Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Acer

รีวิว Acer Aspire Vero National Geographic Edition โน๊ตบุ๊ครักโลกรุ่นพิเศษ สเปกลื่นไหล i5-1155G7

Acer Aspire Vero National Geographic Edition โน๊ตบุ๊ครักโลกรุ่นพิเศษปี 2022 ดีไซน์สวยแนวคิดเด่น เน้นการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของโลกเราใช้พลาสติก PCR 30% ในตัวเครื่องเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงประมาณ 21% ผลักดันเป้าหมายการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยการแยกส่วนที่ง่าย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซ่อมแซม อัปเกรด และการรีไซเคิลอย่างรวดเร็วเพื่อโลกสีเขียว ได้ Windows 11 Home และโปรแกรม Office Home & Student 2021 ทำให้ใช้งาน Word / Excel / Power Point ไปใช้งานติดเครื่องไปฟรีๆ ด้วย

Acer Aspire Vero

Advertisement

ตัวเครื่องมีลวดลายพิเศษจาก National Geographic ซึ่งนับว่ามีเป็นการต่อยอดจาก Aspire Vero รุ่นปกติ โดยมีขนาดหน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS สเปกฮาร์ดแวร์เป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-1155G7 เทคโนโลยี 10 นาโนเมตร สถาปัตกรรม Tiger Lake พร้อมมี AI ในตัว การ์ดจอออนชิป Intel Iris Xe Graphics ประสิทธิภาพดีเยี่ยม ส่งผลให้รองรับงาน 2 มิติ และ 3 มิติเบื้องต้น หรือเล่นเกมเบาๆ ได้แรมขนาด 8GB DDR4 พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ส่วนบันเดิลเองก็มีความแตกต่าง พร้อมได้แผ่นรองเมาส์เฉพาะอย่าง Mousepad Vero อีกด้วย 

Acer Aspire Vero

เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาด เพราะมีความโดดเด่นในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ในราคาที่เหมาะสม อยู่ที่ 23,990 บาทเท่านั้น ได้ประกันเป็น 2 ปี ที่สำคัญมีบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงเมื่อส่งศูนย์ พร้อมมีเครื่องสำรองให้ใช้งานอีกด้วย ที่สำคัญโดยเมื่อเราซื้อ Acer Aspire Vero National Geographic Edition จะเป็นการสนับสนุนงานของ National Geographic Society ที่ไม่แสวงหาผลกำไรในระดับโลกเพื่อปกป้องโลกของเราผ่านการสำรวจ ค้นคว้าและการศึกษา หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ natgeo.com/info

VDO Review

NBS Verdict

ว่ากันตามตรงสำหรับ Acer Aspire Vero National Geographic Edition ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊กที่มีความแตกต่างกับแนวคิดเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นรุ่นพิเศษที่มีลวดลายเฉพาะ บ่งบอกความเป็นตัวตนว่าเรานั้นใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม แน่นอนว่าหาได้ยากในโน๊ตบุ๊คทั่วไปในตลาดปี 2022 พร้อมได้ขนาดหน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ความละเอียด Full HD ที่ดีและน่าซื้อมากๆ รุ่นหนึ่ง กับราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานทั่วไป หรือในบางกรณีจะใช้งานหนักหน่วงก็ทำได้ อาทิ นักเรียนนักศึกษาหรือพนักงานออฟฟิศรวมไปถึงนักเรียนไว้ใช้เรียนออนไลน์

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 71

สำหรับใครก็ตามที่มีงบประมาณสองหมื่นบาทต้นๆ ที่ได้ทั้งชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake รุ่นใหม่ที่แรงลื่นร้อนน้อย อย่าง i5-1155G7 ประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อนๆ ส่วนสเปกอื่นๆ ก็นับว่าเพียงพอทันที หรือจะอัปเกรดเป็นแรมขนาด 12GB ก็ได้ (แต่ต้องถอดแรม 4GB SO-DIM ออกก่อน) ที่สำคัญคือได้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ติดเครื่องมาพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังบันเดิลชุดโปรแกรมเอกสารอย่าง Office Home & Student 2021 มูลค่า 4,299 บาท ส่งผลให้คนที่ใช้งาน Word / Excel / Power Point อยู่แล้ว ก็ใช้งานทันทีไม่ต้องเสียเงินซื้อแยกมาเพิ่มเองแต่อย่างใด 

