หลายปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะแบรนด์นาฬิกาหรือสมาร์ทโฟนก็หันมาสร้าง Smart Watch กันอย่างต่อเนื่องจนหลายๆ คนคิดว่าจะซื้อ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 นี้ก็มีตัวเลือกจากแบรนด์ต่างๆ มากมาย ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีเอกลักษณ์ส่วนตัวแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะใช้งาน Google Wear OS ทำให้นาฬิกาเป็นส่วนเสริมของสมาร์ทโฟนให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น ใช้จ่ายเงิน, ดูแผนที่ระหว่างเดินทางไปไหนมาไหนได้ง่าย ไปจนกลุ่มคนที่รักการออกกำลังกายและใช้ชีวิต Extreme ดำน้ำเดินป่าก็มี Smart Watch แบบพิเศษให้กลุ่มคนเหล่านี้ด้วย
ราคา Smart Watch เหล่านี้ในตอนแรกก็แตะหลักหมื่นบาทเป็นเรื่องปกติ แต่พอมีผู้ผลิตหลายเจ้ามากขึ้นก็ถูกลงมาเหลือหลักพันบาท แถมมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะแบบ Band เป็นนาฬิกาแบบสายรัดข้อมือไว้ดูเวลาและตรวจสอบการออกกำลังกายได้ แต่ถ้าให้เลือกก็อยากแนะนำให้ซื้อเป็น Smart Watch มากกว่าเพราะหน้าจอใหญ่มองเห็นชัดเจน สามารถติดตั้งแอปฯ เพิ่มเติมได้ง่ายกว่าแถมใส่ในทุกโอกาสไม่ว่าจะในวันธรรมดาหรือไปงานพิธีสำคัญต่างๆ ก็ดูดีไม่เคอะเขินเลย
สรุปใจความ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024
- ถ้าใช้ Smart Watch กับสมาร์ทโฟน Android ใช้ Wear OS ของ Google จะใช้งานร่วมกันได้ดีมาก
- Smart Watch บางรุ่นออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย จะเน้นการดำน้ำและแบตเตอรี่ทนทาน
- Smart Watch จะเชื่อมต่อกับแอปฯ ต่างๆ เพื่อแทร็คการออกกำลังกายและโหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้
- Smart Watch ปัจจุบันราคาถูกลงมาก ไม่แพงเหมือนในอดีตแล้ว
6 Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 รวมรุ่นใหม่น่าใช้ทั้งสายสปอร์ตและสายหรู!
- Xiaomi Watch 2 (6,690 บาท)
- HUAWEI WATCH GT 4 (7,490 บาท)
- Amazfit Cheetah (7,690 บาท)
- Garmin Forerunner 165 (9,990 บาท)
- OPPO Watch X (11,990 บาท)
- SUUNTO 9 PEAK PRO (13,900 บาท)
1. Xiaomi Watch 2 (6,690 บาท)
- Display & Features : AMOLED 1.43″, 5ATM
- Connectivity : eSIM, Wi-Fi 5GHz, Bluetooth 5.2, GPS, Galileo, Glonass, Beidou, QZSS
- Storage & Operating System : 2/32GB, Google Wear OS, Mi Fitness
- Battery Life : 65 ชั่วโมง
- Price : 6,690 บาท (Xiaomi Shopee Mall)
