ยังคงต่อกันกับบทความแนะนำสิ่งที่น่าสนใจในงาน Computex 2019 ที่ประเทศไต้หวันนะครับ โดยในคราวนี้จะเป็นส่วนของการพาทัวร์บูท MSI ในส่วนของโน๊ตบุ๊คว่าจะมีรุ่นใดมาโชว์บ้าง รวมถึงจุดเด่นที่น่าสนใจของแต่ละรุ่น งานนี้บอกเลยว่า MSI ไม่ได้จัดเต็มแต่สายเกมมิ่งเหมือนเดิมแล้ว แต่โน๊ตบุ๊คสำหรับสายงานอื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว
สำหรับในรอบนี้ MSI เลือกนำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ตอบโจทย์การใช้งานของ 3 กลุ่มหลัก ๆ ครับ ได้แก่กลุ่มเกมเมอร์ที่เป็นจุดขายของ MSI อยู่แล้ว ต่อมาก็เป็นกลุ่มของเครื่อง workstation ขนาดพกพาสำหรับสายงานด้านการออกแบบ วิศวกรรม และกลุ่มที่สามก็คือกลุ่มของ creator เช่น นักสร้างสรรค์ผลงานบน YouTube สายทำคลิป vlog อะไรประมาณนี้ โดยแต่ละกลุ่มก็จะมีความต้องการโน๊ตบุ๊คที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่ของรูปแบบการใช้งาน ความถนัดในการพกพา และรูปลักษณ์ของตัวเครื่อง ซึ่ง MSI ก็ต้องการที่จะตอบโจทย์เหล่านี้ พร้อมกับขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้กว้างขึ้นกว่าแต่ก่อน
เรามาเริ่มกันที่กลุ่มโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งก่อนเลยครับ
MSI GT76 Titan
รุ่นที่เป็นไฮไลท์ที่สุดก็คือ MSI GT76 Titan ที่จัดเต็มสุดทั้งในด้านของสเปคและระบบระบายความร้อน อย่างในด้านสเปคที่น่าสนใจก็เช่น
- ชิปประมวลผลสูงสุดที่ Intel Core i9-9900K
- การ์ดจอสูงสุดที่ NVIDIA GeForce RTX 2080 แรมการ์ดจอ GDDR6 8 GB
- รองรับแรมได้ 4 ช่อง โดยในเครื่องที่โชว์จะใส่เอาไว้ที่ 64 GB
- หน้าจอขนาด 17.3″ มีให้เลือกทั้งรุ่นจอ FHD 144Hz IPS และ 4K 100% AdobeRGB IPS
- มาพร้อม Windows 10
- ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ MSI Cooler Boost Titan ที่มีพัดลมถึง 4 ตัว และฮีตไปป์ 11 เส้น
- คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมระบบปรับไฟ RGB ได้รายปุ่ม และไฟ Mystic Light ที่ตัวเครื่อง
- ระบบเสียง Dynaaudio รองรับ Hi-Res
- Killer Wi-Fi 6
- ระบบแลน Killer DoubleShot Pro
- มีช่อง Thunderbolt 3
- มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
ในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่อง ก็จะมีความพรีเมียมและ luxury มากขึ้น ให้ความรู้สึกแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งของ MSI ที่ผ่าน ๆ มา รวมถึงยังมีไฟ RGB ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง ช่วยเพิ่มความโดดเด่นระหว่างใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนอีกจุดที่สำคัญก็คือฝาปิดตัวเครื่องด้านล่างที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยมีการเพิ่มส่วนที่เป็นตะแกรงขึ้นมา เพื่อช่วยในการดูดลมเย็นเข้าไปช่วยระบายความร้อนจากฮีตซิงค์ภายใน ซึ่งในแง่ของเทคนิคและรายละเอียดเพิ่มเติมของ MSI GT76 Titan สามารถเข้าไปดูต่อได้จากบทความพรีวิวของเราได้เลยครับ