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 73

แน่นอนว่าด้วยสเปกที่มีในเครื่อง รองรับทั้งการทำงานต่างๆ บันเทิงดูหนังฟังเพลง รวมไปถึงการเล่นเกม House เล็กๆ น้อยๆ ส่วนเกมออนไลน์ต้องปรับกราฟิกต่ำสุดถึงจะพอเล่นได้ ซึ่งจริงๆ เน้นใช้งานทั่วๆ สนับสนุนการใช้งานได้ยาวๆ กับงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือนำไปตัดต่อวิดีโอก็รองรับได้แบบสบายๆ พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวกว่า 9 ชั่วโมงอย่างไรก็ตามในเรื่องข้อสังเกตก็คือหน้าจอพาเนล IPS ให้ขอบเขตสีที่น้อยลงกว่า IPS ปกติ ซึ่งถ้าใครใช้งานด้านสีสันที่จริงจังแม่นยำ อันนี้ก็ไม่แนะนำเท่าไรนักแต่ถ้าใช้ทั่วไปถือว่าดีมากๆ แล้ว ซึ่งถ้าเทียบกับราคาค่าตัวก็ถือว่ายอมรับได้

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 13

เอาเป็นว่าใครชอบโน้ตบุ๊คที่มีตัวเครื่องตามเทรนด์รักษ์โลก ที่นอกจากตัวเครื่องแล้ว ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% เพื่อการนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งสามารถนำส่วนหนึ่งของกล่องมาเปลี่ยนเป็นขาตั้งแล็ปท็อปที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบ ซึ่งใช้กระดาษรีไซเคิลสูงสุด 85% ใช้เพื่อเป็นกล่องบรรจุ  และพลาสติกรีไซเคิล 100% ใช้ในการผลิตกระเป๋าแล็ปท็อปและแผ่นรองคีย์บอร์ด พร้อมด้วยปลอกกระดาษจากเดิมๆ ที่เป็นถุงพลาสติกที่ไว้ใส่อแดปเตอร์ชาร์จ ที่สำคัญยังได้แผ่นรองเมาส์ Acer Vero สุดพิเศษอีกด้วย และแน่นอนว่าใครเป็นแฟน National Geographic มีแววต้องตามเก็บรุ่นนี้

จุดเด่น Acer Aspire Vero National Geographic Edition

  • ตัวเครื่องและบรรจุภณฑ์ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลเพื่อลดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อโลกยิ่งขึ้น 
  • เป็นรุ่นพิเศษที่ลวดลายสวยงาม ซึ่งทุกครั้งซื้อรุ่นนี้เราจะมีส่วนร่วมกับ National Geographic
  • เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ประสิทธิภาพดี จากการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 รุ่นล่าสุด
  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ราคาไม่แพง ที่เบาเพียง 1.8 กิโลกรัม พกพาบางเบา 
  • มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Aspire มีความเรียบง่ายดูดีเกินราคา 
  • มีฟีเจอร์ยางรองด้านหลังจากการยกตัวเครื่องให้สูงยิ่งขึ้น ช่วยเรื่องมุมมองและการพิมพ์ 
  • สเปกโดยรวมให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลรวดเร็ว เพียงต่อต่อการใช้งาน
  • แบตเตอรี่อยู่ได้นานสามารถใช้งานติดต่อกันได้สูงสุดประมาณ 9 ชั่วโมง
  • เมื่อใช้งานหนักๆ ตัวเครื่องร้อนน้อย ไม่รบกวนการทำงาน
  • ประกัน 2 ปี ส่งเคลมศูนย์ซ่อมไวสุดใน 3 ชั่วโมง
  • มีราคาเพียง 23,990 บาท เทียบกับสเปกและความเป็นรุ่นพิเศษถือว่าน่าซื้อ
  • มีบรรจุภัณฑ์ที่ความโดดเด่น พร้อมกับมีบันเดิลแผ่นรองเมาส์ Vero มาด้วย
  • ฟรีโปรแกรม Office Home & Student 2021 มูลค่า 4,299 บาท
  • ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home จากโรงงาน เปิดแล้วใช้ได้เลย

ข้อสังเกต Acer Aspire Vero National Geographic Edition

  • หน้าจอพาเนล IPS เกรดกลางๆ ขอบเขตสีอยู่ในระดับใช้งานทั่วไป
  • ยังติดตั้งพอร์ต USB 2.0 Type-A อยู่ 1 พอร์ต
  • แม้มี USB 3.2 Type-C  แต่ไม่รองรับการชาร์จไฟ 
  • แนะนำให้เพิ่มแรมอีก 8GB เพื่อการใช้งานที่ดีกว่า 

