Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

Tips & Tricks

ไม่ต้องต่อเน็ต แต่อ่านเว็บได้ทุกที่ในแบบ Offline

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับหลายๆ คนที่มีข้อจำกัดในการใช้งานระบบเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น WiFi หรือ 3G ก็ตาม เพราะไม่ใช่ทุกที่ที่จะมีอินเทอร์เน็ตให้ใช้ (ทั่วประเทศ)

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับหลายๆ คนที่มีข้อจำกัดในการใช้งานระบบเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น WiFi หรือ 3G ก็ตาม เพราะไม่ใช่ทุกที่ที่จะมีอินเทอร์เน็ตให้ใช้ (ทั่วประเทศ) เพราะบางครั้งอยู่ในต่างจังหวัดบางจุดก็เข้าถึงลำบากหรือบางทีต้องทำงานอยู่ในตึกหรือจุดอับสัญญาณ ก็ยากที่จะได้ใช้งาน

แต่หลายคนก็อาจแย้งว่า เปิดเว็บไซต์ก็ต้องเป็นการอัพเดตให้ทันยุคทันสมัยสิ จะมาอ่านแต่ของเก่าๆ อยู่ได้อย่างไร คำตอบคือ ก็จริงอย่างที่ว่า จะเปิดเว็บไซต์ทั้งทีก็หมายถึงว่าต้องต่ออินเทอร์เน็ตแล้วอัพเดตเป็นสิ่งแน่นอน แต่ความจริงแล้ว การเก็บเว็บเอาไว้อ่านแบบ Offline ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น การอ่านข้อมูลที่เป็น Text จำนวนมาก ซึ่งบางครั้งไม่ได้เป็นเรื่องด่วนหรือสำคัญ ก็ไม่จำเป็นจะต้องต่ออินเทอร์เน็ตบ่อยๆ เพื่อเข้าไปอ่าน เพราะตัวเนื้อหา ก็คงไม่ได้ Data ในการโหลดมากเท่านัก แต่อย่าลืมว่าบรรดาโฆษณาหรือรูปภาพและอะไรๆ ที่เป็นองค์ประกอบรอบๆ เหล่านั้น เป็นตัวผลาญปริมาณ Data ได้เป็นอย่างดี

Advertisement

ที่สำคัญในบางครั้งผู้ใช้ต้องการที่จะเปิดข้อมูลเพื่อที่ใช้ในการแก้ปัญหาระบบ ในกรณีที่เครื่องคอมพ์มีปัญหา เราก็จะยังสามารถใช้การเปิดดูข้อมูลแบบ Offline ที่จัดเก็บไว้นี้ ไม่ว่าจะดูจากเครื่องอื่นหรือบนแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ในการที่จะแก้ปัญหาได้ไม่ยากนัก ที่สำคัญยังประหยัดพลังงานอีกด้วย ในกรณีที่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตหลายคนคงทราบดีว่าต้องเปลืองแบตฯ อีกไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีข้อดีอีกหลายๆ ด้านสำหรับการใช้งานแบบ Offline นี้ ที่ผู้ใช้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ ดังนั้นจากประโยชน์ที่จะได้รับกับการใช้งาน ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะมีวิธีใดบ้างในการใช้งานในลักษณะแบบนี้

Word1
Copy to Word
วิธีการแบบง่ายๆ ที่หลายคนทำมาตั้งแต่ดั้งเดิมก็คือ การสั่ง Copy ด้วยวิธีการทำไฮไลต์ทั้งหน้า แล้วนำมาแปะไว้บนหน้า Word อีกที จากนั้นค่อย Save เป็นไฟล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Text, PDF หรือ Picture กันต่อไป ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดี แม้ว่าการ Copy จะสามารถดึงไฟล์ทั้ง Text และ Picture มาได้ทั้งหมด แต่ก็รวมเอาสิ่งอื่นๆ แปะเข้ามาด้วย แต่?ยังก่อน ที่ใช้คำว่าแต่ก็เพราะ ปัจจุบันหลายเว็บไซต์ก็ใช้ระบบปิด คือไม่สามารถเมาส์ขวาหรือทำไฮไลต์เพื่อทำการ Copy ได้อีกต่อไป การใช้วิธีนี้จึงต้องยกไป หมดประโยชน์ไปโดยปริยาย

Web browser
สำหรับการใช้วิธีในการดูดเว็บเอามาดูแบบ Offline ผ่านทาง Web browser นั้น ก็จะมีวิธีพื้นฐานอย่างการ Save as? อยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ทำได้เกือบทุกค่ายอยู่แล้ว โดยวิธีการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าใช้งานยังคงจำกัดอยู่บนโน๊ตบุ๊คหรือพีซีอยู่ดี เพราะลักษณะการเปิดใช้ ยังคงไม่ค่อยสะดวกมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและใช้งานได้ทันที ส่วนวิธีการนั้นทำได้โดย

Internet Explorer

 

 

SaveAs IE
1.เปิดหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการจะเก็บ จากนั้นคลิกที่ไอคอน Settings ที่อยู่บนแถบเมนู แล้วเลือกที่ File เลือกที่ Save as?
2.เลือกคลิกที่ Save as type ด้านล่าง โดยเลือกได้ทั้ง Webpage, completeหรือเป็นWeb Archive, single file จากนั้นรอจนกว่าจะเซฟไฟล์จนจบ
3.เปิดไปดูไฟล์ที่โฟลเดอร์ปลายทางที่ใช้จัดเก็บไฟล์ดังกล่าวไว้ หาก Save เป็น Single file ก็จะปรากฏเป็นไฟล์เดียว เมื่อดับเบิลคลิก ก็จะแสดงหน้าเว็บที่เก็บเอาไว้ได้ทันที ซึ่งจะมีทั้งรูปและตัวอักษรให้เห็นครบถ้วน

Firefox

 

 


1.เปิดหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการจะเก็บ จากนั้นคลิกที่ไอคอน Settings ที่อยู่บนแถบเมนู แล้วเลือกที่ File เลือกที่ Save page as?
2.ให้เลือกที่ Save as type ด้านล่าง โดยเลือกเป็น Webpage, complete แล้วคลิก Save รอจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ
3.เปิดไปดูไฟล์ที่โฟลเดอร์ปลายทางที่ใช้จัดเก็บไฟล์เอาไว้ โดยไฟล์จะแยกเป็น 2 ส่วนคือ ไฟล์ที่เป็น HTML และโฟลเดอร์ที่เก็บภาพประกอบในหน้าเว็บนั่นเอง

Chrome

 

 

SaveAs Chrome
1.เปิดหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการจะเก็บ จากนั้นคลิกที่ไอคอน Settings ที่อยู่บนแถบขวาเมนูด้านบน แล้วเลือกที่ Save page as?
2.เลือกที่ Save as type ด้านล่าง โดยเลือกเป็น Webpage, complete แล้วคลิก Save รอจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ
3.เมื่อเปิดดูไฟล์ที่โฟลเดอร์ปลายทางที่ใช้จัดเก็บไฟล์เอาไว้ โดยไฟล์จะแยกเป็น 2 ส่วนคือ ไฟล์ที่เป็น HTML และโฟลเดอร์ที่เก็บภาพประกอบในหน้าเว็บเพจ

แต่ยังไม่หมดเพราะบรรดา Web browser แต่ละค่ายก็ยังมีเครื่องมือสำหรับการเซฟหน้าเว็บไซต์สำหรับการดูข้อมูลแบบ Offline อีกด้วย ช่วยให้การใช้งานนั้นสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก

Plug-in, Extension, Add-ons
Chrome มีเครื่องมือที่น่าสนใจและใช้งานง่ายมากๆ อย่าง Read Later Fast
Chrome1

?
1
เข้าไปที่ Chrome Web store จากนั้นพิมพ์ Read Later Fast ในช่องค้นหา จากนั้นคลิกปุ่มเพื่อเลือกติดตั้ง
?
?

Chrome2

?
2
เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ต้องการที่จะจัดเก็บเว็บไซต์ในหน้าใด ให้คลิกขวาในพื้นที่ว่างของหน้าเว็บนั้น แล้วจะมีเครื่องหมายสีแดงขึ้นมา พร้อมคำว่า Read Later ให้คลิกที่คำสั่งนี้ ระบบจะทำการจัดเก็บหน้าให้ทันที
?
?

Chrome3

?
3
ในกรณีที่ต้องการเปิดอ่านในภายหลัง ให้เปิดหน้า Chrome ขึ้นมา จะมีไอคอน Read Later Fast ที่เป็นรูปกล่องสีดำขึ้นมาให้ คลิกที่ไอคอนดังกล่าว
?
?

Chrome4

?
4
เมื่อหน้าต่างของ Read Later Fast แสดงขึ้นมา ก็สามารถเลือกหน้าว็บที่เราเก็บเอาไว้อ่านทันที
?
?

Firefox ก็มีเครื่องมือที่ช่วยในการเก็บหน้าเว็บแบบง่ายๆ ด้วยเช่นกัน โดยใช้ Extension ที่เรียกว่า Screengrab ที่ค่อนข้างเอนกประสงค์ เพราะสามารถ Save หน้าเว็บให้เป็นไฟล์ในแบบ jpg และ png สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้มากมาย ที่สำคัญยังเซฟตามความยาวของหน้าเว็บได้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญยังปรับคุณภาพได้ตามความต้องการอีกด้วย ช่วยให้ไฟล์มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป

?
1
เปิดหน้า Web browser Firefox ขึ้นมา จากนั้นไปที่เมนู Tool ที่อยู่ด้านบน แล้วคลิกที่ Add-ons
?
?

?
2
เมื่อหน้าต่างของ Add-ons manager แสดงขึ้นมา ให้พิมพ์คำว่า Screengrab ลงในช่อง Search จากนั้นคลิกเพื่อทำการติดตั้ง
?
?

?
3
เมื่อติดตั้งแล้ว จะมีเครื่องมือของ Screengrab แสดงอยู่เมนูด้านบน เมื่อต้องการจะเซฟหน้าเว็บ ให้คลิกที่ปุ่มเลือก Save แล้วเลือกเป็น Complete Page- Frame ระบบจะทำการสแกนและจัดเก็บหน้าเว็บดังกล่าวให้ทันที
?
?

?
4
จากนั้นระบบจะให้เราเลือกที่จัดเก็บไฟล์ โดยผู้ใช้เป็นผู้กำหนดเอง รวมถึงเลือกได้ว่าจะเก็บเป็น jpg หรือ png
?
?

Tools
สุดท้ายหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบการติดตั้ง Add-ons หรือ Plug-in ให้ยุ่งยากวุ่นวายแล้ว อาจจะเลือกใช้โปรแกรมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันสำหรับการจับภาพหน้าจออย่าง Snagit ก็ได้เช่นกัน โดยโปรแกรมดังกล่าวนี้ค่อนข้างที่จะใช้งานง่ายและใช้ขั้นตอนเพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น ก็สามารถเซฟหน้าจอออกมาได้ทันที ที่สำคัญยังทำให้เป็นไฟล์ PDF, JPG หรือไฟล์แบบอื่นๆ ได้ตามที่ต้องการ รวมถึงไม่ว่าหน้าเพจจะยาวเพียงใด โปรแกรมก็จะเซฟให้ทั้งหมด จึงทำให้นำไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้สบายๆ

Snagit1

?
1
เปิดโปรแกรม Snagit ขึ้นมา จากนั้นเลือกไปที่ Scrolling window webpage ในหัวข้อ Other capture profiles
?
?

