Connect with us

Hi, what are you looking for?

CONTENT

รวมวิธีปรับแต่ง Windows เพื่อเร่งความเร็วสำหรับการเล่นเกม

Windows เองนั้นยังถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการในการเล่นเกมที่ดีที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์ มาดูกันดีกว่าว่าเราจะปรับแต่ง Windows อย่างไรเพื่อให้ได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีที่สุด

รวมวิธีปรับแต่ง Windows เพื่อเร่งความเร็วสำหรับการเล่นเกม
รวมวิธีปรับแต่ง Windows เพื่อเร่งความเร็วสำหรับการเล่นเกม

Windows นั้นถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับการเล่นเกมที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ PC อย่างไรก็ตามบางท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วระบบปฏิบัติการ Windows นั้นมีการปรับแต่งหลายๆ อย่างสำหรับการเล่นเกมเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดซ่อนเอาไว้อยู่

ในบทความนี้เราจะขอรวมเอาวิธีการปรับแต่ง Windows ทั้ง Windows 10 และ Windows 11 เพื่อให้ผลลัพธ์ในการเล่นเกมที่ดีที่สุดออกมาให้ทุกท่านได้ทำการปรับแต่งเพื่อให้ Windows ขับเคลื่อนเอาประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเล่นเกมออกมาไม่ว่าคุณจะพึ่งซื้อคอมมาใหม่หรือว่าใช้มาได้สักพักแล้ว การปรับแต่งที่เรารวมมาในครั้งนี้นั้นจะไม่รวมถึงการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์สำหรับการเล่นเกม

Advertisement

มาดูกันดีกว่าว่าเราจะสามารถปรับแต่งอะไรกันได้บ้าง หากพร้อมแล้วก็ไปติดตามกันได้เลย



ปรับแต่ง Windows ด้วยการเปิดโหมดสำหรับการเล่นเกม

Optimize Windows 10 With Gaming Mode

Windows 10 และ Windows 11 มาพร้อมกับตัวเลือกเพื่อเปิดประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมที่ดีที่สุดอยู่แล้วในชื่อ Game Mode หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกเพื่อบีบประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ดีที่สุดจาก Windows 10 และ Windows 11 โดยที่ไม่ต้องปรับอะไรมากมายแล้วล่ะก็ Game Mode ถือว่าเป็นหนึ่งในการตั้งค่า Windows ที่สำคัญสำหรับการเล่นเกม

เมื่อคุณเปิด Game Mode การตั้งค่า Windows ของคุณจะถูกปรับแต่งในลักษณะที่เพิ่มประสิทธิภาพ Windows 10 และ Windows 11 ของคุณ โดยรวมแล้วมันจะทำงานโดยการจัดการทรัพยากรระบบของคุณให้กับเกมที่รันอยู่ก่อน สำหรับวิธีการเปิด Game Mode ให้คุณทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. กดปุ่ม Windows + I เพื่อเปิด Windows Settings
  2. พิมพ์ ‘game mode’ ในช่องค้นหา
  3. คลิก Game Mode settings แล้วเปิด Game Mode
  4. บนหน้าจอเกมให้คลิก Game Mode
  5. เปลี่ยนเป็น On เพื่อใช้ Game Mode

หากคอมพิวเตอร์พีซีของคุณรองรับ Game Mode ทรัพยากรทั้งหมดจะได้รับการจัดการเพื่อให้ได้อัตราเฟรมที่เหมาะสมที่สุดกับเกมที่คุณจะเล่น นอกจากนี้ Windows Update จะถูกระงับชั่วคราวเมื่อเปิดโหมดนี้เอาไว้ด้วย(แต่ก็ระงับเฉพาะเวลาที่ทำการเล่นเกมเท่านั้นนะ)

แม้ว่านี่จะเป็นวิธีหนึ่งในการปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Windows แต่ Game Mode ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นเพื่อการเล่นเกมที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นให้ทำตามขั้นตอนต่อไปด้วย


ทำการปิด Nagle’s Algorithm เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่เร็วกว่าเดิม

Disable Nagles Algorithm 001

Nagle’s Algorithm ทำงานโดยการรวมแพ็กเก็ตข้อมูลเป็นหลักซึ่งการตั้งค่านี้นั้นจะทำให้คุณเสียทรัพยากรโดยเฉพาะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ราบรื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเล่นเกมแบบออนไลน์ จริงๆ แล้ว Nagle’s Algorithm มีประโยชน์ของมันอยู่ แต่การเปิดใช้งาน Nagle’s Algorithm บนคอมพิวเตอร์ของคุณอาจทำให้คุณสามารถแก้ปัญหาด้านเวลาแฝง(latency) เมื่อเล่นเกมออนไลน์แบบเต็มประสิทธิภาพได้