Specification

Acer Aspire Vero National Geographic Edition เราได้เครื่องจริงสเปกขายจริง ติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 อย่าง Core i5-1155G7 ตัวประหยัดพลังงานรุ่นพิเศษ ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด มีความเร็วที่ 2.50 – 4.50 GHz สถาปัตยกรรม Tiger Lake เทคโนโลยี 11 นาโนเมตร SuperFin เพิ่มเติมด้วย AI มาช่วยการประมวลผลให้ดียิ่งขึ้น แน่นอนว่ารองรับทุกๆ การทำงานได้ดีขึ้น ทั้งดูหนังฟังเพลง ใช้งานเอกสารอย่าง Word / Excel / Power Point ใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือทำงานโปรแกรม Photoshop / Premiere Pro ก็ทำได้ดีขึ้น เรียกได้ว่าแรงเท่ากันทั้งต่อและถอดอแดปเตอร์

Acer Aspire Vero National Geographic Edition SPEC copy

การ์ดจอเป็นออนชิป Intel Iris Xe Graphics ประสิทธิภาพดีสุดในการ์ดจอออนบอร์ดด้วยกัน ได้แรมมาตรฐานขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz (4GB แบบออนบอร์ด + 4GB SO-DIM) พร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลมาตรฐาน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ความจุ 512GB ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ทั้งงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือแม้กระทั่งทำงานหนักหน่อย อย่างตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ มาพร้อมกับ Windows 11 Home ลิขสิทธิ์ในเครื่องทันที อีกทั้งได้โปรแกรม Office Home & Student 2021ติดเครื่องใช้งานได้ยาวๆ

ติดตั้งหน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่เพียงพอต่อการใช้งาน พาเนลเป็น IPS เกรดกลางๆ ที่ให้การใช้งานพื้นฐานได้ดี แต่ก็เป็นรองเรื่องของสีสันและมุมมองถ้าเทียบกับ IPS โดยมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.2 Type-C, USB 3.2 Type-A, HDMI, LAN สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.1 ใหม่ล่าสุด ประกันเป็น 2 ปี พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมง ตามมาตรฐานของ Acer กับช่วงราคาโน๊ตบุ๊คนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าน่าสนใจ

Acer Aspire Vero National Geographic Edition ราคา 23,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : Intel Core i5-1155G7 (4C/8T, 2.50 – 4.50GHz)
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics
  • RAM : 8GB DDR4 3200 MHz 
  • DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD
  • STORAGE : 512GB SSD PCIe M.2
  • OS : Windows 11 Home
  • Software : Office Home & Student 2021
  • Warranty : 2 Years

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 93

ความน่าสนใจของ Acer Aspire Vero National Geographic Edition นอกจากตัวเครื่องที่มีความพิเศษทั้งเรื่องวัสดุรีไซเคิลและลวดลายที่แตกต่างจากรุ่นปกติแล้ว ในส่วนของแพ็คเกจจิ้ง หรือบรรจุภัณฑ์นั้นก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะเป็นรุ่น National Geographic Edition ที่เราสามารถนำกล่องใบนี้มาเป็นกล่องเก็บของเพิ่มเติมได้ ก็คือการนำกลับมาใช้ซ้ำ รวมไปถึงภายในยังมีแผ่นกระดาษที่เราสามารถนำมาใช้เป็นที่รองเครื่องนี้ได้อีกด้วย พร้อมกับรายละเอียดต่างๆ ของกล่องที่มีความการใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง รวมไปถึงรุ่นนี้ยังได้บันเดิลส่วนของแผ่นรองเมาส์ Acer Aspire Vero ด้วย  

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 88

Hardware / Design

Acer Aspire Vero National Geographic Edition ในเรื่องของการดีไซน์มีความทันสมัย เชื่อได้ว่าถูกใจแฟนๆ ของ National Geographic แน่นอน พร้อมสีสันสวยงามอย่าง Vocano Grey ตามยุคสมัยของโน๊ตบุ๊คปี 2022 ที่เน้นมิติตัวเครื่องที่เล็กกระชับ ด้วยขอบหน้าจอที่บางลง พร้อมตัวเครื่องมีความบางที่ 17.78 มิลลิเมตร ที่ความเบาเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น อีกทั้งบรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์และกล่องที่รีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ อัปเกรด ซ่อมแซม และรีไซเคิลได้ง่าย

โดยใช้วัสดุประกอบหลักเป็นพลาสติกรีไซเคิลทั้งตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง โดยพลาสติก PCR (Post Consumer Recycled) ผลิตจากเรซินผ่านการใช้งาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น และช่วยลดขยะฝังกลบ ซึ่งส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วเรียบง่ายไม่หวือวา ให้ความเรียบง่าย อีกทั้งรุ่นนี้ยังได้ลวดลายพิเศษ National Geographic ทำให้มีความต่างจาก Acer Aspire Vero รุ่นปกติชัดเจนในหลายๆ ส่วนทั้งฝาหลังหรือดีไซน์ภายใน 