สำหรับ MSI GT76 Titan นี้ ทาง MSI แจ้งว่าจะเริ่มเปิดสั่งจองแบบพรีออเดอร์ก่อนในเร็ว ๆ นี้ อย่างช้าก็ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมครับ ส่วนราคานั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ว่ารุ่นที่เข้าไทยจะเปิดราคามาที่เท่าไหร่
MSI GE65 Raider
โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นต่อมาก็คือ MSI GE65 Raider ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ถอดด้ามเช่นกันครับ ลักษณะตัวเครื่องโดยรวมจะบางเบากว่า GT76 Titan พอสมควร อยู่ในระดับที่พกพาได้สะดวกขึ้น แต่ความแรงก็จัดเต็มแทบจะไม่น้อยหน้ากันเลย
- ชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i9 gen 9 (i9-9880H)
- การ์ดจอรองรับได้สูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2070 8 GB GDDR6
- มีช่องใส่แรม 2 ช่อง รองรับได้สูงสุด 64 GB DDR4-2666
- หน้าจอ 15.6″ FHD IPS พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง 240 Hz
- มีทั้งช่อง 2.5″ และ NVMe M.2 PCIe Gen 3
- มาพร้อม Windows 10
- USB-C 3.2 Gen 2
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5
- ระบบเสียงจาก Dynaudio พร้อมซับวูฟเฟอร์
- คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ RGB แบบปรับแต่งแยกได้รายปุ่ม
- Killer Gigabit Ethernet และ Killer Wi-Fi 6
- มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
จากในสเปคก็จะเห็นแล้วนะครับว่า MSI GE65 Raider มีจุดเด่นในด้านของหน้าจอที่มีรีเฟรชเรตสูงสุดถึง 240 Hz เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งทั่วไปในท้องตลาด ช่วยให้ภาพจากเกม หรือจะเป็นการใช้งานทั่วไปก็ตาม มีความไหลลื่นขึ้น เนียนตากันสุดๆ ไปเลย
นอกจากนี้ MSI GE65 Raider ยังติดตั้งไฟ LED สีแดงมาให้ตรงพอร์ต USB-A ทั้งสองฝั่งด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้งานในยามค่ำคืน จะได้ไม่ต้องกลัวปัญหาเสียบสาย USB ผิด ๆ ถูก ๆ กันอีกต่อไป
อีกฟังก์ชันที่น่าสนใจก็คือ MSI App Player ที่เป็นแอปสำหรับเล่นเกมของียวแพลตฟอร์ม Android บนโน๊ตบุ๊ค MSI ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง MSI กับ BlueStacks เมื่อทำงานร่วมกับจอ 240 Hz ของ MSI GE65 Raider ก็รับประกันได้เลยว่าภาพจากเกมที่ได้จะดูไหลลื่น เหมือนว่าเป็นเกมสำหรับพีซีจริง ๆ เลยทีเดียว โดยเท่าที่ผมดูการสาธิตเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนไหวของภาพในเกมบนจอ 60 Hz กับจอ 240 Hz นั้นต่างกันมากจริง ๆ
ส่วนกำหนดการเข้าวางจำหน่ายในไทยของ MSI GE65 Raider ก็จะเหมือนกับ GT76 Titan ครับ คือจะเปิดให้สั่งจองพรีออเดอร์เร็ว ๆ นี้เช่นกัน ยังไงก็สามารถเข้าไปชมบทความพรีวิวที่จัดเต็มในด้านรายละเอียดของ GE65 Raider ได้ที่บทความนี้เลย
MSI GP65 Leopard
ต่อกันที่โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่อีกรุ่นอย่าง MSI GP65 Leopard ครับ ก็จะเป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งที่อยู่ในระดับคุ้มค่าขึ้นมาอีกนิด ส่วนสเปคก็ไม่ใช่ย่อยอยู่เหมือนกัน
- ชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i7 9th gen
- การ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2060 6GB GDDR6
- หน้าจอ IPS ขนาด 15.6″ FHD 144 Hz ขอบบาง
- แรม DDR4-2666 สูงสุด 64 GB
- 1x SSD NVMe PCIe Gen 3 + 1x SATA HDD หรือ SATA-SSD combo
- ระบบระบายความร้อน MSI Cooler Boost 5
- คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ RGB ที่สามารถปรับสีแยกปุ่มได้
- Killer Gigabit Ethernet
- ซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
- รองรับ MSI App Player เหมือนรุ่นใหญ่
สำหรับในเครื่องที่โชว์ในงาน จะใช้ CPU เป็น Intel Core i7-9750H จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti นะครับ โดยอีกสิ่งที่ให้มาเหมือนรุ่นใหญ่เลยก็คือแผงปิดตัวเครื่องด้านล่างที่ใช้ตะแกรงปิดตรงส่วนชุดระบายความร้อน เพื่อให้สามารถดูดลมเย็นเข้าไปทางพัดลมได้มากที่สุด ซึ่งเราน่าจะได้เห็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งของ MSI อีกหลายรุ่นที่จะเปิดตัวในปีนี้ มาพร้อมกับฝาหลังในลักษณะนี้อย่างแน่นอน
MSI GP65 Leopard ตามกำหนดแล้ว น่าจะเปิดวางจำหน่ายในไทยช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้จ้า
MSI GP75 Leopard
ขยับขึ้นมานิดนึงก็จะเป็น MSI GP75 Leopard ที่จะมีความแตกต่างหลัก ๆ กับ GP65 Leopard ก็คือหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นครับ โดยจะเป็นขนาด 17.3″ ความละเอียดระดับ FHD 144 Hz เท่ากัน แต่ด้วยการที่ใช้ขอบจอบาง เลยทำให้ตัวเครื่องดูไม่เทอะทะจนเกินไป เหมาะกับคนที่ต้องการภาพแบบเต็ม ๆ ตา ส่วนสเปคอื่น ๆ ก็ตามนี้ครับ
- ชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i7 9th gen
- การ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2060 6GB GDDR6
- แรม DDR4-2666 สูงสุด 64 GB
- 1x SSD NVMe PCIe Gen 3 + 1x SATA HDD หรือ SATA-SSD combo
- ระบบระบายความร้อน MSI Cooler Boost 5
- คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ RGB ที่สามารถปรับสีแยกปุ่มได้
- Killer Gigabit Ethernet
- ซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
- รองรับ MSI App Player เหมือนรุ่นใหญ่
แต่ว่าฝาปิดด้านล่างของ GP75 Leopard นั้นจะไม่ได้เป็นตะแกรงเหมือนกับใน GP65 นะครับ แต่ก็ยังมีช่องรับลมค่อนข้างเยอะพอสมควร ประกอบกับการที่บอดี้มีขนาดใหญ่ เลยทำให้ไม่เป็นอุปสรรคกับการระบายความร้อนมากนัก
ด้านของกำหนดการวางจำหน่ายของ MSI GP75 Leopard จะเร็วกว่ากันหน่อยครับ คือน่าจะมาก่อน Commart ที่จะถึงนี้ หรือช้าสุดก็คือเปิดขายใน Commart เลย (4-7 ก.ค. นี้)
MSI GS75 Stealth
ส่วนของโน๊ตบุ๊คในซีรีส์ MSI GS75 Stealth ก็มาพร้อมกับการปรับสเปคให้ทันสมัยขึ้น ภายใต้รูปลักษณ์ที่เน้นความบางเบาเช่นเคย
- ชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i9 9th gen
- การ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2080 Max-Q 8GB GDDR6
- แรม DDR4-2666 สูงสุด 64 GB
- 2x SSD NVMe M.2 PCIe Gen 3 หรือ SATA-SSD combo + 1x SSD NVMe M.2
- หน้าจอ IPS ขนาด 17.3″ FHD 144 Hz
- คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ RGB ที่สามารถปรับสีแยกปุ่มได้
- Killer Gigabit Ethernet
- ซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
- รองรับ MSI App Player เหมือนรุ่นใหญ่
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity+
ซึ่งตัวของ MSI GS75 Stealth เองก็ได้รับรางวัลมาพอตัวเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Best Gaming Notebook จาก European Hardware Awards 2019 รวมถึงรางวัล d&i awards 2019 ของทาง Computex อีกด้วย
MSI WE75
ทีนี้เป็นกลุ่มของโน๊ตบุ๊คสำหรับสายงาน workstation กันบ้างครับ เริ่มต้นกันด้วย MSI WE75 ที่มาพร้อมสเปคดังนี้
- ชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i7 9th gen
- การ์ดจอสูงสุด NVIDIA Quadro RTX 3000 6GB GDDR6
- แรม DDR4-2666 หรือ DDR4-2400 ECC สูงสุด 64 GB
- 1x SSD NVMe M.2 PCIe Gen 3 + 1x 2.5 HDD หรือ SATA-SSD combo + 1x SSD NVMe M.2
- หน้าจอ IPS ขนาด 17.3″ FHD พร้อมเทคโนโลยี True Color
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทัชแพด
- มาพร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ที่ช่วยจัดการเครื่อง และเป็นลันเชอร์สำหรับรวบรวมไอคอนโปรแกรมสำหรับการทำงานเอาไว้ในที่เดียว
- ผ่านการรับรองมาตรฐานความทนทานระดับกองทัพ (MIL-STD-810G)
- ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก ISV
- ระบบระบายความร้อน MSI Cooler Boost Technology
- มีโมดูล TPM 2.0 มาให้
ตัวเครื่องของ MSI WE75 ได้รับการออกแบบและผลิตให้มีความทนทานสูง รองรับการทำงานได้เป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะพลังของการ์ดจอซีรีส์ Quadro RTX ของ NVIDIA ที่ช่วยให้การเรนเดอร์ภาพ เรนเดอร์แสงเงาในโปรแกรมต่าง ๆ ทำได้เร็วกว่าการเรนเดอร์ด้วย CPU มาก
MSI WS65
ถัดมาก็จะเป็น MSI WS65 ที่มีขนาดย่อมเยาลงมานิดนึง แต่กลับมาพร้อมสเปคระดับท็อปสุดในซีรีส์เครื่อง workstation พกพาจาก MSI เลยทีเดียว
- ชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i9 9th gen
- การ์ดจอสูงสุด NVIDIA Quadro RTX 5000 16GB GDDR6
- แรม DDR4-2666 สูงสุด 64 GB (มีรุ่นที่รองรับ ECC ด้วย)
- 1x SSD NVMe M.2 PCIe Gen 3 / 1x SSD NVMe M.2 combo with SATA
- หน้าจอ IPS ขนาด 15.6″ ความละเอียดสูงสุดระดับ UHD (3840 x 2160) แสดงสีตามมาตรฐาน AdobeRGB ได้ 100%
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทัชแพด
- ทัชแพดได้รับการออกแบบให้มีความกว้างเป็นพิเศษ เคลือบผิวด้วยกระจกเพื่อความลื่นไหลในการใช้งาน
- มาพร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ที่ช่วยจัดการเครื่อง และเป็นลันเชอร์สำหรับรวบรวมไอคอนโปรแกรมสำหรับการทำงานเอาไว้ในที่เดียว
- ผ่านการรับรองมาตรฐานความทนทานระดับกองทัพ (MIL-STD-810G)
- ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก ISV
- ระบบระบายความร้อน MSI Cooler Boost Technology
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า 8 ชั่วโมง
ตามสเปคแล้ว ต้องบอกเลยว่า MSI WS65 เป็นโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม workstation ที่มาพร้อมสเปคระดับสูงสุด ด้วยการ์ดจอ NVIDIA Quadro RTX 5000 ประกอบกับตัวเครื่องที่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้สามารถใช้งานเป็นทั้งเครื่องตั้งบนโต๊ะสุดแรง และใช้งานนอกสถานที่ได้สบาย ๆ
