ใครจะคาดคิดครับว่าบริษัทสัญชาติจีนที่กำลังมาแรงอย่าง Xiaomi ที่มีชื่อเสียงมาจาก Smartphone นั้นจะผลิตสินค้าในสายอื่นเพิ่มเติมเข้ามาอีก โดย Xiaomi ได้ทำการเปิดตัว?Mi Router Mini ที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนกัน Apple Magic Trackpad อย่างกับแกะ โดยเจ้า?Mi Router Mini นั้นจะมีหลายสีให้เลือก ราคาอยู่ที่?CNY129 (ประมาณ $21 หรือ 682.50 บาท) โดยทาง Xiaomi เคลมว่า router ตัวนี้เร็วกว่า router อื่นๆทั่วไปถึง 3 เท่า สนับสนุนการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงสุดที่ 1,167 Mbps เป็น router แบบ dual-band (2.4GHz/5GHz?router)
นอกจากนั้นยังมี Mi Router อีกตัวที่ยังคงรูปแบบเดิมที่มีรูปร่างลักษณ์ไปในทางผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่างไม่มีผิดเพี้ยน (ไม่รู้ว่าจะโดน Apple ฟ้องสกัดดาวรุ่งเหมือนตอนฟ้อง Samsung รึเปล่าก็มิอาจทราบได้ครับ) โดยราคาของ Mi Router นั้นถูกตั้งไว้ที่?CNY699 (ประมาณ $112 หรือ 3,640 บาท) โดยยังจะสนับสนุนการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงสุด?1,167 Mbps เหมือน?Mi Router Mini แต่ Mi Router นั้นจะมาพร้อมกับ Harddisk ขนาด 1 TB ในตัวเพื่อให้คุณสามารถที่จะเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้บน Router ตัวนี้ได้เสมือนดั่งมี Cloud ส่วนตัวเลยทีเดียวครับ (Xiaomi เคลมว่า Mi Router สามารถที่จะเก็บภาพยนตร์แบบ HD ได้ถึง 1000 เรื่อง, เก็บเพลงได้ถึง 40,000 เพลง และรูปภาพที่อยู่ใน RAW format ได้ถึง 100,000 รูปเลยทีเดียวครับ)
ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้นครับ Xiaomi ยังคงมีผลิตภัณฑ์ที่ 3 เปิดตัวในวันเดียวกันเป็น Android set-top box ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในชื่อ Xiaomi Box โดยราคาอยู่ที่?CNY399 (ประมาณ $64 หรือ 2,080 บาท) โดยเจ้า Xiaomi Box นั้นสนับสนุนเนื้อหาที่มีความละเอียดระดับ 4K?Ultra HD โดยทาง Xiaomi ได้กล่าวว่าด้วย CPU และ GPU ที่อัพเกรดใหม่ใน Xiaomi Box นั้นทำให้ประสิทธิภาพของ Xiaomi Box เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าด้วยกันหากเทียบกับตัวเดิม ซึ่งนั่นทำให้ Xiaomi Box เหมาะสมกับการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น (เจ้า Xiaomi Box นี่แหละครับที่ผมสนใจมากที่สุด)
สุดท้ายหลังจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ยังมีการเปิดตัวอีกด้วยว่าในปีนี้ Xiaomi จะขยายตลาดเข้าสู่อีก 10 ประเทศซึ่งเป็นข่าวที่เรียกได้ว่าเป็นข่าวดีที่สุดสำหรับแฟนๆ Xiaomi ชาวไทยครับ เพราะใน 10 ประเทศที่ Xiaomi จะขยายตลาดนั้นประกอบไปด้วย?Malaysia, Philippines, India, Indonesia, Thailand และ Vietnam หลังจากนั้นจะตามด้วย Russia, Turkey, Brazil และ Mexico เรียกได้ว่าหลังจากที่ต้องพึ่งร้านหิ้ว (ที่บวกราคาเยอะเหลือเกิน) ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วครับ
ที่มา : thenextweb