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 23

ฝาหลังมาพร้อมกับหลากหลายของสีสันมีความเป็นสวยงาม ตามสไตล์ของพลาสติกรีไซเคิลด้วยสีที่เป็นโทนเทาสว่างตลอดทั้งตัวเครื่อง และมีจุดสีต่างๆ กระจายอยู่ทั่ว แตกต่างอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยมีชื่อสีอย่างเป็นทางการก็คือ Volcanic Gray ดูมีความพรีเมียมดูดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในราคาใกล้เคียงกัน พร้อมโลโก้ Acer ที่ฝาหลังเป็นแบบนูนต่ำ ที่เราจะเห็นฝาหลังมีลักษณะเป็นผืนน้ำแข็ง พร้อมโลโก้ National Geographic ที่ขอบตรงกลางด้านล่าง โดยรยอมรับเลยว่ามีความสวยงามลงตัว

สำหรับพื้นผิวทั้งหมดของตัวเครื่องนี้เราจะเห็นเป็นเม็ดสีเหลืองอ่อนและสีเทาที่เป็นกลางของ PCR สร้างพื้นผิวที่ไม่เงาและปุ่ม ‘R ’และ ‘E ’ กลับด้านช่วยสื่อไปยังข้อความหลัก ‘Reduce, Reuse, Recycle’ (ลดการใช้ ใช้ซ้ำ รีไซเคิล) Aspire Vero ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่มีมาให้เพื่อสนับสนุนผู้ใช้ที่รักสิ่งแวดล้อมให้ใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ เช่น การประหยัดพลังงานเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนของที่วางข้อมือด้านขวาเราจะเห็นเป็นโลโก้หน้าต่างสีเหลือง National Geographic ขนาดใหญ่

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 19

แน่นอนว่าส่วนของ Aspire Vero มุมขอบตัวเครื่องทางขวา พร้อมกันนั้นยังมีการทำโลโก้นู้นต่ำของ Intel Core ที่มุมซ้ายของที่ Palmrest ของตัวเครื่อง สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม ส่วนด้านในตัวเครื่องจะเป็นวัสดุพลาสติกที่จะเป็นสีเทาสีเดียวเท่านั้น ซึ่งที่มุมก็จะเป็นการย้ำถึงวัสดุ Post Consumer Recycled ที่ใช้งานกว่า 30% ส่วนมุมบนซ้ายของคีย์บอร์ดจะเป็นโลโก้ National Geographic อีกหนึ่งจุด

ไม่เพียงแค่นั้นยังโดดเด่นด้วย Elevated Design ซึ่งมียางรองด้านหลังช่วยยกตัวให้สูงขึ้น อาศัยยางรองด้านหลังเหมือน Acer Aspire / Acer Swift Series ที่ช่วยทำมุมเอียง ช่วยในการพิมพ์ มุมมองของหน้าจอ การระบายความร้อน และเสียงที่ดีขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คที่รักโลกจากทาง Acer ก็ว่าได้ ตามเทรนด์ของ Climate Change เลยทีเดียว โดยตัวยางรองด้านหลังหรือด้านล่างซึ่งรวมกันเป็น 6 จุด มีการทำสีสันให้ดูเข้ากับเม็ดพลาสติกสีเหลือง 

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 66

Acer Aspire Vero National Geographic Edition เป็น Acer Notebook 2022 ซึ่งมีความโดดเด่นจากการที่เลือกใช้วัสดุรีไซเคิลมาผลิตตัวหุ้มทั้งหมด โดยผลิตจากพลาสติก PCR หรือเม็ดพลาสติกที่แปรรูปมาจากวัสดุพลาสติกที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว นอกจาตัวหุ้มแล้ว คีย์บอร์ดยังมีส่วนผสมของ PCR ด้วย ตัว Aspire Vero ถูกออกแบบมาให้แกะง่าย เพื่อการซ่อมแซมและใช้งานได้ยาวนานขึ้น 

โดยตัวเครื่องสามารถทำการอัพเกรดได้ง่าย ซึ่งสกรูมาตรฐานทำให้แยกส่วนได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับการซ่อมแซม และรีไซเคิลอย่างรวดเร็ว ไม่มีการพ่นสีบนพื้นผิวของตัวเครื่องช่วยลดผลกระทบด้านลบจาก VOC  ด้านข้างทั้งสองด้านฝั่งผู้ใช้จะเป็นในส่วนของลำโพง ด้านบนจะเป็นรูช่องดูดระบายความร้อน ซึ่งรุ่นนี้มีพัดลมด้วยกันหนึ่งตัว ส่วนช่องเป่าความร้อนออกจะอยู่บานพับของตัวเครื่อง 