หากต้องการปิดใช้งาน Nagle’s Algorithm และปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมออนไลน์บน Windows ให้เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบที่อยู่ IP ของคุณก่อนดังวิธีการดังต่อไปนี้

  1. กดปุ่ม Windows + ปุ่ม X
  2. เลือก Windows PowerShell
  3. พิมพ์ “ipconfig” แล้วกด Enter
  4. ค้นหา “IPv4 address” เพื่อระบุที่อยู่ IP ของพีซีของคุณ

เมื่อคุณสามารถระบุ IP address ของคุณได้แล้ว ก็ถึงเวลาแก้ไข Windows Registry อย่างไรก็ตามในขั้นตอนนี้โปรดใช้ความระมัดระวังให้มากที่สุดก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับ Registry เนื่องจากสิ่งต่างๆ อาจทำให้คอมพิวเตอร์พีซีมีปัญหาได้ง่ายหากคุณทำผิดขั้นตอน สำหรับวิธีการปิด Nagle’s Algorithm ผ่าน regedit สามารถทำได้ดังนี้

windows game mode nagle
  1. ไปที่แถบค้นหาของเมนู Start พิมพ์ ‘regedit’ แล้วเลือกไปที่รายการดังกล่าวนั้น
  2. เลือก Registry Editor (โปรใช้ความระมัดระวังเมื่อเข้าสู่หน้าจอ Windows Registry)
  3. เข้าไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\Tcpip\Parameters\Interfaces
  4. เมื่อคุณพบโฟลเดอร์ที่ตรงกันให้ทำการคลิกขวาที่โฟลเดอร์
  5. เลือก New > DWORD (32-bit) Value
  6. เปลี่ยนชื่อเป็น TcpAckFrequency
  7. คลิก OK
  8. เลือก New > DWORD (32-bit) Value อีกครั้ง
  9. ตั้งชื่อ TCPNoDelay ในตำแหน่งทางด้านขวา
  10. ดับเบิลคลิกที่แต่ละรายการและตั้งค่าพารามิเตอร์เป็น 1

หลังจากนั้นให้รีสตาร์ทเครื่อง เพียงเท่านี้คุณก็จะปิดการใช้งาน Nagle’s Algorithm เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามหากคุณพบปัญหาใดๆ ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้รีเซ็ตค่าพารามิเตอร์ที่คุณตั้งไว้ข้างต้นกลับมาเป็น 0 เพื่อเป็นการเปิดใช้งาน Nagle’s Algorithm อีกครั้ง


เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมออนไลน์ของ Windows ด้วย DNS ที่เร็วกว่าเดิม

solvedns december report.png.scaled500

หากคุณเป็นผู้เล่นเกมออนไลน์แบบผู้เล่นหลายคนหรือใช้เซิร์ฟเวอร์ระยะไกลสำหรับการเล่นเกมบน Windows 10 และ Windows 11 เป็นหลักการรับส่งข้อมูลเครือข่ายอาจทำให้เกิดปัญหาได้

แม้ว่าการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นจะช่วยได้ดีกว่า ทว่าคุณอาจจะเจอปัญหาที่ไม่สามารถทำการอัปเดทระบบอินเทอร์เน็ตได้(เช่นอยู่ในคอนโดเก่าที่โครงข่ายอินเทอร์เน็ตแบบ Fiber Optic เข้าไม่ถึง) ดังนั้นการแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยน DSN เป็นอันที่เร็วกว่าอาจจะช่วยคุณได้บ้าง โดย DNS ที่เราจะแนะนำนี้เป็นของทาง Google ที่คุณสามารถใช้งานได้แบบฟรีๆ ซึ่งในการเปลี่ยนนั้นสามารถที่จะทำได้ดังต่อไปนี้

  1. กด Windows + I เพื่อเปิด Settings
  2. ค้นหา Network and Internet > Change Adapter Settings
  3. คลิกขวาที่ wireless network ของคุณ
  4. เลือก Properties
  5. กดเลือกเข้าไปที่ Internet Protocol Version 4
  6. จดบันทึก DNS สองรายการเพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต
  7. แทนที่ด้วย 1.1.1.1 และ 1.0.0.1
  8. คลิก OK จากนั้นเลือก Close
  9. รีสตาร์ทเบราว์เซอร์(หากจะให้มั่นใจให้ทำการรีสตาร์ทเครื่องแล้วค่อยทำการทดสอบ)

อินเทอร์เน็ตของคุณควรจะเร็วขึ้นซึ่งจะช่วยในการเล่นเกมออนไลน์(ถึงแม้อาจจะเล็กน้อยแต่ก็ดีกว่าใช้งาน DSN เดิมที่ช้ากว่า)


ปิดการใช้งาน Windows Game Bar

turn off game bar in windows 10

Game Bar เป็นเครื่องมือฟรีของ Microsoft ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 ซึ่งจะช่วยให้คุณจับภาพหน้าจอ, บันทึกการเล่นเกมของคุณและอื่นๆ อีกมากมายด้วยการซ้อนทับที่เรียบง่าย ในบางกรณี Game Bar อาจทำให้ประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับการเล่นเกมของคุณช้าลง(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์และทรัพยากรคอมพิวเตอร์ของคุณ) หากคุณต้องการปิด Game Bar เพื่อทำการปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมของคุณให้คุณทำตามวิธีดังต่อไปนี้

  1. เปิด Settings โดยกดปุ่ม Windows + I
  2. ในเมนูการตั้งค่า คลิกที่ Gaming
  3. เลือก Game Bar
  4. ตอนนี้ให้ปิดสวิตช์สำหรับ “Record game clips, screenshots, and broadcast using Game Bar.”

เพียงเท่านี้ Game Bar ก็จะถูกปิดใช้งาน ซึ่งสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับหน่วยความจำหรือทรัพยากรอื่นๆ ของคุณให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้โน๊ตบุ๊คที่ไม่สามารถเปลี่ยนฮาร์ดแวร์อะไรได้มากเท่าไรนัก คุณจะเห็นประสิทธิภาพการเล่นเกมของคุณเพิ่มขึ้นทันที หากคุณยังคงเผชิญกับเกมยังคงช้าอยู่หลังจากปิด Game Bar แล้วให้คุณใช้วิธีการถัดไปต่อ


ปิดใช้งานการอัปเดต Windows อัตโนมัติ

windows game mode updates

Windows 10 และ Windows 11 จะอัปเดตระบบปฏิบัติการของคุณโดยอัตโนมัติและกำหนดเวลาการรีสตาร์ทโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ แม้ว่าคุณลักษณะการอัปเดทอัตโนมัตินี้จะไม่ได้ถูกเปิดใช้งานบ่อยนัก (ถ้าคุณไม่ได้สมัคร Windows Insider) 

การอัปเดตอัตโนมัติไม่เพียงสามารถรีสตาร์ท Windows โดยไม่มีคำเตือน แต่การดาวน์โหลดการอัปเดตในพื้นหลังจะจำกัดการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณกับอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นการแย่งแบนวิดธิ์ทั้งการบันทึกข้อมูลลงบนแหล่งเก็บข้อมูลและอินเทอร์เน็ต

ให้จำไว้ว่าคุณจะไม่สามารถปิดใช้งานการรีสตาร์ทอัตโนมัติได้ของการอัปเดท Windows ได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้ัคือยืดเวลาให้มันทำงานได้ช้าลง เพื่อลดโอกาสที่การดาวน์โหลด Windows Update จะขัดขวางประสิทธิภาพการเล่นเกมของคุณให้ทำตามขึ้นตอนดังต่อไปนี้

  1. เปิด Settings ด้วยการใช้คีย์ลัด Windows key + I
  2. คลิก Update and Security > Windows Update
  3. ค้นหาตัว Advanced options จากนั้นคลิก Update Options
  4. ปิดการใช้งาน Restart this device as soon as possible when a restart is required to install an update
  5. เปิดใช้งาน Show a notification (Windows จะให้คำเตือนมากมายเมื่อระบบกำลังจะเริ่มต้นใหม่หลังจากการอัปเดต)
  6. ใช้ Pause updates เพื่อชะลอการติดตั้งการอัปเดตนานให้นานที่สุดซึ่งปกติจะอยู่ที่ 7 วัน

เมื่อระบุว่าคุณจะให้ Windows 10 และ Windows 11 ทำการอัปเดทเมื่อใด คุณสามารถป้องกันไม่ให้ Windows Updates ดาวน์โหลดและติดตั้งในช่วงเวลาทำงานหรือตอนเล่นเกมได้


ปิดใช้งานการอัปเดตเกมบน Steam อัตโนมัติ

windows game steam downloads

หากคุณใช้ Windows เพื่อเล่นเกมเป้นหลักแล้วล่ะก็เชื่อเหลือเกินว่า Steam น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการซื้อเกมแบบดิจิทัลที่ถูกกฎหมายของคุณ Steam ทำงานได้เป็นอย่างดีแต่ทว่ามันก็มีคุณสมบัติหนึ่งที่น่ารำคาญ(ซึ่งอาจจะเป็นคุณสมบัติที่น่ารำคาญมากที่ที่สุด) สำหรับ Steam ก็คือคุณสมบัติการอัปเดทในพื้นหลังตอนที่คุณกำลังเล่นเกมอยู่

อย่างไรก็ดีคุณสามารถที่จะทำการปิดคุณสมบัติดังกล่าวนี้ได้สำหรับทุกๆ เกมที่คุณติดตั้งผ่านทาง Steam สำหรับทุกเกมบน Steam ของคุณ (คุณสมบัตินี้อาจใช้งานทรัพยากรอย่างหน่วยความจำและแหล่งเก็บข้อมูลสูงมากในระยะเวลาหนึ่ง) สำหรับวิธีการปิดการอัปเดตเกมที่คุณไม่ได้เล่นหรือจำกัดการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณด้วยการอัปเดตเบื้องหลังของ Steam นั้นสามารถที่จะทำได้ดังต่อไปนี้

  1. เปิด Steam client
  2. เปิด Steam > Settings > Downloads
  3. ยกเลิกการเลือก Allow downloads during gameplay
windows game steam updates

คุณยังสามารถป้องกันไม่ให้ Steam ดาวน์โหลดการอัปเดตสำหรับเกมส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ใช้ได้อีกด้วยตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เปิด Steam Library
  2. คลิกขวาที่เกมที่ไม่ได้ใช้งานแต่ติดตั้งไว้
  3. เลือก Properties แล้วเลือก Updates
  4. ภายใต้ Automatic Updates ให้เลือก Always keep this game up to date to Only update this game when I launch it
  5. ทำให้มั่นใจ Pause background downloads while I’m playing ถูกเลือกเปิดใช้เอาไว้

ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ Steam อย่างถูกต้อง Windows 10 และ Windows 11 จะพร้อมสำหรับการเล่นเกมระดับ AAA สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีของคุณอย่างเต็มรูปแบบ แต่คุณก็ไม่ควรลืมที่จะอัปเดทเกมในช่วงที่ไม่ได้ทำการเล่นเกมด้วยนะเพราะบางอัปเดทของเกมนั้นจะช่วยให้คุณสามารถที่จะเล่นเกมได้ดีมากขึ้น


ปรับแต่งการเอฟเฟคของคุณเพื่อการเล่นเกมบน Windows ที่สมบูรณ์แบบ

muo windows gaming optimize visual effects

ส่วนติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิกหรือภาษาทางการจะเรียกว่าส่วนต่อประสาน (GUI) ของคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows นั้นอาจเป็นอุปสรรคต่อพลังการประมวลผลของฮาร์ดแวร์โดยรวมของคุณตั้งแต่หน่วยประมวลผลไปถึงแหล่งเก็บข้อมูล(เรียกง่ายๆ ว่าฮาร์ดแวร์เกือบจะทุกส่วนดีกว่า) ตามค่าเริ่มต้นการตั้งค่าเอฟเฟคกราฟิกของ Windows 10 และ Windows 11 ของคุณถูกตั้งค่าให้น่าประทับใจหรือเอาง่ายๆ เลยว่าเปิดใช้ทุกฟีเจอร์เต็มรูปแบบ

เกมที่ทำงานอยู่เบื้องหลังอาจขัดแย้งกับเอฟเฟค GUI ที่เป็นทำงานในพื้นหลัง เพื่อเป็นการปรับการตั้งค่าเอฟเฟคเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Windows 10 และ Windows 11 นั้นสามารถที่จะทำได้ดังต่อไปนี้

  1. เปิด Settings ด้วยการใช้คีย์ลัด Windows key + I
  2. พิมพ์ “performance” และเลือก Adjust the appearance and performance of Windows
  3. ในช่องการตั้งค่าเลือก Adjust for best performance
  4. คลิก Apply
  5. คลิกที่แท็บ Advanced
  6. ดูให้แน่ใจว่า Adjust the best performance of ถูกตั้งค่าไว้ที่ Programs
  7. คลิก Apply แล้วคลิก OK เพื่อยืนยัน