เริ่มต้นถ้าคิดอยู่ว่าจะซื้อ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 นี้ เริ่มต้นจากของดีราคาประหยัดอย่าง Xiaomi Watch 2 ระบบปฏิบัติการ Wear OS by Google ได้เลย ซึ่งดีไซน์นอกจากสวยเรียบง่ายใส่ได้ทุกโอกาสแล้ว ยังรองรับ eSIM เอาไว้โทรศัพท์และรับข้อความได้เวลาไม่ได้พกสมาร์ทโฟนติดตัว สามารถโหลดแอปฯ จาก Play Store มาติดตั้งเพิ่มได้หลากหลายแบบ ฟังก์ชั่นควรมีของ Smart Watch อย่างเซนเซอร์แทร็คสภาพร่างกายก็มีครบทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ, ปริมาณออกซิเจนในเลือด, ความเครียดแถมยังใช้ติดตามรอบเดือนของคุณผู้หญิงได้ซึ่งครบถ้วนมาก ถ้าเป็นสายกีฬาก็มีโหมดออกกำลังกายให้เลือกใช้มากกว่า 150 แบบ แถมกันน้ำและฝุ่นระดับ 5ATM จะใส่ว่ายน้ำก็ไม่มีปัญหา ถ้าเน้นความสะดวกก็รองรับระบบ Google Wallet ใช้จ่ายเงินตามร้านค้า, ดูแผนที่ Google Maps บนหน้าปัดนาฬิกาและยังเป็นหน้าจอและปุ่มชัตเตอร์กล้องได้ในตัว ตอบโจทย์คนที่คิดอยู่ว่าจะซื้อ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 แน่นอน
ข้อดี
- ระบบปฏิบัติการเป็น Wear OS by Google โหลดแอปฯ สมาร์ทโฟนมาติดตั้งใช้งานได้สะดวก
- ระบบ GPS รองรับย่านความถี่ L1+L5 รองรับ GPS, Galileo, Glonass, Beidou, QZSS
- กันน้ำและฝุ่นได้ระดับ 5ATM ใส่ลงว่ายน้ำและโดนความชื้นได้ไม่มีปัญหา
- มีโหมดกีฬามากกว่า 150 แบบ และติดเซนเซอร์ตรวจสอบสภาพร่างกายมาให้ครบถ้วน
- รองรับการใช้ eSIM ใช้โทรศัพท์และรับข้อความต่างๆ ได้ไม่แพ้สมาร์ทโฟน
- มีฟังก์ชั่นติดตามรอบเดือนเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ทำให้เตรียมตัวได้สะดวก
ข้อสังเกต
- ระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่นานสุด 65 ชั่วโมง ถ้าใช้งานตามปกติจะอยู่ในระยะ 1~2 วันเท่านั้น
2. HUAWEI WATCH GT 4 (7,490 บาท)
- Display & Features : 1.43″ AMOLED, 5ATM, Wireless Charge
- Connectivity : Wi-Fi 2.4GHz, Bluetooth 5.2, NFC
- Storage & Operating System : 4/32GB, Harmony OS, HUAWEI Health
- Battery Life : 2 สัปดาห์
- Price : 7,490 บาท (HUAWEI Shopee Mall)
ด้านความหรูหรามีระดับนาทีนี้ไม่มีใครเกิน HUAWEI WATCH GT 4 ซึ่งตัวเรือนจะมีทั้งแบบอลูมิเนียมพร้อมสายหนังและผ้าให้ความสวยงามหรือเป็นรุ่นพิเศษบอดี้สแตนเลสเพิ่มความแข็งแรงสวยคลาสสิคก็ได้ ให้ฟีเจอร์เซนเซอร์สภาพร่างกายมาตรฐานมาหมด ดูอัตราการเต้นของหัวใจ, ระดับออกซิเจนในเลือด, ตรวจคุณภาพของการนอนหลับไปจนนับรอบเดือนของคุณผู้หญิงก็ได้ นับว่าครบเครื่องพร้อมใช้มาก แถมยังแทร็คการออกกำลังกายได้กว่า 100 แบบ จะเล่นกีฬาในฟิตเนสหรือว่ายน้ำก็ทนน้ำและฝุ่นระดับ 5ATM แถมยังใส่เข้างานสำคัญต่างๆ ก็ช่วยให้ภาพลักษณ์ดูดียิ่งขึ้นอีก แต่เวลาใช้งานจะต้องโหลด HUAWEI Health มาติดตั้งเพิ่มเพื่อโหลดและจัดการแอปฯ ต่างๆ ใน Smart Watch เท่านั้น ซึ่งถ้าใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์นี้อยู่แล้วก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหา
ข้อดี
- หน้าปัดสวยงามมีภูมิฐาน ใส่ได้หลายโอกาสไม่ว่าจะวันพักผ่อนหรือพิธีการ
- มีโหมดออกกำลังกาย 100 แบบและ Active Rings 2.0 ไว้เตือนให้ผู้ใช้ขยับเป็นระยะๆ
- กันน้ำและฝุ่นระดับ 5ATM เหมาะกับคนชอบออกกำลังกายและว่ายน้ำมาก
- มีฟังก์ชั่นนับรอบประจำเดือนของผู้หญิงในตัว ช่วยให้เตรียมตัวได้สะดวก
- แบตเตอรี่ทนทาน ใช้งานได้นานสุดถึง 14 วัน ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ
ข้อสังเกต
- ต้องโหลด HUAWEI Health มาเพื่อโหลดแอปฯ และฟังก์ชั่นต่างๆ เข้า Smart Watch
3. Amazfit Cheetah (7,690 บาท)
- Display & Features : 1.45″ AMOLED, Titanium Alloy, 5ATM
- Connectivity : Bluetooth 5.3, 6 Satellite GPS system
- Storage & Operating System : Zepp OS, Zepp App, Zepp Coach
- Battery Life : ใช้งานปกติ 14 วัน, Clock Mode 45 วัน
- Price : 7,690 บาท (Amazfit Shopee Mall)
สายออกกำลังกายคิดว่าจะซื้อ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 มี Amazfit Cheetah นาฬิกาเพื่อคนรักการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ได้ฟังก์ชั่นการจับ GPS แม่นยำโดยการอิงพื้นที่กับดาวเทียม 6 ดวง ยืนยันตำแหน่งได้แม่นยำ เวลาวิ่งไปไหนมาไหนก็จับแผนที่การวิ่งได้ละเอียดแม่นยำแถมมี Track Run mode เอาไว้ให้นักกีฬาจับความเร็วและ Pace เวลาวิ่งเพื่อปรับปรุงวิธีการออกกำลังกายได้ด้วยตัวเองหรือจะใช้ Zepp Coach แนะนำการวิ่งและออกกำลังกายให้ดีขึ้นก็ได้ นับว่าตอบโจทย์คนรักการออกกำลังกายมากๆ แต่เสียดายเล็กน้อยว่า Smart Watch เรือนนี้จะต้องใช้แอปฯ Zepp ตั้งค่า Smart Watch เท่านั้น เลยจำกัดไว้เฉพาะแอปฯ ออกกำลังกายเท่านั้น
ข้อดี
- แบตเตอรี่ใช้งานในแบบ Clock mode ได้นานสุด 45 วัน อยู่ได้นานมากไม่ต้องชาร์จไฟบ่อย
- เลือกโหมดออกกำลังกายได้มากถึง 156 แบบ แทร็คได้ละเอียดชัดเจน
- มีฟีเจอร์ MaxTrack ตรวจจับสถานที่ของผู้ใช้ด้วย GPS อิงดาวเทียม 6 ดวง ได้พิกัดชัดเจน
- ฝังระบบ Zepp Coach เอาไว้แนะนำการออกกำลังกายและวางแผนได้ดีขึ้น
- มี Track Run mode เอาไว้จับเวลา, ระยะทางและ Pace เวลาวิ่งได้ละเอียดชัดเจน
ข้อสังเกต
- เป็นสมาร์ทว็อชสายออกกำลังกาย มีฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างปฏิทินติดตั้งมาให้เล็กน้อยเท่านั้น
4. Garmin Forerunner 165 (9,990 บาท)
- Display & Features : 1.2″ AMOLED, 5ATM
- Connectivity : Wi-Fi, Bluetooth, ANT+, GPS, GLONASS, Galileo
- Storage & Operating System : CONNECT IQ, Garmin Connect, 4GB
- Battery Life : ใช้งานทั่วไป 11 วัน, โหมดประหยัดพลังงาน 20 วัน
- Price : 9,990 บาท (Watchstation Shopee Mall)