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 72

สำหรับจุดเด่นของ Acer Aspire Vero National Geographic Edition รุ่นนี้ คือ ได้รับมาตรฐาน EPEAT-certified Silver ที่สื่อถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตัวอุปกรณ์ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลถึง 30% ส่วน Packaging สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% และปุ่ม “R” และ “E” บนคีย์บอร์ดยังมีการเขียนกลับข้างกันอีกด้วยเพื่อเป็นเอกลักษณ์ โดยสื่อถึง Recycle และ Reuse เชื่อได้ว่าน่าจะตอบสนองของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี

Keyboard / Touchpad

ตัวเครื่อง Acer Aspire Vero National Geographic Edition มาพร้อมการติดตั้งคีย์บอร์ด Full Size แบบตามมาตราฐานโน๊ตบุ๊คทั่วไปให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญด้วยไฟ LED สีขาวสวยงาม ส่วนการสัมผัสแป้นพิมพ์ทำได้ค่อนข้างค่อนข้างนุ่มนวล งานประกอบดีเลยทีเดียว เหมาะแก่การพิมพ์งานสามารถใช้งานได้อย่างราบลื่นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และสำหรับปุ่ม Power ของตัวเครื่องจะติดตั้งอยู่มุมขวาบนของชุคคีย์บอร์ด อีกทั้งกับแนวคิด Reduce, Reuse, Recycle ด้วยการดีไซน์ ปุ่ม ‘R’ และ ‘E’ สีเหลือง กลับด้านที่เน้นความสนใจไปยังข้อความหลักของการรีไซเคิล ดูแล้วสวยงามลงตัวเป็นอย่างดี

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 31

ในส่วนของทัชแพดนั้นออกแบบมาดูเรียบๆ เหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไปปกติ ซึ่งเป็นแบบซ่อนปุ้มคลิกซ้ายคลิกขวาเป็นชิ้นเดียวกัน ไม่ได้แยกปุ่มออกชัดเจน การสัมผัสและการคลิกถือว่าทำได้ดี ไม่มีผิดเพี้ยน มีความแม่นยำกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นก่อนๆ และมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าปกติ รองรับ Gesture Control ใช้งานกับ Windows 11 Home ได้ดี ลองดูโดยรวมแล้วให้การใช้งานและความรู้สึกก็ถือว่าทำได้ดีในระดับโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไป พร้อมกันนั้นยังมี Fingerprint สแกนลายนิ้วเพื่อเข้าใช้งานตัวเครื่องอีกด้วย โดยที่พิเศกว่ารุ่นปกติอีก 1 จุดก็คือตรง Spacebar จะมีคำว่า “For Planet Earth” ติดตั้งเอาไว้ด้วย

Screen / Speaker

ตัวเครื่อวติดตั้งหน้าจอขนาด 15.6″ แบบขอบจอบางเฉียบ มีพื้นที่ชิ้นส่วนหน้าจอกว่า 81.61% เป็นจอแสดงผล บนความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเเซล ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับทุกๆ การใช้งาน ทั้งการใช้งานทั่วไป งานเอกสาร หรือความบันเทิง ติดตั้งพาเนล IPS ซึ่งให้สีสันและมุมกว้างกว่าตามมาตรฐานโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป แสดงผลในการทำงานได้ดีในระดับหนึ่งอยู่ ซึ่งหน้าจอนี้เพียงพอสำหรับใช้งานทั่วไปโดยมี BluelightShield ลดแสงสีฟ้า ทำให้สบายตาเวลาใช้งานไปนานๆ

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 24

สนับสนุนกับงานทั่วไปเป็นอย่างดีและพอเพียงกับการใช้งานต่างๆ อาทิ อย่างเล่นอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน ส่วนขอบบนหน้าจอจะมีกล้อง Webcam ความคมชัดระดับ HD 720p ติดตั้งมาให้ด้วย พร้อมกับไมค์สองตัวแบบตัดเสียงเพื่อใช้งาน Video Call ซึ่งกล้องหน้านี้ก็สามารถตอบสนองได้ดีทีเดียว รวมไปถึงยังมีฟีเจอร์ Acer PurifiedVoice ด้วยระบบลดเสียงรบกวนจาก AI ช่วยเรื่องของการประชุมออนไลน์หรือเรียนออนไลน์ได้เป็นอย่างดี 

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยจากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 62

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 65% / AdobeRGB ที่ 49% / DCI-P3 ที่ 48% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับมาตรฐานในช่วงราคานี้ ไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่จริงจังมากก็นับว่าเพียงพอกับการใช้งานแน่นอน ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 220 nit ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เอาไปทำงานข้างนอกได้บ้าง

s4 1

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมซ้ายบนหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับแถวกลางขวาล่างลดลงไปที่ระดับ 14% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ส่วน Delta-E ซึ่งเป็นค่าคลาดสีอยู่ที่ 2.00 ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนน ก็อยู่ในระดับขอบ IPS เกรดกลางๆ ที่ดูดีกว่ารุ่นอื่นๆ

