Steam เป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายเกมที่ได้รับความนิยมมาก ๆ สำหรับหมู่นักเล่นเกมในยุคหลังที่ผ่านมาเนื่องจากความสะดวกสบายในเรื่องการซื้อเกมและตัวเกมที่นำมาจำหน่ายก็มีหลากหลายประเภทและเล่นสนุกจึงไม่แปลกที่ถ้าหากจะพูดถึงการเลือกซื้อเกม ๆ หนึ่งและ Steam มักจะถูกพูดถึงเป็นอันดับแรกอยู่เสมอแต่ว่าเมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสียแม้ว่าผู้เล่นจะสะดวกในการเลือกซื้อเกมแต่สำหรับการบริการหลังการขายแล้วกลับไม่มีความสะดวกสบายเช่นนั้นเลยแถมมันยังกลบข้อดีที่ว่านั้นเกือบซะมิดอีกต่างหาก
สำหรับการบริการหลังการขายของ Steam นั้นจัดว่าแย่ถึงแย่มาก ๆ เลยทีเดียวเพราะนับตั้งแต่ต้นปี 2015 ผู้ใช้บริการต่างก็ร้องเรียนปัญหาต่าง ๆ มากมายแต่สิ่งที่ทีมงานทำนั้นคือการเมินเฉยไม่ใส่ใจหรือการตอบปัญหาที่ล่าช้าจนทำให้บริษัทจัดอันดับคะแนนการบริการหลังการนั้นต้องให้คะแนนเกรดต่ำแบบสุด ๆ และท่ามกลางเสียงบ่นกร่นด่าจากเกมเมอร์ตลอดทั้งปีก็ทำให้คุณ Erik Johnson หนึ่งในฝ่ายบริหารของ Valve ได้ออกมาชี้แจงว่าการบริการหลังการขายในขณะนี้ก็ไม่ได้ย่ำแย่เท่าไหร่และจะมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น
คุณ Erik Johnson ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Kotaku ในทำนองว่าแม้การบริการที่ผ่านมาจะไม่ปลื้มเท่าไหร่นักแต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มีการปรับปรุงและพัฒนากันบ้างแล้ว
“ผมคิดว่าในตอนนี้ทุกอย่างมันดูแย่น้อยกว่าที่ผ่าน ๆ มานะ” Erik Johnson กล่าว
“เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามันได้ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว “
เขาก็ได้อธิบายต่อว่าเขาและทีมงานเริ่มที่จะนำตัวช่วยเข้ามาบ้างแล้วโดยจะเห็นได้ชัดเจนก็คือระบบการคืนเงิน , ระบบความปลอดภัยที่จะมีการอัพเดทให้เข้มงวดรัดกุมขึ้นและรวมไปถึงการที่ตอบปัญหาล่าช้าก็เพราะมีสาเหตุจากการพัฒนาระบบดังกล่าวด้วย
“เรารู้ตัวดีฉะนั้นเราจึงได้เพิ่มระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกอย่างระบบการคืนเงินซึ่งมันจะช่วยให้ผู้เล่นที่เล่นเกมแล้วเกิดไม่พอใจก็สามารถคืนเกมแถมยังได้เงินคืนเหมือนเดิม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาทั้งหมดแต่มันก็ทำให้ผู้ใช้บริการรู้สึกแฮปปี้ขึ้นบ้าง”
“ด้านความปลอดภัยก็เช่นเดียวกันพวกเราได้อัพเดทระบบความปลอดภัยด้วยการทำรหัสผ่านให้รัดกุมขึ้นและระบบอื่น ๆ จำพวกการเติมเงินเพื่อซื้อของในเกมเช่น Dota 2 , CS:GO , TF 2 เราก็ได้ปรับปรุงให้สะดวกขึ้นและนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงตอบปัญหาได้ล่าช้านั่นก็เพราะเรากำลังพัฒนาระบบพวกนี้อยู่ครับ”
และเพื่อความมั่นใจบวกกับเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าคุณ Johnson ได้บอกว่าได้มีการว่าจ้างบริษัทถึง 2 บริษัทมาช่วยดูแลด้านงานซัพพอร์ตโดยเฉพาะอีกด้วย
“มันน่าสนใจมากทีเดียวที่จะมีทีมงานมาช่วยโดยเฉพาะและประสบการณ์ของพวกเขาเหล่านั้นจะช่วยพัฒนาคนของเราให้มีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเช่นการตอบคำถามหรือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า”
“แน่นอนว่าการมาของพวกเขามันอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยในการฝึกฝนทักษะทีมงานของเราให้เชี่ยวชาญแต่ก็คงไม่นานนักเพราะเราตั้งเป้าไว้ว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จในช่วงคริสต์มาสนี้ครับ”
จากที่คุณ Johnson ว่ามาทั้งหมดถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามที่กำหนดไว้เราก็คงจะได้เห็นรูปแบบการบริการหลังการขายของ Steam แบบใหม่อย่างแน่นอนซึ่งก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่อาจจะช้าไปนิดแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยครับ
ที่มา : Kotaku