Smart Watch อีกเรือนสำหรับคนรักการออกกำลังกายแล้วไม่แน่ใจว่าจะซื้อ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 นี้มี Garmin Forerunner 165 ซึ่งให้ฟีเจอร์ออกกำลังกายและเซ็นเซอร์แทร็คสภาพร่างกายแบบครบเครื่องให้เลือก ด้านราคาอาจจะสูงอยู่บ้างแต่ให้ฟังก์ชั่นประเมินสุขภาพโดยภาพรวมและแนะนำว่าสุขภาพของเราเทียบกับอายุแล้วยังแข็งแรงอยู่หรือเปล่าแถมยังเช็คอัตราการเผาผลาญของร่างกายเพื่อดูแลสุขภาพได้ แถมยังให้ฟีเจอร์อำนวยความสะดวกเล็กๆ น้อยๆ อย่างแสดงการแจ้งเตือน, โหลดเพลงเข้า Playlist ในสมาร์ทโฟนและยังใช้ Garmin Pay ชำระเงินด้วยสมาร์ทว็อชได้โดยไม่ต้องหยิบบัตรเครดิตหรือเดบิตออกมาให้เสียเวลา เหมาะกับสายแอ็คทีฟมากแต่จะมีบางฟีเจอร์ใช้กับระบบ iOS ไม่ได้ จึงเหมาะกับคนใช้สมาร์ทโฟน Android เป็นหลัก
ข้อดี
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 20 วันในโหมดประหยัดพลังงานหรือ 11 วันตามปกติ
- ติดเซนเซอร์ตรวจเช็คสภาพร่างกายมาครบถ้วนทั้งอัตราการเต้นหัวใจ, ออกซิเจนในเลือด ฯลฯ
- มีฟีเจอร์ PACEPRO ช่วยวางแผนกลยุทธ์การวิ่งให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
- ใช้แอปฯ Garmin Pay ชำระเงินโดยใช้บัตรเครดิตและวิธีชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว
- มีฟีเจอร์ออกกำลังกายราว 25 แบบ ผสานกับรูปแบบการออกกำลังกายในยิม
ข้อสังเกต
- บางฟังก์ชั่นออกแบบมาใช้งานกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เป็นหลัก ไม่รองรับ iOS นัก
5. OPPO Watch X (11,990 บาท)
- Display & Features : 1.43″ AMOLED
- Connectivity : Wi-Fi 5GHz, Bluetooth 5.0, beidou, GPS, Galileo, GLONASS, QZSS
- Storage & Operating System : 2/32GB, Wear OS by Google
- Battery Life : ใช้งานทั่วไปโหมดอัจฉริยะ 100 ชั่วโมง โหมดประหยัดพลังงาน 12 วัน
- Price : 11,990 บาท (OPPO Shopee Mall)
นาทีนี้ถ้ากำเงินเอาไว้ระดับหนึ่งพร้อมลงทุนกับ Smart Watch ดีๆ สักเรือน ก็แนะนำให้ซื้อ OPPO Watch X ที่สุด เพราะนอกจากตัวเรือนสวยงามแข็งแรงผ่านการทดสอบ MIL-STD-810H ก็ยังใช้งานได้นานขึ้น ซึ่งปกติสมาร์ทว็อช Wear OS by Google มักใช้งานได้ราว 24~65 ชั่วโมง แต่เรือนนี้อยู่นานขึ้นเป็น 100 ชั่วโมงหรือตัดเข้าโหมดประหยัดพลังงานได้ 12 วัน รองรับการชาร์จไว 10 นาทีใช้ได้ทั้งวันหรือ 60 นาทีจนแบตเตอรี่เต็ม 100% ถือว่าใช้งานได้นานมาก แถมยังติดเซนเซอร์ตรวจสอบสภาพร่างกายและมีโหมดออกกำลังกายให้ใช้กว่า 100 โหมด ซึ่งถ้าพร้อมจ่ายแล้วคิดอยู่ว่าจะซื้อ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 นี้ ก็ลงทุนกับนาฬิกาเรือนนี้ได้เลยแถมยังใช้งานฟังก์ชั่นร่วมกับสมาร์ทโฟน Android ได้สะดวกขึ้นเยอะ
ข้อดี
- ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS by Google จึงผสานกับสมาร์ทโฟน Android ได้เป็นอย่างดี
- ชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนผ่านแอปฯ Google Wallet ได้ ไม่ต้องหยิบบัตรทุกครั้ง
- แบตเตอรี่ทนทานขึ้นมาก ใช้งานได้ถึง 100 ชั่วโมง จึงใช้งานได้ร่วมสัปดาห์
- รองรับการชาร์จไว 10 นาทีใช้งานได้ 1 วัน หรือ 60 นาที จนแบตเตอรี่เต็ม 100%
- ดีไซน์สวยงามแต่แข็งแรงทนทาน ผ่านการทดสอบความแข็งแรง MIL-STD-810H
- มีโหมดออกกำลังกายให้ใช้ 100 โหมด พร้อมโค้ชแนะนำการออกกำลังกาย
- มีเซนเซอร์เช็คสภาพร่างกายและสุขภาพติดตั้งมาให้ดูสภาพร่างกายได้ละเอียด
ข้อสังเกต
- ราคาค่อนข้างสูงร่วม 12,000 บาท ถือว่าค่อนข้างแพงหากเทียบกับรุ่นอื่นในตลาด
6. SUUNTO 9 PEAK PRO (13,900 บาท)
- Display & Features : 1.2″ LED, กันน้ำลึก 100 เมตร
- Connectivity : Bluetooth, GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BEIDOU
- Storage & Operating System : Suunto App
- Battery Life : โหมดเทรนนิ่งพร้อม GPS ได้ 300 ชั่วโมง ใช้งานทั่วไป 21 วัน
- Price : 13,900 บาท (SUUNTO Shopee Mall)
ถ้าไลฟ์สไตล์เป็นคนรักการทำกิจกรรม Outdoor ออกเดินป่าดำน้ำทุกวันหยุดยาวหรือทำงานเป็นอาจารย์สอนว่ายน้ำหรือโต้คลื่นอยู่แล้ว SUUNTO 9 PEAK PRO คือคำตอบสำหรับผู้ใช้กลุ่มนี้แน่นอน เพราะตัวนาฬิกาออกแบบให้ใช้งานได้นานถึง 21 วันโดยไม่ต้องชาร์จและยังดำน้ำได้ลึก 100 เมตร เหนือกว่าสมาร์ทว็อชที่ผ่านมาตรฐานกันน้ำ 5ATM ซึ่งดำได้เพียง 50 เมตรเท่านั้น แถมยังมีระบบ GPS รองรับดาวเทียมถึง 5 ดวง จึงระบุสถานที่ของเราบนโลกได้แม่นยำและเลือกโหมดออกกำลังกายธรรมดาแบะ Extreme ได้มากกว่า 95 แบบ ติดเซนเซอร์มาตรฐานสำหรับวัดสภาพร่างกายมาให้หมดไม่ว่าจะตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ, ดูปริมาณออกซิเจนในเลือด ฯลฯ
ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมเพื่อคนรักการเดินป่าและดำน้ำโดยเฉพาะ ใน Suunto 9 Peak Pro จะดูเวลาพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินได้, เตือนพายุเข้า, แรงดันใต้ทะเล, ดูอุณหภูมิแวดล้อม, ดูแรงดันและมีโปรไฟล์ alti/baro อัตโนมัติเสริมเข้ามาให้ใช้
ข้อดี
- รองรับการชาร์จไว 10 นาทีใช้ในโหมดออกกำลังกายได้ 10 ชั่วโมงหรือ 60 นาทีจนแบตฯ เต็ม
- ใช้งานทั่วไปได้นานสุด 21 วัน ถือว่าอยู่ได้นาน เหมาะกับคนใช้ชีวิต Outdoor แบบ Extreme
- สามารถกันน้ำลึกมากสุด 100 เมตร ซึ่งทั่วไปจะทนได้เพียง 50 เมตรเท่านั้น ถือว่าดีมาก
- มีโหมดฝึกซ้อมและออกกำลังกายให้ใช้มากกว่า 95 โหมด ครอบคลุมการเทรนนิ่งหลายแบบ
- ผ่านการทดสอบความแข็งแรงแล้ว ตัวเรือนเป็น Titanium Grade 5 กระจกแซฟไฟร์
- มีฟังก์ชั่นสำหรับคนรักการปีนเขาและดำน้ำเสริมเข้ามาให้เป็นพิเศษ
ข้อสังเกต
