การปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพเป็นส่วนสำคัญมากที่จะทำให้เกมมีอรรถรสเล่นได้สนุกมากขึ้นและมันคงจะไม่ดีแน่ถ้าหากเราเล่นเกมชนิดที่ว่าดึงประสิทธิภาพเกมออกมาได้ไม่เต็มที่แต่ถึงอย่างนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพก็ไม่ได้หมายความว่าต้องปรับกราฟิกให้สูงไปซะทั้งหมดแต่ว่ามันมีความหมายที่มากกว่านั้นครับ
การปรับแต่งเกมถ้าจะให้ความหมายนิยามที่เข้าใจง่ายที่สุดเลยก็คือเป็นการทำให้ภาพรวมของเกมมีความสวยงามคมชัดทำงานได้ไหลลื่นด้วยการใช้ค่าต่าง ๆ ที่มีมาผสมผสานให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเพียงหนึ่งเดียวหรือจะยกตัวอย่างสั้น ๆ เป็นสมการดังนี้
ถ้าหากจะคำนวณสมการ a = b*c + b*c + b*c
แล้วมีการแทนค่า d = b*c
ดังนั้นแล้วการตั้งค่าจะเท่ากับ a = d + d + d นั่นเองครับ
ซึ่งเจ้าค่าต่าง ๆ ที่ว่ามานี้เราก็จะมาดูกันว่ามันมีอะไรบ้างที่มันส่งผลกระทบต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในเกม
Image quality
อย่างแรกเลยก็คือคุณภาพของภาพที่มีส่วนสำคัญต่อการแสดงผลออกมาโดยคุณภาพของภาพนั้นจะสัมพันธ์กันค่า Resolution ด้วยซึ่งถ้าหากปรับ Resolution ให้ละเอียดภาพที่ได้ก็จะคมชัดมากขึ้นแต่ในขณะเดียวกันมันก็ดูดแรมการ์ดจอของเราไปมากเช่นกันครับ
Anti-aliasing
นี่ก็เป็นค่าที่สำคัญอีกอย่างครับเพราะมันสามารถลบรอยหยักภาพหรือลดอาการภาพแตกได้ซึ่งจะทำให้ภาพในเกมมีความสมูธน่าสนใจมากขึ้นโดยในปัจจุบันความละเอียดการปรับแต่งค่าดังกล่าวก็มีหลายระดับและซับซ้อนมากขึ้นซึ่งมันสามารถแบ่งรายละเอียดย่อยได้อีก 4 แบบดังนี้ครับ
- FXAA หรือ SMAA – เป็นการลบภาพหยักที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า Anti-aliasing ธรรมดาแต่จะกินทรัพยากรน้อยกว่าแต่ถึงอย่างนั้นการตั้งค่าส่วนนี้จะส่งผลให้เห็นน้อยที่สุด
- MSAA – เป็นตัวลดรอยหยักที่เน้นเฉพาะวัตถุในเกมเท่านั้นโดยค่านี้จะไม่สนใจอย่างอื่นเช่นแสง เงา หรือพื้นผิวในเกมซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ลดการกินทรัพยากรของเครื่องได้มากครับ
- TXAA – เป็นการปรับแต่งลบรอยหยักที่ทำได้ดีกว่า MSAA และกินทรัพยากรน้อยกว่าแถมยังให้ภาพที่เนียนตาในะดับ 16X ของ MSAA เลยทีเดียวเรียกว่าสวยงามในระดับ High-End ครับ
- SSAA – ในส่วนของ SSAA ก็จะเป็นการลบรอยหยักที่มีขั้นตอนที่แปลกสักหน่อยโดยจะเรนเดอร์ภาพให้ใหญ่กว่าความละเอียดหน้าจอแล้วค่อย ๆ ปรับภาพให้เท่ากับความละเอียดหน้าจอที่ใช้งานอยู่ซึ่งผลที่ได้จะทำให้ภาพมีความสมบูรณ์ไร้รอยหยักแต่กระนั้นก็ต้องแลกมาด้วยการดูดทรัพยากรมหาศาลเลยทีเดียว
แสงและเงา (Lighting & shadow)
ในส่วนแสงและเงาก็เป็นตัวแปรหนึ่งที่มีผลกับภาพในเกมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเพราะมันจะช่วยปรับสภาพบรรยากาศเกมให้สมจริงมากขึ้นซึ่งการปรับแสงเงาในเกมก็มีการตั้งค่ายิบย่อยเช่นกันแต่จะมีหลัก ๆ ก็คือ Volumetric Lighting การตั้งค่าปริมาตรแสงให้สมจริงไม่ดูหลอกตาที่เกมสมัยนี้สามารถทำได้ละเอียดมากอย่างใน Fallout 4 ที่รองรับการตั้งค่าดังกล่าวนี้
เมื่อมีแสงก็ย่อมมีเงาในส่วนของเงานั้นก็จะมีการตั้งค่าปลีกย่อยอีกสองชนิดคือ Ambient Occlusion เป็นการตั้งค่าเงาให้มีมิติมากขึ้นลดการเกิดภาพหยักหรือรอยจุดต่าง ๆ ให้เนี๊ยบเนียนขึ้น
ส่วนอย่างที่สองคือ Contact Hardening จะทำให้ขอบเงาใกล้เคียงกับความเป็นจริงเพราะเงาที่เกิดจะเห็นได้ชัดและเป็นเส้นตรงเมื่อมองในระยะใกล้แต่ถ้ามองในระยะไกลเงาที่ได้จะมีความเบาบางไม่เป็นเส้นตรงและการได้ Contact Hardening มาช่วยจะทำให้เงาที่เกิดขึ้นในระยะไกลมีความนุ่มนวลมองเห็นเป็นเส้นตรงมากขึ้น
“ภาพถ่ายแสดงถึงผลของ Contact Hardening”
ทั้งหมดนี้ก็คือค่าการปรับแต่งที่มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพเกมและเมื่อเรารู้จักแล้วก็มาดูในส่วนถัดไปคือการปรับแต่งตั้งค่าของทีมพัฒนาเกมว่าพวกเขาทำอย่างไรกันบ้างและความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการปรับแต่งเกมต่าง ๆ ครับ
การพัฒนาในส่วนของตั้งค่า Options เกมที่น่าสนใจมาก ๆ ก็คงไม่พ้นการพัฒนาของทีมงาน Croteam ผู้พัฒนาเกม The Talos Principle พวกเขาได้ใช้กราฟิกระดับ “Medium” เป็นพื้นฐานในการพัฒนาเกมและที่น่าสนใจก็คือพวกเขาได้แบ่งแยกประเภทการตั้งค่าเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียดและเข้าใจง่ายมาก
นอกจากนี้การตั้งสเปคขั้นต่ำและแนะนำของพวกเขานั้นก็เช่นกันซึ่งทาง Croteam บอกว่าในสเปคขั้นต่ำของเกมนั่นก็คือคุณจะสามารถเล่นได้ดีไหลลื่นในการตั้งค่าต่ำสุดทั้งหมดส่วนสเปคขั้นแนะนำก็คือจะเล่นได้ไหลลื่นเมื่อปรับค่าตั้งแต่ Medium เป็นต้นไปในความละเอียดที่ 1080p
การเพิ่มประสิทธิภาพกับเกมต่าง ๆ
ส่วนถัดไปเราก็จะมาดูกันว่าเกมต่อไปถ้าหากรีดประสิทธิภาพเกมในระดับสูงสุดจะทำให้เกมทำงานได้ดีขึ้นหรือไม่เริ่มตัวอย่างแรกกันด้วยเกม Dying Light ที่น่าจะเป็นตัวอย่างชัดเจนมากที่สุดเพราะตัวเกมมีความหลากหลายเรื่องสภาพแวดล้อมบวกกับรายละเอียดเกมมีความสมจริงมากและตัวเลือกการปรับแต่งก็มีให้เล่นเยอะ
โดยเฉพาะ View distance ที่ส่งผลต่อเครื่องของเรามากที่สุดเพราะการปรับค่านี้ในระดับสูงจะให้ภาพที่สวยงามก็จริงแต่มันก็กินสเปคเอาเรื่องทีเดียวแต่ในขณะเดียวกันถ้าหากลองปรับค่าดังกล่าวให้ลดน้อยลงหรือไม่ใช้เลยก็จะพบว่าตัวเกมรันได้ลื่นขึ้นโดยที่ภาพก็ไม่สูญเสียความสวยงามไปไหน
Deus Ex: Mankind Divided ก็เช่นกันที่มี Options ปรับแต่งเยอะอย่างฟีเจอร์ MSAA ที่สามารถปรับได้ถึง 8x เลยทีเดียวแต่ในความเป็นจริงแล้วตัว MSAA นี่แหละที่ทำให้คอมของเราทำงานหนักเกินความจำเป็นซึ่งเราอาจจะปรับค่าให้อยู่ในระดับต่ำและไปเพิ่มค่าอย่างอื่นให้สูงขึ้นเพื่อเป็นการทดแทนก็ได้
Metro 2033 ก็เป็นเกมแรก ๆ ที่มีการปรับแต่งกราฟิกในเรื่องของแสงเงาจนเป็นผู้บุกเบิกเลยก็ว่าได้แต่มันก็แลกมาด้วยการกินสเปคที่สูงจนกระทั่งปี 2010 ตัวเกมได้ปรับปรุงจนมีประสิทธิภาพในเกณฑ์ดีถึงดีมากโดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมแม้จะเข้าสู่ปี 2016 แล้วก็ตามถ้าหากใช้ฮาร์ดแวร์ในระดับกลางมันก็ยังรันเกมได้ดีอยู่ดี
บทสรุป
ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้เล่นเกมได้ดีที่สุดนั้นไม่จำเป็นต้องปรับให้อยู่ในระดับสูงสุดทุกอย่างเสมอไปแต่ในขณะเดียวกันมันก็มีความสำคัญมากทีเดียวเพราะการปรับลดค่าบางอย่างก็ส่งผลต่อตัวเกมได้ชัดเจนและการปรับแต่งที่ดีนั้นก็ควรทำให้เข้ากับ PC หรือ Notebook ของแต่ละคนไม่มีกฏตายตัวครับ
แม้ว่าในตอนนี้เกมบางเกมเราไม่อาจปรับได้สูงสุดทุกอย่างแล้วได้ภาพที่สวยงามไม่กระตุกเลยแต่เชื่อได้เลยว่าในอนาคตเราจะได้เล่นเกมระดับ High-End พร้อมกับการปรับแต่งภาพในระดับสูงสุดได้ไหลลื่นอย่างแน่นอน
ที่มา: PCGAMER