Microsoft Edge เบราว์เซอร์ตัวใหม่ที่ทาง Microsoft ภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างมากนั้นจะมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10 ทุกเครื่องครับ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้นจะมีผู้ใช้งานระบบปฎิบัติการ Windows 10 เกินกว่า 300 ล้านอุปกรณ์เข้าไปแล้ว
ทว่า Microsoft Edge ก็ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักสักเท่าไร ดังนั้นแล้วทาง Microsoft ก็ต้องกระตุ้นเพื่อให้ผู้ใช้หันมาใช้ Microsoft Edge มากขึ้นโดยการกระตุ้นในครั้งนี้นั้นก็อยู่ในรูปของการทดสอบเรื่องของประสิทธิภาพการใช้พลังงานของ Edge ที่พบว่าสามารถช่วยยืดอายุการใช้งา่นแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คได้ยาวนานมากขึ้นครับ
ในการทดสอบนั้นทาง Microsoft ได้ทำการเปรียบเทียบ Edge กับเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันของค่ายอื่นทั้ง 3 อย่าง Google Chrome, Mozilla Firefox และ Opera โดยการทดสอบนั้นหากอ้างอิงจากทาง Microsoft แล้วเครื่องโน๊ตบุ๊คที่ถูกนำมาทดสอบนี้ก็คือ Microsoft Surface Book แยกกัน 4 เครื่อง(ตามภาพด้านบน) โดยการทดสอบนั้นทุกๆ เบราว์เซอร์จะมีการเปิดหน้าเว็บเพจ, วีดีโอ, scrolling actions และ tabs เหมือนกันทั้งหมดซึ่งเว็บที่เปิดนั้นประกอบไปด้วย Facebook, Google, YouTube, Amazon และ Wikipedia ครับ
ก่อนอื่นมาดูกันที่อัตราการใช้พลังงานสูงสุดของแต่ละเบราว์เซอร์กันก่อนครับ โดย Baseline นั้นคือการเปิดเครื่องทิ้งเอาไว้เฉยๆ(หรืออยู่ในสถานะ idle) จะมีการใช้พลังงานอยู่ที่ 318 mW ทีนี้เมื่อใช้เบราว์เซอร์แต่ละตัวทำการเปิดหน้าเว็บเพจต่างๆ ตามที่ได้บอกไปแล้วนั้นจะมีการใช้พลังงานรวมทั้งหมดทั้งในส่วนของหน่วยประมวลผล(CPU), กราฟิกชิป(GPU) และ WiFi ดังต่อไปนี้ครับ
- Microsoft Edge ใช้พลังงานรวม 2,068 mW
- Google Chrome ใช้พลังงานรวม 2,819 mW
- Opera ที่เปิดฟีเจอร์ Battery Saver ไปด้สนใช้พลังงานรวม 3,077 mW
- Mozilla Firefox ใช้พลังงานรวม 3,161 mW
ผลการทดสอบดังกล่าวแสดงให้เห็นครับว่า Microsoft Edge นั้นมีอัตราการใช้พลังงานที่ดีที่สุดบนระบบปฎิบัติการ Windows 10 โดยหากเทียบกับเบราว์เซอร์อื่นๆ นั้นพบว่า Edge ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ดีกว่าเบราว์เซอร์อื่นๆ 36% – 53% เลยทีเดียวครับ อย่างไรก็ตามนี่เป็นผลทดสอบในห้องทดสอบซึ่งอาจจะมีผู้ใช้บางท่านคิดว่าในการใช้งานบนโลกของความเป็นจริงแล้วนั้น Edge จะยังมีประสิทธิภาพเช่นเดิมอยู่หรือไม่ ทาง Microsoft ได้รวบรวมข้อมูลสถิติที่วัดจากอุปกรณ์ระบบปฎิบัติการ Windows 10 จริงๆ ในหลักหลายล้านเครื่องในโลกซึ่งพบว่าผลที่ได้นั้นตรงกับการทดสอบดังนี้ครับ
ผลของการใช้งานจริงที่ทาง Microsoft รวบรวมจากสถิติของเครื่องระบบปฎิบัติการ Windows 10 คือ
- Microsoft Edge ใช้พลังงานรวม 465.24 mW
- Google Chrome ใช้พลังงานรวม 719.72 mW
- Mozilla Firefox ใช้พลังงานรวม 493.5 mW
การใช้งานจริงนั้นจะแตกต่างจากการทดสอบในห้องปฎิบัติการของทาง Microsoft ครับ จะเห็นได้ว่าพลังงานที่แต่ละเบราว์เซอร์ใช้นั้นต่ำกว่าผลการทดสอบจากห้องปฎิบัติการเนื่องจากว่าในการใช้งานจริงผู้ใช้จะไม่ได้ทำการเปิดหน้าเว็บเพจหนักแบบที่ได้ทำการทดสอบในห้องปฎิบัติการ แต่กระนั้นแล้วผลที่ได้นั้นก็ยังคงสนับสนุนผลจากการทดสอบในห้องปฎิบัติการครับซึ่งนั่นก็คือ Edge ใช้พลังงานน้อยสุดตามมาด้วย Firefox และ Chrome ครับ(ส่วน Opera นั้นมีการใช้งานน้อยมากจนทาง Microsoft ไม่ได้นำมาแสดงผลให้ดูในกราฟด้วยครับ)
จากการทดสอบนั้นจะเห็นได้ครับว่า Edge นั้นสามารถที่จะใช้งานได้ยาวนานกว่า Chrome มากถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว ทั้งนี้ทาง Microsoft เองก็ได้บอกเอาไว้ว่าจริงๆ แล้วทาง Microsoft นั้นไม่ได้เป็นผู้ค้นพบเรื่องดังกล่าวนี้แต่อย่างใดทว่า Wall Street Journal นั้นเป็นผู้ที่ค้นพบครับว่า Edge สามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่า ทาง Microsoft เองก็เลยทำการทดสอบให้พวกเราได้เห็นครับว่าสิ่งที่ Wall Street Journal ค้นพบนั้นไม่ใช่เรื่องปั้นขึ้นมาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้อย่างเราๆ ท่านๆ แล้วหล่ะครับว่าจะเลือกใช้เบราว์เซอร์ตัวไหน สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ PC Desktop นั้นคงจะไม่มีปัญหาเท่าไรกับการเลือกใช้เบราว์เซอร์ตัวโปรด แต่กับผู้ใช้โน๊ตบุ๊คที่เรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งนั้นอาจจะมีบางคนยอมเปลี่ยนใจมาลองใช้ Edge ดูบ้างก็ได้ ทั้งนี้ทาง Microsoft ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยอีกครับว่าในอัพเดท Windows 10 Anniversary นั้นเบราว์เซอร์ Edge จะได้รับการอัพเดทประสิทธิภาพการใช้งานให้ดีขึ้นไปอีกด้วยครับ
หมายเหตุ – มีผลที่น่าสนใจจากทาง Wall Street Journal ครับว่าถ้าเป้นบนอุปกรณ์ระบบปฎิบัติการ iOS นั้นเบราวฒเซอร์ที่ดีที่สุดในการประหยัดแบตเตอรี่คือ Safari ของทาง Apple เอง แต่กลับกันแล้วถ้าเป็นอุปกรณ์ระบบปฎิบัติการ Android นั้นกลับพบว่า Chrome ของ Android จะประหยัดแบตเตอรี่ได้ดีกว่าระบบปฎิบัติการอื่นๆ หล่ะครับ
ที่มา : notebookcheck, blogs.windows.com