Call of Duty: WW2 แม้จะย้อนกลับไปดำเนินเรื่องในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 (อีกแล้ว) แต่ทว่ามันก็มีหลาย ๆ อย่างที่แปลกใหม่เพิ่มเข้ามาด้วยจากผู้พัฒนาอย่าง Sledgehammer ซึ่งพวกเขาเองก็เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาคนี้คร่าว ๆ ว่าจะทำระบบเกมให้สดใหม่หรือความหนักแน่นในโหมดเนื้อเรื่องด้วย
แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็ไม่ใช่ว่ามีเพียงแค่นั้นหรอกนะครับเพราะมันมีถึง 15 อย่างเลยทีเดียวที่น่าสนใจใน Call of Duty: WW2 แต่จะมีอะไรกันบ้างนั้นมาดูกันครับ
การต่อสู้บนหน้าประวัติศาสตร์
ก็อย่างที่ทีมงานได้เคลมไปว่าใน CoD ภาคนี้จะให้ความสำคัญเรื่องเนื้อหาประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 มากขึ้นโดยจะเล่าเรื่องผ่านกองพลที่ 1 ผู้เล่นจะได้พบกับการสู้รบในสมรภูมิสำคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเขตแนวหน้าทางตะวันตกในยุโรป , สมรภูมิบอลจ์ , สมรภูมิอาเค่น , การยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดีและอื่น ๆ อีกมากมาย
เหล่าสาวก CoD จะได้พบกับความหลากหลายและความสดใหม่ของภารกิจที่ทีมผู้พัฒนามอบให้อย่างแน่นอน
ความยาวของโหมด Campaign
ในเรื่องระยะเวลาความยาวของโหมดเนื้อเรื่องของซีรี่ส์เกม CoD ก็เป็นอะไรที่ไม่ยาวนักแค่ 5-6 ชั่วโมงและให้ความสำคัญกับโหมด Multiplayer มากกว่าแต่กับภาค WW2 มันจะไม่เป็นเช่นนั้นครับโดย Sledgehammer ได้แง้มข้อมูลสั้น ๆ ว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญในส่วนนี้มากขึ้นพร้อมกับระยะเวลาเล่นที่มากกว่าภาค Advanced Warfare แน่นอน
ระบบ Squads Member
เพื่อเพิ่มประสบการณ์สู้รบบนสงครามขนาดใหญ่ให้สมจริงก็ต้องมีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมรบด้วยซึ่งตัวเกมจะถูกโฟกัสไปที่กองพลที่ผู้เล่นสังกัดโดยจะให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเพื่อนพ้องไม่วาจะเป็นส่งกระสุน /ยาหรือช่วยชี้เป้าหมายให้เพื่อนร่วมรบและในขณะเดียวกันผู้เล่นสามารถขอความช่วยเหลือจากพวกเขาได้เช่นกัน
นี่ก็อาจจะเป็นระบบที่ไม่ทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นฮีโร่ลุยเดี่ยวหรือรู้สึกมีพวกพ้องก็เหมือนไม่มีอีกต่อไปแต่ก็ต้องมาลุ้นกันว่า AI เพื่อนร่วมทีมจะทำได้ดีแค่ไหน
ไม่มีระบบฟื้นฟูพลังชีวิตอีกต่อไป
ปกติตามธรรมเนียมของ CoD เวลาโดนยิงเจ็บหนัก ๆ จนจอแดงก็ขอแค่หลบเข้าที่กำบังพลังชีวิตก็จะค่อย ๆ ฟื้นกลับมาแต่นั่นคงใช้ไม่ได้กับภาคนี้ซะแล้วครับแต่ผู้เล่นจะต้องหากล่องยาตามรายทางหรือขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีมโดยจุดประสงค์ของการทำแบบนี้ก็เพื่อความสมจริงของสงครามครับที่เราจะต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันจนกว่าสงครามจะจบ