Snagit2

?
2
เปิดหน้าเว็บที่ต้องการจัดเก็บเอาไว้อ่านขึ้นมา แล้วคลิกที่ปุ่ม Capture สีแดงบนโปรแกรม Snagit
?
?

Snagit3

?
3
โปรแกรมจะเริ่มทำการจับภาพหน้าจอตั้งแต่ด้านบน ลงมาจนถึงด้านล่างสุด แล้ว Save
?
?

Snagit5

?
4
ภาพที่ได้นั้นจะออกมาเป็นไฟล์ภาพหรือเป็นไฟล์ PDF ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใช้เป็นไฟล์แบบใด ซึ่งก็สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ทันที
?
?

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูเว็บเพจแบบ Offline สำหรับการนำไปใช้ดูในภายหลัง ซึ่งก็เน้นวิธีการแบบง่ายๆ เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก สิ่งสำคัญก็คือ หากต้องการนำไปประยุกต์ใช้ ก็ต้องมีการจัดเก็บให้เหมาะสมกับการทำงาน สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ การเซฟแบบลิงก์เข้าไปให้อ่านได้หลายๆ หน้า แม้จะไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม แต่ต้องใช้โปรแกรมเข้ามาช่วยทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมานำเสนอในโอกาสต่อไป

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Tips & Tricks

Google Chrome ยังคงเป็นเบราว์เซอร์ยอดนิยมในใจใครหลายคนบน Windows 11 ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 65% ทั่วโลก แต่รู้หรือไม่ว่ามีทิปส์ลับๆ ที่ช่วยให้ Chrome ทำงานได้เร็วกว่าเดิม ลดการใช้แรมได้ถึง 40% และจัดการแท็บได้แบบมือโปร? วันนี้เรามี 20 ทิปส์เด็ดที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ Windows 11 ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือโปรแกรมเมอร์ที่ต้องการบูสต์ productivity ทิปส์เหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่การจัดระเบียบแท็บไปจนถึงฟีเจอร์ AI...

IT NEWS

หลังจาก Windows 10 ยุติการสนับสนุนไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้ Windows จำนวนมากยังคงลังเลกับการอัปเกรดไป Windows 11 ด้วยเหตุผลทั้งเรื่องสเปกขั้นต่ำที่สูงขึ้น ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว การเพิ่มฟีเจอร์ AI หลายอย่างที่ผู้ใช้ไม่ต้องการ และความรู้สึก “ถูกบังคับอัปเกรด” ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระแสความไม่พอใจเหล่านี้ทำให้ความสนใจต่อระบบปฏิบัติการทางเลือกเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ และหนึ่งในผู้ชนะที่เด่นที่สุดคือ Zorin OS ดิสโทร Linux ที่ออกแบบให้หน้าตาและประสบการณ์ใกล้เคียง...

IT NEWS

Google ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยแบบฉุกเฉินให้กับเบราว์เซอร์ Chrome หลังตรวจพบว่าช่องโหว่ใหม่ล่าสุดถูกใช้โจมตีจริงบนอินเทอร์เน็ต โดยช่องโหว่นี้มีรหัส CVE-2025-13223 และถือเป็น Zero-day ตัวที่ 7 ของปี 2025 แล้วที่บริษัทต้องเร่งแพตช์ให้ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมาย ช่องโหว่นี้เกิดจากอะไร? Google ระบุว่า ช่องโหว่ CVE-2025-13223 เป็นปัญหา Type Confusion ใน V8 JavaScript...

IT NEWS

ระบบปฏิบัติการ Windows ของ Microsoft กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังการประกาศแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า AgenticOS ซึ่งเป็นทิศทางที่ Microsoft บอกว่าจะผลักดันให้ Windows สามารถ “ลงมือทำแทนผู้ใช้” ได้มากขึ้น โดยใช้ AI เป็นแกนกลางในการออกคำสั่ง การจัดการงานต่างๆ และการตัดสินใจบางส่วนแทนผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม กระแสจากผู้ใช้งานจริงกลับสวนทางอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่ม power user...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก