TP-Link TL-MR105 เราเตอร์ซิม 4G LTE ใช้ง่ายแค่ใส่ซิมก็พร้อมใช้!
ในปัจจุบันแม้เราจะสามารถสมัครใช้บริการเน็ตบ้านความเร็วสูงได้ แต่คนที่อยู่หอพักหรือบ้านเช่าแล้วเจ้าของไม่อนุญาตให้ดัดแปลงอาคารก็ทำอะไรไม่ได้ TP-Link TL-MR105 เราเตอร์ 4G LTE ที่ออกแบบให้ใส่ซิมเน็ตก็เชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ตได้ทันทีจึงเป็นตัวเลือกของชาวบ้านเช่าหอพักแน่นอน ข้อดีของเราเตอร์ตัวนี้ ทั้งจ่ายสัญญาณให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับมันได้มากสุด 32 เครื่อง ทั้งผ่าน Wi-Fi หรือต่อสาย LAN ก็ได้ รองรับความเร็วสูงสุดถึง 300 Mbps
นอกจากใส่ซิมเน็ตแล้วเสียบปลั๊กก็พร้อมใช้งานแล้ว เราเตอร์นี้ก็ใช้ได้หลากหลายสถานการณ์นอกจากใช้ในบ้าน, หอพัก ก็ประยุกต์ไปติดกับรถขายอาหารเคลื่อนที่ (Food truck) หรือเครื่อง Kiosk ให้อุปกรณ์นั้นยังเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อยู่ตลอดเวลาหรือจะเอาไปใช้ตอนไปต่างจังหวัดก็ได้ ต่างประเทศก็รองรับซิมเน็ตกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นมาแล้วอินเทอร์เน็ตบ้านเกิดใช้งานไม่ได้แต่ต้องรีบทำงานให้เสร็จ เจ้า TL-MR105 ก็แปลงร่างเป็น 4G Backup Router จ่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากซิมเข้าเราเตอร์บ้านให้ทำงานต่อได้ไม่ขาดตอน
NBS Verdicts
เราเตอร์สารพัดประโยชน์อย่าง TP-Link TL-MR105 4G LTE นอกจากใช้งานง่ายเพียงแค่ใส่ซิมเน็ตและเสียบปลั๊กก็ใช้งานได้ทันที จ่ายสัญญานอินเทอร์เน็ตให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง จะติดใช้งานในบ้านเช่าหรือหอพักเพราะเจ้าของไม่อนุญาตให้ดัดแปลงตัวอาคารก็ได้ ร้านค้า SME จะพ่วงมันเอาไว้กับเครื่องชำระเงินหรือ Kiosk ด้วยสาย LAN ให้รับส่งข้อมูลไปกลับเซิร์ฟเวอร์และแบ็คอัพข้อมูลได้ตลอดเวลาก็ดี รวมถึงวิศวกรชีพจรลงเท้าต้องไปไซต์งานต่างจังหวัดหรือจะไปเที่ยวแล้วที่พักไม่มี Wi-Fi ให้ใช้ ถ้ามีเราเตอร์ตัวนี้ไว้ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป นอกจากนี้ยังต่อสาย LAN เข้าช่อง LAN/WAN ให้ใช้อินเทอร์เน็ต 4G LTE ในยามจำเป็นได้ถ้าระบบของผู้ให้บริการเกิดปัญหาใช้งานไม่ได้ต้องรอช่างดำเนินการเป็นเวลานาน
นอกจากหยิบติดกระเป๋าไปเที่ยวต่างจังหวัด 4G LTE Router ตัวนี้ก็พกใส่กระเป๋าไปใช้ต่างประเทศได้ ตั้งเป็นเราเตอร์ในห้องพักโรงแรมไว้อัพโหลดงานได้สะดวกมาก แถมรองรับซิมเน็ตกว่า 100 ประเทศทั่วโลก แค่เสียบปลั๊กตั้งไว้ในห้องพักในโรงแรมก็พร้อมทำงานทันทีไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนสะสมมากวนใจ
แม้ทางบริษัทจะเคลมไว้ว่า TP-Link 4G LTE Router สามารถกระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้ความเร็วรวมสูงสุด 300 Mbps มีความเร็วดาวน์โหลดสูงถึง 150 Mbps ก็จริง แต่เป็นในแง่ฮาร์ดแวร์ซึ่งแต่ความเร็วจากเสาสัญญาณของเครือข่ายผู้ให้บริการอาจทำได้ไม่เท่าที่ฮาร์ดแวร์รองรับก็ได้ นอกจากนี้สเปคของเราเตอร์ยังกระจายสัญญาณคลื่น 2.4GHz มาตรฐาน 802.11b/g/n ไม่ใช่ Wireless AC แบบเราเตอร์บ้านสำหรับพ่วงเข้ากับกล่องสัญญาณของทางผู้ให้บริการก็จริง แต่ในฐานะ 4G LTE Router พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ในบางโอกาสก็ไม่มีปัญหานัก
