ในช่วงไม่นานที่ผ่านมานี้ทาง Acer ได้ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊คภาคต่อหลายซีรีส์ที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่งทางด้านประสิทธิภาพและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ออกมามากมายทั้ง Aspire V 15, Aspire E Serie และ Aspire ES Series ใหม่ ซึ่งจะมาเป็นโน๊ตบุ๊คในปี 2015 และเปิดตัวออกมาเพื่อต้อนรับเทศกาลการเปิดเทอมโดยเฉพาะ แต่ละรุ่นจะมีสเปคและดีไซน์เป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ
Aspire V 15 – full featured device in a stylish design
เริ่มต้นกับ Aspire V 15 ที่ใช้วัสดุฝาหน้าเป็นอลูมิเนียมซึ่งมีการปริ้นท์สัญลักษณ์ Acer เอาไว้ด้วยเทตโนโลยี advanced nano-imprint เพื่อทำให้ความแตกต่างและหรูหราของพื้นผิวที่มากกว่า คีย์บอร์ดก็มีไฟสี backlit ซึ่งไม่ได้ช่วยให้แค่การพิมพ์ของคุณง่ายคุณเท่านั้นแต่ยังทำให้เกิดความสวยงามกลมกลืนกับตัวกรอบอย่างลงตัว แถมยังสามารถที่จะทำการปรับความสว่างของแสง backlit ให้เข้ากับสภาพของสิ่งแวดล้อมได้อีกต่างหาก
ตัวเครื่องเองก็แรงด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core รุ่นที่ 5 พร้อมด้วยชิปกราฟิกแยกของ NVIDIA รุ่น GeForce 940M ทำให้ Aspire V 15 มีทั้งประสิทธิภาพในการประมวลผลสำหรับการทำงานและเล่นเกมที่ดีในระดับหนึ่ง โดย Aspire V 15 จะพร้อมวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป ด้วยราคาเริ่มต้นที่ $599 หรือประมาณ 19,770 บาทเท่านั้น
ส่วนในโซนยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา จะเริ่มวางขายในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ €699 หรือประมาณ 25,955 บาท และในโซนประเทศจีนนั้นจะเริ่มวางขายในเดือนมิถุนายน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ¥4,699 หรือประมาณ 25,240 บาท สำหรับในเมืองไทยนั้นน่าจะวางจำหน่ายใกล้ๆ กันกับประเทศจีนครับ
Aspire E Series – attractive design with appealing features
สำหรับซีรีส์ Aspire E ใหม่นั้นจะมาพร้อมกับสีสันมากมายให้เลือก โดยจะมีรุ่นที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14, 15.6 และ 17.3 นิ้ว ฝากรอบใช้รูปแบบเหมือนสิ่งทอลายดูสวยงามซึ่งกระบวนการผลิตลายนั้นก็เป็นกระบวนการใหม่ ที่ใช้กระบวนการ 3D scanning สำหรับการสแกนตัวอย่างลายผ้า และปริ้นท์ลายลงไปบนฝาด้วยเทคโนโลยี 3D printing และสิ้นสุดขั้นตอนด้วยการแกะสลักเลเซอร์ เรียกได้ว่าลวดลายนั้นต้องเป็นที่พอใจของคุณอย่างแน่นอนครับ
สำหรับซีรีส์ Aspire E นั้นจะเริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $379 หรือประมาณ 11,520 บาท สำหรับโมเดลขนาดจอ 14 นิ้ว และในโซนยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา จะเริ่มวางขายในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ €349 หรือประมาณ 12,950 บาทสำหรับโมเดลขนาดจอ 14 นิ้ว ส่วนในประเทศจีนนั้นเริ่มวางจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาโดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ¥4,199 หรือประมาณ 22,545 บาทสำหรับโมเดลขนาดจอ 14 นิ้วครับ
Aspire ES Series – essential needs covered for work and play
สำหรับซีรีส์ใหม่อย่างแกะกล่องอย่าง Aspire ES นั้นเน้นรองรับการใช้งานทั่วไปอย่างพอดีไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการเล่นต่างๆ โดยตัวเครื่องจะมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่สมดุลทั้งทางด้านการใช้งานให้เกิดประโยชน์และการพกพา โดยผู้ใช้สามารถที่จะทำการพกพา Aspire ES ไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลาด้วยตัวเลือกของขนาดหน้าจอตั้งแต่ 11 นิ้วไปจนถึง 17.3 นิ้วครับ
สำหรับซีรีส์ Aspire ES นั้นจะเริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $229 หรือประมาณ 7,560 บาท สำหรับโมเดลขนาดจอ 11 นิ้ว และในโซนยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา จะเริ่มวางขายในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ €249 หรือประมาณ 9,240 บาทสำหรับโมเดลขนาดจอ 11 นิ้ว ส่วนในประเทศจีนนั้นเริ่มวางจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาโดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ¥2,299 หรือประมาณ 12,345 บาทสำหรับโมเดลขนาดจอ 11 นิ้วครับ
หมายเหตุ – ซีรีส์ Aspire ES จะมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 8.1 และรองรับการอัพเกรดไปเป็นระบบปฎิบัติการ Windows 10 ฟรีในอนาคตอย่างแน่นอน โดยทาง Acer จะให้การสนับสนุนการอัพเกรดนี้บนซีรีส์ Aspire ES ด้วยครับ
The new Aspire Switch 10 E (SW3-013) and Switch 10 (SW5-015)
ในปีนี้ Acer ยังคงขยายโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่ได้รับรางวัลการันตีอย่างซีรีส์ Switch โดยมีโมเดลใหม่ออกมาถึง 2 โมเดลซึ่งมีหน้าจออยู่ที่ขนาด 10.1 นิ้ว มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Atom quad-core โดยจะถือเอาดีไซน์นำสมัยและยืดหยุ่นสำหรับนักเรียน, นักเดินทางที่ออกท่องเที่ยวบ่อยๆ หรือครอบครัวที่ต้องการอุปกรณ์ขนาดเล็กนำหนักเบาเพื่อใช้ในการเข้าถึงแอปพลิเคชันและความบันเทิงขณะเดินทาง
Aspire Switch 10 E (SW3-013)
Aspire Switch 10 E (SW3-013) มาพร้อมกับดีไซน์บางและน้ำหนักเบาบางพร้อมด้วยตัวเลือกสีฝาครอบถึง 6 ตัวเลือกสะดุดตา แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงโดยมีความจุอยู่ที่ 30Wh ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 10.31 (W) x 7.09 (H) x .43 (D) inches น้ำหนักอยู่ที่ 630 g เมื่อใช้งานในโหมดแท็บเล็ต
Aspire Switch 10 E (SW3-013) จะเริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $279 หรือประมาณ 9,210 บาท และในโซนยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา จะเริ่มวางขายในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ €299 หรือประมาณ 11,100 บาท ส่วนในประเทศจีนนั้นเริ่มวางจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาโดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ¥2,499 หรือประมาณ 13,420 บาทครับ
Switch 10 (SW5-015)
สำหรับ Switch 10 (SW5-015) นั้นจะมาพร้อมกับฟีเจอร์อย่างหน้าจอความละเอียด FHD หรือ 1,920 x 1200 pixels พร้อมด้วยเทคโนดลยี Zero Air Gap ที่ช่วยให้ตัวอักษรและภาพที่แสดงบนหน้าจอคมชัดเป็นพิเศษสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพหรือการเล่นเกมและดูหนังฟังเพลงโดยเฉพาะ
นอกไปจากนั้นฝาหลังยังเสริมให้สวยงามและแข็งแกร่งด้วยกระจกครอบสีขาว Gorilla® Glass® 3 ทำให้การใช้งานในรูปแบบของแท็บเล็ตนั้นดูสง่างาม ในส่วนของคีย์บอร์ดก็สวยงามด้วยการใช้สีเทาเงิน ดูเข้ากันกับส่วนของหน้าจอเป็นอย่างยิ่ง สำหรับ Switch 10 (SW5-015) นั้นมีขนาดอยู่ที่ 10.29 (W) x 6.97 (H) x .35 (D) inches และน้ำหนักอยู่ที่ 594 g เท่านั้น
Switch 10 (SW5-015) จะเริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $399 หรือประมาณ 13,170 บาท และในโซนยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา จะเริ่มวางขายในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ €449 หรือประมาณ 16,660 บาทครับ
นอกจากจะมีการเปิดตัว Switch 10 รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นแล้วทาง Acer ยังได้มีการประการรีเฟรชซีรีส์ Switch 11 ด้วยหน้าจอขนาดใหม่ที่ 11.6 นิ้ว ที่มาพร้อมกับการออกแบบบานพับใหม่เพิ่มความแข็งแรงทางด้านกายภาพและการประมวลผลที่เร็วขึ้นมากกว่าเดิม โดยทั้ง Switch 10 และ Switch 11 นี้จะได้รับการสนับสนุนการอัพเกรดเป็น Windows 10 จากทาง Acer ด้วยเช่นเดียวกันครับ
หมายเหตุ – รายละเอียดสเปคและราคาของ Switch 11 V นั้นมีกำหนดว่าจะเผยออกมาในช่วงหลังของไตรมาสนี้ครับ
The Aspire R 11
ท้ายสุดกับ Aspire R 11 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้ว สามารถพับหน้าจอได้ถึง 360 องศา ส่วนของฝาครอบและพื้นผิวทางด้านล่างสร้างขึ้นด้วยกระบวนการแกะสลักเลเซอร์ซึ่งทำให้มีลวดลายสวยงามดึงดูดสายตาและสามารถที่จะป้องกันรอยขีดข่วนและเพิ่มแรงดึงในการจับได้เป็นอย่างดี
Aspire R 11 จะมีด้วยกัน 2 สีคือ sky blue และ cloud white และหน้าจอแบบสัมผัสแบบ HD ที่ขนาด 11.6 นิ้ว พร้อมด้วยเท็คโนโลยี Zero Air Gap และ กระจกหน้าจอที่คงทนอย่าง Corning® Gorilla® Glass ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 8.1 โดยทาง Acer จะยังสนับสนุนการอัพเกรดเป็นระบบปฎิบัติการ Windows 10 ให้ฟรีด้วยเช่นเดียวกับรุ่นอื่นครับ
Aspire R 11 จะเริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $249 หรือประมาณ 8,220 บาท และในโซนยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา จะเริ่มวางขายในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ €349 หรือประมาณ 12,950 บาท ส่วนในประเทศจีนนั้นเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายนเช่นเดียวกัน โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ¥2,799 หรือประมาณ 15,030 บาทครับ
หมายเหตุ – ทั้งนี้โน๊ตบุ๊คที่นำเสนอในครั้งนี้ทั้งหมดของ Acer จะมีสเปคที่แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค ท่านใดสนใจรุ่นไหนเป็นพิเศษสามารถที่จะเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.acer.co.th ครับ
หมายเหตุ 2 – บางรุ่นนั้นทางในเมืองไทยก็ไม่มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครับ
ที่มา : blogs.windows.com