- เหมาะกับคนชอบกิจกรรม Outdoor เป็นหลัก ถ้าใช้งานทั่วไปจะดึงประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่
สรุปสเปค 6 Smart Watch รุ่นไหนดี 2024
สเปค Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 | Xiaomi Watch 2 | HUAWEI WATCH GT 4 | Amazfit Cheetah |
Display & Features | AMOLED 1.43″ 5ATM | 1.43″ AMOLED 5ATM Wireless Charge | 1.45″ AMOLED Titanium Alloy 5ATM |
Connectivity | eSIM Wi-Fi 5GHz Bluetooth 5.2 GPS Galileo Glonass Beidou QZSS | Wi-Fi 2.4GHz Bluetooth 5.2 NFC | Bluetooth 5.3 6 Satellite GPS system |
Storage & Operating System | 2/32GB Google Wear OS Mi Fitness | 4/32GB Harmony OS HUAWEI Health | Zepp OS Zepp App Zepp Coach |
Battery Life | 65 ชั่วโมง | 2 สัปดาห์ | ใช้งานปกติ 14 วัน Clock Mode 45 วัน |
Price | 6,690 | 7,490 | 7,690 |
สเปค Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 | Garmin Forerunner 165 | OPPO Watch X | SUUNTO 9 PEAK PRO |
Display & Features | 1.2″ AMOLED 5ATM | 1.43″ AMOLED | 1.2″ LED กันน้ำลึก 100 เมตร |
Connectivity | Wi-Fi Bluetooth ANT+ GPS GLONASS Galileo | Wi-Fi 5GHz Bluetooth 5.0 beidou GPS Galileo GLONASS QZSS | Bluetooth GPS GLONASS GALILEO QZSS BEIDOU |
Storage & Operating System | CONNECT IQ Garmin Connect 4GB | 2/32GB Wear OS by Google | Suunto App |
Battery Life | ใช้งานทั่วไป 11 วัน โหมดประหยัดพลังงาน 20 วัน | ใช้งานทั่วไปโหมดอัจฉริยะ 100 ชั่วโมง โหมดประหยัดพลังงาน 12 วัน | โหมดเทรนนิ่งพร้อม GPS ได้ 300 ชั่วโมง ใช้งานทั่วไป 21 วัน |
Price | 9,990 | 11,990 | 13,900 |
สำหรับราคาของสมาร์ทว็อช ณ ปี 2024 นี้ ก็ไม่ได้แพงเกินไปแล้ว แถมหาซื้อได้ในราคาหลักพันบาทเท่านั้น โดยส่วนตัวถ้าเน้นใช้งานทั่วไปเอาไว้เป็นส่วนเสริมของสมาร์ทโฟน Android สั่งได้ผ่านข้อมือของเราก็แนะนำให้ซื้อรุ่นระบบปฏิบัติการ Wear OS by Google จะใช้งานได้สะดวกกว่าและยังติดตั้งแอปฯ ใช้งานบ่อยๆ เข้าไปเพิ่มได้ ไหนจะใช้ชำระเงินผ่านระบบ NFC ทำให้ไม่ต้องหยิบบัตรเครดิตหรือเดบิตออกมาให้เสียเวลา แต่ถ้าเน้นออกกำลังกายเป็นหลัก กลุ่ม Suunto, Amazfit ที่ดีไซน์มาให้สายสปอร์ตใช้โดยเฉพาะจะดีสุด
กลับกัน ถ้าใครใช้ iPhone อยู่แล้วก็ซื้อนาฬิกาเหล่านี้มาใช้ได้แม้จะเป็น Wear OS by Google ก็ใช้ได้ แต่ฟังก์ชั่นการทำงานอาจไม่ถึงระดับ Apple Watch แต่ก็ทดแทนกันได้ดีไม่แพ้กัน ดังนั้นขั้นตอนการเลือกซื้อก็แนะนำให้อิงกับสมาร์ทโฟนของเราก่อนว่าเป็นระบบปฏิบัติการไหน รูปแบบการใช้ชีวิตของเราเป็นแบบทั่วไปหรือไปทางสปอร์ต Outdoor มากกว่า ก็ตัดสินใจตามพฤติกรรมของเราได้
Photo Credits : mi.com, HUAWEI, Amazfit, Garmin, OPPO, Suunto