Assassin’s Creed เรื่อง ราวของนักฆ่าที่เป็นเงาของเรื่องราวในประวัติศาสตร์มาหลายยุคสมัย เหล่าบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ถูกปิดชีพอย่างเป็นปริศนาล้วนแล้วแต่มา จากฝีมือนักฆ่าในเงามืดพวกนี้ และใน Assassin’s Creed III ทางผู้สร้าง Ubisoft ก็จะดำเนินเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ต่ออีกครั้ง ซึ่งเป็นยุคต่อจากภาค 2 ซึ่งคิดคร่าวๆไว้ว่าน่าจะเป็นยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
Assassin’s Creed ภาคแรกผู้สร้างพาผู้เล่นไปสัมผัสกับยุคสงครามครูเซดช่วงที่สาม ในปี ค.ศ. 1191 ซึ่งเป็นสงครามแย่งชิงดินแดนศักดิ์สิทธิ์(เมืองเยซูซาเลม) ระหว่างกองทัพคริสต์และอิสลาม ผู้เล่นจะรับบทเป็นนักฆ่า Altair ต่อสู้กับอัศวินศาสนจักร (Templar Knight)
ตามมาด้วย Assassin’s Creed II ก็เป็นยุคใหม่ขึ้นมาอีกนิดในยุค ค.ศ.1500-1600 หรือศตวรรษที่ 15 ที่เรียกกันว่ายุคเรเนสซองซ์ ยุคฟืนฟูศิลปะวิทยาการ ซึ่งยุคนี้จะมีบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อย่าง Leonardo da Vinci ซึ่งเป็นเพื่อนของตัวเอกภาคนี้คือ Ezio Auditore da Firenze โดยดาวินซี่ได้คิดค้นประดิษฐ์อุปกรณ์ต่างๆให้ Ezio นำไปใช้ต่อสู้กับเหล่าคนมีอิทธิพลของอิตาลีเพื่อแก้แค้นให้ครอบครัว และที่สำคัญคือ Ezio ก็เป็นผู้สืบสายเลือดของ Altair ด้วย หลายๆคนก้อาจจะสงสัยว่าทำไม Altair กับ Ezio จึงมีหน้าตาคล้ายๆกัน
ทีนี้ก็มาถึง Assassin’s Creed III กันบ้าง โดยทางโปรดิวเซอร์คุณ S?bastien Puel ได้ให้สัมภาษณ์ถึงภาคที่สามทั้งๆที่ภาคสองยังไม่ออก ซึ่งเขากล่าวว่าอยากจะให้มีการเปลี่ยนแปลงบ้างนิดหน่อยในซีรี่ยส์นี้ โดยเฉพาะตัวเอกที่เขามีแผนจะเปลี่ยนไปใช้ตัวเอกที่เป็นผู้หญิงแทนบ้าง ซึ่งเธอก็จะเป็นผู้สืบสายเลือดตระกูลนักฆ่าต่อจาก Altair และ Ezio เช่นกัน คราวนี้จะเปลี่ยนฉากไปเป็นประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสในสมัยสงครามโลกแทน เพราะจากที่เหล่าผู้ชายไปเป็นทหารรบในแนวหน้าหมด เธอก็รับหน้าที่เป็นทหารหญิงลอบสังหารในเบื้องหลัง คร่าวไว้ว่าตัวเอกน่าจะเป็นนักฆ่าหญิงของนาซี ซึ่งก็จะออกมาแนวคล้ายเกมที่ชื่อ Velvet Assassin Assassin’s Creed
ข้อมูลอ้างอิงและภาพจาก http://kotaku.com/5380649/assassins-creed-iii-wwii-sure-why-not , game.sanook.com