ข้อดีของ TP-Link TL-MR105
- ดีไซน์แบบ Plug & Play เพียงใส่ซิมเน็ต 4G LTE และต่อปลั๊กก็ใช้งานได้ทันที รองรับซิม 5G ในตัว
- มีพอร์ต LAN ให้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นได้อีก 2 ช่อง
- รองรับซิมเน็ตกว่า 100 ประเทศทั่วโลก พกไปใช้ทำงานต่างประเทศได้
- กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้ถึง 32 เครื่องพร้อมกัน
- สามารถพ่วงสาย LAN เข้ากับเราเตอร์ในบ้านเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G ในยามจำเป็นได้
- ได้ประกันดูแลหลังการขายนาน 3 ปี มีปัญหาสามารถส่งเคลมได้ทันที
- สามารถโหลดแอปฯ TP-Link Tether มาตั้งค่าเพิ่มเติมได้
ข้อสังเกตของ TP-Link TL-MR105
- ความเร็วของสัญญาณขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและแพ็คเกจอินเทอร์เน็ต
- กระจายสัญญาณเป็นคลื่น 2.4GHz มาตรฐาน 802.11b/g/n เท่านั้น
รีวิว TP-Link TL-MR105
Specification
คนที่ชีพจรลงเท้าไม่ค่อยได้อยู่บ้านหรืออยู่บ้านเช่าหอพักแล้วไม่สะดวกติดตั้งเน็ตบ้านไว้ใช้งาน ก็มี TP-Link TL-MR105 4G LTE Router ให้ผู้ใช้กลุ่มนี้เอาซิมเน็ตใส่เข้าเราเตอร์เสียบปลั๊กใช้งานได้ทันที จะซื้อไว้ใช้ในบ้านหรือเผื่อพกไปใช้งานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็ได้ หากกำลังมองหาเราเตอร์ตัวนี้อยู่สามารถสั่งซื้อผ่านหน้าร้านค้าอุปกรณ์ไอทีหรือเว็บไซต์ขายสินค้าก็ได้และยังมีหน้าเพจ Facebook ให้ติดต่อกรณีต้องการคำปรึกษาใดๆ ซึ่งสเปคมีรายละเอียดดังนี้
สเปคและข้อมูล | รายละเอียด |
Interface | LAN 10/100 Mbps*1 LAN/WAN 10/100 Mbps*1 Nano SIM Card Slot*1 Reset/WPS button |
Network Type | 4G: FDD-LTE: B1/B3/B5/B7/B8/B20/B28 (2100/1800/850/2600/900/800/750 MHz) TDD-LTE: B38/B40/B41 (2600/2300/2500 MHz) 3G: DC-HSPA+/HSPA/UMTS: B1/B5/B8 (2100/850/900 MHz) |
Antenna | เสาสัญญาณ 4G/3G ภายใน*2 เสาสัญญาณ Wi-Fi ภายใน*2 เสาสัญญาณ 4G/3G ภายนอก*2 |
Wi-Fi Standard | IEEE 802.11b/g/n |
Signal Rate | สูงสุด 300 Mbps |
Transmit Power | 2.4 GHz: <20dBm |
Wireless Security | 64/128-bit WEP, WPA/WPA2, WPA-PSK/WPA2-PSK IPv4 SPI Firewall IP and MAC Address Binding |
System Requirements | Internet Explorer 11 ขึ้นไป Firefox 12 ขึ้นไป Google Chrome 20 ขึ้นไป Safari 4.0 ขึ้นไป เบราเซอร์ที่รองรับการใช้งาน JavaScript |
Warranty | 3 ปี |
Price & Purchase | 1,399 บาท Shopee : https://bit.ly/3w6rJs2 Lazada : https://bit.ly/4aM9qYj |
Unboxing & Design
กล่องบรรจุเราเตอร์ TP-Link เป็นทรงสี่เหลี่ยมสีฟ้าอมเขียวตัดด้วยสีเหลืองสว่างตามส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะกรอบชื่อรุ่นผลิตภัณฑ์, ขอบบนกล่องหรือแม้แต่ด้านหลังกล่องไว้เน้นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้ผู้ใช้รับรู้ข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อและสกรีนสเปคกับจุดเด่นโดยสังเขปเอาไว้ และลงสเปคโดยละเอียดไว้ข้างกล่องทั้งสองฝั่งให้ลูกค้าทำความเข้าใจสเปคและความสามารถก่อนซื้อได้
ภายในกล่องนอกจากเราเตอร์สีขาวกับอะแดปเตอร์สีดำแล้ว จะมีสาย LAN CAT5 ความยาวราว 1 เมตร แถมมาให้พ่วงมันเข้ากับเราเตอร์บ้านใช้เป็น 4G Backup Router กรณีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้านเกิดปัญหารับส่งสัญญาณไม่ได้ก็ย้ายมาใช้เน็ต 4G LTE แก้ขัดหรือต่อตรงเข้าคอมพิวเตอร์ก็ใช้งานได้เลย ซึ่งสเปคของสาย LAN เองก็มีความเร็วระดับ 10/100 Mbps ไล่เลี่ยกับประสิทธิภาพรับส่งข้อมูลของตัวเราเตอร์อยู่แล้ว ถ้ายังไม่พอใจก็เปลี่ยนไปใช้สายสเปคสูงขึ้นอย่าง CAT 6E ขึ้นไปได้ตามสะดวก
ด้านหลังจะมีรูระบายความร้อนเจาะเอาไว้ทั่วตัวล้อมพอร์ตต่างๆ ไล่จากบนลงมาเป็นกรอบปิดเสาอากาศถ้าต้องการให้กระจายสัญญาณ Wi-Fi ดีขึ้นก็ซื้อเสาสัญญาณมาติดเพิ่มได้ ลงมาเป็นกรอบรวมช่องต่ออะแดปเตอร์จ่ายไฟ, พอร์ต LAN คู่ โดยช่อง LAN1/WAN ซ้ายจะเชื่อมต่อเราเตอร์ในบ้านใช้เป็นโหมด 4G Backup Router ได้ ปุ่มสีดำเป็น Reset/WPS กดเพื่อรีเซ็ตเครื่องแบบ Factory reset กลับไปเป็นค่าตั้งต้นจากโรงงานและจับคู่อุปกรณ์ TP-Link อื่นๆ ด้วยฟังก์ชั่น WPS ได้ กรณีต้องการพ่วง Wi-Fi Extender เพิ่มในอนาคต
ช่องใส่ซิมเน็ต 4G LTE จะซ่อนอยู่ด้านใต้เครื่องข้างขวาสติกเกอร์รายละเอียดสินค้า สกรีนข้างช่องใส่ซิมเป็นภาพวิธีใส่ให้ผู้ใช้หันใส่ได้ถูกด้าน ช่องจะมีขนาดพอใส่ Nano SIM เท่านั้น ส่วนสติกเกอร์ด้านข้างสังเกตว่านอกจาก Serial number แล้ว จะมีข้อมูลอื่นๆ อย่าง SSID, MAC Address, รวมไปถึงรหัสผ่านไว้ใช้ล็อคอินใช้งานในครั้งแรกได้ และถ้าจะตั้งค่าด้วยแอปฯ TP-Link Tether จะได้ใช้รหัสชุดนี้แน่นอน
Performance
ซิมเน็ตในการทดสอบครั้งนี้เป็นของ Gomo by AIS เป็นแพ็คเกจอินเทอร์เน็ต 4G LTE ความเร็วสูงสุด 300 Mbps เมื่อนำมาใส่เราเตอร์แล้วทดสอบด้วยเว็บ OpenSpeedTest แล้ว ระบบสั่งเชื่อมต่อเข้ากับเซิร์ฟเวอร์จตุจักร ซึ่งตัวเราเตอร์ทำความเร็วได้ Download 23.01 Mbps และ Upload 19.35 Mbps มีค่า Ping อยู่ 55.3ms ไม่ว่าจะต่อ LAN หรือ Wi-Fi ก็ได้ความเร็วราวนี้หรือบางครั้งอาจแตะ 30 Mbps บ้าง
ขณะที่เว็บยอดนิยมอย่าง Speedtest by Ookla จะทดสอบเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ 2 ฝั่ง คือ เซิร์ฟเวอร์จตุจักรซึ่งระบบจัดสรรให้อัตโนมัติจะได้ความเร็ว Download 24.91 Mbps และ Upload 18.61 Mbps ค่า Ping 23ms เปลี่ยนเป็นเซิร์ฟเวอร์นนทบุรีซึ่งอยู่ใกล้มากกว่าจะเร็วขึ้นเล็กน้อยเป็น Download 29.24 Mbps กับ Upload 19.27 Mbps ค่า Ping ได้ 29ms แม้จะดูน้อยไปบ้างแต่ก็สูงพอใช้ทำงานหรือดูหนังฟังเพลงได้แน่นอน
สำหรับความเร็วหลังจากทดสอบอาจจะไม่สูงนักอาจมีต้นเหตุจากแพ็คเกจของผู้ให้บริการหรือสภาพแวดล้อมของเครือข่ายในบริเวณที่ทดสอบก็เป็นได้ เมื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วก็พบว่าผู้ให้บริการก็ระบุเอาไว้เช่นว่าแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตนี้ทำความเร็วได้สูงสุด 300 Mbps อาจตีความได้ว่าทำความเร็วเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 10 Mbps ไปจน 300 Mbps ก็ได้ ซึ่งถ้าฮาร์ดแวร์รองรับความเร็วสูงแต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น คลื่นความเร็วอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการ, ปัจจัยด้านอาคารสถานที่ตั้งตัวเราเตอร์ก็อาจมีผลต่อความเร็วได้เช่นกัน
YouTube Full HD YouTube UHD
ถึงความเร็วตอนทดสอบด้วยเว็บวัดความเร็วดาวน์โหลดและอัปโหลดได้ระดับหนึ่ง แต่กรณีใช้งานจริงกลับทำงานได้ดีพอควร เวลาเปิดคลิป YouTube ควบคู่กับ Stats for nerds ขึ้นมาดูประกอบพบว่าเราเตอร์ TP-Link 4G LTE ตัวนี้ใช้ดูคลิปความละเอียด Full HD 1080p หรือ 4K 2160p ได้แน่นอน สังเกตจากแถบความเร็ว Connection Speed และ Buffer Health ของทั้งสองคลิปจะเห็นว่าเราเตอร์สามารถรับส่งข้อมูลได้ต่อเนื่องคลิปเล่นได้ไม่ขาดตอนเลย
ถ้าเปิดดู Livestream ความละเอียด 1080p ตัวเราเตอร์ก็ทำงานได้ต่อเนื่อง สังเกตใน Stats for nerds จะเห็นว่าจะความเร็วหรือ Buffer ของคลิปก็ยังขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะๆ ทำให้ไลฟ์ไม่ค้าง สามารถเล่นได้ต่อเนื่อง แล้วระบบ YouTube ก็จัดการ Optimized for Low Latency เสริมเข้ามาด้วย ดังนั้นถ้าจะเปิดดูคลิปบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าไหนก็เปิดดูได้สบายๆ
นอกจากดูหนังฟังเพลง ซึ่ง TP-Link 4G LTE Router ตัวนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว ก็ต้องมีคนซื้อไปติดแทนเน็ตบ้านใช้เล่นเกมออนไลน์แน่นอน จากการทดลองเล่นเกม Honkai: Star Rail ก็ยังรับส่งข้อมูลได้ค่อนข้างดี เล่นเกมได้แต่ค่า Latency ตรงมุมบนขวาของหน้าจอจะเพิ่มจากปกติ 100~110ms เป็น 150~160ms ถ้าเป็นเกม RPG ทั่วไปก็เล่นได้ไม่มีปัญหา อย่างมากก็ตอบสนองช้าลงเล็กน้อยแต่ไม่มีปัญหามาก กลับกันมันจะไม่เหมาะกับเกมประเภท FPS competitive แน่นอน
User Experience
TP-Link TL-MR105 เป็นเราเตอร์ 4G LTE ซึ่งดีกับผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม แต่อาจไม่ตอบโจทย์คนที่สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์เท่าที่ควร กลับกันถ้าเช่าบ้านหรือหอพักอาศัยอยู่แล้วเจ้าของไม่อนุญาตให้ต่อเติมตัวบ้านเพิ่มเติม แต่จะเอามือถือต่อคอมพิวเตอร์ใช้อินเทอร์เน็ตตลอดก็ไม่สะดวกก็เหมาะกับเราเตอร์ตัวนี้แน่นอนแค่ใส่ซิมเน็ตก็ใช้งานได้ทันที