เปิดโหมด Power Plan สูงสุดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมของ Windows

PowerPlan 001

ตัวเลือกการใช้พลังงาน(Power options) มักถูกมองข้ามเนื่องจากมันจะสร้างผลลัพธ์แค่เพียงเล็กน้อยในการเล่นเกมเท่านั้น อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นนักเล่นเกมบางคนเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่สูงที่สุดเท่าที่ฮาร์ดแวร์ตัวเครื่องจะสามารถทำได้ หากคุณไม่เคยปรับมาก่อนเลยนั้นนี่คือวิธีการที่คุณจะสามารถรีดความสามารถของฮาร์ดแวร์โดยเฉพาะหน่วยประมวลผลให้ทำงานสูงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปด้วย สำหรับวิธีการตั้งค่านั้นให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. เปิด Settings
  2. พิมพ์ “power” แล้วคลิก Power & sleep settings > Additional power settings
  3. เลือก high-performance
  4. ถ้าไม่มีให้เลือก Create a power plan โดยให้เลือกในส่วนของ Minimum processor state และ Maximum processor state เป็น 100% ทั้งหมดแล้วกดบันทึก
PowerPlan 002

ตัวเลือกนี้จะช่วยให้พีซีของคุณทำงานได้ดีขึ้นแต่ก็แลกมากับการสิ้นเปลืองพลังงานและระดับอุณหภูมิที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตั้ว ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการดีกว่าที่จะเปิดใช้งานการเพิ่มประสิทธิภาพ Windows 10 และ Windows 11 นี้บนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปมากกว่าบนโน๊ตบุ๊ค

ที่มา pocket-lint, movavi, minitool, makeuseof

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

CONTENT

มารู้จักกับวิธีการสำรองข้อมูลของ Windows 11 ที่ถูกต้องและมีประโยชน์มากที่สุดกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย แม้ว่า Windows Backup จะเป็นวิธีการสำรองข้อมูลที่ดีสำหรับ Windows 11 ที่แถมมากับ Windows ในตัว แต่ทว่ามันก็มีข้อจำกัดนั่นเป็นเหตุผลที่เราอาศัยกระบวนการสามขั้นตอนในการสำรองข้อมูลพีซี Windows 11 ของเราอย่างเหมาะสม ต่อไปนี้คือวิธีที่เราดำเนินการด้วยการสำรองข้อมูล Windows จะมีวิธีอะไรและต้องทำอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกัน ใช้ Windows Backup...

CONTENT

สำหรับผู้ใช้โน๊ตบุ๊คสิ่งสำคัญมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยืนยาวแน่ๆ และนี่คือ 10 เทคนิคการปรับแต่งสำหรับ Windows 11 ที่จะช่วยให้คุณยืดอายุมันได้ยาวๆ แบตเตอรี่แล็ปท็อปเสื่อมสภาพตามกาลเวลาและสูญเสียความจุ ส่งผลให้มีเวลาทำงานน้อยลง เราเองก็เผชิญกับสถานการณ์เดียวกันกับโน๊ตบุ๊ค Windows 11 ของเรา แต่หลังจากปรับแต่งการตั้งค่า Windows 11 ที่ซ่อนอยู่ดังต่อไปนี้เราพบว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่มีการปรับปรุงดีขึ้นเป็นอย่างมาก จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย ปรับแต่งโหมดพลังงาน เปิดใช้งาน Battery Saver หรือ Energy...

Tips & Tricks

วิธีอัดหน้าจอคอมอัดเกม Screen recorder หน้าจอ แคปเจอร์วีดีโอ Windows 11 อัดหน้าจอคอมให้อยู่ในรูปแบบของวีดีโอ ปัจจุบันมีวิธีมากมายให้ใช้ เริ่มต้นจากฟีเจอร์บน Windows 11 หรือ Windows 10 ก็จัดว่าเพียงพอต่อการใช้งานในเบื้องต้น แต่หลายคนก็เลือกวิธีการลงแอพฟรีเสริมให้การแคปเจอร์หน้าจอ หรือบันทึกวีดีโอหน้าจอทำได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดีในครั้งนี้เราเสนอไอเดียไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ต้องการอัดหน้าจอในแบบง่ายๆ ไว้เป็นทางเลือกหลายๆ รูปแบบ มีทั้งเน้นงานด่วน งานไว รวมถึงงานที่ต้องการความละเอียดก็มีให้...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก