
ผู้ใช้งาน Windows 11 โดยเฉพาะกลุ่มนักพัฒนาและผู้ที่ใช้แอปพลิเคชันเฉพาะทาง กำลังประสบปัญหาร้ายแรงหลังติดตั้งอัปเดตล่าสุดจาก Microsoft โดยพบว่าฟังก์ชัน “Localhost” หรือการเชื่อมต่อไปยัง IP Address 127.0.0.1 ผ่านโปรโตคอล HTTP/2 ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
ปัญหานี้ถูกพบหลังจากผู้ใช้ติดตั้งอัปเดต Patch Tuesday ประจำเดือนตุลาคม KB5066835 และรวมถึงอัปเดตตัวอย่าง (Preview) ของเดือนกันยายน KB5065789 ซึ่งทำให้แอปพลิเคชันที่ต้องเชื่อมต่อกลับมายังเครื่องตัวเองเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
Localhost คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอาจไม่คุ้นเคย แต่สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และผู้ดูแลระบบ “Localhost” คือคำที่ใช้เรียกคอมพิวเตอร์เครื่องที่กำลังใช้งานอยู่ ซึ่งมี IP Address ประจำคือ 127.0.0.1 เปรียบเสมือน “บ้าน” ของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น
นักพัฒนามักใช้ Localhost เพื่อทดสอบเว็บไซต์หรือดีบักแอปพลิเคชันที่พวกเขาสร้างขึ้น ก่อนที่จะนำไปใช้งานจริงบนเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ นอกจากนี้ แอปพลิเคชันบางตัวยังใช้ Localhost เพื่อเชื่อมต่อกับ Service ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังในเครื่องเดียวกัน เช่น แอปยืนยันตัวตน หรือโปรแกรมตรวจสอบความปลอดภัย
อาการของปัญหาและผลกระทบ
ผู้ใช้ที่ประสบปัญหานี้รายงานผ่านช่องทางต่างๆ ทั้ง Microsoft forums, Stack Exchange และ Reddit ว่าเมื่อพยายามเชื่อมต่อ HTTP ไปยัง 127.0.0.1 จะพบกับข้อความ Error เช่น:
ERR_CONNECTION_RESETERR_HTTP2_PROTOCOL_ERROR
บั๊กดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อแอปพลิเคชันที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เช่น:
- Visual Studio: กระบวนการดีบักโค้ดเกิดปัญหา
- SSMS (SQL Server Management Studio): การยืนยันตัวตนผ่าน Entra ID ไม่สำเร็จ
- Duo Desktop: แอปพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเว็บเซิร์ฟเวอร์บน Localhost เพื่อยืนยันสถานะได้ ทำให้การยืนยันตัวตนล้มเหลว
ทาง Duo ได้ออกประกาศสนับสนุนมายืนยันปัญหานี้ว่า “หลังจากการอัปเดต Windows 11… คุณอาจประสบปัญหาที่ Duo Prompt ไม่สามารถเข้าถึง Duo Desktop ได้ ซึ่งอาจสาเหตุที่ทำให้ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ”
แนวทางการแก้ไขปัญหา
ในขณะที่ Microsoft ยังไม่ได้ออกมายืนยันหรือปล่อยแพตช์แก้ไขอย่างเป็นทางการ ชุมชนผู้ใช้ได้เสนอแนวทางแก้ไขหลายวิธี แต่มีเพียงวิธีเดียวที่ได้รับการยืนยันว่าได้ผลแน่นอน
1. ถอนการติดตั้งอัปเดตเจ้าปัญหา (วิธีที่ได้ผลแน่นอน)
วิธีที่ตรงไปตรงมาและได้ผลที่สุดในตอนนี้ คือการถอนการติดตั้งอัปเดต KB5066835 และ KB5065789 ออกจากเครื่อง โดยสามารถทำได้ผ่าน Command Prompt (เปิดแบบ Administrator) ด้วยคำสั่งต่อไปนี้:
wusa /uninstall /kb:5066835
wusa /uninstall /kb:5065789
หลังจากรันคำสั่งและรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่อ Localhost ผ่าน HTTP/2 ควรจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
2. แก้ไข Registry (วิธีทางเลือก ยังไม่ยืนยัน)
เว็บไซต์ BornCity ได้เสนอวิธีแก้ปัญหาโดยการแก้ไข Registry เพื่อปิดการใช้งานโปรโตคอล HTTP/2 อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าสามารถแก้ปัญหาได้ทุกกรณี (คำเตือน: การแก้ไข Registry มีความเสี่ยง ควรสำรองข้อมูลก่อนดำเนินการ)
[HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\HTTP\Parameters]
"EnableHttp2Tls"=dword:00000000
"EnableHttp2Cleartext"=dword:00000000
3. อัปเดต Microsoft Defender
มีรายงานจากผู้ใช้บางส่วนว่าการติดตั้งอัปเดต Microsoft Defender intelligence เวอร์ชันล่าสุดสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่ก็มีผู้ใช้อีกจำนวนมากที่ระบุว่าวิธีนี้ไม่ได้ผลสำหรับพวกเขา
ในขณะนี้ ทาง BleepingComputer ได้ติดต่อไปยัง Microsoft เพื่อสอบถามเกี่ยวกับบั๊กดังกล่าวแล้ว และจะอัปเดตข้อมูลอีกครั้งหากมีความคืบหน้า สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้งาน Localhost อย่างต่อเนื่อง การถอนการติดตั้งอัปเดตยังคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ
ที่มา: bleepingcomputer