MSI WS75
ส่วน MSI WS75 ก็จะเป็นเครื่องในซีรีส์เดียวกันกับ WS65 ครับ แต่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็น 17.3 นิ้ว ด้านของสเปคก็จะลดหลั่นลงมานิดนึง
- ชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i9 9th gen
- การ์ดจอสูงสุด NVIDIA Quadro RTX 4000
- แรม DDR4-2666 สูงสุด 64 GB (มีรุ่นที่รองรับ ECC ด้วย)
- 2x SSD NVMe M.2 PCIe Gen 3 / 1x SSD NVMe M.2 SATA SSD
- หน้าจอ IPS ขนาด 17.3″ ความละเอียดสูงสุดระดับ UHD (3840 x 2160) แสดงสีตามมาตรฐาน AdobeRGB ได้ 100%
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทัชแพด
- ทัชแพดได้รับการออกแบบให้มีความกว้างเป็นพิเศษ เคลือบผิวด้วยกระจกเพื่อความลื่นไหลในการใช้งาน
- มาพร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ที่ช่วยจัดการเครื่อง และเป็นลันเชอร์สำหรับรวบรวมไอคอนโปรแกรมสำหรับการทำงานเอาไว้ในที่เดียว
- ผ่านการรับรองมาตรฐานความทนทานระดับกองทัพ (MIL-STD-810G)
- ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก ISV
- ระบบระบายความร้อน MSI Cooler Boost Technology
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า 8 ชั่วโมง
สำหรับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มเครื่อง workstation ของ MSI นี้ ต้องรอดูกันอีกทีครับว่าจะเข้ามาในไทยหรือเปล่า และจะมีรุ่นไหนเข้ามาบ้างครับ
MSI PS63 Modern
จบจากสาย workstation แล้วก็มาปิดท้ายด้วยโน๊ตบุ๊คสาย creator ในซีรีส์ Prestige กันบ้างครับ โดยจุดเด่นของโน๊ตบุ๊คในซีรีส์นี้ก็คือตัวเครื่องที่มีความบางเบา ดีไซน์ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับผู้ใช้ ควบคู่กับสเปคที่ยังคงมีประสิทธิภาพสูงอยู่ ทำให้สามารถพกไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบาย
เริ่มต้นกันด้วย MSI PS63 Modern ที่มีความพิเศษคือ เป็นรุ่นที่ MSI จับมือกับ Discovery Channel ในการโปรโมตถึงความสะดวก และประสิทธิภาพในการใช้งานระหว่างออกกองถ่ายทำจริง สำหรับสเปคที่มีมาก็ตามนี้ครับ
- ชิปประมวผลสูงสุด Intel Core i7 8th gen
- การ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q 4GB GDDR5
- หน้าจอ IPS ขนาด 15.6″ ความละเอียดระดับ FHD แสดงผลได้ถึง 100% sRGB
- แรม DDR4-2400 สูงสุด 64 GB
- 1x SSD NVMe M.2 PCIe Gen 3 / SATA SSD combo + 1x SSD M.2 SATA SSD
- เทคโนโลยีระบายความร้อน MSI Cooler Boost 3
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 16 ชั่วโมง
- รองรับการชาร์จเร็ว Qualcomm Quick Charge 3.0 ที่สามารถชาร์จได้สูงสุด 80% ภายใน 35 นาที
- ผิวทัชแพดทำจากกระจก และมีพื้นที่ในการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมถึง 35% และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- ผ่านการรับรอง Quiet Mark ที่การันตีว่ามีเสียงรบกวนในระหว่างการใช้งานต่ำ
MSI P65 Creator
ข้าง ๆ กันก็จะเป็น MSI P65 Creator ที่เป็นสายเครื่องโน๊ตบุ๊คสำหรับ creator ในสเปคแบบจัดเต็มกันบ้าง บอดี้ก็จะใหญ่ขึ้นกว่า PS63 Modern เล็กน้อยครับ
- ชิปประมวผลสูงสุด Intel Core i9 9th gen
- การ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2070 8GB GDDR6
- หน้าจอ IPS ขนาด 15.6″ ความละเอียดมีทั้งระดับ 4K และ FHD 100% sRGB
- แรม DDR4-2666 สูงสุด 64 GB
- 1x SSD NVMe M.2 PCIe Gen 3 / SATA SSD combo + 1x SSD M.2 SATA SSD
- เทคโนโลยีระบายความร้อน MSI Cooler Boost Trinity
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 8 ชั่วโมง
- น้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.9 กิโลกรัม
- ผิวทัชแพดทำจากกระจก และมีพื้นที่ในการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมถึง 35% และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
MSI PS42 Modern
ปิดท้ายกันด้วย MSI PS42 Modern ที่เน้นความบางเบาขั้นสุด ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.19 กิโลกรัม และมีความหนาเพียง 15.9 มม. เท่านั้น แต่สเปคก็ยังแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานสาย creative อยู่เช่นเดิม
- ชิปประมวผลสูงสุด Intel Core i7 8th gen
- การ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce GTX 1050 Max-Q 4GB GDDR5
- หน้าจอ IPS ขนาด 15.6″ ความละเอียดระดับ FHD แสดงผลได้ถึง 100% sRGB ขอบจอบาง ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด
- แรม DDR4-2400 สูงสุด 16 GB
- 1x SSD NVMe M.2 PCIe Gen 3 / SATA SSD combo
- เทคโนโลยีระบายความร้อน MSI Cooler Boost 3
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 10 ชั่วโมง
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทัชแพด
นอกจากส่วนที่จัดแสดงโน๊ตบุ๊คแล้ว MSI ยังมีส่วนที่จัดเป็นห้องจำลองห้องทำงานสาย creative พร้อมกับมีเซสชันบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย ซึ่งธีมหลักก็คือจะเป็นการนำเอาผลิตภัณฑ์จาก MSI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานด้าน creative นั่นเอง
อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นห้องเดโมการจัดห้อง เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศตามคำสั่งงานด้วยเสียงของผู้ใช้ โดยหลัก ๆ แล้วก็จะมีการจัดไฟ และลำโพงสำหรับในการตอบสนองคำสั่งและข้อมูลต่าง ๆ ผ่านการสั่งงานด้วยเสียงบนโน๊ตบุ๊ค MSI ครับ โดยจะทำผ่านผู้ช่วยอย่าง Alexa ที่ให้ผู้ใช้สามารถพูดสั่งงานกับตัวเครื่องได้เลย
ซึ่งในขณะนี้ ทาง MSI ยังคงพัฒนาและต่อยอดคำสั่งต่าง ๆ อยู่ครับ โดยในตอนนี้ยังคงรองรับคำสั่งหลัก ๆ เช่น การตอบข้อมูลสภาพอากาศ การปรับแสงสว่างในห้อง เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ก็เป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจในฝั่งของโน๊ตบุ๊คจากทาง MSI ในงาน Computex 2019 ที่ประเทศไต้หวันครับ ยังไงก็รอดูกันต่อไปได้เลย เพราะจากที่คุยกับทาง MSI ปีนี้เราน่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาวางจำหน่าย และเทคโนโลยีที่จัดเต็มกันอย่างแน่นอน รวมถึงไลน์ผลิตภัณฑ์ของ MSI ที่จะเติมเต็มในทุกความต้องการมากขึ้นกว่าที่เคย