สำหรับซีรี่ส์เกม Call of Duty น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเพราะมันเป็นเกมแอ็คชั่นบุคคลที่หนึ่งที่มีประวัติมาอย่างยาวนานมากด้วยโทนเรื่องที่เป็นแนวแอ็คชั่นสงครามที่พัฒนากันตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จนมาถึงสงครามยุคปัจจุบันกึ่งอนาคตภายใต้การพัฒนาของ 2 ทีมอย่าง Infinity Ward และ Treyach จึงทำให้มีเกมเมอร์หลายคนที่ชื่นชอบในรูปแบบของเกมบวกกับเนื้อหาอันเข้มข้นเหมือนกับชมภาพยนตร์และล่าสุดกับ Call of Duty: Black Ops 3 ที่เป็นการหยิบภาค Black Ops ขึ้นมาอีกครั้งภายใต้การพัฒนาของ Treyach แต่ครั้งนี้พวกเขาจะประสบความสำเร็จเหมือนกับ 2 ภาคที่ผ่านมาหรือไม่นั้นเรามีรีวิวที่ทาง Kotaku ได้สัมผัสมาแล้วดังนี้ครับ
สำหรับ Call of Duty: Black Ops 3 ที่ทีมงาน Kotaku ได้ลองเล่นมาแล้วพวกเขารู้สึกได้เลยว่าสิ่งที่ Treyach พัฒนานั้นมันเหมือนกับการเล่นเกมย่อยอีก 3 เกมเลยทีเดียวซึ่ง CoD: Black Ops 3 จะสามารถแบ่งแกนหลักของเกมได้ 3 แบบก็คือการเล่นโหมด Single-Player และ Co-op , Multiplayer Online และ โหมดซอมบี้เป็นอย่างสุดท้ายแต่ว่าในแต่ละส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรเรามาดูพร้อมกันเลยครับ
Single-Player และ Co-op
เริ่มประเดิมด้วยโหมด Single-Player หรือโหมดเนื้อเรื่องซึ่งใน Black Ops 3 ก็จะเป็นการสานต่อจากภาคที่ 2 โดยจะเริ่มต้นในปี 2065 กับยุคสมัยที่หุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทการสงครามมากขึ้นโดยความขัดแย้งในภาคนี้ก็จะมีพวกหุ่นยนต์หรืออาวุธจักรกลมากกว่าภาคก่อนเสียอีกจนแทบเรียกได้ว่าเป็นเกมไซไฟเข้าไปทุกทีและได้ผสมกับเนื้อเรื่องที่เล่นกับจิตใจมนุษย์เหมือนในภาคแรกอีกต่างหาก
ทั้งเนื้อเรื่องที่มีการเล่นกับจิตใจแล้วทางด้านระบบเกมก็เช่นกันที่ยังวนเวียนกับจิตใจของมนุษย์ด้วยระบบ DNI หรือ Direct Neural Interface ที่เป็นการเชื่อมต่อระบบประสาทเข้าไปในสมองเพื่อนร่วมทีมเพื่อเข้าไปดูมุมมองการเล่นของคนเหล่านั้นได้โดยจะทำให้มุมมองการเล่นเปลี่ยนไปเหมือนกำลังเข้าไปในหัวของคนอื่น อีกทั้งพอเล่นในโหมด Co-op ระบบนี้จะเป็นประโยชน์มาก ๆ เพราะสามารถเอาไว้สั่งการวางแผนการรบได้ถึงแม้ส่วนอื่น ๆ จะยังเหมือนกับภาคเดิม ๆ คือการเดินจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งแต่ในภาคนี้ก็มอบความสนุกสนานกับการเล่นมากกว่า
ภารกิจใน Black Ops 3 ก็ให้มา 11 ภารกิจด้วยกันแต่ว่าในหนึ่งภารกิจก็จะมีความยาวพอสมควรตามมาตรฐานเกมยิงและยังมีระบบ Core abilities ที่เป็นพลังความสามารถของตัวละครโดยจะแบ่งได้เป็น 3 ประเภทได้แก่
- Control – เป็นความสามารถด้านการ Hack ข้อมูลหรือควบคุมหุ่นฝ่ายตรงข้าม
- Martial – เป็นความสามารถด้านการต่อสู้ประชิดตัวอัพเกรดตัวละครให้เหนือมนุษย์
- Chaos – เป็นความสามารถด้านการทำลายล้างและก่อกวนด้วยพลังจิตและหุ่นโดรนซึ่งใครที่ได้ดูตัวอย่างเกมจะเห็นหุ่น Nanobots จำนวนมากไล่ถล่มศัตรูก็เป็นความสามารถจากส่วน Chaos นี่แหละ