ลำโพงที่ติดตั้งมาให้จะอยู่ที่ใต้ตัวเครื่องด้านหน้าบริเวณมุมฝั่งซ้ายและขวาด้านล่างของตัวเครื่อง แบบ 2W x 2 ตัว ที่ให้เสียงเป็นแบบ Stereo 2.0 ซึ่งด้วยเทคโนโลยี เสียงที่ชัดเจนด้วย Acer TrueHarmony ที่ให้เสียงเบสนุ่มลึกกว่าและระดับเสียงที่มากขึ้นผ่านดีไซน์ลำโพงล้ำสมัย โดยคุณภาพเสียงที่ได้นั้นถือว่าธรรมดาทั่วไป มีเสียงที่ดังฟังชัด แยกเสียงมิติซ้ายขวาชัดเจน จะนำไปใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ก็สามารถทำได้ดีเลยเดียว อย่างไรก็ตามแนะนำว่าต้องการเสียงดีกว่านี้จะต่อหูฟังหรือลำโพงเพิ่มก็ได้

Connector / Thin And Weight

Acer Aspire Vero National Geographic Edition รุ่นนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คมัลติมีเดียขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.2 Type-A, 1 x USB 3.2 Type-C, 1 x USB 2.0, HDMI, Lan RJ45 และรูหูฟังกับไมค์แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน  การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่กว่ารุ่นก่อน 3 เท่า ตำแหน่งการวางช่องเสาอากาศอย่างมีระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการพกพาและการทำงานแบบไร้สาย

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 75

ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่ารุ่นก่อนๆ ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ 65W ไซส์เล็กเข้าไปด้วย (แต่ยังน่าเสียดายไม่ใช่ USB-C) ก็จะมีหนักอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลกรัม ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองก็มีขนาดที่เล็กและเบามากๆ โดยรวมแล้วก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่ลำบากในการพกพาเลย เพื่อนๆ น่าจะชอบกัน หยิบใส่กระเป๋าไปใช้งานข้างนอกสบายๆ

Inside / Upgrade

การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Aspire Vero National Geographic Edition นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้างงานประกอบการจัดวางตำแหน่งดูแล้วเรียบง่าย  โดยอาศัยพัดลม 2 ตัว ดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องจากนั้นถ่ายเทความร้อนออกไปให้โดนฮีทไปป์พร้อมฟินทองแดง 2 เส้นทางด้านหลังของตัวเครื่อง ที่ซ่อนช่องระบายความร้อนไว้อย่างเรียบเนียน

Acer Aspire Vero National Geographic NBS

ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 1 แถว โดยติดตั้งขนาด 8GB x 2 (8GB แบบฝังบอร์ด และอีก 8GB SO-DIM เป็นแรมปกติ) ซึ่งรวมแล้วเป็น 16GB ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe ติดมาแล้วที่ความจุ 512GB มีการติดตั้งใกล้ๆ กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ โดยรวมแล้วการแกะตัวเครื่อง Acer Aspire Vero เพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว กับการที่สกรูน็อตมาตรฐานทำให้แยกส่วนได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับการซ่อมแซม อัปเกรดและรีไซเคิลอย่างรวดเร็ว

Performance / Software

Acer Aspire Vero National Geographic Edition เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดยเลือกใช้ชิป Intel Core i5-1155G7 ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 2.50 – 4.50 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 12W – 28W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i7 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรม Tiger Lake การผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin

ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 8GB แบบฝังบอร์ด โดยรองรับเป็นแรม 1 แถวปกติ SO-DIM ซึ่งเราใช้งานเดิมๆ เป็น 4GB + 4GB หรือจะอัปเกรดเป็น 4GB + 8GB ก็ได้ภายหลัง เป็นมาตรฐาน DDR4 Bus 3200 MHz พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home แบบไร้กังวล

c1 1.   c2 1

การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับที่ก้าวกระโดดกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส  ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงๆ จะแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับระบบระบายความร้อนด้วย เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที 

g1 1.   g2 1

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH R15 / R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 อย่าง Core i5-1155G7 คะแนนก็อยู่ในระดับไม่สูงมาก แต่ก็น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลทั่วไปได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง ที่เน้นการทำงานพื้นฐานเป็นหลัก อย่างงานเอกสาร ดูหนังฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต 

cine15.   cine20 1

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe Gen 3 ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2432 MB/s และเขียนที่ 1822 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ระดับกลางค่อนบนสมราคา

ssd 2

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4890 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ  จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 อย่าง Core i5-1155G7 ที่มีการ์ดจอออนบอร์ดตัวแรงอย่าง Iris Xe Graphics ก็ทำงานทั่วไปได้ลื่นไหล จากการที่มี AI เทคโนโลยี 10 นาโนเมตร SuperFin ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในช่วงราคาใกล้เคียงกันหลายๆ รุ่นเลยทีเดียว

pc10 1

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 1409 เน้นเรื่องในส่วนของฟีเจอร์ DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน จากคะแนนก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดีของการ์ดจอออนบอร์ดแล้ว 