ส่วนผู้ประกอบการ SME หรือคนทำงานก็เหมาะกับเราเตอร์ 4G LTE เช่นกัน อย่างร้านอาหารมีพื้นที่จำกัดก็ต่อสาย LAN กับเครื่องคิดเงินรับออเดอร์หรือจะกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ลูกค้าใช้งานรวมถึงติดรถขายอาหารเผื่อมีลูกค้าติดต่อเข้ามาได้ หรือใส่ตู้ Kiosk ไว้ให้ตู้รับส่งข้อมูลกับเซิร์ฟเวอร์ต้นทางเพื่อเก็บข้อมูลได้ นอกจากนี้วิศวกรที่ต้องเดินทางไปหน้าไซต์งานก็ตั้งเราเตอร์ตัวนี้ใช้งานได้ง่ายๆ หรือจะหยิบติดไปเผื่อใช้เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วที่พักอยู่ห่างไกลมีสัญญาณมือถือแต่ไม่มี Wi-Fi ก็ใส่ซิมเน็ตรายเดือนเข้าไปก็กระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้พร้อมกัน 32 เครื่อง ให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะมือถือ, แท็บเล็ต, สมาร์ททีวี ฯลฯ ก็ใช้งานได้
นอกจากใช้ในประเทศก็ยังหยิบติดไปใช้งานต่างประเทศได้ โดยเฉพาะคนทำงานคอนเทนต์แล้ว Wi-Fi ของโรงแรมรับส่งข้อมูลได้ช้า ก็ตั้ง 4G LTE Router ตัวนี้ไว้กระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ในห้องพักของทีมงานไว้ใช้ส่งงานสื่อสารกลับมาฝั่งไทยก็ได้ โดยสเปคแล้วมันรองรับซิมถึง 100 ประเทศทั่วโลก ถ้าซิมเน็ตของประเทศนั้นรองรับ ก็ทำมันเป็นจุดกระจายสัญญาณในห้องพักได้ทันที
สิ่งที่เราเตอร์ TP-Link ตัวนี้ทำได้แต่ไม่ถึงกับเก่งมาก คือ ใช้มันเล่นเกม โดยเฉพาะ FPS competitive ซึ่งเกมประเภทนี้ต้องการค่า Latency ยิ่งต่ำยิ่งดี ซึ่งตัวมันพอใช้เปิดเล่นแก้ขัดได้บ้างแต่ก็ต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน กลับกันถ้าเป็นเกมออนไลน์ RPG, Open World ซึ่งไม่ต้องการค่า Latency ต่ำเป็นพิเศษก็ยังเปิดเล่นได้พอๆ กับอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ในบ้าน แค่บางครั้งเวลาเปิดหน้าเมนูในเกมอาจหน่วงเล็กน้อยไม่เกิน 2 วินาที ซึ่งยังยอมรับได้
กลับกัน สิ่งน่ากังวลไม่ใช่เรื่องสเปคหรือประสิทธิภาพของ TP-Link TL-MR105 ที่กระจายสัญญาณ Wi-Fi 802.11b/g/n แต่ต้องไปใส่ใจเรื่องเครือข่ายผู้ให้บริการแทนว่าเจ้าไหนทำความเร็วได้ดีกว่าในย่านที่เราจะเอาเราเตอร์ตัวนี้ไปใช้ เพราะฮาร์ดแวร์ก็รองรับความเร็วได้สูงสุดถึง 300 Mbps อยู่แล้วและยังได้ความเร็วดาวน์โหลดถึง 150 Mbps แต่ถ้าไปติดคอขวดอยู่ตรงเครือข่ายผู้ให้บริการแทน ก็คงจะใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนัก
Conclusion
เราเตอร์ฉบับพกพาอย่าง TP-Link TL-MR105 นั้นเหมาะกับคนหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะคนอยู่บ้านเช่าหอพัก รวมไปถึงผู้ประกอบการ SME รายย่อยต่างๆ ที่กำลังมองหาเราเตอร์ใส่ซิมเน็ต 4G LTE ไว้กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้อุปกรณ์ต่างๆ หรือจะเอาไปใส่ในตู้ Kiosk ต่างๆ ให้มันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้ตลอดเวลาก็ได้ ไม่ต้องทำเรื่องเดินสายอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ให้ยุ่งยากเกินไป ยิ่งขึ้นชื่อว่า TP-Link ก็ไว้ใจได้ว่าคุณภาพและความทนทานแถมใช้งานได้ง่ายไม่ต้องตั้งค่าเลย ถ้าใครกำลังมองหา 4G LTE Router ดีๆ ไว้ใช้ ซื้อครั้งเดียวจบใช้ได้นานไม่ต้องเจอปัญหาจุกจิกกวนใจภายหลัง ก็ควรจะซื้อมันไว้ใช้มาก