และทั้ง 3 ก็จะมีความสามารถย่อยเข้าไปอีกเมื่อผู้เล่นเลเวลอัพ (ภาคนี้มีระบบเลเวลด้วย) ก็จะสามารถอัพสกิลที่ต้องการได้และการเพิ่มฟีเจอร์นี้ลงมาก็ช่วยให้ตัวเกมสนุกขึ้นบวกกับสามารถสร้างสรรค์การทำลายล้างได้ในหลาย ๆ รูปแบบที่ไม่จำเป็นต้องถือปืนยิงกันอย่างเดียว
Multiplayer Online
มาในส่วนของ Multiplayer กันบ้างซึ่งโหมดนี้หลังจากลองเล่นได้คร่าว ๆ ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายภาค Advanced Warfare แบบเต็ม ๆ ทุกคนจะไม่มีใครโดดเด่นกว่ากัน ผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวละครได้อิสระแถมมีตัวละครให้เลือกมากถึง 9 ตัว 9 คลาสที่มีความสามารถอาวุธที่ไม่เหมือนกัน เกมเพลย์โหมดนี้ก็จะคล้ายคลึงกับ Advanced Warfare ที่ว่าการกระโดดด้วยชุด Exo-Suit แต่ใน Black Ops 3 จะเป็นชุดติด Jetpack ที่สามารถกระโดดได้แถมวิ่งไต่กำแพงได้ด้วยซึ่งตรงนี้ก็พอจะฉีกแนวการเล่นแบบแปลก ๆ ได้บ้างเล็กน้อยและที่สังเกตอีกอย่างเลยคือสีหน้าการยิงของตัวละครที่มาแบบหน้าเดียวกันทั้งเกมไม่มีการแสดงสีหน้าอย่างอื่นเลยนอกจากหน้านิ่ง ๆ สุดมึน
โหมดซอมบี้กับความสยองในยุค 40
มาถึงช่วงสุดท้ายกับโหมดสุดท้ายที่ซีรี่ส์ Call of Duty ต้องมีคือ ซอมบี้! และการกลับมาใน Black Ops 3 นี้ก็จะพาผู้เล่นย้อนไปยังเมืองที่ชื่อว่า Morg ในปี 1942 ที่ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดมีซอมบี้ผีดิบออกอาละวาดไปทั่วจึงทำให้ตัวละครทั้ง 4 ที่เป็นผู้รอดชีวิตที่มีดาราฮอลลีวูดมาร่วมแจมอันได้แก่ Nero Blackstone (Jeff Goldblum) , Jessica Rose (Heather Graham) , Jack Vincent (Neal McDonough) และ Floyd Campbell (Ron Perlman) ต้องเอาชีวิตรอดพร้อมกับค้นหาปริศนาว่ามันเกิดอะไรขึ้น!
สำหรับรูปแบบการเล่นในโหมดนี้ที่เหมือนเดิมเลยก็คือการมาของซอมบี้ที่เป็นระลอก ๆ มีซ่อมแซมประตูหน้าต่างและเก็บเงินซื้อปืนใหม่แต่ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามานั่นก็คือการปลดล็อคสถานที่เมื่อเก็ยเงินถึงตามจำนวน มีการเดินเก็บ Secret เพื่อไขความลับปริศนาของต้นเหตุและที่เด็ดกว่านั้นคือผู้เล่นจะสามารถแปลงกายเป็นอสูรมีหนวดปลาหมึกได้ด้วยซึ่งทำได้ด้วยการเดินไปเก็บพลังตามจุดต่าง ๆ ซึ่งพลังของมันมีทั้งการหวดศัตรูให้ดับภายในครั้งเดียวหรือจะเป็นการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วสามารถช่วยเพื่อนหรือพลิกสถานการณ์ได้แต่ไม่ควรใช้บ่อยเกินไปเพราะจุดเก็บพลังนั้นมีไม่เยอะนักและเผลอ ๆ อาจจะโดนเพื่อนด่าอีกต่างหาก แต่รวมแล้วโหมดนี้ก็ยังสร้างความระทึกปนสยองได้ดีบวกกับมีเสียงเพลงแจ๊สขับกล่อมตลอดเวลาก็ชวนให้รู้สึกหลอนได้เหมือนกันครับ
ส่วนบทสรุปทั้งหมดของ Call of Duty: Black ops 3 นั้นก็ยังถือว่าเป็นอีกเกมที่น่าเล่นอยู่เหมือนเคยด้วยโหมดเนื้อเรื่องที่เล่นสนุกมีฟีเจอร์มากมายให้ทดลองเล่นมีเนื้อหาเกมค่อนข้างไซไฟผสมปรัชญานิด ๆ กับระบบ Co-op ที่สามารถส่องเข้าไปในหัวชาวบ้านได้ก็ให้ความแปลกใหม่ไม่น้อยเลยถึงแม้ว่ารูปแบบเกมหลาย ๆ อย่างจะเหมือนกับภาคที่แล้วก็ตาม ระบบมัลติเพลย์เยอร์ภาคนี้ที่ไม่ค่อยจะแตกต่างจาก Advanced Warfare เท่าไหร่นักและความสยองปนลึกลับของซอมบี้โหมดที่มาพร้อมกับแปลงร่างเป็นอสูรได้ก็สร้างความแปลกแหวกแนวได้เป็นอย่างดีครับ
ที่มา : Kotaku