3d 1

ทดสอบเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 47 แต่ฉากตะลุมบอนกันก็เฟรมเรทลดลงไปที่ 37 (อยากลื่นกว่านี้ก็ปรับกลางๆ ได้) และในส่วนของเกม PUBG ที่ปรับ Low ทดสอบแล้วจะมีเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 30 ซึ่งต่ำสุดอยู่ที่ 18 เฟรมเรทก็ทำออกมาได้ลื่นไหลกว่าที่คาดไว้  ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล

game test 1

เปลี่ยนเป็นโหมด Eco+ ควบคุมประสิทธิภาพด้านพลังงานของเราด้วยซอฟต์แวร์ VeroSense และลดการปล่อยคาร์บอนลง โดยมีโหมดการปรับแต่งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Eco+ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากเป็นพิเศษเมื่อปิดใช้งานฟังก์ชันที่สำคัญ / Eco เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมลดประสิทธิภาพของระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ / Balance ปรับสมดุลการประหยัดพลังงานและประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติ / Performance ปรับแต่งเพื่อประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีที่สุด

vero

Mode : Eco, Eco+ / Balance / Performance
Volume (dBA) ” 37~40 / 43 / 46
Fan speed (rpm) : 3800~4200 / 4800 / 5300
Performance (W) : 28~25 / 32~28 / 35~32

care

นอกจากนี้ Acer Aspire Vero National Geographic Edition เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Care Center (เปิดเครื่องมาพร้อมใช้งานทันที) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 4590 mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 9:45 ชั่วโมงแบบต่อเนื่อง ในการใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube ด้วยการปรับเป็น Power Saver Mode พร้อมปรับความสว่างเหลือ 10% และความดังของลำโพงที่ 10% ซึ่งคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ซึ่งจากผลการทดสอบนับได้ว่าทำได้ดีมากๆ เพราะไม่ใช่แค่แรง แต่ประหยัดพลังงานด้วย 

batt 1

อุณหภูมิภายในของชิปประมวลผล Intel Core i5-1155G7 ล่าสุดได้ทดสอบผ่านทางโปรแกรม Core Temp โดยมีความร้อนสูงสุดคือ 93 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการทำงานทั่วไป งานประมวลผล และเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนของเครื่องนี้มีอุณหภูมิที่เย็น ซึ่งส่งผลให้ตัวเครื่องไม่เสียหายหรือเล่นเกมใช้งานมีปัญหาหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็น  Notebook รุ่นใหม่ที่จัดการความร้อนได้ดีเยี่ยมทีเดียว ซึ่งถ้าใช้งานทั่วไปจะอยู่ที่ 35 – 45 องศาเซลเซียมเท่านั้น

temp

Conclusion / Award

การมาของ Acer Aspire Vero National Geographic Edition ก็ถือว่าน่าสนใจมากๆ ในแง่ของความพิเศษด้วยความเป็น National Geographic พร้อมประสิทธิภาพความแรงในการทำงาน ด้วยการเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-1155G7 ได้หน่วยความจำแรมก็เป็นมาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz ขนาด 8GB ที่พร้อมใช้งานทันที การเข้าถึงข้อมูลได้ไวด้วยที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ความเร็วสูงที่ความจุ 512GB ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ Full HD IPS ที่เน้นใช้งานพื้นฐานให้ความลื่นไหลในราคาที่ย่อมเยาว์ 

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 76

ที่สำคัญคือได้วัสดุเป็นได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของโลกเราใช้พลาสติก PCR 30% ในตัวเครื่องเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงประมาณ 21% 2 ผลักดันเป้าหมายการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยการแยกส่วนที่ง่าย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซ่อมแซม อัปเกรด และการรีไซเคิลอย่างรวดเร็วเพื่อโลกสีเขียว โดดเด่นด้วยลวดลาย National Geographic ตามจุดต่างๆ โดยมาพร้อมกับบางเบา ที่แม้ไม่มีการ์ดจอแยกก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ ในส่วนของการใช้งานพื้นฐานเป็นหลัก อย่างโปรแกรมเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง

Acer Aspire Vero National Geographic NBS 90

สำหรับแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 9:45 ชั่วโมง ที่นับว่าทำได้ดีมาก เพียงพอต่อการใช้งานนอกสถานที่สบายๆ และที่ชอบมากๆ คือ ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เหมาะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home และ Office Home & Student 2021 พร้อมใช้งานยาวๆ ได้ทันที แน่นอนว่ามาพร้อมการรับประกันเป็นประกัน 2 ปีส่งศูนย์บริการ และมีบริการส่งเคลมศูนย์ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย ส่วนอนาคตก็อาจจะมีสเปกที่ได้เป็นการ์ดจอแยกเพิ่มเข้ามา เป็นตัวเลือกก็มีความเป็นไปได้ แต่เอาจริงๆ เน้นใช้งานทั่วไป การ์ดจออนบอร์ด Iris Xe Graphics ก็ตอบสนองได้แล้ว 

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Aspire Vero National Geographic Edition ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

จุดเด่นในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ได้ทั้งความสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนกันโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ของทาง Acer หรือแบรนด์อื่นๆ โดยเป็นการเลือกใช้วัสดุประกอบหลักเป็นพลาสติกรีไซเคิลทั้งตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง โดยพลาสติก PCR (Post Consumer Recycled) ผลิตจากเรซินผ่านการใช้งาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น และช่วยลดขยะฝังกลบ ซึ่งส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วให้ความเรียบง่าย พร้อมกันนั้นในรุ่นนี้ยังได้ลวดลายพิเศษ National Geographic ตามจุดต่างๆ รวมถึงบรรจุภัณธ์ ซึ่งเชื่อว่าแฟนๆ ของ National Geographic ต้องชื่นชอบแน่นอน 

NBS award 7 Design

Best Value

Acer Aspire Vero National Geographic Edition ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-1155G7 พร้อมมีรุ่นการ์ดจอออนชิป Intel Iris Xe Graphics ประสิทธิภาพดี ส่งผลให้รองรับงาน 2 มิติ และ 3 มิติเบื้องต้น หรือเล่นเกมเบาๆ ได้แรมขนาด 8GB พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ได้ Windows 11 Home ที่เราสามารถเปิดใช้งานได้ทันที ที่สำคัญยังได้โปรแกรม Office Home & Student 2021 ซึ่งประกอบไปด้วย Word / Excel / Power Point ติดเครื่องใช้งานยาวๆ สนนราคาที่ 23,990 บาท เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นความคุ้มค่าด้านสเปก และด้วยราคานี้เราได้โน้ตบุ๊ครุ่นพิเศษอีกด้วย

award new value

Best Mobility

ส่วนของความสามารถในการพกพาอยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ทั่วไปชัดเจน ทั้งในตัวเครื่องที่มิติเล็กกระชับและน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม ซึ่งบางสุดเพียง 17.9 มิลลิเมตร ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ อีกทั้งแบตสามารถใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 10 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เราไม่แพง แต่ใช้แบตเตอรี่ได้ยาวนานเทียบเท่ารุ่นราคาสูงๆ ทีเดียว 

NBS award 4 Mobility

 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

เล่นเกมด้วย Intel Core Ultra 5 245K กับ 7 เกมยอดนิยมบนการ์ดจอบนซีพียู Intel ไหวมั้ย ลื่นรึเปล่า? Intel Core Ultra 5 245K เป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งปล่อยลงสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา นอกจากเรื่องความแรงและประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งด้านการประมวลผล หรือปัจจุบันก็มีเรื่องของ...

INTEL

โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series ใหม่ล่าสุด ส่งมอบประสิทธิภาพการเล่นเกมและการประมวลผลอันเหนือชั้นสำหรับเดสก์ท็อปพีซี พร้อมประหยัดพลังงานมากกว่าที่เคย กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 11 ตุลาคม 2567 –  ประเด็นสำคัญ: อินเทล ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series...

รีวิว Asus

ASUS ZenBook S 14 UX5406SA พร้อม Intel Core Ultra Series 2 สุดทรงพลัง แบตฯ ทนถึงใจ 18 ชม. ได้สบาย! ในงาน IFA Berlin เมื่อไม่นานนี้ Intel ก็เปิดตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Intel...

Buyer's Guide

แม้ตัวเครื่องจะเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา ออกแบบมาเน้นให้น้ำหนักเบาพกพาง่ายแบตเตอรี่ทนทาน แต่ถ้าเครื่องนั้นใช้ซีพียู AMD Ryzen 8000 Series นอกจากทำงานออฟฟิศได้ลื่นไหลและมี NPU เข้ามาช่วยเร่งการประมวลผล AI ในโปรแกรมต่างๆ ยังช่วยปรับแต่ง Workloads ให้ดีขึ้นด้วย การปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมเป็น AMD Zen 4 ซึ่งนอกจากพลังประมวลผลต่อคอร์จะดีขึ้น เทียบกับ Zen 3 ใน...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก