ถ้าพูดถึง Ultrabook เมื่อปีก่อนหลายๆท่านคงได้แต่นึกถึง Ultrabook ที่บางมากๆ และราคาก็แพงมากๆในขนาดจอภาพ 13 นิ้วเท่านั้น แต่ด้วยตอนนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไปทำให้ Intel ต้องขยายคำจำกัดความของ Ultrabook ขึ้นมาใหม่ให้ครอบคลุมรุ่น 14 นิ้วด้วย พร้อมเพิ่มเติมเทคโนโลยีต่างๆให้ชัดเจนมากขึ้นว่า Ultrabook คืออะไรกันแน่
คำว่า Ultrabook นั้นต้นกำเนินมาจากที่ Intel ต้องการดันมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คตัวใหม่ที่เน้นในเรื่องของความบางเบาเป็นพิเศษในฝั่งของ Windows เพื่อมาแข่งกับ Macbook Air (จะแข่งกันยังไง Intel ก็ขายได้อยู่ดีละครับเพราะใช้ซีพียู Intel เหมือนกัน) Intel ก็เลยกำหนดมาตรฐานออกมาว่าต้องมีสเปกตามนี้ถึงจะเรียกว่า Ultrabook ซึ่งเป็นมาตรฐานในช่วงเริ่มต้นจากปีที่แล้ว
- หนาไม่เกิน 18 mm
- หนักไม่เกิน 1.5 Kg
- ตื่นจาก Deep Sleep ได้ในเวลาแค่ 4 วินาที
- และที่สำคัญคือใช้ซีพียูของ Intel
- สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานกว่า 5 ชั่วโมง
ซึ่งสเปกเดิมของ Ultrabook นั้นจะถูกจำกัดด้วยความหนาและน้ำหนักเป็นหลักจึงทำให้ Ultrabook ถูกจำกัดอยู่ในโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดแค่ 13 นิ้ว ซึ่งทำให้ไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม USER เท่าไร Intel จึงได้เพิ่มสเปก Ultrabook ที่เป็นขนาด 14 นิ้วเพิ่มขึ้นมาด้วย พร้อมสเปกอื่นๆเช่นพอร์ต เพื่อให้ Ultrabook เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เหมือนๆกันทุกค่าย (ในเมื่อเทคโนโลยีเหมือนกันก็แต่ละค่ายก็จะต่างแค่เรื่องของการออกแบบเป็นหลักแล้วละครับ)
- 13 นิ้ว หนัก 1.5 Kg หนา? 18 mm
- 14 นิ้ว หนัก 2.2 Kg หนา?? 21 mm
- มาพร้อมพอร์ต USB 3.0? หรือ thunderbolt (ที่ต้องเพิ่มมาก็คงเพื่อให้ Macbook Air เข้า Ultrabook กับเขาด้วย)
- ตื่นจาก Deep Sleep และคีย์บอร์ดพร้อมใช้งานใน 7 วินาที
- และแน่นอนว่าต้องใช้ซีพียู Intel ด้วยนะจ๊ะ
ในปี 2012 นี้ Intel คาดว่า Ultrabook จะกินส่วนแบ่งของตลาดโน๊ตบุ๊คถึง 40% ซึ่งดูแผนของแต่ละแบรนด์แล้วแม้จะมีมากรุ่นมากขึ้น แต่ก็คงยังไม่ได้ถึง 40% ภายในปีนี้หรอกครับ ซึ่งในปีนี้ Intel ก็วางแผนจะเพิ่ม Ultrabook ที่เป็น Ivy Bridge เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งเพิ่มรุ่นที่มีราคาถูกลงให้ต่ำกว่า 30,000 บาท ซึ่งคงต้องดูกันไปครับว่าสินปีนี้ Ultrabook จะทำได้ตามที่ Intel หวังไว้ไหม หรือจะต้องพับโครงการเก็บไปเหมือน Ultrathing