การปรับแต่งกราฟิกเกมในหมวด Option โดยเฉพาะเกม PC ในยุคนี้ก็จะมีให้เราเลือกปรับได้ละเอียดมากกว่าสมัยก่อนนอกเหนือจากกราฟิกภาพที่มีให้เลือกตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับสูงแล้วก็ยังมีหมวดปรับแต่งแสงเงา , ความละเอียดผิวน้ำ , ความละเอียดทุ่งหญ้าหรือความพริ้วไหวของเส้นผมแต่ว่า Option ที่มีให้ปรับมากมายก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป
ในบางครั้งการปรับแต่งเหล่านี้อาจจะทำให้ภาพสวยขึ้นแต่บางครามันก็ทำให้เครื่องคอมของเราทำงานหนักมากขึ้นโดยไม่จำเป็นหรือบางคนก็อาจจะไม่ชอบภาพที่ถูกปรับแต่งขึ้นมาก็ได้และวันนี้เราจะมีดูกันว่า Option Setting แบบไหนที่เกมเมอร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยปลื้มใช้มันนักโดยจะมี 5 หมวดด้วยกันดังนี้
Shadows
เป็นค่าปรับแต่งในส่วนของเงาทำให้เงาของตัวละครหรือวัตถุในเกมคมชัดสมจริงยิ่งขึ้นซึ่งก็แน่นอนว่ามันเป็นตัวเสริมที่ทำให้ภาพในเกมโดยรวมดูดีแต่ทว่าในความดูดีมันก็ต้องแลกกับการกินทรัพยากรทำให้ค่า fps ที่ลดทอนลงมาเมื่อปรับสูงสุดและถ้าหากใครเจอกรณีแบบนี้ก็ขอแนะนำว่าควรปรับแต่งค่าเงาให้อยู่ในระดับปานกลางหรือระดับต่ำจะดีกว่าเพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหลไม่หงุดหงิดใจ
อย่างไรก็ตามการปรับแต่งเงาก็ไม่ควรปิดใช้งานไปซะทีเดียวครับและค่าปรับแต่งระดับปานกลางกับระดับต่ำมันก็ไม่ทำให้ภาพกราฟิกเกมดูแย่จนเล่นไม่ได้หรอกนะครับ
Motion Blur
เป็นค่าปรับแต่งเอ็ฟเฟ็กต์ที่ดูเหมือนจะดีเพราะมันจะช่วยให้ภาพรอบ ๆ ตัวเราเบลอเมื่อมีการเคลื่อนไหวเร็ว ๆ หรือหมุนกล้องซึ่งมันก็ให้ความสมจริงอยู่ครับแต่ในความเป็นจริงแล้วเจ้า Option ตัวนี้ถือว่าไม่ค่อยมีประโยชน์นักในเกมประเภท FPS หรือ TPS เพราะมันทำให้เรามองไม่เห็นวัตถุด้านหน้าซึ่งอาจจะมีศัตรูอยู่และแน่นอนมันสร้างความมึนหัวและเขมือบทรัพยากรการ์ดจออย่างมหาศาลเลย
ดังนั้นแล้วการมีอยู่ของเจ้า Motion Blur จึงไม่มีประโยชน์เพราะมันทำให้เรามองรายละเอียดรอบตัวไม่ชัดเจนเลยทำให้นักเล่นเกมส่วนมากตกลงปลงใจที่จะเลือกปิดการใช้การอย่างไม่มีข้อสงสัยแต่กลับกันในกรณีที่คุณเล่นเกมแนวแข่งรถเจ้าเอ็ฟเฟ็กต์ตัวนี้จะช่วยได้มากในเรื่องของภาพที่สมจริงรู้สึกถึงความเร็วสูงและเกมที่มีฉากคัทซีนเยอะ ๆ ก็ช่วยให้ภาพสวยมากขึ้นครับ
Reflections
ตัวช่วยในเรื่องของแสงสะท้อนหรือวัตถุโลหะซึ่งถ้าหากเราปรับแต่งค่าส่วนนี้สูง ๆ ก็จะทำให้แสงสะท้อนวัตถุดูมีมิติเหมือนของจริงเช่นยานพาหนะ , แสงสะท้อนจากพื้นผิวน้ำ ก็คงเป็นอะไรที่ฟินมาก ๆ สำหรับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์แต่คงจะไม่ดีต่อคอมของคุณเท่าไหร่เพราะเรายิ่งปรับค่านี้สูงขึ้นมันก็ทำให้เครื่องและการ์ดจอทำงานหนักขึ้นไปด้วย
ถ้าคุณไม่ใช่พวกเสพกราฟิกระดับฮาร์ดคอร์การมีอยู่ของ Option ตัวนี้ก็ดูจะไม่มีประโยชน์อะไรนักทำให้คอมทำงานหนักเปล่า ๆ ดังนั้นการปิดใช้งานมันก็เหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
Depth of Field
ง่าย ๆ ก็คือเป็นการตั้งค่าหน้าชัดหลังเบลอที่อ้างอิงจากความเป็นจริงเวลาเราเพ่งมองวัตถุใกล้ ๆ จะชัดแต่วัตถุหรือฉากไกล ๆ ด้านหลังจะเบลอมองไม่ชัดเท่าไหร่ฟังดูเหมือนจะเจ๋งแต่เมื่อมันถูกใช้งานในเกมจริง ๆ กลายเป็นว่ามันเป็นตัวบดบังวัตถุที่เราอยากจะเห็นซะอย่างงั้นมันคงน่าหงุดหงิดไม่น้อยที่เวลาเราอยากเห็นวัตถุไกล ๆ ที่ดันมองไม่เห็นเพราะเจอเอ็ฟเฟ็กต์เจ้ากรรมหวังดีช่วยอย่างไม่จำเป็น
เหตุนี้จึงไม่แปลกที่นักเล่นเกมมักจะปิดการใช้งานเอ็ฟเฟ็กต์ตัวนี้ทิ้งอย่างไม่ใยดีมันเป็นอุปสรรคต่อการเล่นเกมอย่างมากและมันเหมาะสำหรับฉากคัทซีนหรือใช้ในงานภาพมากกว่าเกมเพลย์
SSAA (Supersampling)
ถ้าพูดถึง Option กราฟิกที่มักจะปิดบ่อย ๆ เจ้า SSAA ก็ต้องอยู่ในลิสต์ด้วยครับถึงแม้ว่าคุณสมบัติของมันจะช่วยให้ Texture ในเกมดูสมูธลบรอยหยักด้วยการเรนเดอร์ภาพให้ใหญ่กว่าความละเอียดหน้าจอของผู้ใช้แล้วค่อย ๆ ปรับลดความละเอียดให้เท่ากับหน้าจอซึ่งก็มีให้ปรับหลายเท่าก็ตามแต่ใจผู้ใช้งานแต่ว่าการทำแบบนี้ก็ส่งผลกระทบต่อคอมของเราด้วยเช่นกัน
เพราะว่าการเรนเดอร์ภาพให้ละเอียดกว่าขนาดหน้าจอก็ย่อมทำให้คอมทำงานหนักกินทรัพยากรอย่างมากและมันก็ส่งผลต่อค่า fps ในเกมที่ลดลงอย่างมหาศาลเมื่อเปิดใช้งาน SSAA แม้ภาพที่ได้จะดูสวยงามกว่าเดิมก็จริงแต่การต้องทนเล่นบนค่า fps ต่ำ ๆ ก็คงจะไม่ไหวเหมือนกันดังนั้นการปิดใช้งานดูเหมือนจะเป็นทางที่ดีกว่ากันเยอะ
ถึงแม้ว่า 5 หมวด Option นี้จะดูไม่ปลื้มนักในสายตานักเล่นเกมแต่บางกรณีมันก็ส่งผลดีได้เหมือนกันอย่าง Motion Blur จะทำได้ดีเมื่อเล่นเกมแนวแข่งรถหรือ Depth of Field จะช่วยบรรยากาศความน่ากลัวให้กับเกมแนวสยองขวัญ เป็นต้นก็ใช่ว่าจะไร้ค่าเสมอไปเพียงแต่ใช้งานให้ถูกประเภทเท่านั้น
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับมีเอ็ฟเฟ็กต์ Option ตัวไหนที่รู้สึกว่าไม่ปลื้มมันต้องปิดใช้งานทุกครั้งเมื่อเล่นเกมลองแสดงความคิดเห็นกันมาได้เลย
ที่มา: PCGAMER