั้งการทำงาน และการเล่นเกม กับการออกแบบที่ดูทันสมัย ขอบจอเพียวบาง ให้ความละเอียด Full-HD 1080p บนอัตรารีเฟรชเรตที่สูงระดับ 120Hz พร้อมฟีเจอร์การปรับแต่ง OSD ที่เป็น ASUS Splendid และโหมดถนอมสายตาไว้ให้อย่างครบครัน
บอดี้ของจอมาในไซส์ที่กระทัดรัดประหยัดพื้นที่ ขาตั้งเป็นแบบ V shape กระจายน้ำหนัก เคลื่อนย้ายได้ง่าย ตัวจอสามารถปรับมุมก้มเงยได้ค่อนข้างเยอะ เพื่อความสะดวกของผู้ใช้ เรียกว่าใช้งานได้ครบในแบบมินิมอล
OSD settings ใช้งานง่ายเพราะกดจากปุ่มที่อยู่ด้านล่างขวาใต้จอ และมีโลโก้ปรากฏบนหน้าจอ ให้กดใช้งาน เลื่อนขึ้น-ลง ซ้าย-ขวา เลือก-ยกเลิก จุดเด่นที่น่าสนใจ นอกจากจะรองรับภาษาไทย มีให้ปรับได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังมี ASUS Splendid ที่ใช้ปรับโพรไฟล์ภาพตามต้องการ ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม ทำงาน อ่านเอกสาร หรือการแต่งภาพก็มีให้ครบ เช่นเดียวกับ Game Plus ลูกเล่นสำหรับคอเกม เพิ่มเป้าเล็ง เช็คเฟรมเรต รวมไปถึงการลดแสงสีฟ้า เพื่อความสบายตา เมื่อต้องจ้องจอนานๆ
พอร์ตสัญญาณ Input มีให้เลือก 2 พอร์ตทั้งแบบ HDMI รวมถึงผู้ใช้พีซีรุ่นเก่าหรือเป็นอุปกรณ์แบบอื่นๆ ยังมี D-Sub หรือ VGA เอาไว้ให้ใช้อีกด้วย
ด้านหลังจอมีช่องต่อสำหรับ VESA Mount เพื่อใช้สำหรับต่อกับขาจับจอ Monitor Arm หรือต่อเข้ากับ Wall mount ติดผนังได้อีกด้วย หากต้องการประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน
จัดเซ็ตเข้าคู่กันได้อย่างลงตัว สำหรับ ASUS V500MV และจอมอนิเตอร์ VY249HGR ที่จะได้ไปใช้งานร่วมกัน รวมถึงมีเมาส์ คีย์บอร์ดพร้อมใช้ได้ทันที
Inside & Upgrade
เมื่อเปิดฝาเคส ภายในจะเห็นเป็นเมนบอร์ด ซีพียู แรม Storage และชุดระบายความร้อน ซึ่งเท่าที่เช็คดู ยังมีพื้นที่สำหรับการอัพเกรดไว้มากพอสมควร
เริ่มต้นจากตรงกลาง จะเป็นซีพียูติดตั้ง Intel Core i5-13420H ซึ่งเป็นซีพียูโมบาย ติดตั้งแบบ Integrate มากับเมนบอร์ด โดยมีฮีตซิงก์ ช่วยระบายความร้อนอยู่ด้านบน ความพิเศษคือ ค่อนข้างประหยัดพื้นที่มากๆ เนื่องจากใช้วิธีการแบบเดียวกับบนโน๊ตบุ๊ค คือมีฮีตไปป์ในการนำพาความร้อนจากซีพียู ไปยังชุดพัดลม ข้อดีคือ ลดการเสียพื้นที่ภายใน ไม่เกะกะ ดูแลง่าย อีกทั้งซีพียูโมบาย จะไม่ได้มีค่าการใช้พลังงานที่สูง จึงไม่ต้องใช้ฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ รวมถึงชุดพัดลมก็มีเสียงรบกวนน้อยมากๆ
ASUS V500MV ติดตั้งแรมระบบมาให้เป็น SO-DIMM DDR5 5600 ความจุ 16GB จำนวน 1 สล็อต ซึ่งทำงานเป็นแบบ Dual Channel อยู่แล้ว และยังอัพเกรดเพิ่มเติมในสล็อตที่เหลือได้ ซึ่งเพิ่มได้สูงสุดแบบรวมทั้ง 2 สล็อตอยู่ที่ 64GB ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่
โดยทาง ASUS ติดตั้งอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและติดตั้งระบบปฏิบัติการมาให้เป็น SSD จากทาง WD SN5000S ความจุ 512GB ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟส M.2 NVMe PCIe 4.0 ที่ให้ความเร็วในการทำงานที่สูง สามารถอัพเกรดเพิ่มความจุได้ นอกจากนี้แล้ว จากที่เราเช็คดูในเบื้องต้น ทางซ้ายมือของสล็อตแรม ยังมีสล็อต M.2 PCIe 4.0 x4 มาอีกหนึ่งสล็อตสำหรับ SSD ขนาดเล็ก M.2 2230 มาให้ รวมถึงทางขวาก็จะมี SATA III มาเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้ในการอัพเกรดเป็น SSD SATA หรือ HDD ไม่ว่าจะขนาด 3.5″ หรือ 2.5″ ที่เป็นฮาร์ดดิสก์พีซีและโน๊ตบุ๊คมาให้ใช้เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
ในแง่ของผู้ใช้ที่ต้องการจะเพิ่มเติมการ์ดจอแยกในภายหลัง บนพีซี ASUS V500MV รุ่นนี้ ยังมี Expansion slot ที่ใช้สำหรับติดตั้งการ์ดจอแยกมาบนเมนบอร์ด เป็นสล็อต PCIe® 4.0 x16 ที่ทำงานบน x8 มาให้ใช้ หรือจะใช้ร่วมกับการ์ด PCIe อื่นๆ เช่น การ์ดตัดต่อ การ์ดแปลงพอร์ตหรือใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเป็นการ์ดจอ อาจจะต้องสอบถามกับทางผู้จำหน่าย ว่าสามารถนำไปอัพเกรดการ์ดจอรุ่นใดได้บ้าง เพราะจะต้องเช็คจากการจ่ายไฟของเพาเวอร์ซัพพลายร่วมด้วย
ทางด้านบนของเมนบอร์ดเป็นช่องไฟเลี้ยงเมนบอร์ดและซีพียู เป็นแบบ 6+4 Pin และยังมีช่องต่อไฟเพิ่มแบบ 4-pins สำหรับ GPU หรือการ์ดจอแยกมาอีกด้วย
ถ้าเลื่อนจากตัวฮีตไปป์ตรงกลางเมนบอร์ด เรื่อยมาจนถึงชุดพัดลมที่อยู่ทางด้านหลังเคส จะเห็นพัดลมขนาด 80mm วางอยู่บนครีบระบายหรือ Fin ที่เป็นตัวช่วยในการกระจายอุณหภูมิ โดยมีพัดลมเป่าออกทางทางหลังเคสนั่นเอง เป็นรูปแบบที่้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโน๊ตบุ๊ค หรือพีซีขนาดเล็ก ซึ่งถูกนำใช้และได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น Mini PC, ITX หรือ NUC ก็ตาม
ASUS จัดเพาเวอร์ซัพพลาย ATX Standard ระดับ 180W ที่ได้ 80 PLUS Bronze Certified มาด้วย โดยสามารถรองรับระบบที่ใช้อยู่นี้ รวมถึงการอัพเกรด ฮาร์ดดิสก์และ SSD เพิ่มเติมได้อย่างน้อย 2-3 โมดูล ส่วนการ์ดจออาจจะต้องเน้นที่ระดับเริ่มต้น หากต้องการจะอัพเกรดเพิ่ม ซึ่งสามารถเช็คโซลูชั่นในการอัพเกรดจากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายได้
Performance
การตรวจสอบซีพียูจาก CPUz บนพีซี ASUS V500MV รุ่นนี้ แจ้งเอาไว้ชัดเจนว่าเป็น Intel Core i5-13420H ทำงานแบบ 8 Core (4 P-core + 4 E-core) และมี 12 Thread โดยมี L3-cache 12MB จัดเป็นกลุ่มซีพียูโมบายที่เป็นเกมมิ่ง ให้ประสิทธิภาพในการทำงานในปัจจุบันได้ดีพอสมควร มาพร้อมแรม DDR5 SODIMM 12GB และกราฟิก Intel UHD Graphic มาในตัว จากการทดสอบในเบื้องต้น ผลคะแนนออกมาใกล้เคียงกับ Intel Core i7-10700 ที่เป็นซีพียูเดสก์ทอปเลยทีเดียว และยังทำคะแนนนำในส่วนของ Single Thread อีกด้วย เนื่องจากความถี่สัญญาณนาฬิกาที่สูงกว่านั่นเอง
ส่วนในการทดสอบระบบ Storage ผ่านโปรแกรม CrystalDiskMark จัดว่าทาง ASUS เลือกมาได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน เพราะนอกจากตัวเลขการอ่านและเขียนข้อมูลทีไปมากกว่า 5,700MB/s และ 4,200MB/s ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่เราจะได้เห็นบนพีซีทำงานทั่วไปแล้ว ตัวเลขสำคัญอย่าง Random 4K ซึ่งเป็นการอ่านและเขียนข้อมูลแบบสุ่ม ยังจัดว่าสูงพอสมควร ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นศักยภาพของพีซีเครื่องนี้ ในการจัดการข้อมูลที่รวดเร็ว ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องใช้งานร่วมกับข้อมูล และงานที่มีความซับซ้อนย้ายไฟล์บ่อยๆ ในปัจจุบัน
กับการทดสอบ PCMark10 คะแนนในภาพรวมอยู่ที่ 5342 คะแนน และการทำงานที่โดดเด่นอยู่ที่งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ไฟล์สำนักงานและการประชุมออนไลน์ ซึ่งทำคะแนนไปได้เกือบ 10,000 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูง ส่วนหนึ่งเพราะได้ซีพียูที่มี Core/ Thread จำนวนมาก และสัญญาณนาฬิกาที่สูง ซึ่งเหมาะกับงานในกลุ่มนี้ ส่วนในงานด้านกราฟิก ภาพและวีดีโออยู่ในเกณฑ์กลางๆ ค่อนไปทางดี แม้จะไม่ได้หรูหรา เพราะเป็นซีพียูโมบาย และมีเรื่องของค่าการใช้พลังงานที่ประหยัด แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย
มาที่การทดสอบ Geekbench 6 กันบ้าง ในการทดสอบหลักๆ จะเป็นเรื่องของซีพียูและกราฟิก (CPU & GPU) เพื่อวัดความสามารถในการใช้งานตั้งแต่พื้นฐาน เช่น การเปิดโปรแกรม หรือการโหลดหน้าเว็บไซต์ สำหรับการทดสอบ Single Core หรือการทดสอบงานตัดต่อวีดีโอ เรนเดอร์กราฟิก ที่จะใช้พลังจากแกนหลักของซีพียูที่มีหลายๆ แกนนั่นเอง จะเร็วหรือช้า ซีพียูมีผลอย่างมากในการทดสอบนี้
ส่วนตัวเลขชุดล่างนี้ ที่ประกอบด้วย OpenCL และ Valkan นั้น จะมี GPU มารับหน้าที่ โดยบนพีซีรุ่นนี้ เป็นกราฟิก Intel UHD Graphic ที่ติดตั้งมาบนซีพียูนั่นเอง ถ้าจะลึกลงไปในรายละเอียดการทดสอบนั้น ก็อย่างเช่น การประมวลผลด้านภาพ กราฟิก วีดีโอและระบบการเล่นเกม อย่างการเป็น Gaming Simulation เป็นต้น ซึ่งตัวเลขที่ได้จัดอยู่ในระดับที่นำไปใช้งานทั่วไปในบ้านหรือสำนักงาน เช่น การแต่งภาพ หรือการตัดต่อวีดีโอทั่วไป ไม่ได้มีรายละเอียดหรือฟุตเทจที่มีความซับซ้อนมากนัก รวมถึงงานโมเดลขนาดเล็กเป็นต้น
มาถึงอีกบททดสอบที่หนักหน่วง นั่นคือ การทำงานด้าน Motion Graphic บนโปรแกรมอย่าง CINEBench ซึ่งต้องบอกว่าระบบผ่านการทดสอบอันโหดหินมาได้อย่างน่าชื่นชม เพราะโปรแกรมนี้ จะดึงการทำงานของซีพียูทั้งในแบบ Single Core และ Multi Core ออกมาอย่างเต็มที่ ถ้าระบบไม่พร้อม บางครั้งก็ไม่สามารถผ่านการทดสอบได้ แต่ ASUS V500MV ผ่านการทดสอบและยังทำคะแนนอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ
และอีกหนึ่งการทดสอบในด้านกราฟิกกับโปรแกรมสร้างโมเดลยอดนิยมอย่าง Blender พีซีจาก ASUS รุ่นนี้ ก็ยังทำตัวเลขได้น่าสนใจ แม้จะไม่ได้พุ่งเป็นหลักร้อย เหมือนกับซีพียูพีซีรุ่นพี่ๆ บนคอมระดับเกมมิ่งหรือคอมทำงานหนักๆ แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ยังสามารถรันงานโมเดลพื้นฐานได้ แต่ก็แนะนำว่าหากคุณมีงานที่หนัก โมเดลใหญ่ รายละเอียดเยอะ อาจจะต้องเลือกใช้พีซีที่มีขุมพลังแรงขึ้น เพราะจะลดเวลาทำงานของคุณได้ไม่น้อยเลย แต่ถ้างานสเกลเล็กๆ ทั่วไป พีซีเครื่องนี้รองรับได้ดีพอสมควร
เช่นเดียวกับโปรแกรมทดสอบด้านกราฟิกอย่าง Corona bench ที่มีทั้ง 2 เวอร์ชั่น ก็คงต้องเรียนตรงๆ ว่า ทั้ง 2 การทดสอบนี้ ค่อนข้างจะหนักหน่วง และเหมาะกับพีซีที่มาพร้อมซีพียูเดสก์ทอป ซึ่งไม่ถูกจำกัดด้านการใช้พลังงาน และตัวเลขที่ได้ เป็นสิ่งที่ชี้ได้อย่างชัดเจน เพราะถ้าเป็นซีพียูในกลุ่มของ Intel Core i7 หรือ Core i9 Gen14 ขึ้นไป จะใช้เวลาเรนเดอร์ไม่นานมาก เรียกว่าต่ำกว่า 40 วินาที สำหรับกราฟิกทดสอบนี้ แต่พอเป็นซีพียูรุ่นนี้ แม้จะรันผ่านได้อย่างสวยงาม แต่ก็ใช้เวลาไปกว่า 2 นาที นั่นหมายความว่า แม้จะทำงานได้ แต่ก็ใช้เวลาที่นานกว่า อย่างไรก็ดี ถ้างานสเกลเล็ก งานทั่วไป ก็พอทำงานได้
มาสู่การทดสอบด้าน AI กันบ้าง แม้พีซีเครื่องนี้ อาจจะไม่ได้มี NPU มาเพื่อประมวลผลด้าน AI โดยตรง แต่หลายคน อาจเลือกนำไปใช้งานร่วมกับ AI Generative อยู่บ้าง หรือการรันโมเดล AI บางอย่าง เพื่อการใช้งานในปัจจุบัน ซึ่งการทดสอบ Geekbench AI นี้ เป็นการดึงความสามารถของซีพียูและกราฟิกออกมา ตัวเลขที่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ONNX CPU หรือ OpenVINO CPU และ GPU แม้จะไม่ได้หรูหรา แต่ก็พอให้ผู้ใช้สามารถทำงานร่วมกันได้กับงานด้าน AI ในปัจจุบัน และหากคุณต้องการใช้งาน AI ในช่วงต่อไป อาจเลือกการ์ดจอแยกที่รองรับมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก Intel ARC, nVIDIA GeForce หรือ AMD Radeon ก็ตาม
ทดลองใช้ ASUS V500MV รุ่นนี้ ในงานตัดต่อวีดีโอแบบง่ายๆ กันบ้าง ผ่านทาง CapCut หรือหลายคนอาจจะเลือกโปรแกรมที่เป็น Base on Cloud หรือแอพเบาๆ ที่เหมาะกับเครื่องมาใช้ในงานเหล่านี้ การทำงานถือว่าลื่นไหลได้ดี กับไฟล์วีดีโอระดับ Full-HD ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนแถบ Timeline หรือการพรีวิวซีนบนฟุตเทจ ตอบสนองได้ไว และค่อนข้างสะดวก เหมาะกับสายงานสำนักงานทั่วไป เช่น สร้างวีดีโอแนะนำสินค้า หรือจะเป็นนักเรียน ที่ทำงานเสนออาจารย์ไปจนถึงเหล่ายูทูปเบอร์ที่จะเริ่มต้นกับวีดีโอง่ายๆ ทำได้เองภายในบ้าน กับพีซีกระทัดรัด ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากทีเดียว
การทดสอบ 3DMark ก็ถือว่าเป็นการเรียกใช้กราฟิกบนพีซีที่หนักเอาเรื่อง โดยเฉพาะกับคอมที่ไม่ได้มีการ์ดจอแยกมาให้ ดังนั้นตัวเลขที่ได้อาจไม่ได้มากมายนัก หากสังเกตจาก Graphic score ซึ่งตรงนี้จะบอกถึงความสามารถในการเล่นเกม ที่จะเหมาะกับเกมที่เรียกใช้กราฟิกไม่มากนัก เช่น เกมออนไลน์ เกมแคชชวลหรือเกมบางอย่างที่ไม่ดึงความสามารถกราฟิกมาใช้แบบหนักๆ ตัวอย่างเกมก็เช่น FIFA, The Sim, Sport game ส่วนเกมแนว MOBA อย่าง DOTA2 สามารถเล่นได้ แต่ถ้าเป็น PUBG อาจจะต้องปรับจูนกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Detail, Render scale เป็นต้น เพื่อให้การเล่นบน Full-HD ที่ลื่นไหล
ตัวอย่างเกมที่เราได้ทดสอบ DOTA2 บนความละเอียด Full-HD หากตั้งค่า Detail เป็น Best Performance เราจะได้เฟรมเรตเฉลี่ย 85-90fps. และไปได้มากกว่า 110fps. หากไม่มีเอฟเฟกต์มากนัก ส่วนถ้าปรับเป็น High หรือใกล้กับ Best Looking จะอยู่ที่ราวๆ 40-50fps. แม้จะมีช่วงปะทะกันหนักๆ เอฟเฟกต์เยอะ มีออปเจกท์หลายอย่างในฉาก ก็ยังเล่นได้ลื่นพอสมควร
ในแง่ของระบบระบายความร้อน ASUS V500MV ใช้รูปแบบที่คล้ายกับการทำงานบนโน๊ตบุ๊คมาติดตั้งบนพีซีเครื่องนี้ ซึ่งจะสังเกตได้จากฮีตซิงก์ที่ติดตั้งบนซีพียู ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มาก และไม่ได้ใช้พัดลมเป่าตรงลงไปยังฮีตซิงก์ แต่ใช้การนำพาความร้อนด้วยฮีตไปป์ทองแดง ที่มีระยะที่ยาวมาก มาจนถึงครีบระบายความร้อนด้านหลังเครื่อง และมีพัดลมขนาดกลางๆ เป่าระบายลมร้อนออกไปทางด้านหลัง ซึ่งโซลูชั่นนี้ ข้อดีก็คือ ลดเสียงรบกวนจากพัดลมได้มาก และไม่เกะกะพื้นที่ภายใน เหมาะกับพีซีที่มีการใช้พลังงานค่อนข้างน้อยเช่นนี้
ซึ่งถ้าดูจากในเบื้องต้นกับการทดสอบในโหมด idle หรือการเปิดระบบปฏิบัติการแบบที่ไม่ต้องเปิดโปรแกรมอื่นใด นอกเหนือจากตัวตรวจเช็คอุณหภูมิ ซึ่งในโหมดนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 41 องศาเซลเซียสเท่านั้น
และเพื่อให้เห็นภาพการทดสอบที่ชัดเจนขึ้น เราทดสอบให้หนักหน่วง ด้วยโหลดการทำงานซีพียูระดับ 100% อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นสภาวะที่ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ เพราะเราใช้โปรแกรม Burn CPU โดยเฉพาะ เพื่อรีดให้หนักที่สุด จะสังเกตได้ว่า ซีพียูทำงาน 100% ทุกแกนหลัก และถูกดันให้สัญญาณนาฬิกาไปสูงสุดในบางจังหวะ ผลที่ได้คือ มีบางจังหวะที่ซีพียูขึ้นไปเกิน 90 องศาเซลเซียสอยู่บ้าง แต่ด้วยระบบของซีพียูเอง ที่มีการจัดการค่าการใช้พลังงานที่อัจฉริยะ ก็จะลดสเตปลงมา ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 68-70 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมต้องถือว่าฮีตซิงก์สามารถจัดการได้ดี และซีพียูเองก็มีระบบที่เซฟการใช้งานอยู่ด้วย แต่ก็คงต้องแจ้งว่า โหลดการทำงานในลักษณะนี้ ไม่ได้เจอกันบ่อยในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเรื่องความร้อนจึงไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ บนพีซีเครื่องนี้
Software
แต่สิ่งที่น่าสนใจบน และคุณควรจะต้องเริ่มต้นการใช้งานบน ASUS V500MV เครื่องนี้ก็คือ แอพที่ชื่อว่า MyASUS ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณตรวจเช็ค จัดการ ปรับแต่งและการดูแลระบบได้ครบจบในตัวเดียว อย่างในหน้าแรกนี้จะบอกถึงข้อมูลของพีซี ASUS เครื่องนี้ ตั้งแต่ Process การทำงาน, อุณหภูมิ, หน่วยความจำ ไปจนถึง Storage และรายละเอียดการรับประกัน
และคุณยังสามารถปรับแต่งโหมดการทำงานของระบบให้เหมาะกับการใข้งานของคุณในเวลานั้นได้ เช่น
- Whisper mode: โหมดลดเสียงรบกวน เสียงพัดลมจะเบาลง และประหยัดพลังงาน
- Standard mode: ใช้งานทั่วไป เช่นงานเอกสาร การแต่งภาพและงานอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน
- Performance mode: งานที่หนักมากขึ้น ต้องการให้ซีพียูทำงานเต็มที่ และเน้นพลังให้มากที่สุดสำหรับซอฟต์แวร์เฉพาะทาง หรือการเล่นเกม ตัดต่อวีดีโอเป็นต้น
หรือในส่วนของการเชื่อมต่อก็จะมีโพรไฟล์ให้เลือกใช้งานเช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับในแต่ละกิจกรรม เช่น เน้นงานก่อน หรือเลือกมัลติมีเดียเป็นหลัก หรือจะให้โฟกัสที่แบนด์วิทธ์เพื่อการเล่นเกมเป็นต้น
พร้อมกันนี้ยังมีระบบ AI มาช่วยตัดเสียงรบกวนให้กับลำโพงและไมโครโฟนอีกด้วย ตรงนี้จะช่วยให้การสื่อสารมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการสนทนาออนไลน์และการประชุมเป็นต้น
หรือการตรวจเช็คและการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น สามารถเลือก System Diagnose ได้ทันที ในนี้จะมีวิธีการแก้ปัญหา หรือการให้ระบบตรวจเช็คว่าเกิดสิ่งใดผิดปกติกับระบบ พร้อมทั้งสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการได้อีกด้วย จะมีทั้งการส่งข้อความ อีเมล์ และโทรขอรายละเอียด
การใช้งานเกือบทุกอย่างแทบจะจบในซอฟต์แวร์ MyASUS นี้ เพราะคุณไม่ต้องไปหาดาวน์โหลดไดรเวอร์ใหม่ที่ไหน เพราะสามารถ Check Update ได้จากหัวข้อ System Update นี้ได้ทันที
สุดท้ายกับ Customer support ตรงนี้จะรวบรวมตั้งแต่คำถามพบบ่อย ช่องทางการติดต่อหรือการสอบถามศูนย์บริการและอัพเดตสถานะต่างๆ ง่ายและจบในซอฟต์แวร์เดียว สำหรับ ASUS V500MV เครื่องนี้
Conclusion
เป็นคอมเซ็ตที่จัดมาให้แบบคุ้มค่า สำหรับ ASUS V500MV-13420H050WA ไม่ใช่แค่พีซีเดสก์ทอปที่มาพร้อมขุมพลัง สำหรับการทำงานในปัจจุบันได้ดีเท่านั้น แต่ทาง ASUS ยังจัดเป็นโปรโมชั่นพิเศษ ด้วยการเพิ่มจอขนาดใหญ่ 24″ เพื่อการใช้งานทั้งสำนักงาน งานเอกสาร ความบันเทิงและการใช้งานทั่วไปมาให้ ไม่ต้องซื้อเพิ่ม ประหยัดค่าใช้จ่าย และยังได้ Microsoft Office Home 2024 มาอีกด้วย ซึ่งรวมถึงเมาส์ คีย์บอร์ด พร้อมใช้ เช่นเดียวกับการรับประกันถึง 3 ปี และมี Perfect Warranty อีก 1 ปี ให้ใช้งานกันได้อย่างอุ่นใจ ในราคาสบายกระเป๋า 20,990 บาทเท่านั้น เหมาะทั้งเป็นคอมในบ้าน ใช้งานในสำนักงาน และเริ่มต้นการเรียนรู้ อัพเกรดได้ ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน
สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อซื้อ ASUS Desktop Series
- Microsoft Office Home 2024 พร้อมใช้งาน และ Microsoft 365 Basic ฟรี 12 เดือน
- เมาส์ และ คีย์บอร์ด ไร้สาย
- ประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีแรก* พร้อม On-Site Service 3 ปี
สามารถเช็คข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ ของพีซีรุ่นนี้ได้ที่ ASUS V500MV