แน่นอนว่าการตัดระบบนี้ก็น่าจะทำให้รูปเกมเปลี่ยนไปมากพอสมควรคุณอาจจะวิ่งไปฉายเดี่ยวไม่ได้แต่อาจจะต้องทำงานกันเป็นทีมและคงเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผู้เล่นบางคนเป็นแน่
ตำแหน่งมุมมองพาหนะ
มันได้ถูกปรับปรุงให้ผู้เล่นรู้สึกควบคุมง่ายขึ้นเมื่อขึ้นไปขับและยังเข้าถึงยานพาหนะแทบทุกอย่างด้วยแม้ว่าจะไม่ใช่ส่วนสำคัญกับเกมตระกูลนี้มากแต่ก็ช่วยเติมเต็มความรู้สึกสมจริงได้ครับ
ท่าทางการเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนไป
สำหรับภาค WW2 การที่เราจะได้เห็นตัวละครวิ่งไต่กำแพง , ใช้ Jetpack , กระโดด 2 ชั้น จะไม่มีให้เห็นอีกต่อไปแต่เราจะได้พบกับท่าทางเคลื่อนไหวแบบใหม่ที่ผู้พัฒนาเรียกว่า “boots-to-the-ground” เป็นการเคลื่อนไหวที่เน้นภาคพื้นดินและเข้ากับสถานการณ์ด้วยการพุ่ง/โผไปข้างหน้าหรือวิ่งสไลด์เข้าหาที่กำบังทันที
แน่นอนครับว่าการกดวิ่งแบบไร้ขีดจำกัดก็จะไม่มีแล้วเช่นกันดังนั้นเวลาจะวิ่งก็ต้องคิดให้ดี ๆ ใช้ให้ถูกสถานการณ์ด้วย
ปรับปรุง Mechanics
เป็นการปรับปรุงเกมเพลย์ให้เข้ากับธีมสงครามโลกมากขึ้นที่จะต้องพึ่งพาเพื่อนร่วมทีมหาที่กำบัง , ช่วยเติมยา หรือการจับศัตรูเป็นเชลยรวมไปถึงระบบใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาอีกมากเช่นระบบเลเวลเก็บค่า XP จากการยิงศัตรูหรือทำภารกิจและสามารถอัพเกรดสกิลความสามารถตัวละครได้
Division
ถ้าเป็นเกมอื่นก็จะเรียกว่าระบบ Class สายอาชีพแต่ใน CoD: WW2 จะเป็นการเลือกหน่วยรบที่สังกัดซึ่งส่วนนี้เป็นสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในโหมด Multiplayer ใน Division จะมีหน่วนรบให้เลือก 5 หน่วยก็จะมีอาวุธ/อุปกรณ์เสริมแตกต่างกันรวมถึงสกิลทักษะไม่เหมือนกันด้วยเป็นการให้อิสระผู้เล่นว่าชอบแบบไหนจะเน้นยิงไกล , บู๊แหลก , ซัพพอร์ต ก็ตามสะดวกเลย
Headquarters
Headquarters เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกบรรจุลงมาเป็นเสมือนศูนย์บัญชาการใหญ่ที่ปล่อยให้ผู้เล่นทำกิจกรรมย่อย ๆ หรือมินิเกมได้โดยในตัวอย่างก่อนหน้านี้ได้เผยข้อมูลว่าใน Headquarters ผู้เล่นจะได้ทดสอบความแม่นยำในสนามยิงปืนทำคะนนบน Scoreboard ให้ได้สูงสุดหรือจะท้าดวลเพื่อนต่อสู้กันแบบ 1 vs 1 ก็ได้ครับ
Killcam
นี่ก็เป็นอีกการเปลี่ยนแปลงของเกม Call of Duty ที่จะเพิ่มระบบ Killcam หรือโชว์ฉากที่ฆ่าได้ดีที่สุดแบบเท่ ๆ ซึ่งก็เหมือนกับ Play of the Game ใน Overwatch นั่นแหละครับแต่ในเกมนี้เมื่อจบเกมคนที่ได้ตำแหน่ง Bronze Star จะมีฉากการฆ่าที่ดีที่สุดเท่ ๆ ให้ชมกันแต่อย่างไรก็ตามตำแหน่ง Bronze Star จะไม่มีในโหมด Search & Destroy ครับ
Nazi Zombies
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปซะแล้วเมื่อมีเกม Call of Duty ออกมาก็ต้องมีโหมดซอมบี้นาซีด้วยแม้ว่าจุดหมายหลักจะให้เรายิงซอมบี้ให้หมดแต่ก็มีการพัฒนาเกมเพลย์ให้สดใหม่อยู่ตลอด ในภาคนี้จะมีระบบ Co-op และเนื้อหาการเล่าเรื่องแบบแยกเดี่ยว Standalone ออกมาเกี่ยวกับการทดลองลับปลุกชีพกองทัพนาซีที่ตายแล้วให้กลับมาสู้ใหม่อีกครั้งงานนี้ใครอยากยิงซอมบี้ได้มันส์กันอีกรอบล่ะครับ
โหมด Zombies กับประสบการณ์สุดหลอนเหมือน Deadspace
การมีอยู่ของโหมด Zombies อาจจะซ้ำซากจำเจไปดังนั้นทาง Sledgehammer จึงได้เพิ่มเสริมบรรยากาศภายนอกให้หลอนขึ้นทำให้การปรากฏตัวของเหล่าผีดิบดูสยองขวัญน่ากลัวกว่าเดิม นอกจากนี้ทางทีมงานยังได้คุณ Glen Schofield หนึ่งในหัวเรือหลักผู้พัฒนาเกม Deadspace มาให้คำปรึกษาแนะนำด้วย
ดังนั้นใครที่หลอนกับ Deadspace มาแล้วเตรียมตัวให้ดีกับโหมด Zombies ใน Call of Duty: WW2 ความสยองมันจะกลับมาอีกรอบแน่นอน
ระบบ Class ในโหมด Zombies
ในโหมด Zombies เองก็มีระบบ Class เช่นเดียวกับโหมด Multiplayer เหมือนกันครับแต่ว่าในโหมด Zombies จะมีการแบ่งคลาสง่าย ๆ 4 คลาสได้แก่ Offense , Medic , Control และ Support จะมีความสามารถที่แตกต่างกันและมันจะทำให้โหมดนี้มีสีสันขึ้นให้ผู้เล่นร่วมมือกันมากขึ้นไม่ใช่ต่างคนต่างยิงอีกต่อไป
Loadout และ Perk ในโหมด Zombies
ยังอยู่กับโหมด Zombies ต่อที่นอกจากจะมีระบบ Class แล้วมันก็ยังมีระบบปรับแต่งอาวุธ Loadout ว่าจะเอาอาวุธหรือพวกอุปกรณ์เสริมแบบไหนติดตั้งรวมทั้ง Perk เพิ่มความสามารถให้ตัวละครโดยจะมาแนวเดียวกับภาค Black Ops 3 ครับ
รองรับ PS4 Pro และ Xbox One X
มันจะเป็นเกมแรกในซีรี่ส์ที่รองรับเครื่องเล่นคอนโซลยุคใหม่อย่าง PS4 Pro และ Xbox One X ด้วยซึ่งเครื่องเล่นทั้งสองจะช่วยภาพกราฟิกเกมสวยงามคมชัดขึ้นโดยประสิทธิภาพของ PS4 Pro ที่ Sony ได้คอนเฟิร์มไว้ว่าจะรีดความละเอียดได้ตั้งแต่ความละเอียด 1440×1620 ถึง 2880×1620 ปรับปรุงใบหน้าตัวละครแอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวในโหมด Headquarters ในคมชัดขึ้น
ขณะที่ Xbox One X ก็รองรับเช่นกันแต่ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการว่าจะปรับปรุงส่วนไหนในเกมเป็นพิเศษบ้าง
สำหรับ Call of Duty: WW2 จะวางจำหน่ายวันที่ 4 พฤศจิกายน 2017 สั่งซื้อล่วงหน้าได้ทาง Steam
ที่มา: gamingbolt