
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการเกมไทยเริ่มมีผลงานอินดี้คุณภาพให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่หนึ่งในโปรเจ็กต์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้คือ The Shadow of Ayutthaya — เกมแนว Action RPG แบบ Souls-like ที่พัฒนาโดยทีมคนไทยเพียงสองคนเท่านั้น คือคุณ Patavee Suksomsri และ Chalermpol Suksomsri ซึ่งเป็นทีมพัฒนา 2 พ่อลูกจากสตูดิโอเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Pixeltechsoft
เกมไทยยุคอยุธยาในสไตล์ Souls-like
The Shadow of Ayutthaya พาผู้เล่นย้อนกลับไปสู่ยุคอาณาจักรอยุธยา ผ่านมุมมองของตัวละครหลัก “กบินทร์ (Kabin)” ชายหนุ่มที่ถูกหลอกใช้มาตลอดชีวิต จนกระทั่งได้พบกับหญิงสาวปริศนา “แก้วใส (Kaew Sai)” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดเผย “เงามืด” ที่ปกคลุมบ้านเมือง
ตัวเกมได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ดังอย่าง Dark Souls และ Sekiro: Shadows Die Twice แต่เปลี่ยนฉากหลังทั้งหมดให้กลายเป็น สยามในยุคอยุธยา — ทั้งภูมิทัศน์เมืองเก่า วัด ศาลา ตลาดน้ำ ป่า และซากปรักหักพังที่ถูกนำเสนออย่างมีชีวิตชีวาผ่าน Unreal Engine พร้อมกราฟิกที่สวยสมจริงจนน่าทึ่งสำหรับทีมพัฒนาเพียง 2 คน
ระบบการต่อสู้สไตล์ Souls-like สุดเข้มข้น
เกมนี้เน้นการต่อสู้ที่ “ต้องอ่านจังหวะและตอบสนองให้ถูกเวลา” ผู้เล่นต้องใช้ทั้ง การหลบ, ปัดป้อง, สวนกลับ, และ ใช้ท่าคอมโบเฉพาะอาวุธไทย เพื่อเอาชนะศัตรูที่มีพลังรุนแรงและฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ
อาวุธที่มีให้ใช้ล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากของจริงในประวัติศาสตร์ เช่น
- ดาบไทยสองมือ
- ง้าวและหอกยาว
- โล่ไม้สำหรับป้องกันและสวนกลับ
- รวมถึงอาวุธพิเศษที่อิงจากความเชื่อไทย เช่น ดาบอาคมและเครื่องราง
ทีมผู้พัฒนาเผยว่าระบบต่อสู้ได้รับการปรับแต่งให้ “ยุติธรรมแต่โหด” — ผู้เล่นจะพลาดได้เพียงไม่กี่ครั้ง ก่อนต้องเริ่มต้นใหม่เหมือนเกม Souls-like ชั้นดี
ฉากหลังและบรรยากาศแบบไทยแท้
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้เกมนี้โดดเด่นกว่าเกมแนวเดียวกันคือ “ความเป็นไทยเต็มรูปแบบ” ตั้งแต่สถาปัตยกรรม เครื่องแต่งกาย ไปจนถึงเสียงพากย์ภาษาไทย 100% ที่ทีมพัฒนาเลือกใช้ทีมพากย์มืออาชีพ เพื่อให้ผู้เล่นเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้เต็มที่
ในด้านดนตรีประกอบ เกมนี้ใช้เครื่องดนตรีไทยผสมกับซาวด์ออเคสตราแบบตะวันตก เพื่อสร้างบรรยากาศที่ลึกลับและทรงพลัง สะท้อนทั้งความสวยงามและความโหดร้ายของยุคอยุธยาได้อย่างลงตัว
ทีมพัฒนาสองพ่อลูก กับความฝันในการสร้างเกมไทยสู่สายตาโลก
จุดที่น่าทึ่งที่สุดของโปรเจ็กต์นี้คือ “เบื้องหลังการสร้าง” เพราะเกมนี้ถูกพัฒนาโดยเพียงสองคนเท่านั้น — คุณพ่อรับหน้าที่ด้านโปรแกรมมิ่งและระบบเกม ขณะที่ลูกชายดูแลด้านกราฟิก แอนิเมชัน และศิลปะภาพรวมทั้งหมด
ทั้งสองใช้เวลาหลายปีในการเรียนรู้เครื่องมือพัฒนาเกมด้วยตัวเอง ก่อนจะเริ่มต้นโปรเจ็กต์นี้อย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าว่าจะทำให้เกมนี้ “เป็นตัวแทนของประเทศไทย” ในระดับนานาชาติ
จากข้อมูลล่าสุดบน Steam หน้าเกมถูกเพิ่มเข้ามาในปี 2025 และมี เดโม (Demo) ให้ทดลองเล่นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่แฟนเกมชาวไทยและทั่วโลกได้สัมผัสบรรยากาศของอยุธยาในรูปแบบ Souls-like อย่างเต็มตัว
จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้น่าจับตา
- สร้างโดยทีมคนไทยเพียง 2 คน แต่ใช้ Unreal Engine ทำภาพระดับเกม AAA
- ธีมอยุธยาและวัฒนธรรมไทย ผสมแฟนตาซีและความลึกลับอย่างลงตัว
- ระบบการต่อสู้สไตล์ Souls-like ที่เน้นทักษะและจังหวะ
- เสียงพากย์ไทยเต็มรูปแบบ และอินเทอร์เฟซหลายภาษา
- แนวทางอินดี้ที่กล้าทำสิ่งใหม่ ต่างจากเกมไทยทั่วไปที่มักเน้นแนวมือถือหรือ Casual
สถานะล่าสุดของเกม
ณ ตอนนี้ตัวเกมยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา (Development) และเปิดให้เพิ่มใน Wishlist บน Steam แล้ว โดยทีมงานยืนยันว่าจะทยอยปล่อยอัปเดตความคืบหน้าและวิดีโอเบื้องหลังออกมาเรื่อย ๆ
ใครที่อยากสนับสนุนทีมพัฒนาไทยชุดนี้ สามารถเข้าไปติดตามข่าวสารได้ทางหน้า Steam หลักของเกมที่นี่
The Shadow of Ayutthaya บน Steam
มองอนาคตของวงการเกมไทย
หาก The Shadow of Ayutthaya สามารถออกมาได้อย่างสมบูรณ์และได้รับเสียงตอบรับที่ดี มันอาจกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ผู้พัฒนาเกมไทยรุ่นใหม่ ๆ กล้าที่จะทำโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ขึ้น และแสดงให้โลกเห็นว่า “เกมไทย” ก็มีศักยภาพไม่แพ้ชาติใด
และนี่อาจเป็นก้าวแรกของการทำให้ “อยุธยา” กลับมามีชีวิตอีกครั้ง — ไม่ใช่ในหน้าประวัติศาสตร์ แต่บนหน้าจอเกมของผู้เล่นทั่วโลก
สรุป
เกมนี้ไม่ใช่แค่เกมอินดี้ที่น่าจับตามอง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความฝันและความตั้งใจของคนไทยที่อยากสร้างผลงานระดับโลกด้วยตัวเอง
ที่มา: Steam





